GOS ตอนที่ 16 – มอดไหม้

 

ณ บริเวณอื่นๆภายในป่า

 

ทหารเรือฝึกหัดหลายคนได้รวมกลุ่มกันโจมตีสัตว์ร้ายระดับ 2

 

ภายใต้ความร่วมแรงร่วมใจกัน หลังจากที่ต่อสู้อย่างยากลำบาก ในที่สุดพวกเขาก็สามารถสังหารสัตว์ร้ายระดับ 2 ตัวนี้ลงได้

 

“ฟู่ว … สัตว์ร้ายระดับ 2 นี่ร้ายกาจจริงๆ”

 

“ถึงมันจะร้ายกาจ แต่สุดท้ายพวกเราก็สามารถสังหารมันลงได้!”

 

หนึ่งในทหารเรือฝึกหัดที่ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลได้กล่าวขึ้น ก่อนที่จะยิ้มจางๆออกมา อย่างไรก็ตาม วินาทีต่อมา รอยยิ้มของเขาก็หายไป

 

เมื่อคนอื่นๆเห็นว่าเพื่อนของพวกเขาจู่ๆก็มีท่าทีแปลกไป พวกเขาจึงหันไปยังทิศทางที่ชายคนนั้นจ้องมองอยู่

 

ทันใดนั้นพวกเขาก็พบว่า ป่าบริเวณที่ห่างออกไปเต็มไปด้วยแสงสีแดง

 

และเมื่อเพ่งพินิจดีๆ พวกเขาก็พบว่ามันคือทะเลเพลิง!

 

“ไฟไหม้?”

 

ทหารเรือฝึกหัดหลายคนจ้องมองทะเลเพลิงที่อยู่ห่างออกไปด้วยความตกใจ ก่อนที่จะหันมองหน้ากัน

 

“นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการประเมินผลการต่อสู้ใช่ไหม?”

 

“ไม่น่าจะใช่ บางทีอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้น ฉันคิดว่าเดี๋ยวพวกหน่วยกู้ภัยก็จะไปดับเพลิงแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นพวกเราคงไม่สามารถประเมินผลต่อได้”

 

“แปลกจริงๆ … ว่าแต่ตรงนั้นใช่จุดที่สัตว์ร้ายหลายตัวส่งเสียงออกมารึเปล่า?”

 

ทหารเรือฝึกหัดหลายคนเกิดความกลัวขึ้นในจิตใจ และไม่มีใครต้องการไปที่นั่น พวกเขาไม่โง่พอที่จะเดินเข้าไปตายในทะเลเพลิง!

 

ทหารเรือฝึกหัดที่รวมกลุ่มกัน ต่างพร้อมเพรียงกันหันหลังและเดินไปยังทิศทางตรงข้ามกับจุดที่ทะเลเพลิงกำลังลุกไหม้

 

เปลวเพลิงสีทองเริ่มขยายวงกว้างขึ้น จนเหล่าทหารเรือฝึกหัดที่อยู่บนเกาะทุกคนสังเกตุเห็น และนั่นทำให้พวกเขาเกิดความกลัวขึ้นมาในจิตใจ

 

ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่างานประเมินในครั้งนี้จะต้องหยุดลง!

 

มิใช่เพียงทหารเรือฝึกหัดที่พยายามออกห่างจากบริเวณนั้น — แม้แต่เหล่าสัตว์ร้ายก็เช่นกัน! และในขณะหลบหนี บางตัวก็ได้บังเอิญปะทะเข้ากับเหล่าทหารเรือฝึกจนหลายคนได้รับบาดเจ็บ

 

ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ใช่เพียงสัตว์ร้ายเท่านั้นที่จะถูกเผา แม้แต่เหล่าทหารเรือก็จะโดนลูกหลงไปด้วย!

 

ณ ห้องเฝ้าระวังในเรือรบ เหล่าครูฝึกและทหารเรือที่คอยบันทึกคะแนนหน้าจอมอนิเตอร์ต่างกำลังกุมขมับ

 

ในตอนแรกที่พวกเขาเห็นว่าโรจาที่เป็นเพียงทหารเรือฝึกหัดสามารถปลดปล่อยเปลวเพลิงออกมาได้ พวกเขาก็รู้สึกประหลาดใจ — แต่ตอนนี้มันกลายเป็นความรู้สึกทึ่ง

 

อย่างไรก็ตาม ความทึ่งในตอนนี้เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความวิตกกังวล เนื่องจากเปลวเพลิงที่โรจาปลดปล่อยออกมาเริ่มขยายวงกว้างจนเกิดความโกลาหลขึ้นบนเกาะ

 

‘นี่โรจาสามารถปลดปล่อยเจตนารมณ์แห่งอัคคีออกมาได้อย่างไม่จำกัด?’

 

‘นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน?’

