GOS ตอนที่ 17 – ประกาศผล

 

วันเวลาได้ล่วงเลยผ่านไปสามวัน

 

ในที่สุดงานประเมินผลการต่อสู้ในครั้งนี้ก็ได้สิ้นสุดลง

 

เสียงไซเรนได้ดังขึ้นไปทั่วทั้งเกาะ ทหารเรือฝึกหัดทุกคนต่างหยุดทุกการกระทำของพวกเขา และเดินออกมาจากป่า

 

ซึ่งช่วงเวลาสามวันที่ให้มาก็สมเหตุสมผล เนื่องจากจำนวนสัตว์ร้ายในป่าลดลงเป็นจำนวนมาก ในวันสุดท้ายของการประเมิน แทบจะไม่มีสัตว์ร้ายหลงเหลืออยู่เลย แม้แต่สัตว์ร้ายระดับ 1 ก็ถูกทหารเรือฝึกหัดรวมกลุ่มกันรุมสังหาร

 

ระหว่างทางเดินออกจากป่า ทหารเรือฝึกหัดจำนวนมากก็ได้เดินผ่านพื้นที่ที่เคยเป็นทะเลเพลิง — พวกเขาจ้องมองไปยังพื้นที่ที่เต็มไปด้วยขี้เถ้า ราวกับถูกเพลิงจากนรกแผดเผา เหล่าทหารเรือฝึกหัดอดไม่ได้ที่จะเกิดความหวาดกลัวขึ้นในจิตใจ

 

“โชคดีจริงๆ ที่พวกเราไม่ได้อยู่ที่นี่ในตอนที่เกิดเพลิงไหม้”

 

“ช่างน่ากลัวจริงๆ มันเกิดขึ้นได้ยังไงกันนะ?”

 

“ใครจะรู้”

 

เหล่าทหารเรือฝึกหัดต่างจ้องมองไปยังพื้นที่ ที่ถูกเผาไหม้ พลางพูดคุยกันขณะที่เดินผ่าน

 

ในความเป็นจริงแม้ว่าจะไม่มีใครเข้าไปเกี่ยวข้องกับทะเลเพลิงในวันแรก แต่ก็ต้องยอมรับว่าทะเลเพลิงนั้นส่งผลต่อการประเมินผลการต่อสู้ในครั้งนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากสัตว์ร้ายบนเกาะนั้นกลัวไฟ พวกมันจึงพยายามหลบหนีให้ห่างจากมัน ทำให้ทหารเรือฝึกหัดที่อยู่ในบริเวณอื่นพบเจอเหล่าสัตว์ร้ายได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเสียเวลาค้นหา

 

ในขณะนี้ ณ บริเวณนอกป่า

 

โรจาเป็นคนแรกที่ออกมา สองวันแรกหลังจากที่ทะเลเพลิงมอดดับ เขาก็ได้ล่าสัตว์ร้ายบ้างเป็นครั้งคราว แต่ในวันที่สาม เขาหาพวกมันไม่เจอแม้แต่ตัวเดียว โรจาจึงออกมารอตรงขอบชายป่าตั้งแต่เช้า

 

ส่วนทางด้านฮินะ หลังจากที่ทะเลเพลิงมอดดับลง เธอก็จากไปทันที — ฮินะนั้นเป็นคนที่มีบุคลิกเข้มแข็ง และเธอไม่ชอบพึ่งพาคนอื่น!

 

ณ ด้านนอกป่า การ์ปได้มายืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว

 

เมื่อโรจาเดินออกมา การ์ปก็เดินเข้าไปหาเขา ก่อนที่จะตบไหล่ของเขาอย่างแรง พร้อมกับยิ้มจนเห็นฟันขาวๆแล้วกล่าวว่า

 

“ไอ้เด็กเหลือขอ ทำให้คนอื่นวุ่นวายไปทั่วเลยนะ แต่ … ทำได้ดีมาก!”

 

ถึงแม้การกระทำของโรจาจะเป็นเรื่องใหญ่และส่งผลกระทบกับป่าที่เป็นสถานที่ประเมินก็ตาม แต่การ์ปก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเลย เขานั้นเป็นพวกชอบแหกกฏ และไม่ชอบที่จะถูกจำกัดการกระทำด้วยกฏเกณฑ์ เมื่อเห็นว่าโรจาในตอนนี้แข็งแกร่ง มันก็ทำให้การ์ปนึกถึงตัวเองในวัยหนุ่ม

 

ในขณะที่ครูฝึกที่อยู่รอบๆต่างจ้องมองไปยังโรจาด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป

 

เด็กหนุ่มที่เกิดมาเพื่อใช้ดาบ แม้แต่เจตนารมณ์แห่งดาบเขาก็ยังสามารถปลดปล่อยออกมาได้ง่ายๆ … ตราบใดที่โรจายังคงฝึกฝนต่อไป ไม่นานพวกเขาก็คงจะถูกแซง และเด็กหนุ่มคนนี้ก็จะขึ้นเป็นพลเรือโทในอนาคต!

