ตอนที่ 3 หัวหน้าอสูร,ชูหยง

แปลไทย : แพนด้าคุง | แก้ไข : แพนด้าคุง

ในช่วงเวลาที่ฉินหยุนมาถึงตำหนักของหัวหน้าปีศาจแมวสาว เขาก็ได้ปิดบังพลังเอาไว้ และได้ลงอาคมปิดพลังของปีศาจแมวเอาไว้ด้วย เพื่อให้แน่ใจว่านางจะไม่สามารถหลบหนีไปได้ จากนั้นเขาก็หลบซ่อนไปเงามืดของกำแพงในตำหนัก

“ที่นี่แหล่ะ ที่ๆหัวหน้าของข้า อาศัยอยู่ที่นี่” ปีศาจแมวกล่าวตอบ

ฉินหยุนเปิดดวงตาแห่งธรรมและมองเข้าไปที่กำแพงในตำหนัก

“ไม่มีปีศาจอยู่เลยรึ?” ฉินหยุนรู้สึกสับสน จากมุมมองในสายตาของเขาแล้วนั้น ที่แห่งนี้ก็เหมือนตำหนักเรื่อนที่พักของคนที่ร่ำรวยเท่านั้น หาได้มีรัศมีปีศาจจากภายในไม่

“เจ้าบอกว่าหัวหน้าของเจ้าอาศัยอยู่ที่นี่?” ฉินหยุนได้ใช้เวทย์สร้างผนึกแสงวางไว้รอบๆตัวเพื่อไม่ให้เสียงที่พูดคุยเล็ดรอดออกไป

แมวสาวพยักหน้าและตอบอย่างมั่นใจไปว่า “แน่นอน ตำหนักนี้อาจจะดูเหมือนปกติ แต่นายของข้าอาศัยอยู่ที่นี่แน่นอน ตัวตำหนักถูกแบ่งออกมาเป็นสองส่วน นั้นคือด้านในและด้านนอก พวกผู้นำและคนอื่นๆ จะอยู่ด้านใน ซึ่งด้านในนั้น จะมีที่ที่ใหญ่โตอย่างพระราชวังอยู่ใต้ดิน ซึ่งข้างใต้นั้นคือที่ที่ผู้นำของข้าอาศัยอยู่มากที่สุดทุกเวลา”

“มีสถานที่ใต้ดินด้วยรึ?” ฉินหยุนรู้สึกประหลาดใจ “ตัววังนั้นหาได้เป็นอะไรที่สามารถทำได้สามถึงห้าปี และเป็นไปไม่ได้แน่ว่าจะไม่ถูกค้นพบ ดูเหมือนว่าผู้นำของเจ้านั้นจะอาศัยอยู่ที่เมืองหลวงนี่มาพักหนึ่งแล้วสินะ”

“เขาอาศัยอยู่ที่นี่มาเกินสิบปีแล้ว” เจ้าปีศาจแมวสาว กล่าวอย่างภูมิใจ

ในขณะเดียวกัน ภายใต้วังลับ

ชายอ้วนผู้สวมเสื้อคลุมยาวสีเหลือง กำลังยิ้มและเหล่ตามองไปมา ในขณะที่กำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ที่ดูหรูหรา มีสาวงามที่เกาะอกสีชมพู หน้าอกของสาวผู้นี้แทบจะทะลัก กำลังป้อนของหวานให้แก่ชายอ้วนอยู่

ที่ด้านล่างของชายอ้วน มีเหล่าองค์รักษ์ผู้เชี่ยวชาญเจ็ดคนยืนเรียงอยู่ที่ด้านข้างของห้องโถง ด้านหน้าของพวกเขานั้นมีวงดนตรีที่ร่ายรำ ซึ่งพวกเขากำลังเพลิดเพลินกับการจิบไวน์และอาหารชั้นเลิศ

เหล่านักดนตรีกำลังบรรเลงเพลงอยู่ที่ด้านข้าง

เครื่องพิณจีนและขลุ่ยกำลังบรรเลงเพลงอย่างเข้ากัน มันเป็นอะไรที่ผ่อนคลายและแปลกที่มันน่าอภิรมณ์ไม่น้อย

เหล่านักเต้นรำกับร่ายรำท่วงท่าไปตามจังหวะของเสียงเพลง ท่วงท่าของพวกเขานั้นช่างมีเสน่ห์และเย้ายวนไม่น้อย…

