GOS ตอนที่ 65 – 3 ด่าน

 

เซเฟอร์จ้องมองเข้าไปในดวงตาของโรจา เขาทั้งลังเลใจและโล่งใจในเวลาเดียวกัน แต่สุดท้ายเซเฟอร์ก็พยักหน้าแล้วกล่าวว่า

 

“ฉันยอมรับคำขอของเธอ”

 

ส่วนทางด้านผู้อาวุโสหน่วย CP เขากำลังจ้องมองไปยังโรจาด้วยใบหน้ามืดมน จากนั้นก็เหลือบไปมองเซเฟอร์ แล้วถอนหายใจออกมาพร้อมกับกล่าวว่า

 

“พวกเราก็ไปกันเถอะ”

 

เจ้าหน้าที่รัฐบาลโลกคนอื่นๆพยักหน้ารับทันที หลังจากที่พวกเขาเสียหน้าครั้งใหญ่ พวกเขาก็ไม่ต้องการที่จะอยู่ที่นี่ต่ออีกแม้แต่วินาทีเดียว

 

การ์ปไม่ได้สนใจการจากไปของเด็กๆในหน่วย CP และพวกเจ้าหน้าที่รัฐบาลโลก ในสายตาของเขาตอนนี้กำลังจับจ้องไปยังโรจาด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่อันซับซ้อน ยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้

 

การ์ปนั้นต้องการให้ลูกชายของเขา — มังกี้ D ดราก้อน ได้กลายเป็นทหารเรือชั้นยอด แต่ดราก้อนกลับไม่เลือกที่จะเป็นทหารเรือแล้วไปเข้าร่วมกับกองกำลังปฏิวัติจนกลายเป็นอาชญกรอันดับหนึ่งของโลก แน่นอนว่าความจริงแล้วการ์ปภูมิใจในตัวดราก้อนเป็นอย่างมากในเรื่องของความแข็งแกร่ง เพียงแต่ดราก้อนดันเลือกเดินไปในทางที่ผิดก็เท่านั้นเอง

 

และในตอนนี้โรจาได้เติมเต็มสิ่งที่การ์ปปรารถนาให้เกิดขึ้นกับลูกชายของเขา การ์ปในตอนนี้จึงเต็มไปด้วยความรู้สึกพึงพอใจและภาคภูมิใจ

 

“ไอ้เจ้าคนพวกนี้ …”

 

เซนโงคุหันไปมองเหล่าคนจากรัฐบาลโลกที่เดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะกล่าวอำลาเขา ก่อนที่จะส่ายหัวออกมาแล้วหันไปกล่าวกับโรจาว่า

 

“เธอรู้แล้วใช่ไหมว่าการที่จะจบการศึกษาจากค่ายชั้นยอดได้นั้น เธอจะต้องผ่านการประเมินซะก่อน … ถ้าอย่างนั้น การประเมินการจบการศึกษาจะเริ่มต้นขึ้นในวันพรุ่งนี้! อย่าลืมเอาใบขอจบการศึกษาไปให้เซเฟอร์ด้วยล่ะ”

 

เนื่องจากหลังจบการศึกษาจากค่ายชั้นยอด เหล่าเล่าบิงก็จะกลายเป็นทหารเรือที่มียศสูง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องผ่านการประเมินและได้รับการอนุมัติจากเซนโงคุ

 

ในเมื่อเซเฟอร์กับการ์ปไม่ได้ห้ามโรจาเรื่องขอจบการศึกษา ดังนั้น เซนโงคุจึงไม่มีความคิดที่จะห้ามเขาเช่นกัน

 

ยศทหารเรือที่จะได้หลังจากจบการศึกษาจากค่ายชั้นยอดนั้นจะขึ้นอยู่กับการประเมิน แน่นอนว่าด้วยความแข็งแกร่งของโรจาในตอนนี้ ไม่น่าจะมีปัญหาที่จะขอจบการศึกษา แต่ยศที่เขาจะได้หลังจากจบการศึกษาก็คงจะเป็นพวก พลเรือจัตวา หรือนาวาเอก โดยขึ้นอยู่กับผลการประเมินที่ทำได้

 

การประเมินของค่ายชั้นยอดนั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ด่าน

 

การประเมินนั้นจะเรียงไปทีละด่าน จาก 1 ไป 2 และจาก 2 ไป 3 โดยไม่สามารถข้ามด่านได้

 

ด่านแรก เป็นการประเมินที่ง่ายที่สุด มันคือการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย โดยวัดจาก พละกำลังร่างกาย ความว่องไว พลังโจมตี ฯลฯ

 

ด่านสองจะแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เล่าบิงที่ต้องการจบการศึกษานั้นจะต้องออกทะเลไปกับทางกองทัพเพื่อปราบปรามโจรสลัด จะจับเป็นหรือจับตายก็ได้ทั้งนั้น แต่ค่าหัวของโจรสลัดที่ไปปราบปรามจะต้องมากกว่า 100 ล้านแบรี่

