GOS ตอนที่ 99 – ใครบอกว่าฉันจะขโมย? ฉันแค่ยึดมันต่างหาก!

 

การจัดแสดงสินค้าในครั้งนี้ แท้จริงแล้วมันคืองานประมูล!

 

เช่นเดียวกับอัญมณีที่มีราคาแพง หากคุณต้องการขายมัน แน่นอนว่าคุณก็ต้องขายให้แก่ชนชั้นสูงที่ร่ำรวย มิใช่สามัญชนคนธรรมดาหรือพวกทหาร

 

ทั่วท้องทะเลในโลกวันพีช มีหลายสิ่งที่สามารถขายได้ในราคาดี แม้แต่ผลปีศาจที่มีอยู่ทั่วไปในแกรนไลน์และไม่มีคุณค่า แต่มันกลับเป็นของหายากในท้องทะเลแห่งนี้

 

ถึงแม้ว่าจะมีคนที่แข็งแกร่งมากมายในเขตทะเลแกรนไลน์ แต่บุคคลเหล่านั้นก็มิได้ร่ำรวยเหมือนดั่งคนพวกนี้ที่เปรียบเสมือนดั่ง ‘ชนชั้นสูง’  ดังนั้นเมื่อดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ ค้นพบ1ใน12ดาบชั้นเลิศ จึงเป็นธรรมดาที่พวกเขาเลือกที่จะขายมันในงานประมูลในครั้งนี้

 

ชายวัยกลางคนรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

 

12ดาบชั้นเลิศเล่มนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ดาบธรรมดาๆ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ครอบครองมัน แต่เขาก็ดูแลธุรกิจใต้ดินแห่งนี้ และหากขายได้ราคาดี เขาคงได้ความดีความชอบไม่น้อย

 

อย่างไรก็ตาม

 

เมื่อชายวัยกลางคนประกาศเริ่มต้นการประมูล กลับไม่มีใครแม้แต่คนเดียวกล่าวเสนอราคาออกมา ถึงแม้แววตาของพวกเขาจะร้อนรุ่มและเป็นประกาย แต่ก็ยังคงลังเลใจอยู่

 

ดาบที่มีชื่อเสียง แถมยังเป็น12ดาบชั้นเลิศ แน่นอนว่าต้องมีราคาสูงมาก … ถึงแม้จะมีราคาสูง แต่ผู้คนที่อยู่ที่นี่ก็เป็นพวกชนชั้นสูงและผู้อาวุโสขององค์กรใต้ดินเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย

 

แต่ปัญหาที่แท้จริงก็คือดาบที่มีชื่อเสียงนั้นจะดึงดูดเหล่าจอมดาบ

 

ตัวอย่างเช่น มิฮอว์คตาเหยี่ยวที่แบกดาบดำโยรุไว้บนหลังของเขาเสมอ ถึงแม้เขานั้นจะอยู่ตัวคนเดียวแต่ใครกันเล่าจะไปกล้าขโมยดาบดำโยรุ?

 

ไม่มีทาง!

 

แม้แต่คนตาบอดก็ยังไม่กล้าที่จะขโมยหรือสัมผัสมัน! เพราะชื่อเสียงของมิฮอว์คที่ถูกขนานนามว่าเป็นจอมดาบอันดับ 1 ของโลกนั้น ไม่ใช่เพราะเขาแต่งตั้งมันขึ้นด้วยตัวเอง! แต่มันมาจากซากศพมากมายนับไม่ถ้วนของเหล่าจอมดาบที่ขอท้าประลองกับเขาเพราะต้องการที่จะช่วงชิงโยรุ!

 

ซึ่งพวกเขา(คนที่อยู่ในงานประมูล) ไม่ใช่ตาเหยี่ยว

 

แม้ว่าคนในงานประมูลจะซื้อดาบเล่มนี้ได้ แต่พวกเขาก็คงจะทำได้เพียงเก็บมันไว้เป็นความลับเท่านั้น และไม่กล้าที่จะนำมันออกมาภายนอก มิฉะนั้นพวกเขาคงได้เผชิญหน้ากับเหล่าจอมดาบที่ต้องการจะครอบครอง ดาบที่มีชื่อเสียง และถูกสังหารลงในท้ายที่สุด!

 

นอกจากนี้ ถึงแม้พวกเขาจะไม่ใช้เอง และปิดเรื่องที่ครอบครองฮิรุไว้เป็นความลับ แต่หากข่าวรั่วไหลออกไปเล่า?

 

นั่นก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ใหญ่ไม่แพ้กัน

 

เพราะฉะนั้นถึงแม้หลายๆคนจะมีดวงตาเป็นประกายและร้อนรุ่มเมื่อจ้องมองไปยังฮิรุ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะกล้าตะโกนเสนอราคาออกไป

 

“บัดซบ ..”