“ช่างดีเหลือเกิน!” ชายอ้วนในเสื้อคลุมเหลืองและเจ็ดผู้เชี่ยวชาญต่างชอบการแสดงนี่

“นายท่าน หากท่านชอบแบบนี้ ข้าสามารถทำให้ได้นะ” สาวชุดสีชมพูที่กำลังป้อนของหวานให้แก่ชายอ้วนก็กล่าวออกมา

อย่างไรก็ตาม ชายอ้วนเสื้อหลวงก็หันสายตาไปที่ผู้เฒ่าที่สวมเสื้อคลุมสีดำในห้องโถงทันที

“ท่านคงไม่ชอบสิ่งที่ข้าจะทำสินะ?” สาวผู้ใส่เสื้อสีชมพูหัวเราะ

“รสชาติมันเยี่ยมมากนัก ยอดรักของข้า ทุกๆอย่างที่เจ้าป้อนให้ข้านั้นรสของมันช่างหอมหวานเสียจริง” ชายอ้วนกล่าวก่อนที่จะจับสาวเสื้อชมพูมาจูบ

สาวเสื้อชมพูหัวเราะอย่างเย้ายวน

“พวกเจ้าทั้งหมดออกไปก่อนซะ” ชายอ้วนออกคำสั่ง

“รับทราบ นายท่าน”

นักดนตรีและเหล่านางรำ ต่างหยุดการกระทำและออกจากห้องไป นับตั้งแต่ที่พวกเขาเข้ามาในพระราชวังใต้ดิน ก็ไม่สามารถออกไปได้ ทุกอย่างเขาต้องอยู่อย่างเงียบเฉียบ เหตุที่ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามไปนั้น เพราะว่าเหล่าปีศาจที่คุมมันช่างน่ากลัวเกินไป

ในช่วงเวลานั้น ผู้เฒ่าเสื้อดำเดินมาพร้อมกล่องไม้สีดำที่อยู่ในแขน ผู้เฒ่าโค้งคำนับก่อนกล่าวว่า “หัวหน้าชู,เหล็กอักขระดารา ที่ท่านอยากได้มานับแปดปี ในที่สุดก็เก็บรวบรวมโดยหนักถึงเจ็ดสิบสี่จินได้ (1 จิน = 0.5 กิโล)”

“เหล็กอักขระดารา?” เมื่อชายอ้วนได้ยินตัวเลขเหล่านั้น เขารีบลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และก้าวเท้าเดินอย่างรวดเร็ว เมื่อร่างอ้วนเดินออกมาภาพมันเหมือนกับคนที่แบกไขมันหลายๆก้อน เดินต้วมเตี้ยม ช่างทำให้ภาพที่ปรากฏแปลกตาดี

เขาปรากฏตัวต่อหน้าผู้เฒ่าผ้าคลุมดำ

ผู้เฒ่าผ้าคลุมดำ ตกใจรีบหลบออกมาด้านหลังทันที “เร็วมาก เขาสามารถฆ่าข้าได้ทันที เขาเร็วกว่าพวกเจ็ดอสูรปีศาจที่อยู่ข้างๆเสียอีก”

ชายอ้วนยื่นมอออกไปคว้ากล่องไม้ เขารีบเปิดมันและแง้มดูทันที พลันปรากฏโลหะสีเงินสลับขาว แกะสลักด้วยลวดลายพิเศษ ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็ส่องประกาย และส่งเสียงหัวเราะอย่างแปลกประหลาดออกมา “เหล็กอักขะดารานี้ถูกห้ามโดยพวกรัฐบาล ทำให้พลเรือนมิอาจที่จะครอบครองมันได้ หากผู้ใดครอบครองก็ต้องโทษตายสถานเดียว และ ครอบครัวก็ถูกฆ่าล้างโครต”

“ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย พวกเรานั้นต่างพยายามทุกวิธีทางเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง ซึ่งใช้เวลาแปดปีกว่าจะได้ มีผู้คนหลายคนต้องตายก่อนที่เราจะได้มันมาครอบครอง บัดนี้ข้านั้นได้นำมันมามอบให้แก่นายท่านแล้ว” ผู้เฒ่าเสื้อคลุมดำกล่าว

