ตอนที่ 2 จับกุม

แปลไทย : แพนด้าคุง | แก้ไข : แพนด้าคุง

เมื่อยามค่ำคืนมาถึง พี่ของฉินหยุน, ฉินอัน ก็ลาจากตำหนักอย่างไม่เต็มใจ เขาจากไปพร้อมกับภรรยาและลูกๆของพวกเขา เดินทางไปยังตอนใต้ของเมืองด้วยรถม้า

ความมืดเริ่มมาเยือน

ฉินหยุนเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็น ชุดสีดำ เขาแอบตามพี่ชายไปยังตำหนักของเขา ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่ในเงามืด

“จากการตามรอยเครื่องหมายที่ข้าติดไว้กับพี่ข้า ที่นี่ก็คือ…..”  ฉินหยุนมองไปยังที่ตำหนัก “นี่เป็นครั้งแรกที่ข้ามายังตำหนักของพี่ข้า ไม่คิดเลยว่าเจ้าพวกปีศาจอสูรร้ายนั้น มันมาทำร้ายพี่ข้าทำไมกัน”

เมื่อมาถึงที่นี้ เขากระโดดสูงถึงร้อยฟุตขึ้นไปบนหลังคาของตัวตำหนัก อย่างเงียบๆ เขาหมอบต่ำจนครึ่งตัว พยายามที่จะสำรวจสถานที่นี้ให้หมด

ตัวตำหนักกว้างขวางถึง 2-3 ไร้มีคนรับใช้อยู่เพียงไม่กี่คนที่กำลังลาดตระเวนอยู่ ในยามค่ำคืนนี้ มียามรักษาการณ์เฝ้าระวังอยู่

“ดวงตาแห่งธรรม เปิดออก!”

พลังแห่งธรรม ก่อขึ้นภายทั่วร่าง ก่อเกิดดวงตาแห่งธรรม ปรากฏใน ฉินหยุน

ภายใต้ดวงตาแห่งธรรม รัศมีของยามรักษาการที่ลาดตระเวนไปมา ทำให้ฉินหยุนมองเห็นได้อย่างชัดเจน ตอนนี้เขาเห็นความสำคัญของพี่ชายเป็นหนึ่ง เฉกเช่นเดียวกับพี่สะใภ้และหลานของเขา ตราบใดที่ยังมีรัศมีอยู่ภายในดวงตาแล้วนั้น  ก็ไม่อาจมีสิ่งใดหลบซ่อนพ้นจากสายตาของเขาได้

“เจอแล้ว” ฉินหยุนยามนี้ได้มองเห็นปีศาจสีเขียวปรากฏรัศมี มันออกจากตัวเรือนของสาวใช้ที่อาศัยอยู่

ซู่ว!

พลันปรากฏร่างติดตา ก้าวออกไปห่างไกลถึงร้อยฟุต ประตูและห้องต่างเบาบาง แม้ว่าประตูที่ล็อคอยู่ ก็สามารถไขกลอนได้อย่างง่ายดายยิ่ง

ข้างในห้อง

ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึงแต่งกายด้วยเสื้อเบาบาง กำลังนั่งลงอยู่บนเตียงซึ่งตอนนี้คิ้วของนางมีรอยย่น

“ฮึ่ม!” มันต้องใช้เวลาตั้งสามเดือน ก่อนที่จะผสานรวมเข้ากับรัศมีปีศาจ จำเป็นต้องใช้สามวิญญาณและเจ็ดภูต มีเพียงเท่านี้ข้าถึงจะทำสำเร็จได้” ความกระหายเลือดโผล่ออกมาจากสายตาของนาง “อีกนับหกเดือน ข้าถึงจะไปจากที่นี่ได้ ตอนนี้ข้ายังเป็นสาวรับใช้ให้กับพ่อค้าที่ต่ำต้อยผู้นั้น ตั้งเก้าเดือนแล้ว หากแผนของข้าสำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว ข้านั้นคงจะหลุดพ้น ข้าจะกินคำสาปของเหล่าคนที่สาปแช่งข้าให้หมดสิ้น!!”

ปีศาจสุดแสนจะกระหายเลือด ทำงานอย่างหนัก เพื่อที่จะปลอมตัวได้อย่างแนบเนียน นางจึงจำเป็นต้องทำงานอย่างหนัก มีหรือที่จะไม่โกรธ?