 

ชายวัยกลางคนเมื่อเห็นว่าไม่มีแม้แต่คนเดียวที่กล้าขอเสนอราคาซื้อ คิ้วของเขาก็เริ่มขมวดเข้าหากัน แววตาของเขาเผยให้เห็นถึงความสงสัย จนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกมาว่า

 

“12ดาบชั้นเลิศวางอยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ แต่กลับไม่มีใครต้องการมัน นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

 

“หากสินค้าชิ้นสุดท้ายซึ่งควรจะขายได้ราคาดีที่สุดไม่สามารถขายได้แล้วล่ะก็ … ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องให้คนของเราที่แฝงตัวอยู่เป็นคนซื้อมัน ..”

 

ใบหน้าของชายวัยกลางคนเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด หากเขาไม่สามารถขายได้ก็คงไม่พ้นถูกทุบตีเป็นการลงโทษ!

 

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครเสนอราคาเขาจึงส่งสายตาไปยังคนของเขาที่แฝงตัวอยู่ในฝูงชนเพื่อให้ตะโกนเสนอราคาออกมา

 

“ถ้าไม่มีใครต้องการซื้อมัน งั้นเอามันมาให้ฉันก็ได้นะ”

 

น้ำเสียงที่ดูอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความชั่วร้ายได้ดังขึ้น

 

พร้อมๆกับได้มีร่างๆหนึ่ง ที่จู่ๆก็กระโดดลงมาจากด้านบน และตกลงกลางโต๊ะที่มีดาบขาว ฮิรุ วางอยู่

 

ท่ามกลางความตกตะลึงของสายตาผู้คนนับไม่ถ้วน โรจาได้คว้าดาบขาวฮิรุที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมา!

 

เมื่อคว้า1ใน12ดาบชั้นเลิศได้ ดวงตาของโรจาก็เป็นประกาย เขาไม่คาดคิดเลยว่าหน่วยข่าวกรองของดองกี้โฮเต้จะเก่งกาจขนาดสามารถหา12ดาบชั้นยอดที่ไร้เจ้าของเจอได้ในเขตทะเลเวสต์บลูแห่งนี้!

 

ดาบที่มีชื่อเสียงระดับสูง ซึ่งมีเพียง 12 เล่มในโลกเท่านั้น!

 

ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่แสนสุขสมเสียจริง!

 

หากไม่ใช่เพราะว่าเครือข่ายใต้ดินของดองกี้โฮเต้แฟมิลี่นั้นกว้างขวางและกระจายไปทั่วโลก เกรงว่าพวกเขาคงไม่สามารถหาดาบเล่มนี้มาไว้ในครอบครองและนำมาประมูลขายได้

 

“ใครกัน?”

 

“นั่นแกคิดจะทำอะไร?”

 

การปรากฏตัวขึ้นอย่างกระทันหันของโรจาทำให้ทุกคนภายในห้องรู้สึกประหลาดใจ

 

ส่วนทางด้านชายวัยกลางคนเมื่อเห็นว่าโรจาได้คว้าฮิรุที่วางอยู่บนโต๊ะ ใบหน้าของเขาก็เผยให้เห็นประกายแห่งความดุร้ายพร้อมกับชักปืนขึ้นมาและเล็งไปยังโรจาทันที!

 

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าโรจานั้นเป็นใคร และจู่ๆก็มาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร แต่ดูก็รู้ว่ามาเพื่อสร้างปัญหาแน่ๆ ชายวัยกลางคนจึงกล่าวด้วยน้ำเย็นชาว่า

 

“เฮ้ เจ้าปีศาจน้อย ดาบเล่มนั้นคือของๆ ดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ ไม่ใช่สิ่งที่แกคิดจะขโมยแล้วจะสามารถขโมยได้! ฉันแนะนำให้แกวางมันลงจะดีกว่า”

 

“ขโมย?”

 

โรจาถือฮิรุในมือก่อนที่จะหันไปมองรอบๆด้วยท่าทีสบายๆ ราวกับว่าเขานั้นไม่สนใจปืนที่กำลังเล็งตรงมายังเขาเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่จะหันไปยิ้มให้กับชายวัยกลางคนจากนั้นก็ส่ายหัวแล้วกล่าวว่า

 

“ไม่ใช่หรอก นี่ไม่ใช่การขโมย แต่เป็นการ ‘ยึด’ ”

 

ขณะเดียวกันระหว่างที่กำลังพูด

 

โรจาก็หยิบหมวกสีขาวออกมาจากแขนเสื้อแล้วสวมมันลงบนศีรษะ

 

หมวกใบนั้นคือหมวกของกองทัพเรือ

 

เงียบ ..

 

ทั้งห้องตกอยู่ท่ามกลางความเงียบ ก่อนที่จะตามมาด้วยความโกลาหลราวกับน้ำที่สาดลงบนกระทะร้อนที่เดือดไปด้วยน้ำมัน!

 

“แกเป็นทหารเรือ?”

 

ชิบหายแล้ว!”

 

“ทหารเรือเข้ามาถึงที่นี่ได้ยังไง? ไอ้พวกดองกี้โฮเต้มันมัวทำอะไรอยู่?”