 

ทัศนคติที่พวกเขามีต่อโรจาเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงจากในตอนแรก เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ!

 

อย่างไรก็ตาม

 

การ์ปก็ยังคงตบไหล่ของโรจาต่อไปและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

 

ปากของโรจากระตุกเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะหันไปมองหน้าการ์ปแล้วกล่าวว่า

 

“จะหยุดได้รึยัง … มันเจ็บ”

 

“อ๊ะ … ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

 

เมื่อได้ฟัง ตอนแรกการ์ปก็รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย แต่เขานั้นคุ้นเคยกับท่าทีและคำพูดคำจาของโรจาแล้ว เขาจึงหยุด ก่อนที่จะวางมือลงบนหัวของโรจาแล้วหัวเราะออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

โรจาถอนหายใจออกมา แต่เขาไม่ได้กล่าวอะไรออกไป ก่อนที่จะเอามือลูบไหล่ของเขาที่ถูกตบจนปวดร้าว

 

ในตอนนี้ทหารเรือฝึกหัดคนอื่นๆเริ่มทยอยเดินออกมาจากป่าแล้ว และคนส่วนใหญ่ที่เดินออกมา เสื้อผ้าของพวกเขาต่างฉีกขาดและเต็มไปด้วยร่องรอยของการต่อสู้

 

เกาะนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่องานประเมินผลการต่อสู้โดยเฉพาะ และมีทีมกู้ภัยคอยเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา

 

และนั่นทำให้ทุกคนสามารถกลับออกมาได้ ถึงแม้บางคนจะหลงทางในป่า หรือได้รับบาดเจ็บเจียนตาย แต่เนื่องจากมีอุปกรณ์เฝ้าระวังอยู่ทั่วทุกพื้นที่ ทำให้พวกเขาถูกช่วยเหลือและกลับมาได้อย่างปลอดภัย

 

อย่างไรก็ตาม การประเมินในครั้งนี้ก็ยังมีผู้เสียชีวิตถึง 2 คน

 

ถึงจะน้อย แต่ก็นับว่าเป็นความสูญเสียอยู่ดี

 

นี่ขนาดทางกองทัพเรือให้พวกเขาต่อสู้กับสัตว์ร้ายเพื่อประเมิน ก็ยังมีคนเสียชีวิต หากทางกองทัพจัดการประเมินโดยให้พวกเขาสู้กับพวกโจรสลัดแล้วล่ะก็ … คงจะมีทหารเรือฝึกหัดเสียชีวิตมากกว่านี้ 10 เท่า!

 

ทหารเรือฝึกหัดที่ได้รับบาดเจ็บหนัก จะถูกส่งตัวไปรักษาบนเรือรบทันที ส่วนพวกที่ไม่ได้รับบาดเจ็บหรือบาดเจ็บเล็กน้อย จะได้พักผ่อนเป็นเวลาครึ่งวัน ก่อนที่จะถูกเรียกให้ขึ้นไปบนเรือรบ

 

ครึ่งวันผ่านไป ในที่สุดเรือรบก็กลับมายังศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด

 

ณ จตุรัสกลางมารีนฟอร์ด นอกจากทหารเรือที่บาดเจ็บสาหัสและโรจาที่ออกไปกับการ์ป ทหารเรือฝึกหัดคนอื่นๆก็ได้มายืนรวมตัวกันที่ลานจตุรัส

 

เมื่อเห็นว่าคะแนนการประเมินในครั้งนี้ยังไม่ถูกประกาศ เหล่าทหารเรือฝึกหัดจึงเริ่มกระซิบคุยกันว่า

 

“นายล่าได้กี่ตัว”

 

“ฉันฆ่าสัตว์ร้ายระดับ 3 ได้ สามตัว ส่วนระดับ 4 กับ 5 นั้นฆ่าไปเยอะมากจนฉันจำไม่ได้”

 

“ส่วนฉันฆ่าสัตว์ร้ายระดับ 2 ได้!”

 

ทหารเรือฝึกหัดต่างเล่าถึงเรื่องราวของพวกเขาที่ล่าสัตว์ร้ายระดับต่างๆ และความแข็งแกร่งของพวกมัน

 

เมื่อทหารเรือฝึกหัดคนอื่นๆที่อยู่ข้างๆได้ยินว่า มีคนสามารถล่าสัตว์ร้ายระดับ 2 ได้ ใบหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความริษยา เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว เมื่อพบเจอกับสัตว์ร้ายระดับ 2 พวกเขาก็เลือกที่จะหลบหนีทันที

 

“แล้วนายคิดว่าใครจะได้คะแนนสูงที่สุด?”

 

“แน่นอนว่าต้องเป็นเดรค! ฉันได้ยินมาว่าเขาสามารถสังหารสัตว์ร้ายระดับ 1 ได้!”