ทั้งหมดนี่ นางทำได้คืออดทนและรอคอยเพื่อรอผลไม้ให้สุกง่อม

“เมื่อเลยเที่ยงคืนแล้ว ข้าก็จะสามารถดูดซับพลังจากฉินอันได้ ข้าจำเป็นต้องรอให้มันหลับเสียก่อน” สาวน้อยผู้นี้ปิดตาและอดทนรอคอยอย่างเงียบๆ

ทันใดนั้น—

ประตูถูกเปิดออกมาอย่างเงียบ ๆ

เมื่อประตูถูกเปิดออกและไม่มีเสียงใดๆ ผู้หญิงคนนี้รู้สึกถึงมัน และ ดวงตาของนางก็เปิดโตขึ้น นางเห็นชายหนุ่มผู้สวมเสื้อสีดำ กำลังเปิดประตู ชายหนุ่มผู้สวมเสื้อสีดำ กำลังเดินเข้ามา ในขณะที่เดิน เขาก็ปล่อยพลังออกมาที่ไม่สามารถมองเห็นได้

“ผนึก!”

เมื่อฉินหยุนได้เข้ามาถึงห้อง เขาก็ได้ใช้เวทย์มนต์แห่งธรรม กำแพงแสงได้ปรากฏปกคลุมฉินหยุนและหญิงสาวคนนั้นที่อยู่ในห้อง แสงนั้นไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าได้

‘ประทับตราเวทย์’ สามารถผนึกพื้นที่โดยรอบและดักจับศัตรูได้! นอกจากนี้ยังสามารถแยกพื้นที่กำแพงออกจากโลกภายนอกได้ดี คนอื่นไม่สามารถได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นภายในได้ มันก็คือการสะกดพลังเอาไว้ เป็นการสะกดแห่งธรรมที่น่าประทับใจยิ่งนัก

ฉินหยุนรีบปิดประตูทันที

“ผนึกแห่งธรรม?” หัวใจของสาวผู้นั้นรู้สึกผิดหวังยิ่ง

เวทย์มนต์แห่งธรรม เป็นเคล็ดวิชาแห่งกระบวนเต๋า หนึ่งในพลังแห่งพุทธะ เป็นการหยิบกระบวนท่าจากพลังแห่งธรรมชาติ สวรรค์และปฐพีมาหลอมรวมเป็นหนึ่ง คาถาธรรมมิอาจสอนให้ผู้คนได้เข้าใจถึงถ่องแท้ในวิชา แต่หากตัวเคล็ดวิชานั้นสามารถสะกดซึ่งคำสอนและยากที่จะบรรลุ เห็นได้ชัดว่า ชายผู้สวมชุดสีดำผู้นี้เป็นบุคคลที่น่ากลัวยิ่งนัก

“เป็นได้แค่แมวอสูรสินะ” ฉินหยุนกล่าวอย่างเบาๆ เขามองไปที่เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า ต้องขอบคุณดวงตาแห่งธรรม ที่เผยให้เห็นร่างที่แท้จริงของเด็กสาวผู้นี้ได้

สาวน้อยผู้นี้ สวมเสื้อผ้าบอบบาง เผยให้เห็นผิวขาวๆ ที่กำลังลุกออกจากเตียงด้วยความหวาดกลัว นางยืนด้วยเท้าเปล่าๆ และกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ.. “พี่ชาย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด แม้ว่าข้าจะกลืนกินพลังชีวิตของตระกูลฉิน  แต่ข้าก็หาได้ทำอันตรายพวกเขาแต่อย่างใด”

“ไม่ได้ทำอันตรายรึ? เหตุใดนายท่านฉินอันถึงได้มีรัศมีแห่งอสูรปีศาจปกคลุมแทรกซึมเข้าไปในอวัยวะของเขาด้วยเล่า?” ฉินหยุนไม่อยากรีบร้อนที่จะแสดงอากัปกริยา เขาอยากรู้เหตุการณ์หลายๆอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวพี่เขาเป็นอย่างมาก “ถ้าหากยังเป็นยังงี้ต่อไป นายท่านตำหนักนี้ อาจต้องล้มหมอนนอนเสื่อในอีกไม่ช้า แม้ว่าการแพทย์จะดีเลิศก็มิอาจรักษาเขาให้หายได้ สุดท้าย เขาก็ต้องตาย”