 

โดยผลลัพธ์จะวัดจากประสิทธิภาพในระหว่างการปราบปราม หรือเรียกง่ายๆว่าวัดจากคะแนนการปฏิบัตินั่นเอง หากทำได้ไม่ดี ก็จะถือว่าไม่ผ่านการประเมิน

 

ในขณะเดียวกัน

 

ระหว่างการประเมินการจบการศึกษา ทุกๆอย่างบนเรือรบจะดำเนินไปตามปกติ ถึงแม้ว่าจะมีทหารเรือคนอื่นๆอยู่บนเรือด้วย แต่พวกเขานั้นไม่ใช่เซเฟอร์ นั่นหมายความต่อให้โรจาพบเจอกับวิกฤติ หรืออยู่ระหว่างความเป็นความตาย พวกเขาก็จะไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือโรจา ในทางตรงกันข้าม โรจาก็ไม่จำเป็นต้องช่วยเหลือพวกเขาเช่นกัน

 

หากไม่ระมัดระวังตัวให้ดี … ก็อาจจะตายในสนามรบได้!

 

นี่นับว่าเป็นการประเมินที่ค่อนข้างโหดร้าย แต่เมื่อจบการศึกษาไป เหล่าเล่าบิงก็ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรนี่ก็ต้องเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องเผชิญ!

 

ส่วนด่านสุดท้าย ด่าน 3 เป็นการประเมินที่แท้จริง

 

นั่นคือการต่อสู้!

 

เล่าบิงจะต้องต่อสู้กับคู่ต่อสู้ 10 คน ซึ่งใน 10 คนที่ว่าอาจจะเป็นนักโทษจากคุกนรกอิมเพลดาวน์ หรือเหล่าสัตว์ร้าย และทหารเรือยศสูงก็ได้ โดยจะไล่ระดับความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ขึ้นไปเรื่อยๆ ตามจำนวนที่เอาชนะได้

 

ถ้าหากชนะได้ 6 ครั้ง ก็จะถือว่าสำเร็จการประเมินการจบการศึกษา

 

ถึงแม้ว่าช่วงเวลาเกือบทั้งหมดที่โรจาเข้าร่วมกับค่ายชั้นยอด เขาจะเอาแต่ฝึกฝน แต่เขาก็ยังพอที่จะเข้าใจเกี่ยวกับการประเมินทั้งสามด่านอยู่บ้าง

 

ในมุมมองของโรจา เป้าหมายของการทดสอบสมรรถภาพร่างกายในด่านแรกนั้นมีไว้เพื่อวัดว่า เล่าบิงที่ขอจบการศึกษาจะมีสมรรถภาพร่างกายมากพอที่จะเข้าประเมินในด่านสองหรือไม่ — ดังนั้นการประเมินจริงๆจะเริ่มต้นจากด่านสอง

 

ถ้ามีสมรรถภาพร่างกายมากพอ เล่าบิงที่ขอจบการศึกษาก็สามารถเริ่มการประเมินจริงๆได้

 

ส่วนการประเมินด่านสามนั้นคล้ายคลึงกับด่านสอง ที่มุ่งเน้นไปยังการทดสอบความสามารถในการต่อสู้ และผลของการฝึกฝนของเล่าบิงที่ขอจบการศึกษาค่ายชั้นยอด

 

“ดูเหมือนว่าอีกไม่นาน กองทัพเรือก็จะมีทหารเรือที่โดดเด่นเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน”

 

อาโอคิยิจ้องมองไปยังโรจา แล้วกล่าวต่อว่า

 

“การประเมินในด่านสาม ถ้าฉันว่าง ฉันจะไปดู”

 

มีเล่าบิงจากค่ายชั้นยอดไม่มากนักที่โดดเด่นพอที่จะสามารถผ่านไปยังการประเมินด่าน 3 ได้ ดังนั้น เมื่อมีเล่าบิงที่สามารถฝ่าฟันไปถึงด่าน 3 ได้พวกทหารเรืออาวุโสก็จะได้รับคำเชิญให้ไปดูการต่อสู้ของพวกเล่าบิง แม้แต่สามพลเรือเอกก็ยังได้รับคำเชิญ

 

เพียงแต่พวกเขาไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่ และเห็นว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น จึงไม่ค่อยจะได้ไปดู

 

ครั้งหนึ่ง อาโอคิยิ คิซารุ และอาคาอินุ ก็เคยเข้าร่วมการประเมินด่าน 3 เช่นกัน และผลการประเมินที่ดีที่สุดที่พวกเขาทั้งสามเคยเห็น ก็คือผลการประเมินที่เป็นฝีมือของตัวพวกเขาเอง

 

