GOS ตอนที่ 35 – ค่ายชั้นยอด

 

หลังจากจบการต่อสู้ของโรจา

 

งานประลองก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ทหารเรือฝึกหัดอันดับสูงได้ถูกขอท้าประลองอย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งสิบอันดับสูงสุดก็ยังถูกท้าประลองอยู่หลายครั้ง

 

และฮินะก็ถูกขอท้าประลองเช่นกัน เธอไม่สามารถรักษาอันดับ 2 เอาไว้ได้ และถูกผลักลงไปอยู่ในอันดับที่ 12 ความจริงแล้วเธอไม่ได้อ่อนแอเลย ในกลุ่ม 5 ถ้าไม่นับโรจากับเดรค ฮินะนับเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด

 

ในที่สุด

 

ผู้ขอท้าประลองก็น้อยลงเรื่อยๆ จนไม่มีใครเอ่ยขอท้าประลองอีกต่อไป งานประลองในครั้งนี้จึงได้ยุติลง

 

ความจริงแล้วมันจบลงเร็วกว่าที่เหล่าครูฝึกคาดไว้มาก ในตอนแรกพวกเขาคิดว่างานประลองในครั้งนี้คงกินเวลาอย่างน้อยก็ 2 – 3 วัน

 

งานประลองในครั้งนี้ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีคนได้รับบาดเจ็บ มีเพียงเดรคที่บาดเจ็บหนักเนื่องจากต้องเผชิญหน้ากับ เก็ทสึงะ เท็นโช ของโรจา

 

เมื่อเห็นว่าไม่มีทหารเรือฝึกหัดคนไหนขอท้าประลองอีก เซเฟอร์ก็พยักหน้า ก่อนที่จะประกาศสิ้นสุดงานประลองในครั้งนี้ พร้อมกับประกาศ 15 อันดับสูงสุด

 

ซึ่ง 15 อันดับสูงสุดจะได้ไปฝึกฝนในค่ายชั้นยอด

 

โรจาถูกประกาศชื่อออกมาเป็นอันดับแรก ตามมาด้วยเดรค และคนอื่นๆ และแน่นอนว่าฮินะก็ติดหนึ่งในสิบห้าเช่นกัน

 

“ทั้งสิบห้าคนที่ถูกขานชื่อ จะได้ไปฝึกฝนในค่ายชั้นยอด! เอาล่ะ ตามฉันมา”

 

หลังจากที่เซเฟอร์ประกาศรายชื่อเสร็จ เขาก็เดินนำโรจาและคนอื่นๆออกจากจตุรัส

 

สถานที่ฝึกฝนในค่ายชั้นยอดจะแยกออกจากค่ายสามัญโดยสมบูรณ์

 

เมื่อเข้าไปฝึกในค่ายชั้นยอดแล้ว การฝึกจะแตกต่างจากค่ายสามัญราวกับอยู่คนละโลก เพราะการฝึกของพวกเขาจะถูกกำหนดโดยอดีตพลเรือเอกเซเฟอร์

 

ทหารเรือฝึกหัดที่ไม่ได้รับเลือก ต่างจ้องมองพวกโรจาที่กำลังเดินจากไปด้วยความอิจฉา ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปตามคำสั่งของเหล่าครูฝึก

 

 

เซเฟอร์นำทางโรจาและคนอื่นๆเดินออกจากจตุรัสแล้วเข้าไปในป้อมปราการขนาดยักษ์ของศูนย์ใหญ่กองทัพเรือ

 

ป้อมปราการขนาดยักษ์แห่งนี้คือสำนักงานของจอมพลเรือสูงสุด นอกจากนี้ยังเป็นที่พักของเหล่าพลเรือเอก และห้องประชุมของพวกระดับสูงอีกด้วย!

 

บนชั้นสองของป้อมปราการขนาดยักษ์แห่งนี้เป็นสถานที่ฝึกฝนของทหารเรือฝึกหัดจากค่ายชั้นยอดและ นอกจากนี้ยังเป็นสำนักงานของเซเฟอร์อีกด้วย

 

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โรจาเข้ามาที่นี่

 

เนื่องจากเขาเป็นญาติของการ์ป เขาจึงได้เข้ามาเยี่ยมชมป้อมปราการแห่งนี้อยู่หลายครั้ง อย่างไรก็ตาม สำนักงานของจอมพลสูงสุดนั้นเขาเคยเข้าไปเพียงครั้งเดียว

 

ซึ่งในยุคสมัยของเหล่าโจรสลัด ในเวลานี้ คนที่กุมอำนาจสูงสุดในกองทัพเรือก็คือเซนโงคุ

 

บางทีอาจเป็นเพราะจิตวิญญาณของโรจานั้นแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป จึงทำให้เขาไม่รู้สึกกดดันแม้แต่น้อยในยามที่ได้เผชิญหน้ากับเซนโงคุ

 