 

ทำไมเขาถึงสามารถปลดปล่อยเปลวเพลิงออกมาได้มากขนาดนี้? นี่เขาไม่ใช่ผู้กินผลปีศาจเข้าไปจริงๆใช่ไหม?

 

เมื่อเห็นว่าป่าเกือบทั้งเกาะเริ่มที่จะกลายเป็นทะเลเพลิง พวกเขาก็คิดว่าหากยังเป็นแบบนี้ต่อไปการประเมินในครั้งนี้จะต้องหยุดลง

 

และถ้ามีใครรู้ว่า การประเมินจะต้องหยุดลง ก็เพราะมีทหารเรือฝึกหัดคนนึงที่เก่งเกินหน้าเกินตาคนอื่นเป็นคนจุดไฟเผาทั้งป่าแล้วล่ะก็ …

 

ทุกคนภายในห้องเฝ้าระวังต่างปวดหัวจนต้องกุมขมับ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากงานประเมินผลการต่อสู้ครั้งนี้ ไม่ได้มีกฏว่าห้ามเผาป่า พวกเขาจึงไม่รู้ว่าสมควรที่จะหยุดโรจาดีหรือไม่

 

“อุปกรณ์เฝ้าระวัง 5ชุด ได้ถูกเผาทำลายไปแล้วครับ!”

 

“อุปกรณ์พวกนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันไฟ …”

 

ในขณะนี้ทหารเรือภายในห้องต่างจ้องมองโรจาที่กวัดแกว่งดาบในมือ พร้อมกับปลดปล่อยเปลวเพลิงออกมาอย่างต่อเนื่อง ก็ยิ่งทำให้พวกเขาปวดหัวจนแทบระเบิด

 

งานประเมินผลการต่อสู้นั้นถูกจัดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง แต่เหตุการณ์แบบนี้พึ่งเคยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก!

 

และในตอนนี้โรจาก็สังหารสัตว์ร้ายไปมากมายนับไม่ถ้วน จนคนบันทึกคะแนน ไม่สามารถบันทึกคะแนนได้ทัน!

 

จู่ๆ เซเฟอร์ก็ยิ้มออกมา ก่อนที่จะกล่าวว่า

 

“การ์ปปล่อยทิ้งไว้มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว นายต้องไปหยุดเขาแล้วล่ะ”

 

“ไอ้เด็กเหลือขอนี่ชอบทำอะไรให้มันยุ่งยากจริงๆ”

 

ทางด้านการ์ปที่เมื่อเห็นโรจาฆ่าสัตว์ร้ายเป็นผักปลา เขาก็ผ่อนคลายลง แล้วเดินไปนั่งกินขนมเซมเบ้ต่อ

 

เมื่อได้ยินแบบนั้น เส้นเลือดก็เริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซเฟอร์ เมื่อเขาลองมาคิดดูดีๆแล้ว เจ้าเด็กโรจาคนนี้มันเหมือนกับการ์ปและดราก้อนเป๊ะๆ — เป็นพวกที่สร้างความยุ่งยากให้แก่กองทัพเรือ …

 

แม้แต่คนตาบอดก็ยังบอกได้เลยว่า ในอนาคตเด็กหนุ่มที่ชื่อว่าโรจาจะต้องสร้างความปั่นป่วนให้แก่กองทัพเรืออย่างแน่นอน

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เซเฟอร์ก็เริ่มที่จะเอามือกุมขมับเหมือนกับทหารคนอื่นๆ

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่การ์ปจะทันได้ออกไปหยุดโรจา จู่ๆทะเลเพลิงที่กำลังลุกไหม้ไปทั่วทั้งเกาะก็มอดดับลง

 

ภายใต้การควบคุมเปลวเพลิงของโรจา ทำให้พื้นที่เกือบหนึ่งในสิบของเกาะทั้งเกาะถูกปกคลุมไปด้วยทะเลเพลิง — เปลวเพลิงเริ่มอ่อนลง ก่อนที่มันจะมอดดับไป

 

เมื่อเห็นแบบนั้นเหล่าทหารเรือภายในห้องต่างถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

 

ก่อนที่พวกเขาจะหันมามองหน้ากันแล้วคิดในใจว่า

 

‘เจ้าเด็กคนนี้ฝึกอยู่ในค่ายสามัญ … นี่มันบ้าชัดๆ!’

 

เด็กในค่ายสามัญเพียงคนเดียวที่เกือบจะทำลายงานประเมิน — ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งปวดหัว

 

มีสัตว์ประหลาดแบบนี้อยู่ในค่ายสามัญ … นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน!

 

สัตว์ประหลาดแบบนี้ มีเพียงที่เดียวที่เขาสมควรจะอยู่ — ค่ายชั้นยอด!