“ว่าไงนะ,’ สาวน้อยผู้นี้ตกใจ สักครู่น้ำตาก็พลันปรากฏในดวงตาของนาง “ข้าไม่รู้เลย ข้าไม่เคยคิดจะทำร้ายนายท่านฉินเลยสักครั้ง”

“ไม่รึ?” ฉินหยุนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แต่นี่เจ้าทำร้ายเขาอยู่นะ”

“เปล่านะ ข้าไม่เคยคิดอยากจะทำร้ายเขาเลย ข้าไม่รู้จริงๆ!” สาวน้อยผู้นี้รีบกล่าวออกมา “พี่ชาย พี่คิดรึไม่ นายท่านฉินอันนั้นรักใคร่ข้า แม้ว่าข้าจะเป็นอสูรร้าย ข้าก็ไม่เคยคิดอยากทำร้ายเขาเลย ที่เขามีรัศมีอสูรกลืนกิน อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นเขามีอะไรกันก็เป็นได้?”

“มีอะไรกัน?” ฉินหยุนหยักคิ้ว “รัศมีแห่งหยางของเขานั้นอ่อนแอยิ่ง มันไม่ได้เกิดจากการมีอะไรกัน มันเหมือนว่าเจ้าตั้งใจดูดพลังแห่งหยางเขาเสียมากกว่า ใช่มั้ยล่ะ? เจ้าอาจจะดูดของเขาเล็กๆน้อย แต่ก็ดูดทุกครั้ง นี่เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?”

อสูรตัวน้อยเริ่มตกใจมากขึ้นเรื่อยๆ “ชายหนุ่มผู้นี้ ดูไปแล้วอายุยังเยาว์ ข้าคิดว่ามันจะขาดประสบการณ์ ก็เลยได้หลอกมันและหาโอกาสที่จะหนีไป แต่มันกลับรู้ว่า ข้าดูดกลืนพลังแห่งหยางไปได้อีก”

“ข้าไม่ได้ทำจริงๆนะ!” สาวน้อยกล่าวร้องออกมา “พี่ชาย ท่านต้องเชื่อข้านะ!”

“หากมนุษย์และอสูรต่างรักใคร่กันมาก่อน และมีอะไรกันจริง เหตุใดพลังหยางถึงต้องอ่อนแอลงด้วย?” ฉินหยุนกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ตอนนี้จะดีกว่า หากเจ้าพูดความจริงและหยุดโกหกเสีย”

“ข้า, ข้าไม่รู้…” สวน้อยน้ำตาไหลริน นางแกล้งทำเป็นเศร้าโศรก

อย่างไรก็ตาม แทบไร้ซึ่งคำเตือนใดๆ นางรีบวิ่งไปที่หน้าต่างด้วยความรวดเร็ว ความรวดเร็วของนางนั้น หลงเหลือไว้เพียงภาพติดตา ในมือขวาของนาง เต็มไปด้วยกรงเล็บที่แหลมคม นางพยายามที่แหวกผนึกแห่งแสงที่กางเอาไว้ออก

ซึ่งมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

แต่ทว่า ฉินหยุน ผู้ที่ยืนอยู่ข้างประตู เขาก็ปรากฏตัวขึ้นมาข้างๆ ของสาวน้อยผู้นี้ และมือของเขาก็รีบคว้าจับไปที่มือซ้ายของนางอย่างรวดเร็ว

สาวน้อยที่จะพยายามหลบหนี รู้สึกเสียขวัญอย่างสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามือซ้ายของนางจะถูกจับ และไม่อาจที่จะหลบหนีได้

เมื่อมาถึงจุดนี้ นางได้กลายร่าง ร่างของนางถูกปกคลุมไปด้วยขนยาว มีเกล็ดอยู่บนหัว ส่วนหูเหมือนแมว ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีเขียว ปากของนางเต็มไปด้วยฟันที่แหลมคม นางพยายามขัดขืนฉินหยุน เพื่อให้มือซ้ายของนางที่ถูกจับหลุดพ้น แต่ถึงอย่างไร ฉินหยุนก็ได้ร่ายอาคมปิดผนึกร่างกายของนางทันที ทำให้ไม่อาจต้านทานได้

“ปัง!” เขาโยนเจ้าปีศาจแมวอสูรตัวนี้ลงบนกับพื้น

“พูด! การที่เจ้าอยู่ตรงหน้าข้าแล้วนั้น มันไร้ประโยชน์สิ้นดี ถ้าหากเจ้าพูดอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกหูข้า ข้าจะฆ่าเจ้าทันที” ฉินหยุนมองไปที่เด็กสาวผู้นั้น