ตอนแรกโรจามักจะรู้ถึงกดดันเมื่อเผชิญหน้ากับการ์ป แต่ภายหลังโรจากลับพบว่า แรงกดดันค่อยๆลดลงเมื่อพละกำลังและจิตวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้น จนทำให้ในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นจิตมุ่งร้ายหรือแรงกดดันใดๆก็ไร้ผลเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา

 

อย่างไรก็ตาม โรจาก็ไม่รู้ว่าเขาสามารถต้านทาน ฮาโอโชคุฮาคิ(ฮาคิราชัน)ได้หรือไม่

 

เซเฟอร์ได้เดินนำโรจาและคนอื่นๆขึ้นไปยังชั้นสองของป้อมปราการยักษ์ ทหารเรือยศสูงทุกคนที่เดินสวนมาต่างทักทายเซเฟอร์ด้วยความเคารพนับถือ

 

หลังจากที่เดินผ่านมาหลายห้องโถงทางเดิน ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงห้องโถงขนาดใหญ่ที่เป็นสถานที่ฝึกฝนของทหารเรือฝึกหัดจากค่ายชั้นยอด

 

ซึ่งภายในห้องเต็มไปด้วยเหล่าทหารเรือฝึกหัดที่กำลังฝึกฝน หรือทำอะไรบางอย่างแตกต่างกันออกไป  บางคนก็กำลังต่อสู้กัน ในขณะที่บางคนกำลังศึกษาเกี่ยวกับยุทวิธีสงคราม

 

หลังจากที่เซเฟอร์เข้ามาในห้องโถง ทหารเรือฝึกหัดชั้นยอดก็หยุดทุกสิ่งที่เขากำลังทำ และหันไปทำความเคารพเซเฟอร์

 

“ดูเหมือนว่าจะมีหลายคนในที่นี้ที่ฉันรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ก่อนแล้ว”

 

โรจากวาดสายตาไปทั่วห้อง ดวงตาของเขาเป็นประกายและเต็มไปด้วยความรู้สึกสนใจ

 

มีหลายคนในห้องนี้ที่เขาจำหน้าได้ ตัวอย่างเช่น สโมคเกอร์ หรือแม้แต่ ไอน์*และคนอื่นๆอีกหลายคน ซึ่งโรจาจำได้รางๆเพราะในตอนที่อ่านวันพีช เขาไม่ค่อยประทับใจตัวละครเหล่านั้นจึงไม่ได้จำใส่สมอง

 

*(ไอน์ ในวันพีชเคยเป็นทหารเรือที่ประจำการอยู่บนเรือของเซเฟอร์ วันหนึ่งเธอได้เห็นเหตุการณ์ที่ ‘โจรสลัดที่เก่งกาจ’คนหนึ่ง ได้ตัดแขนขวาของเซเฟอร์ และต่อมาโจรสลัดคนดังกล่าวได้ถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นเจ็ดเทพโจรสลัด ซึ่งเธอรับไม่ได้จนขอลาออกจากกองทัพเรือ)

 

ในขณะที่โรจากำลังสังเกตเหล่าทหารเรือฝึกหัดชั้นยอด ตรงกันข้าม เธอมองฉัน ฉันมองเธอ* พวกเขาก็กำลังสังเกตพวกของโรจาเช่นกัน

 

(*เป็นสำนวน)

 

“ในที่สุด พวกเด็กใหม่ก็มาซักที”

 

“เซนเซย์* เด็กใหม่ที่เซนเซย์พามาดูใช้ไม่ค่อยได้เอาเสียเลย”

 

*(เซนเซย์ — เป็นคำที่ใช้เรียกคนที่มีทักษะต่างๆ หรืออาจจะใช้เรียกคนที่ให้ความเคารพ)

 

บางคนในกลุ่มค่ายชั้นยอดจ้องมองพวกโรจาก่อนที่จะหัวเราะคิกคัก

 

ก่อนที่คนอื่นๆจะพากันหัวเราะตาม และหนึ่งในนั้นได้กล่าวออกมาว่า

 

“ไม่ ไม่ อย่าประมาทพวกเขาจนมากเกินไปนัก ฉันได้ยินมาจากคนอื่นๆว่า ปีนี้มีทหารเรือฝึกหัดที่ชื่อว่า เดรค เขาค่อนข้างแข็งแกร่ง บางทีนายอาจไม่สามารถเอาชนะเขาได้ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่ามันคือคนไหนในกลุ่มเด็กใหม่”

 

“นี่แกล้อฉันเล่น? ฉันเนี่ยนะจะเอาชนะเจ้าเด็กใหม่คนนั้นไม่ได้?”

