4/5

 

Ep.609 – ราชินีผึ้ง

 

การรุมโจมตีแบบปิดล้อมพื้นที่ มิเผยช่องโหว่ให้หลบหนี ไม่มีผลใดๆต่อฉินเฟิง ฝูงผึ้งในโนเสาร์เห็นผิดท่า เลยพากันบินลงมา ตัดสินใจใช้ร่างกายแข็งแกร่งกำยำของพวกมัน กระแทกเข้าใส่ฉินเฟิง

 

ฉินเฟิงเร่งเร้าปราณกำลังภายใน ดังนั้นเป็นเรื่องยากนักที่สัตว์ร้ายพวกนี้จะเข้าถึงตัวได้ พอถูกโล่ปราณสะท้อนการโจมตีจนเสียหลัก ฉินเฟิงก็ฉวยโอกาสเอาคืน ทำลายปีกของพวกมัน และกระแทกออกไป

 

บนพื้นดิน เต็มไปด้วยร่างของผึ้งบรรพกาลที่ไร้ปีก พวกมันดิ้นรนขยับตัวคืบคลาน แทบอดใจไม่ไหวที่จะสังหารฉินเฟิง

 

“เทคนิคแมกมา!”

 

เพียงพริบตา แอ่งลาวากินพื้นที่กว่าร้อยเมตรปรากฏขึ้นเบื้องหน้าฉินเฟิง แปรสภาพผืนดินทั้งหมดให้กลายเป็นสีแดงเพลิง

 

“จงลุกฮือ!”

 

คลื่นลาวาม้วนขึ้นจากพื้นดิน ดูไปไม่ต่างจากสึนามิ

 

โครม!

 

บังเกิดเสียงดังอึกทึก เสาลาวาพวยพุ่งขึ้นสู่สรวงสวรรค์ โถมเข้าหลอมละลายฝูงผึ้งบรรพกาลบนท้องฟ้า

 

ฉินเฟิงชักมีดกษัตริย์คราม โฉบก้าวไปข้างหน้า ตรงเข้าเข่นฆ่าราชันย์ผึ้งเลเวล C

 

ไป๋หลีคอยยืนหยัดอยู่เหนือสองรถศึก เมื่อใดก็ตามที่มีผึ้งบรรพกาลเล็ดลอดจากพื้นที่สังหารของฉินเฟิง เธอจะฆ่ามันทันที ไม่นาน รอบๆรถศึกก็เต็มไปด้วยซากศพของผึ้งบรรพกาล

 

แต่ก็เทียบไม่ได้เลยกับศพกองพะเนินที่อยู่เบื้องหน้าฉินเฟิง

 

หึ่ง!

 

เสียงกระพือของปีก พร้อมกลิ่นหอมหวลอันเป็นเอกลักษณ์โชยแตะจมูกไป๋หลี ดวงตาของเด็กสาวเปล่งประกายสดใสทันใด

 

สองตาเธอหันขวับไปยังรังผึ้งที่ถูกทำลาย สังเกตเห็นผึ้งบรรพกาลที่ดูงดงามโดดเด่นตัวหนึ่งกำลังบินออกมา

 

แม้ผึ้งตัวนี้มีขนาดเล็กกว่าผึ้งตัวอื่นๆ แต่ตลอดทั้งตัวของมันสาดประกายไปด้วยทองคำ ลวดลายถูกขีดเขียนเป็นเส้นสีทองและสีขาว ปีกก็ยังสวยสดงดงาม เพียงมันเผยโฉมออกมา ผู้คนที่เฝ้ามองก็ยากจะละสายตา

 

หึ่ง หึ่ง!

 

แสงสีทองอันเป็นเอกลักษณ์เริ่มแพร่กระจาย ตัวผึ้งบรรพกาลที่ถูกอาบแสงนี้ ไม่นานก็สามารถหายจากอาการบาดเจ็บได้อย่างน่ามหัศจรรย์

 

พวกมันถูกรักษา ฟื้นฟูพละกำลังกลับมาอีกครั้ง

 

–ที่แท้ราชินีผึ้งตัวนี้ก็เป็นธาตุแสง!