 

ในตอนแรกเมื่อพวกเขาเห็นว่าจู่ๆโรจาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นและคว้าฮิรุซึ่งเป็นของประมูลขึ้นมา ตัวแทนของเหล่ากองกำลังใต้ดินจากที่ต่างๆก็แค่เพียงตกใจและคิดว่าเจ้าปีศาจน้อยตัวนี้เพียงแค่เล่นซนเท่านั้น!

 

แต่ใครจะรู้ว่า จู่ๆ โรจาก็เอาหมวกทหารเรือขึ้นมาสวม นั่นทำให้คนเกือบทั้งหมดที่กำลังนั่งอยู่ถึงกับต้องลุกขึ้นยืนทันที

 

บางคนก็ชักอาวุธขึ้นมาแล้วจ้องเขม็งไปยังโรจา

 

บางคนก็หันไปสาปแช่งคนของดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ด้วยความโกรธ

 

ขณะที่บางคนระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก และหันไปรอบๆเพื่อตรวจสอบว่าสถานที่แห่งนี้ถูกกองทัพเรือล้อมไว้หรือยัง พร้อมกับคิดหาวิธีหลบหนี

 

ฐานที่มั่นบนเกาะแห่งนี้ นั้นอยู่ภายใต้ความดูแลของดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ เมื่อเห็นหมวกที่โรจาสวม ดวงตาของชายวัยกลางคนก็เบิกกว้าง พร้อมๆกับสีหน้าที่ดุร้ายเมื่อครู่ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนก

 

แต่มันก็สงบลงได้อย่างรวดเร็ว

 

เนื่องจากโรจานั้นไม่ได้สวมเครื่องแบบกองทัพเรือ จึงเห็นได้ชัดว่าเขาแอบเข้ามาที่นี่ ที่สำคัญยังไม่มีสัญญาณเตือนใดๆจากภายนอก แสดงให้เห็นว่ากองทัพเรือไม่ได้กำลังปิดล้อมเกาะอยู่

 

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าโรจานั้นรู้ว่าฐานของพวกเขาซ่อนอยู่ใต้ดินได้อย่างไร และแอบเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่หากมีโรจาที่เป็นทหารเรือเพียงคนเดียวที่แอบลอบเข้ามา .. มันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา

 

แน่นอน

 

ในเมื่อฐานที่มั่นถูกเปิดเผยแล้ว

 

เอาไว้หลังจากฆ่าเจ้าทหารเรือนี่ แล้วจากนั้นพวกเขาค่อยขนย้ายทรัพยากรหนีไปก็ได้

 

เมื่อชายวัยกลางคนคิดได้แบบนั้นในจิตใจ ดวงตาของเขาก็เผยให้เห็นถึงเจตนาฆ่า และไม่ลังเลที่จะลั่นไกออกไป!

 

ปัง ปัง ปัง—!

 

กระสุนปืนหลายนัดได้ถูกยิงออกไป ด้วยความเร็วที่คนธรรมดาไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!

 

แต่

 

สิ่งที่ทำให้ชายวัยกลางคนตกใจนั้นก็คือการที่โรจาซึ่งเผชิญหน้ากับกระสุนปืนของเขา หันมาจ้องมองกระสุนปืนเหล่านั้นด้วยท่าทีสบายๆ และขยับตัวเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่กลับสามารถหลบกระสุนได้ทุกนัด!

 

เจ้าทหารเรือนั่น … มันหลบกระสุนได้?

 

เมื่อเสียงปืนได้ดังขึ้น ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังเป้าหมายของกระสุนเป็นสายตาเดียว

 

เมื่อเห็นว่าโรจาสามารถหลบกระสุนได้ และแม้ว่าพวกเขาจะเคยเห็นคนที่ทำแบบนั้นได้เช่นกัน แต่! แต่นั่นมันก็ที่อื่น มิใช่ที่ๆมีแต่ผู้คนอ่อนแออย่างในเขตทะเลเวสต์บลูแห่งนี้!

 

ซึ่งนั่นทำให้เกือบทุกคนในห้องต่างเผยให้ถึงความตกตะลึง!

 

นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน?

 

ถึงแม้ว่าชายวัยกลางคนจะเป็นถึงสมาชิกของดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ แต่เขาก็ยังเป็นเพียงสมาชิกในเขตทะเลเวสต์บลูเท่านั้น เมื่อเห็นฉากนี้เขาก็เผยให้เห็นสีหน้าตกตะลึง ก่อนที่จะยิงกระสุนทั้งหมดที่มีออกไปอย่างบ้าคลั่ง!

 

“ช้าเกินไป”*

 

*(ลูฟี่เคยพูดคำนี้ในตอนที่เขาใช้ฮาคิสังเกต หลบกระสุนของแปซิฟิสต้า)

 

ฮาคิสังเกตุนั้นทำให้สามารถเห็นทิศทางของกระสุนที่พุ่งตรงมาได้อย่างชัดเจน มุมปากของโรจาก็ยกขึ้นพร้อมกับแสยะยิ้มออกมา ก่อนที่จะคว้าไปยังด้ามดาบขาวฮิรุด้วยดวงตาที่เป็นประกาย แล้วดึงมันออกมาจากฝัก!