“ใจเย็นก่อน ข้านั้นจะพิจารณาผลงานเจ้าเป็นอย่างดี ไม่มีใครหน้าไหนคิดท้าท้ายเช่นเจ้าอีกแล้ว ที่เป็นหัวหน้าของเหล่านิกายมานานแสนนานตราบเท่าที่ข้ายังอยู่! เพราะฉะนั้นนับจากนี้อีกสิบปีนิกายที่เจ้าคุมไม่ต้องมาจ่ายส่วนให้ข้าอีก” ชายอ้วนเสื้อเหลืองกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

เมื่อตาเฒ่าเสื้อดำ ได้ยินก็ยิ้มอย่างมีความสุข

ด้วยการสนับสนุนจากหัวหน้าของเหล่าอสูรปีศาจ นิกายของเขานั้นต้องรุ่งเรืองเป็นแน่? เหล่าเครื่องราชบรรณาการก็ยกเว้นเป็นนับสิบปี? แค่นี้ก็นับว่าดีมากยิ่งนัก

“ขอบคุณ นายท่านชู” ตาเฒ่าเสื้อดำทำมือความเคารพให้

“เหล็กอักขระดารา” อย่างไรก็ตามชายอ้วนเสื้อเหลืองเมื่อได้เปิดสมบัติที่มาจากกล่องไม้แล้วนั้น เขาก็หยิบโลหะสีขาวเงินนั้น เข้าปากของเขาทันที ฟันในปากตอนแรกเป็นฟันธรรมดา แต่ช่วงขณะที่โยนเข้าปากฟันของเขานั้นก็แหลมคมขึ้นมาทันที ไม่นานมันก็คบเคี้ยวเหล็กอักขระดาราเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและกลืนมันเข้าไปในท้อง ชั่วครู่ปากของมันนั้นก็กลับมาอยู่ในสภาพปกติ

“ความแข็งแกร่งของข้าตอนนี้ อยู่ที่อันดับสามของนิกายแล้ว อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้ปะทะกับขวานของข้ามันก็สามารถทิ้งร่องรอยไว้บนเหล็กอักขระดาราได้ นอกเหนือจากนี้แล้ว ชิ้นส่วนของเหล็กมันก็สามารถรักษาตัวเองได้ แต่การที่เขาบดเคี้ยวด้วยฟันนั้น มันคืออะไรกัน?” ตาเฒ่าเสื้อดำเมื่อเห็นภาพที่ชายอ้วนเสื้อเหลืองคบเคี้ยวเหล็กที่หามา เขาก็ตกใจกลัว

หลังจากที่ชายอ้วนเสื้อเหลืองได้กลืนกินเหล็กอักขระดาราไปหมดแล้ว มันก็เดินกลับไปยังที่นั่งของมันทันที สักครู่ก็มีเส้นแสงสีเงินไหลไปมาทั่วผิวของมัน

“ขอแสดงความยินดีท่านผู้นำ!”

“ด้วยเหล็กอักขระดาราที่ท่านกลืนกิน ทำให้ความแข็งแกร่งของท่านผู้นำเพิ่มขึ้นอย่างมาก!”

เหล่าเจ็ดองค์รักษ์ที่อยู่ด้านล่าง ต่างทำความเคารพและแสดงความยินดี

มีวัสดุบางอย่างเท่านั้นที่นำมาใช้โดยเฉพาะกลุ่มสำหรับพวกที่เป็นอมตะ,องค์ศาสดา,องค์เทพ และ ปีศาจ ตัวอย่างเช่น หนึ่งในวัสดุของเหล็กอักขระดารานั้น มันสามารถนำมาบ่มเพาะพลังให้แก่ผู้นำปีศาจได้

“ฮ่ะฮ่ะฮ่าๆ…” เสียงหัวเราะของชายอ้วนดังลั่นไปทั่วห้องโถง

ทันใดนั้น พลันปรากฏชายหนุ่มผู้สวมผ้าคลุมสีดำก็เข้าไปที่ห้องโถงทางประตูที่อยู่ด้านข้างพร้อมกับผู้หญิงผู้หนึ่งที่ท่าทางอ่อนแอ เขาเดินมาอย่างไม่สนใจใครราวกับว่ามันเป็นสวนหลังบ้านของเขา