 

ถึงแม้ว่ามันจะถูกเรียกว่าราชินีผึ้ง แต่อันที่จริง ระดับของเจ้าสิ่งมีชีวิตนี้ ได้มาอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิแล้ว เพียงแต่ว่าในช่วงแรกๆ มนุษย์ยังอ่อนแอเลยไม่มีเวลาศึกษาเกี่ยวกับสัตว์ร้ายระดับสูง ดังนั้นเลยใช้คำเรียกขานเจ้าของรังผึ้งว่าราชินี และเป็นเช่นนั้นมาจนถึงบัดนี้

 

อำนาจของเจ้าสิ่งมีชีวิตนี้ ทรงประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก สำหรับพวกเดียวกันมันคือการรักษา แต่สำหรับฉินเฟิง ยามสัมผัสแสง กลับให้ความรู้สึกแสบร้อน ต่อให้มีโล่ปราณกำลังภายใน แต่อำนาจแสงยังคงรุกล้ำเข้ามาไม่หยุด

 

“ไป๋หลี เจ้านั่นฉันมอบให้เธอจัดการ ส่วนคนอื่นๆปล่อยให้รักษาชีวิตตัวเองไป”

 

“เชื่อมือฉันได้เลย!”

 

ไป๋หลีกระโจนจากรถศึก ท่วงท่าเชื่องช้าอ่อนไหว ราวกับไม่มีพลังอำนาจใดๆ ทว่ากระโดดทีเดียวไกลกว่า 20 เมตร และทุกที่ที่เธอพ้นผ่าน ผึ้งบรรพกาลตนแล้วตนเล่า ที่คิดขัดขวาง ต่างร่วงหล่นจากฟ้า หากได้ลองมองอย่างใกล้ชิด จะพบว่าร่างกายของพวกมันแตกเป็นเสี่ยงๆ

 

ทางฝั่งฉินเฟิง เจ้าตัวกวัดแกว่งมีดกษัตริย์ครามไม่หยุดยั้ง แมลงสัตว์ร้ายเหล่านี้ต่อให้ไม่ตายภายใต้คมมีด สุดท้ายก็ตกลงตายในแอ่งลาวา

 

“ทุกคนลงจากรถ เตรียมตัวให้พร้อม!”

 

หยวนเสี่ยวกวงสงบใจได้แล้วในตอนนี้ การต่อสู้ของฉินเฟิงกับไป๋หลีมันน่าตื่นเต้นมากก็จริง แต่เขาก็รู้ตัวดี ว่าตนเองไม่ได้แข็งแกร่งถึงขนาดนั้น ทว่าอย่างน้อยเขาก็น่าจะสามารถต้านทานผึ้งบรรพกาลได้หลายตัว ยื้อชีวิตรอดเอาไว้ได้อีกสักช่วงเวลาหนึ่ง

 

หลังเก็บรถศึกทั้งสองคัน หยวนเสี่ยวกวงเริ่มใช้ออกด้วยพลังสมาธิ ปลุกเร้ารูนไม้โผล่ขึ้นมา

 

“เทคนิคต้นไม้ยักษ์!”

 

ต้นไม้ยักษ์ผุดขึ้นจากพื้นดินแห้งแล้งเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ ปกคลุมคนทั้งหกเอาไว้ภายใน ขณะเดียวกันก็ช่วยกลบซ่อนกลิ่นอาย ถ่วงเวลามิให้สัตว์ร้ายพวกนี้ตระหนักถึง และมุ่งเป้ามาโจมตีในทันที

 

“มิสเตอร์ คุณพอจะเจาะเปิดรูเล็กๆได้ไหม พวกเราอยากดูสถานการณ์ข้างนอก”

 

“ใช่แล้วมิสเตอร์ โอกาสที่จะได้เห็นอะไรแบบนี้ อาจมีแค่ครั้งเดียวในชีวิต!”

 

คนอื่นๆพยักหน้าเห็นด้วย การต่อสู้ของฉินเฟิงกับไป๋หลี ทำให้พวกเขารู้สึกเปิดหูเปิดตาอย่างแท้จริง

 

“ได้อยู่แล้ว!”

 

ไม่ต้องกล่าวถึงคนเหล่านี้ กระทั่งหยวนเสี่ยวกวงเองก็ยังอยากดู!