 

เมื่อคนอื่นๆได้ยินประโยคนี้ พวกเขาถึงกับเย็นสันหลังวูบ

 

เดรคช่างแข็งแกร่งจริงๆ!

 

เดรคสามารถสังหารสัตว์ร้ายระดับ 1 ด้วยการต่อสู้แบบตัวต่อตัว เขานั้นสมควรที่จะได้คะแนนมากที่สุดและย้ายไปฝึกฝนในค่ายชั้นยอด!

 

เขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และเหมาะสมกับค่ายชั้นยอด

 

หลายคนอดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังเดรคด้วยความรู้สึกเคารพและหวาดกลัว

 

ในตอนนั้นเอง เสียงฝีเท้าได้ดังขึ้นตรงหน้าทางเดินจตุรัส ทำให้ทหารเรือฝึกหัดทั้งหมดต่างหยุดพูดคุยกัน และเงยหน้าขึ้น

 

“ทำตัวตามสบาย!”

 

“ผลคะแนนการประเมินผลการต่อสู้ในครั้งนี้ได้ถูกสรุปออกมาแล้ว!”

 

พลเรือตรีกล่าว ก่อนที่ทหารเรืออีกหลายนายที่เดินตามหลังเขามา แล้วดึงม่านที่บังหน้าจอประกาศผลออก เผยให้เห็นผลคะแนนในครั้งนี้

 

ทหารเรือฝึกหัดทั้งหมดในจตุรัสต่างจ้องมองไปยังหน้าจอเพื่อค้นหาชื่อของตนเอง ว่าพวกเขาประสบความสำเร็จขนาดไหน บางคนเมื่อเห็นชื่อของตัวเองก็รู้สึกโล่งใจ ในขณะที่บางคนก็ไม่เต็มใจที่จะมองชื่อของตัวเอง เพราะคะแนนอันน้อยนิดของพวกเขา

 

หลังจากที่มองหาชื่อของตัวเองแล้ว พวกเขาก็เริ่มมองดูคะแนนของชื่ออื่นๆ

 

อย่างไรก็ตาม

 

พวกเขาก็ไม่พบชื่อที่ต้องการค้นหา

 

ระหว่างที่เหล่าทหารเรือฝึกหัดกำลังรู้สึกประหลาดใจอยู่นั้นเอง เสียงของพลเรือตรีก็ได้ดังขึ้นอีกครั้ง

 

“สิบอันดับที่ได้คะแนนสูงสุดไม่ได้อยู่ในหน้าจอ! แต่ฉันจะเป็นคนประกาศมันด้วยตัวของฉันเอง!”

 

เขากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนที่จะสั่งให้ทหารเรือที่อยู่ข้างหลังปิดม่านหน้าจอประกาศผลและหยิบ เด็น เด็น มูชิ ขึ้นมา

 

จากนั้นเหล่าทหารเรือฝึกหัดก็เริ่มที่จะได้ยินชื่อที่พวกเขาคุ้นเคย

 

“อันดับ 10 ซาอูล!”

 

อันดับ 9 ชิวเหวิน!!”

 

“…”

 

ชื่อที่คุ้นเคยถูกกล่าวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เหล่าทหารเรือฝึกหัดที่อยู่ในจตุรัสไม่มีท่าทีแปลกใจแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้อยู่แล้วว่าคนพวกนี้จะต้องทำคะแนนได้ดี

 

“อันดับ 4 แมตทิวส์!”

 

เสียงประกาศของพลเรือตรีเริ่มที่จะแผ่วลง เมื่อเอ่ยถึงอันดับ 5 เขาก็จะเว้นระยะไปช่วงหนึ่งก่อนที่จะกล่าวชื่อต่อไป

 

เมื่อเหล่าทหารเรือฝึกหัดได้ยินว่าแมตทิวส์อยู่ในอันดับที่ 4 พวกเขาก็เริ่มที่จะสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และหันมาพูดคุยกัน

 

“แมตทิวส์นั้นโคตรแข็งแกร่ง เขาควรจะอยู่ในสามอันดับแรกสิ ไม่นึกเลยว่าเขาจะถูกผลักลงมาในอันดับ 4 ”

 

พลเรือตรีไม่สนเสียงฮือฮาของเหล่าทหารเรือฝึกหัด เขากวาดสายตาไปยังทหารเรือฝึกหัดตรงหน้าก่อนที่จะประกาศต่อว่า

 

“อันดับ 3 เดรค!”

 

เมื่อชื่อของเดรคถูกประกาศออกมา และอยู่ในอันดับ 3 เหล่าทหารเรือฝึกหัดที่กำลังพูดคุยกันต่างเงียบกริบทันที!

 

ไม่เพียงแต่เดรคเท่านั้น แม้แต่เหล่าทหารเรือฝึกหัดคนอื่นๆก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงประกาศ

 

เดรค … ได้แค่ที่ 3!!