แขกผู้มาเยือนที่ใส่เสื้อผ้าคลุมสีดำไม่ใช่ใครที่นั้น มันคือ ฉินหยุน และคนที่อยู่ข้างๆคือเจ้าปีศาจแมวสาว

“หืม?” ทุกคนๆที่อยู่ในห้องโถงต่างเงียบงันและมองไปที่แขกที่ไม่ได้รับเชิญผู้นี้ทันที

ชายร่างอ้วนมีปฏิกริยาเล็กน้อย แต่เขาก็นั่งอยู่บนบันลังก์ด้วยท่าทีสงบ พร้อมกอดหญิงสาวที่สวมเสื้อชมพู และยิ้มก่อนที่จะกล่าวอย่างไร้สาระว่า “วังของข้านั้นมีกองทหารผู้คุ้มกันมากมายคณานับ อีกทั้งยังมีองค์รักษ์ถึงเจ็ดคน พร้อมกับดักที่ซ่อนทุกฝีเก้า อย่างไรก็ตาม ชายผู้นี้ก็คว้าเอาลูกน้องของข้าคนหนึ่งมาที่นี่ได้อย่างเงียบเชียบ ข้า ชูหยง รู้สึกประทับใจยิ่งนัก ข้าขอถามหน่อยเถอะ สหายข้า เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

ฉินหยุนเหลือบทองไปที่ชายที่นั่งอยู่บนบัลลังค์ เขามองผ่านดวงตาแห่งธรรม มันก็ทำให้เห็นชัดเจนว่า ชายอ้วนผู้นี้มีคราบของปีศาจหมูป่าอยู่ กลิ่นอายรัศมีของเจ้าราชันผู้นั้นมีแรงกดดันไม่น้อย และดูท่าทีไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งองค์รักษ์เจ็ดคนนั้นก็เหมือนกัน

“เขาคือหัวหน้าเจ้า?” ฉินหยุนไม่สนใจผู้นำปีศาจและผู้ที่อยู่ข้างกายแต่อย่างใด เขามองไปที่เจ้าแมวปีศาจที่อยู่ข้างๆเขา “เพราะคำสั่งของเจ้านั้น เลยทำให้เจ้าทำร้ายฉินอันสินะ?””

“ใช่แล้ว..” ปีศาจแมวก้มหัวลงด้วยความอาย

“สหาย เจ้ามาที่นี่เพราะฉินดันรึ?” ชายอ้วนกล่าวด้วยเสียงแข็งๆ

“ถูกต้องแล้ว, ฉินอัน” ฉินหยุนหัวศีรษะไปที่ชายอ้วน และถามกลับไปที่มันว่า “ทำไมเจ้าถึงได้ออกคำสั่งให้ลูกน้องของเจ้าดูดพลังฉินอันและคิดที่จะควบคุมเขากัน?”

“ฮ่าฮ่า, ฉินอันลูกของฉินเหล่ยฮู่ ผู้เป็นหนึ่งในสามผู้ตรวจการสีเงินของเมืองหลวงเรา เจ้ารู้รึไม่พวกผู้ตรวจการสีเงินนั้นคืออะไรสำหรับข้า เจ้าพวกรัฐบาลพวกนั้นต่างมีชายผู้มีพลังอำนาจมากมายยิ่งนัก และไอพวกผู้ตรวจการบ้าบอ มันทำให้ข้าหัวหมุนปวดหัวอยู่ตลอด ข้าเลยสั่งให้ลูกน้องของข้าดูดกลืนพลังของลูกชายมันซะ เพื่อให้มันไม่มายุ่งเรื่องของข้ามากนัก” ชายอ้วนหัวเราะเริ่งร่า “สหาย ตั้งแต่ที่เจ้าเข้ามาที่นี่ได้ ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าเป็นใคร ไม่มีผู้ฝึกตนคนไหนที่มีความสามารถแบบนี้ในเมืองหลวงเลยสักคน”

“โอ้ะ? เจ้าคิดว่าข้าไม่ได้มาจากเมืองหลวงนี้น่ะหรือ?” ฉินหยุนถาม

“ฮ่าฮ่า ข้าอยู่เมืองหลวงมานานนับหกสิบแปดปีแล้ว” ชายอ้วนกล่าวอย่างมั่นใจ “ไม่ว่ามนุษย์หรือปีศาจ ข้ารู้จักทุกคนที่แข็งแกร่งดี”

“ทุกคนเลย?”