 

เปลือกนอกของต้นไม้ใหญ่ถูกดันออก ปรากฏหกรูถูกเจาะจากภายใน ทั้งหกชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ รับชมฉากเบื้องนอก หากฉากนี้ถูกผู้ใช้พลังคนอื่นมาเห็นเข้า คงโดนหัวเราะเยาะจนฟันร่วง แต่นั่นไม่สำคัญ เพราะสิ่งที่พวกเขาสนใจก็คือ สองคนภายนอกจะสามารถปราบปรามสัตว์ร้ายสำเร็จหรือไม่

 

“สารภาพตามตรงเลยนะ ฉันไม่เคยคิดมาก่อนจริงๆ ว่ามันจะกลายเป็นแบบนี้”

 

“ใช่ ต่อให้สองคนข้างนอกนั่นพ่ายแพ้ แต่พวกเขาก็ยังสามารถทำลายรังผึ้งได้”

 

“ได้ยินมาว่าการทำลายรังแมลง มีรางวัลเริ่มต้นให้เป็นเงินกว่า 5 ล้านล้าน!”

 

“อึก … ”

 

ห้าผู้ใช้พลังเลเวล E กลืนน้ำลายอึกใหญ่ ทอดถอนหายใจ ตัดพ้อเผื่อใจไว้หลายส่วนว่าจะไม่ได้กลับไป มีเพียงหยวนเสี่ยวกวง ที่ในหัวใจกระจ่างแจ้งถึงเรื่องนี้

 

‘ไม่ผิดแล้ว ก่อนหน้านี้ต้องเป็นทั้งสองคนแน่ๆที่ร่วมมือกันกวาดล้างผีเสื้อผงหอม ครั้งนี้ยังไงก็รอดตายแน่ๆ เพราะได้ยินมาว่าจักรพรรดิผีเสื้อน่ะแข็งแกร่งกว่าราชินีผึ้ง ถ้าครั้งก่อนพวกเขาคว้าชัยชนะมาได้ ครั้งนี้ก็ไม่น่าจะเกิดความผิดพลาดอะไร’

 

‘แต่ช่างแข็งแกร่งจริงๆ ทั้งสองคนมีที่มายังไงกันแน่ ทำไมฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย!’

 

‘ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังดูเด็กมาก!’

 

ความคิดมากมายฟุ้งอยู่ในหัวใจของหยวนเสี่ยวกวง แต่ฉินเฟิงไม่มีเวลาสนใจ เมื่อเห็นว่าหยวนเสี่ยวกวงกับคนอื่นๆปลอดภัย เขาก็เบนสมาธิทั้งหมดไปกับการล่าสังหาร

 

เนื่องจากการถล่มยิงโดยปืนใหญ่ครั้งก่อน ส่งผลให้ผึ้งบรรพกาลเหลือรอดอยู่ไม่มากนัก สูงสุดไม่เกิน 2,000 ตัว เดิมมันเป็นกองทัพที่บาดเจ็บ ทว่าทันทีที่ราชินีผึ้งเข้าร่วม พวกเขาก็เริ่มฮึกเหิม หันมาต่อต้านอีกครั้ง กระทั่งอำนาจทำลายของเทคนิคแมกมา ยังไม่ค่อยได้ผล

 

“จงกลับคืน!”

 

ฉินเฟิงถอนพลังสมาธิ เรียกเทคนิคแมกมากลับหาตน บนพื้นดินไม่หลงเหลือลาวาอยู่อีก ทิ้งไว้เพียงสีดำสนิท

 

“ฮึ่ม! รักษาได้ก็รักษาไป ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าถ้าถูกฉันฆ่าจนตายไปแล้ว ยังจะรักษาจนฟื้นขึ้นมาอีกครั้งได้รึเปล่า!”

 

คู่ปีกเพลิงฟ้างอกบนแผ่นหลังของฉินเฟิง เจ้าตัวทะยานสู่เบื้องบน กระโจนไปท่ามกลางฝูงผึ้งบรรพกาล

 

“กระบวนท่ามีดเปลวเพลิง!”