เขาเข้าใจในทันทีว่า พี่ชายของเขานั้นถูกทำร้ายโดยที่พี่เขาไม่รู้ตัว

รัศมีพลังแห่งหยางเป็นพลังที่มนุษย์นั้นมี ปีศาจส่วนใหญ่มักจะดูดพลังหยินจากการฝึกฝนด้วยตัวคนเดียว แต่พลังหยินหาได้ทำให้พวกมันนั้นเติบโตอย่างแกร่งกล้า นั้นเพื่อความสมดุลจึงต้องมีพลังพยางเกื้อหนุน

พลังของหยางเกิดจากตะวัน เป็นพลังรัศมีของมนุษย์ที่มี เป็นพลังในการขับเคลื่อนมากที่สุด มันจะช่วยได้อย่างมากสำหรับการบ่มเพาะพลังของเหล่าปีศาจอสูรต่างๆ เพราะฉะนั้น เหล่าอสูรจึงชอบที่จะจับมนุษย์มาดูดกลืนพลังหยาง โดยนางปีศาจแมวตัวนี้ มาเพื่อดูดซับพลังหยางครึ่งปี โดยมันปลอมตัวเป็นสาวใช้ แม้ว่าจะเสียเวลาในการเสแสร้ง แต่ก็สามารถดูดซับพลังหยางได้หลายร้อยคน โดยดูดกลืนที่ละนิด หากสะสมก็มักจะได้ผลที่มีประสิทธิภาพ

“พูด!” ฉินหยุนมองไปที่แมวสาวที่มีกลิ่นอายของความกระหายเลือดปกคลุมโดยที่นางมองไม่เห็นอยู่

อสูรปีศาจแมว ก้มหัวโขลกลง นางสามารถบอกได้ว่า คนที่ยืนอยู่ตรงหน้านางตอนนี้ ช่างโหดร้าย และไม่ใช่พวกไก่อ่อนทั่วไป ตอนนี้ชีวิตของนางอยู่ในเส้นบางๆเสียแล้ว นางคิดว่า “ถ้าหากปิดบังเขาต่อไป ก็จะพบเจอกับความตายเป็นแน่ แต่ถ้านางเปิดเผยออกมาอย่างตรงๆ ก็ยังคงถูกฆ่าอยู่ดี ตอนนี้ไม่มีเวลาที่คิดอะไรทั้งสิ้น ข้าต้องหาหนทางที่จะออกจากอันตรายนี้ให้ได้”

“พี่ชาย สายตาท่านหลักแหลม การโกหกของข้ามิอาจปิดบังท่านได้” ปีศาจแมวกล่าวอย่างรวดเร็ว “เหตุผลที่ข้ายอมลำบากมาเป็นสาวใช้นั้น เหตุเพราะว่า ข้าต้องการที่จะดูดซับพลังหยางจำนวนเล็กน้อย วันละครั้ง เพื่อให้มันสะสม และพลังปีศาจในตัวข้าได้ตื่นเต็มที่จากการบ่มเพาะ ตอนนี้มันอาจจะแทรกซึมไปยังอวัยวะของเขา แต่ในอีกสองสามเดือนให้หลัง มันจะแทรกซึมไปยังจิตวิญญาณ”

หนังตาของฉินหยุนกระตุกทันที

“เมื่อรัศมีของปีศาจได้แทรกซึมเข้าจิตวิญญาณทั้งสามและเจ็ดวิญญาณฉล้วสิ้น ถึงตอนนั้นมิอาจที่จะช่วยเขาได้ ถึงตอนนั้นเขาก็เจ็บป่วยหนัก จนถึงตาย มีเพียงแต่ข้า ผู้เป็นเจ้าของรัศมีปีศาจนี้เท่านั้น ที่จะช่วยเขาได้” ปีศาจแมวกล่าว และกล่าวต่อไป “อนาคตของเขา ขึ้นอยู่ที่มือข้าแล้วตอนนี้”

“กลายเป็นทาสปีศาจรึ?” ฉินหยุนกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

เมื่อรัศมีปีศาจแทรกซึมไปยังวิญญาณ มันจะไม่หายไปไหน มันจะขึ้นอยู่กับปีศาจตนนี้ จะต้องการหรือไม่ต้องการแล้ว