อย่างไรก็ตาม โรจานั้นก็นับว่าเป็นคนที่มีพระสวรรค์และเป็นคนที่โดดเด่นคนหนึ่ง บางทีความแข็งแกร่งของโรจาอาจจะไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเขาในตอนที่ขอจบการศึกษาเลยก็ได้ นอกจากนี้โรจายังเป็นญาติของการ์ปอีกด้วย! ดังนั้นอาโอคิยิจึงค่อนข้างสนใจที่จะไปดูการประเมินด่าน 3 ของโรจา

 

“อยากจะรู้จริงๆว่าญาติของการ์ปซังจะแสดงประสิทธิภาพออกมาได้แค่ไหนในการประเมินด่าน 3”

 

จู่ๆภายในจิตใจของอาโอคิยิก็เกิดความคิดแบบนี้ขึ้นมา ก่อนที่เขาจะเหลือบไปมองโรจาอีกรอบ แล้วหันหลังเดินจากไป

 

“ฉันไม่คิดเลยว่าเซเฟอร์เซนเซย์จะยังสามารถฝึกฝนลูกศิษย์จนโดดเด่นขนาดนี้ได้ ดูเหมือนว่าคมดาบของเขาจะไม่ได้ทื่อลงไปตามอายุขัย *(สำนวน)”

 

คิซารุก็ได้เดินจากไปเช่นกัน แต่ก่อนไปเขาก็กล่าวออกมาว่า

 

“ถ้าไม่มีอะไรทำ ฉันก็จะไปดูการประเมินด่าน 3 ของเจ้าหนูนี่เช่นกัน”

 

“แน่นอนว่ารวมถึงฉันด้วย! ถ้าไม่มีงานด่วนเข้ามา ฉันจะต้องไปดูอย่างแน่นอน”

 

เซนโงคุกล่าว ก่อนที่จะหันไปยิ้มให้การ์ปและเซเฟอร์ก่อนที่จะหันหลังเดินจากไป

 

พริบตาเดียว

 

ทั้งเหล่าคนจากรัฐบาลโลกและทหารเรืออาวุโสก็ได้เดินจากไปจนหมดเหลือเพียงแค่การ์ปกับเซเฟอร์ ที่ยังอยู่ที่นี่พร้อมๆกับโรจาและเหล่าเล่าบิงคนอื่นๆ

 

เซเฟอร์หันไปกล่าวกับโรจาว่า

 

“พรุ่งนี้ ให้เธอส่งใบขอจบการศึกษามาให้ฉัน หลังจากนั้น พวกเราจะเริ่มการประเมินขั้นแรกกัน ส่วนวันนี้เธอก็กลับไปพักผ่อนและเตรียมตัวให้พร้อม”

 

ถึงเซเฟอร์จะกล่าวแบบนั้น แต่ความจริงแล้วเขารู้ดีว่าโรจาไม่จำเป็นที่จะต้องเตรียมตัวใดๆทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม เซเฟอร์ก็ยังต้องการให้โรจาพักผ่อนและปรับสภาพจิตใจให้พร้อมอยู่ดี

 

และหลังจากที่พูดคุยกันอีกนิดหน่อย โรจากับการ์ปก็เดินออกจากสนามฝึกซ้อมท่ามกลางสายตาของเหล่าเล่าบิง

 

“เซเฟอร์เซนเซย์ ผมต้องการที่จะขอจบการศึกษา!”

 

“ฉันก็เหมือนกัน!”

 

คนที่กล่าวประโยคนี้ออกมาเป็นคนแรกก็คือสโมคเกอร์ จากนั้นก็ตามมาด้วยเหล่าเล่าบิงอีกประมาณเกือบ10คน ความจริงแล้วสโมคเกอร์และพวกเขานั้นต้องการที่จะขอจบการศึกษาในเร็วๆนี้อยู่แล้ว แต่พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าจะถูกโรจาที่เป็นเพียงเด็กใหม่ชิงตัดหน้าพวกเขา

 

เมื่อพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ เซเฟอร์กลับไม่มีท่าทีประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย

 

ถึงแม้ว่าเล่าบิงในค่ายชั้นยอดจะสามารถขอจบการศึกษาได้ตลอดเวลา แต่เมื่อมีใครคนหนึ่งกล่าวขอจบการศึกษา ก็จะตามมาด้วยคนอื่นๆที่ขอจบด้วยเช่นกัน เพียงแต่คราวนี้คนที่กล่าวออกมาเป็นคนแรกนั้นคือโรจาก็เท่านั้นเอง

 

“ นี่พวกเธอ … ตกลง! ฉันยอมรับคำขอของพวกเธอ”

 

เซเฟอร์ตอบรับคำขอจบการศึกษาของเหล่าเล่าบิงก่อนที่จะเอ่ยถามว่า

 

“ยังมีใครอีกไหม?”

 

ไม่มีใครเอ่ยคำใดๆออกมาอีก

 

เมื่อเห็นแบบนั้น เซเฟอร์จึงพยักหน้าและหันหลังเดินจากไป