 

ตัดเฉือนเพียงครั้ง กินระยะยืดยาวไปกว่าหลายสิบเมตร ผึ้งบรรพกาลกว่า 4 – 5 ตัวถูกสะบั้นศีรษะแยกจากร่างทันใด ร่วงลงกับพื้น ชักกระตุกสองสามครั้ง ก่อนแน่นิ่งจมสู่ความตาย

 

ฉินเฟิงโบกสะบัดคมมีดของเขาอย่างต่อเนื่อง ทั้งสับทั้งหั่นผึ้งบรรพกาลร่วงหล่นเป็นชิ้น เป็นชิ้น

 

ภายในเวลาไม่กี่นาที ซาซิมิผึ้งก็กองพะเนิน

 

ฉินเฟิงยิ่งมายิ่งไล่สังหารอย่างบ้าคลั่ง อาละวาดไปทั่วท้องฟ้า

 

เหล่าผึ้งบรรพกาล เริ่มลดจำนวนลงทีละน้อย

 

ฝูงชนภายในต้นไม้ยักษ์ตะลึงงัน ทั้งคนทั้งร่างนิ่งสนิทไม่กล้าขยับไหว เฝ้ามองฉากนี้ดำเนินต่อไปเป็นเวลานาน 3 – 4 ชั่วโมงเต็ม

 

ไป๋หลียืนหยัดอยู่ในสถานที่ห่างไกล ส่วนราชินีผึ้ง คาดว่ามันน่าจะตายไปตั้งนานแล้ว

 

ฉินเฟิงหยุดมือในที่สุด หลังสังหารผึ้งบรรพกาลที่ยังเล็ดลอด

 

สี่ชั่วโมงเต็มอันเข้มข้น สาบไปด้วยกลิ่นอายฆ่าฟัน หากเป็นคนอื่นอยู่ที่นี่ เกรงว่าแค่ไม่กี่นาทีคงจมอยู่ภายใต้กองทัพแมลงสัตว์ร้ายไปแล้ว ทว่าเมื่อมองมายังฉินเฟิง กลับพบว่าปราณกำลังภายในคล้ายไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย บ่งบอกชัดถึงความทรงพลังของเขา

 

ณ ตอนนี้ สถานที่ที่พวกเขาอยู่ ทั้งสนามรบเกลื่อนไปด้วยซากศพ

 

“ออกมาให้หมด ได้เวลาเก็บรวบรวมวัตถุดิบแล้ว อย่าลืมระมัดระวังพิษล่ะ ถ้าพวกคุณตายท่ามกลางกองซากศพพวกนี้ เกรงว่าจะหาตัวไม่เจอ”

 

หยวนเสี่ยวกวงและคนอื่นๆออกมาจากต้นไม้ยักษ์ กวาดมองศพเกลื่อนพื้น แววตาของเขาแปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

 

เพราะเบื้องหน้าคือเม็ดเงินเกินกว่าคณานับ!

 

ต่อให้หยวนเสี่ยวกวงเป็นผู้ใช้พลังเลเวล C ก็ยังใจสั่นจนรู้สึกวิงเวียน

 

ในความเป็นจริงแล้ว การที่หยวนเสี่ยวกวงติดตามฉินเฟิงมา เพราะบังเกิดความอยากรู้อยากเห็น ต้องการไขข้อข้องใจว่าสิ่งที่เห็นในภาพหลอนนั้นผิดหรือไม่ นอกจากนี้ยังเกิดความคิดว่าเขาน่าจะมีประโยชน์สักเล็กๆน้อยๆ

 

และสุดท้ายเขาก็มีประโยชน์จริงๆ ประโยชน์คือคอยปลดปล่อยพลังสมาธิ ลากวัตถุดิบที่กระจัดกระจายมากองเป็นชั้นๆ

 

นี่ … ภารกิจแบบนี้มันจะง่ายดาย ผ่อนคลายเกินไปหรือไม่?

 

ขณะที่คนอื่นๆแตกต่างจากหยวนเสี่ยวกวง พวกเขาตื่นเต้นมาก

 

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฉันเจอวัตถุดิบระดับทหารล่ะ!”

 

“ระดับทหารบ้าอะไร ในที่นี้มันไม่ต่างจากขยะ! ต้องดูฉันนี่ ฉันขุดได้แก่นนายพลสัตว์ร้าย!”

 

“ฉันเองก็เจอเหมือนกัน!”

 

เหล่าผู้ใช้พลังเลเวล E ทั้งห้าคน ออกค้นหาสมบัติด้วยความกระตือรือร้น ไม่ต่างไปจากเด็กๆ