ฉินหยุนพยักหน้า

ฟิ้ว

ฉินหยุนโยนปีศาจแมวไปที่พื้น ปีศาจแมวสาวรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และทำเสียงอ้อนวอนทันที “ท่านพี่ ข้าได้นำท่านมาที่นี่แล้ว ข้าหวังว่าท่านจะตามสัญญานะได้โปรดลบอาคมสะกดข้าเถอะ ข้าขอร้อง”

“ตั้งแต่ที่ข้าพาคนนี่มาที่นี่ หัวหน้าคงไม่ให้อภัยข้าแน่ ข้าต้องรีบหนีไปให้ไกล และให้คนๆนี่สู้กับหัวหน้าเพื่อดึงดูดความสนใจเขาซะ” ปีศาจแมวคิด

“อุ้!” ปีศาจแมวสาวสั่นทันที พลังของผนึกปีศาจส่งผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจของนาง

“เจ้า,เจ้าไม่ได้ตายดีแน่…” ปีศาจแมวส่งสายตาอาฆาตด้วยความโกรธ ขณะที่นางกำลังทรุดลงไปที่พื้น ร่างกายของนางเริ่มบิดเบี๊ยว เผยให้เห็นรูปร่างที่แท้จริงคืออสูรปีศาจแมวดำตัวใหญ่

ฉินหยุนมองไปที่นาง “การที่คนบางคนสัญญาไว้ สัญญานั้นต้องรวมถึงตอนตายด้วย อย่างไรก็ตามการที่กระทำตัวอย่างโง่เขลาเพราะคิดว่าสัญญาต้องเป็นจริง นับว่าเป็นสิ่งที่โง่ยิ่งนัก ปีศาจอย่างเจ้าควรตายนับไม่ถ้วน”

เมื่อเสียงของเขาเงียบลง ในห้องโถงก็มีปฏิกริยาที่รุนแรงแสดงออกมาทันที

“ปีศาจควรตายนับไม่ถ้วน?” ชายอ้วนที่นั่งอยู่บนบัลลังค์บ่มพึมพำกับตัวเอง ดวงตาของมันหลี่ลงอย่างช้าๆ “ปีศาจนั้นค่อนข้างหาได้ยากยิ่ง ดูเหมือนว่าเจ้าหมอนั้นจะเผชิญหน้ากับปีศาจมากมายมาก่อน…”

“สหาย เราจะเอาเรื่องฉินอันที่เจ้าได้กล่าวยุติลง เจ้าไม่จำเป็นที่ต้องฆ่าลูกน้องของข้าหรอกจริงมั้ย?” ชายอ้วนลุกขึ้นยืนและเริ่มกล่าวเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อสาวที่อยู่ข้างกายมันนั้น รู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อย สำหรับปีศาจเจ็ดตัวที่อยู่ด้านล่างเริ่มจ้องมองไปที่ฉินหยุนทันที และชายผู้สวมเสื้อคลุมดำอีกคน รู้สึกกังวลใจแปลกๆ ถึงแม้ว่าเขานั้นจะควบคุมนิกายที่มีสมาชิกหลายพันคน ได้เห็นอะไรแบบนี้ก็ตกใจไม่น้อย

“ไม่” ฉินหยุนส่ายหัว

ประกายแสงแววตาของคนอ้วนเสื้อเหลืองปรากฏขึ้น มันรีบตะโกนออกมาทันที “ฆ่ามัน!!”

เมื่อเสียงของมันดังขึ้นกระหึ่มไปทั่วท้องพระโรง เพดานด้านบนสั่นสะเทือน เครื่องเรือนที่อยู่บนโต๊ะแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ

“วู้ว! วู้ว! วูบ!!”

เหล่าองค์รักษ์ผู้เชี่ยวชาญทั้งเจ็ดที่อายุต่างกัน ห้าคนหนึ่งขยับไปหาฉินหยุน และส่วนที่เหลือกลายเป็นหมอก และ หายตัวไปต่อหน้าต่อตาเขา

“ความสามารถพรางตัว?” ฉินหยุนรู้สึกตใจเล็กน้อย

//สนุกกันมั้ย ผมว่าเรื่องนี้เริ่มมันเรื่อยๆ