 

 

ท่ามกลางทะเลเพลิง

 

เปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้ได้แยกออกเป็นสองฟากฝั่ง เพื่อเปิดทางให้โรจาเดิน ตัวเขาในตอนนี้เปรียบดั่งจักรพรรดิแห่งไฟ!

 

มือข้างหนึ่งของโรจายังคงถือโฮโนะสึกิอยู่ ในขณะที่มืออีกข้างกำลังลูบคางของเขา ก่อนที่จะพูดกับตัวเองว่า

 

“ดูเหมือนว่าจะทำเกินไปหน่อย ถ้าจัดหนักมากกว่านี้งานประเมินคงต้องถูกยกเลิก หลังจากนั้นคงเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นแน่ๆ”

 

ในขณะที่กำลังครุ่นคิด มุมปากของโรจาก็ยกสูงขึ้น ก่อนที่เขาจะใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางลูบไปตามใบดาบ ที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยเปลวเพลิง

 

ไม่มีเสียงใดๆเกิดขึ้น

 

หลังจากนั้นเปลวเพลิงก็ค่อยๆสลายไป

 

จนในที่สุดทะเลเพลิงที่ลุกไหม้ ก็มอดดับลงอย่างสิ้นเชิง เหลือทิ้งไว้เพียงซากที่ถูกมันเผาผลาญ

 

ป่าเขียวขจีเมื่อครู่ …บัดนี้เหลือเพียงขี้เถ้าดำๆ และดินที่แห้งแตก

 

“เปลวเพลิง … ดับลงไปแล้ว!?”

 

เบื้องหลังของโรจา ฮินะที่เฝ้ามองดูเหตุการณ์ทั้งหมด ได้พูดออกมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความช็อก

 

ความจริงแล้วฮินะเดินตามหลังโรจามาโดยตลอด หลังจากที่โรจาพุ่งออกมาวงแหวนเพลิง วงแหวนก็เปิดทางให้เธอเดินออกมาด้วยเช่นกัน

 

โรจานั้นไม่ได้รังเกียจที่จะให้ฮินะเริ่มต่อสู้กับเขา

 

แน่นอนว่าฮินะไม่ได้เดินตามหลังโรจาเฉยๆ แต่เธอยังช่วยเขาโจมตีบ้างเป็นครั้งคราว โดยใช้อาวุธปืนของเธอช่วยซัพพอร์ตโรจา ถึงแม้ว่าโรจาก็สามารถยิงไฟออกมาได้และแทบจะไม่จำเป็นให้เธอช่วยเลยก็ตาม

 

ในเวลานี้แม้แต่โรจาก็รู้สึกตกใจไม่น้อย เมื่อเห็นสภาพป่าที่กลายเป็นขี้เถ้าด้วยฝีมือของเขา — เขาไม่ได้หวังจะทำให้มันเละเทะขนาดนี้!

 

ไม่นานนักโรจาก็กลับมาสงบลงอีกครั้ง เขาไม่สนใจฮินะที่กำลังช็อกอยู่ และได้เปิดหน้าต่างสถานะขึ้นมา

 

ขัั้นสอง : จิตวิญญาณแห่งดาบโบราณ +6

 

สถานะ: พลังโจมตี +75, พละกำลัง +20

 

สกิลพิเศษ :  บันโช อิซไซ ไคจิน โตะ นาเสะ — จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน (ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการวิวัฒนาการ)

 

สเตมิน่า:70/70

 

“ไม่คิดเลยว่าการ‘รังแก’เจ้าพวกสัตว์ร้าย จะช่วยเพิ่มค่าสเตมิน่าให้ฉันได้เยอะขนาดนี้”

 

เมื่อเห็นว่าค่าสเตมิน่าเต็มแล้ว และเขาสามารถเสริมความแข็งแกร่งได้อีกครั้ง ใบหน้าของโรจาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะเสริมความแข็งแกร่งทันที

 

ติ๊ง—!

 

ประกายแสงสีทองกระพริบขึ้นตรงหน้าของโรจา ก่อนที่หน้าต่างสถานะจะหายไปและปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

 

ขัั้นสอง : จิตวิญญาณแห่งดาบโบราณ +7

 

สถานะ: พลังโจมตี+80, พละกำลัง +22

 

สกิลพิเศษ :  บันโช อิซไซ ไคจิน โตะ นาเสะ — จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน (ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการวิวัฒนาการ)

 

สเตมิน่า: 0/80

 

“ในตอนนี้ +7 แล้ว ขั้นสามอยู่แค่เอื้อมเท่านั้น!”

 

โรจาคิดในใจพลางจ้องมองหน้าต่างสถานะ

 

ในตอนที่เขายัง +6 อยู่ โรจารู้สึกว่าขั้นสามยังคงห่างไกล แต่เมื่อมันเพิ่มขึ้นเป็น +7 เขารู้สึกได้ว่า การวิวัฒนาการเป็นขั้นสามนั้นอยู่ไม่ไกลแล้ว!