 

ทหารเรือฝึกหัดชั้นยอดคนหนึ่งกล่าว พร้อมกับส่ายหัวด้วยความไม่เชื่อ

 

 

“จากนี้ไป ที่นี่จะเป็นที่ฝึกฝนของพวกเธอ และแน่นอนว่ารวมไปถึงที่อาศัยเช่นกัน ของๆพวกเธอทั้งหมดจะถูกส่งมาที่นี่ในภายหลัง และต่อจากนี้ไปพวกเธอต้องเรียกฉันว่า เซเฟอร์เซนเซย์ ไม่จำเป็นต้องเรียกว่าครูฝึกอีกต่อไป”

 

เซเฟอร์หันไปมองเหล่าเล่าบิง* ก่อนที่จะส่งสัญญาณพยักหน้าให้ไปฝึกต่อ จากนั้นก็หันไปมองโรจาและคนอื่นๆ ก่อนที่จะกล่าวว่า

 

*(เล่าบิงคือชื่อที่ใช้เรียกทหารเรือฝึกหัดชั้นยอดในค่ายชั้นยอด)

 

“ค่ายชั้นยอดนั้นแตกต่างจากค่ายสามัญ เมื่อพวกเธอมาอยู่ที่นี่พวกเธอก็ได้กลายเป็นบุคลากรชั้นสูงของกองทัพเรือแล้ว! แม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเธอถูกเรียกว่าทหารเรือฝึกหัด แต่ในความเป็นจริง พวกเธอได้จบการศึกษาและเป็นทหารเรืออย่างเป็นทางการแล้ว!

 

“สิ่งที่พวกเธอจะต้องเผชิญต่อจากนี้ ไม่ใช่เพียงแค่การฝึกพิเศษจากฉันเท่านั้น! แต่ยังมีภารกิจต่อสู้ให้พวกเธออีกด้วย! และแน่นอนว่ามันไม่เหมือนกับในการประเมินผลการต่อสู้หรืองานประลอง … แต่มันเป็นการต่อสู้จริงๆกับพวกโจรสลัด!”

 

เมื่อคำพูดนี้ออกจากปากเซเฟอร์ บรรยากาศโดยรอบก็พลันเปลี่ยนเป็นตึงเครียดทันที

 

ผ่านไปไม่นาน

 

เซเฟอร์ก็ได้เริ่มพูดอีกครั้ง ด้วยท่าทีที่ผ่อนคลายลงเล็กน้อย ก่อนที่จะเริ่มแนะนำความแตกต่างระหว่างค่ายสามัญกับค่ายชั้นยอด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘กฏการจบการศึกษาของค่ายชั้นยอด’

 

กฏการจบการศึกษาของค่ายชั้นยอดนั้นแตกต่างไปจากค่ายทั่วไป มันไม่ได้ถูกกำหนดไว้ตายตัว แต่เหล่า เล่าบิง สามารถเลือกจบการศึกษาเมื่อใดก็ได้ตามที่พวกเขาต้องการ

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะจบการศึกษา พวกเขาจะต้องเข้าการประเมินการจบการศึกษาเสียก่อน หลังจากสามารถผ่านการประเมินได้ พวกเขาก็จะจบการศึกษา

 

โดยทั่วไป

 

หากต้องการที่จะผ่านการประเมินการจบการศึกษาของค่ายชั้นยอด ตราบใดที่ผู้ต้องการจบการศึกษา มีความแข็งแกร่งมากพอ  การได้ยศนาวาตรีก็ไม่น่าจะยากเย็นอะไร

 

และตราบใดที่สามารถผ่านการประเมินการจบการศึกษาได้ แม้ว่าผลการประเมินจะเลวร้ายแค่ไหน แต่พวกเขาก็ยังคงได้ตำแหน่งนาวาตรี และตราบใดที่ทำงานได้ดีพวกเขาก็จะได้เลื่อนยศไปยังตำแหน่ง นาวาเอก

 

“อยากจะจบการศึกษาเมื่อไหร่ก็แล้วแต่พวกเธอ เพียงแต่ … จะต้องไม่เกินภายใน 3 ปี!”

 

“ถ้าหาก 3 ปีแล้วพวกเธอยังไม่จบการศึกษา หรือไม่สามารถผ่านการประเมินได้ พวกเธอจะถูกบังคับให้ออกจากค่ายชั้นยอดทันที และจะไม่ได้รับตำแหน่งใดๆทั้งสิ้นในกองทัพเรือ — พวกเธอจะเป็นเพียงทหารเรือยศธรรมดาๆเท่านั้น!”

 

เซเฟอร์ หยุดแนะนำชั่วคราว ก่อนที่จะพูดต่ออย่างแผ่วเบาว่า

 

“อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ที่ฉันเข้ามาเป็นเซนเซย์ในค่ายฝึกชั้นยอด ก็ยังไม่เคยมีแม้แต่คนเดียวที่อยู่จนถึง 3 ปี แล้วยังไม่สามารถผ่านการประเมินการจบการศึกษาได้ … และฉันหวังว่ามันจะไม่ปรากฏขึ้นในกลุ่มของพวกเธอ ”