ชีวิตของผู้คน ทุกอย่างตอนนั้นจะอยู่ในกำมือของปีศาจ พวกเขาไม่มีทางเลือก นอกเสียจากจะกลายเป็นทาสของปีศาจนั้น

“มันไม่เชิงเป็นทาสปีศาจหรอก ถ้าข้าต้องการที่จะเป็นเจ้าของรัศมีปีศาจนี้,ข้าก็แค่ดึงเขาไป แต่ที่จะทำคือข้าดึงรัศมีออกและให้เขากลายเป็นคนปกติเท่านั้น” ปีศาจแมวกล่าว

“รอมันสุกง่อมและดึงมันไปสินะ? มันอาจได้ผล แต่จิตใจของเขาจะเสียหาย โดยเทคนิคนี้ส่วนใหญ่มันใช้เวลาหลายปีในการเรียนรู้มิใช่รึ? ฉินอันเป็นเพียงแค่พ่อค้า ไม่คุ้มค่าที่เจ้าจะทำหรอก” ฉินหยุนกล่าวอย่างเย็นชา “หรือว่าจะเป็นเพราะบิดาของเขากัน?””

บิดาของฉินอัน ฉินเหล่ยฮู่ ผู้เป็นหนึ่งในสามผู้ตรวจการสีเงิน มีอิทธิพลขนาดใหญ่ในในเมืองหลวง

“ข้าแค่รับคำสั่งมาจากนายของข้าเท่านั้น” ปีศาจแมวกล่าวต่ออย่างรวดเร็ว “ข้าก็ไม่รู้เหตุผลเหมือนกันว่าทำไม”

“นายเจ้าอยู่ที่ไหน?”

“เขาอยู่ใจกลางเมืองหลวง” ความหวังสุดท้ายของปีศาจแมว นางกล่าวตอบอย่างสัจจริง

“นำข้าไปที่นั้น” ฉินหยุนถลึงตามองไปที่ปีศาจแมว

“ท่านพี่ ข้ายินดีที่จะนำทาง แต่ข้าหวังว่า ท่านจะไว้ชีวิตข้า ข้าเป็นปีศาจตัวกระจ้อย ที่ถูกบังคับให้ทำเท่านั้น” ปีศาจแมวมองไปที่ฉินหยุน

“หยุดพูดมาก นำทางไป” ฉินหยุนจับไปที่ไหล่ปีศาจแมว นางไม่อาจขัดขืนและต้านทานเขาได้แล้วในตอนนี้

“ท่านพี่ ถ้าหากท่านไม่ยอมตอบข้า ข้าก็จะขอยอมตายที่นี่” ปีศาจแมวเริ่มขบฟันของนาง

ฉินหยุนเงียบไม่ตอบ

ปีศาจแมวคิดจะเสี่ยงชีวิตครั้งใหญ่ นางเชื่อว่าถ้าหากบุคคลนี้ต้องการที่จะช่วยฉินอันแล้วล่ะก็ เขาจำเป็นต้องรู้ให้ได้ว่าเบื้องหลังคนๆนี้เป็นใคร

เวลาค่อยๆผ่านไปเรื่อยๆ ปีศาจแมวเริ่มหลับตา พยายามที่จะโขกหัวของมันลงกับพื้นแรงๆ

“เอาล่ะ ข้าจะยอมทำตามคำขอของเจ้า ตราบใดที่ข้าต้นตอของการกระทำเจ้าได้ ข้าก็จะไว้ชีวิตเจ้า” ฉินหยุนตอบ

ปีศาจปลื้มปิติเมื่อได้ยินคำนี้ นางรู้ดีว่า มนุษย์ผู้นี้การบ่มเพาะพลังของมันนั้นสูงและหาได้ยากยิ่ง การที่คำสัญญาหลุดออกมาจากปากของเขาแล้ว ก็มิอาจที่จะเปลี่ยนไปอย่างง่ายๆ

“ท่านพี่ ขอบคุณที่เมตตาข้า ที่ไว้ชีวิตข้า ข้าจะนำทางไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ” ปีศาจแมวรีบกล่าว

ซู่ว

เมื่อจับไหล่ของปีศาจแมวแล้ว ฉินหยุนก็ออกจากตำหนักของพี่ชายไปอย่างเงียบๆ แม้ว่าพวกยามที่เฝ้ารักษาการณ์จะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร มันเพียงภาพติดตาของพวกเขาเท่านั้น