8/8

 

Ep.52

 

ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว [เตาอเนกประสงค์] เหมือนจะเป็นแค่เตาย่างบาร์บีคิวธรรมดาเท่านั้น

 

ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือ มันมีแผงควบคุมพิเศษอยู่ด้านข้าง

 

แผงควบคุมสามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่เพียงสามารถควบคุมขนาดของไฟ แต่ยังใช้ปรับเปลี่ยนรสชาติจากการทำบาร์บีคิวปิ้งย่างได้อีกด้วย

 

พูดง่ายๆก็คือ ไม่ต้องใส่เครื่องปรุงรส แค่เลือกกดสวิตช์ด้านบน เนื้อที่ผ่านการย่างก็จะมีรสเผ็ดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หรือจะอยากได้รสดั้งเดิม ฯลฯ ก็แล้วแต่ชอบ

 

“น่าสนใจแฮะ” ซูเฉินหรี่ตาลง 

 

นี่ก็นานแล้วนะที่เขาไม่ได้กินบาร์บีคิว เจ้าตัวอดน้ำลายไหลเล็กน้อยไม่ได้ 

 

เขาถึงขั้นวางแผนไว้ว่า วันพรุ่งนี้จะล่าสัตว์มาทำปิ้งย่างดีหรือไม่?

 

อย่างไรก็ตาม สัตว์กลายพันธุ์ไม่ง่ายที่จะฆ่า ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมี [โพชั่นสัตว์เลี้ยง] อยู่ในมือสามขวด หากพบสัตว์กลายพันธุ์ ซูเฉินจำเป็นต้องจับพวกมันมาเป็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณซะก่อน เพื่อเสริมกำลังรบแก่ตัวเอง

 

ซูเฉินเก็บ [เตาอเนกประสงค์] ลงในถุงเก็บของ นอนลงบนเตียงไม้ บ่นพึมพำ “ดูเหมือนต้องเปลี่ยนแผนเล็กน้อย”

 

เดิมที เขาวางแผนว่าจะอยู่ในเทือกเขาฮวงเจ๋อสามวัน จากนั้นรีบไปยังเมืองจิงกังให้เร็วที่สุด 

 

แต่ไม่คาดคิดเลย ว่าการกอบโกยในวันนี้จะเหนือความคาดหมาย ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเพิ่มอีกหนึ่งวันแล้ว

 

สิ่งที่น่าเสียดายเพียงอย่างเดียวก็คือ หลังจากฆ่าซอมบี้จำนวนมากแล้ว กลับไม่มีชิ้นส่วนของ [รถศึกอัจฉริยะ] ดรอปเลย

 

ในเมื่อเป็นแบบนี้ ตัวเลือกของเขาคงมีแต่เดินทางไปเมืองจิงกังด้วยการเดินเท้าเท่านั้น

 

“พรุ่งนี้ฉันจะไปหุบเขาหมาป่าเลย ส่วนวันมะรืนจะออกเดินทางสู่เมืองจิงกัง” ซูเฉินตัดสินใจ หลับตาลงช้าๆ เริ่มพักผ่อน

 

วันรุ่งขึ้น ซูเฉินตื่นแต่เช้า 

 

หลังจากพักผ่อนเต็มอิ่มมาทั้งคืน สีหน้าของเขาดูสดใสกว่าในตอนแรกมาก

 

ผ่านมื้อเช้าอันเร่งรีบ เข้าไปในถ้ำหินของหยางฮ่าว อธิบายจุดประสงค์ที่มาเยือน

 

“ซูเฉิน นายต้องการไปหุบเขาหมาป่าจริงๆหรือ?” หยางเฉียนมองซูเฉินด้วยท่าทีเหม่อลอย สีหน้าแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

แม้การเดินทางไปของซูเฉิน ส่วนใหญ่จะเป็นเพราะ ‘ผลโยวหราน’ แต่ก็ยังสามารถรวดช่วยพ่อของเธอระหว่างทางได้เช่นกัน

 

“อืม” ซูเฉินพยักหน้า รอยยิ้มมั่นใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา

 

ด้วยความแข็งแกร่งในปัจุบัน และไพ่ตายมากมายที่มีในครอบครอง การเดินทางไปยังหุบเขาหมาป่าไม่น่าจะเกิดปัญหาใดๆ

 

เมื่อย้อนนึกถึงความแข็งแกร่งของซูเฉินที่สามารถสังหารซอมบี้มากกว่า 300 ตัว หยางเฉียนก็ไม่เอ่ยอะไรมากความ

 

“พี่เฉิน ผมไปด้วยดีไหม” หยางฮ่าวเสนอขึ้นมา

 

หุบเขาหมาป่าอยู่ห่างจากที่นี่มากกว่า 50 ไมล์ ซูเฉินเป็นหน้าใหม่ ยังไม่คุ้นเคยกับพื้นที่ ดังนั้นหยางฮ่าวเลยอยากรับหน้าที่เป็นไกด์ให้ซูเฉิน

 

“ไม่จำเป็น ฉันคนเดียวก็พอแล้ว” ซูเฉินปฏิเสธ

 

เดินเท้าเป็นระยะทาง 50 ไมล์ สำหรับซูเฉินใช้เวลาไม่เกินครึ่งวันก็ถึง 

 

นอกจากนี้ หยางฮ่าวอ่อนแอเกินไป เขาไม่ต้องการแบกรับภาระไว้กับตัว

 

“เมื่อฉันจากไป ก็อย่าเพิ่งรีบออกล่าซอมบี้” หลังจากถามตำแหน่งที่แน่นอนของหุบเขาหมาป่าแล้ว ซูเฉินกำชับก่อนออกเดินทาง

 

หยางเฉียนกับหยางฮ่าวยืนส่งเขา

 

“พี่สาว ถ้าพ่อยังมีชีวิตอยู่จริงๆ ด้วยความสามารถของพี่เฉินที่ผมรู้จัก เขาต้องช่วยพ่อกลับมาได้อย่างแน่นอน” เมื่อร่างของซูเฉินหายไปจากสายตา หยางฮ่าวก็เอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ

 

“นายรู้จักเขาได้กี่วันกัน?” หยางเฉียนหยอกเย้า แต่ภายในใจเธอกลับกำลังไตร่ตรองว่าซูเฉินเป็นคนเช่นไรกันแน่

 

ซูเฉินดูเย็นชา โหดเหี้ยมไร้ปราณี ใครก็ตามที่ยั่วโมโหเขาไม่เคยพบจุดจบที่ดี ทั้งหมดถูกฆ่าตายทั้งสิ้น

 

แต่เขาก็ยังรู้จักตอบแทนบุญคุณ 

 

หยางฮ่าวชักชวนให้เขาเข้ามาพักผ่อนที่บ้านเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากตื่น ซูเฉินก็ช่วยกำจัดปัญหาของหลิวซีหรงและลูกชายเขา ช่วยสองพี่น้องแก้วิกฤตให้ผ่านพ้นไปได้

 

ต่อมา เขาพาเธออกล่าซอมบี้ มอบหินพลังงานให้พวกเธอมากมาย

 

ดังนั้นในครั้งนี้ มีโอกาสเป็นไปได้สูง ว่าเขาจะสามารถช่วยพ่อของเธอได้จริงๆ

 

“เป็นผู้ชายที่มองไม่ออกจริงๆ” โดยไม่ทันรู้ตัว ความรู้สึกที่เธอมีต่อซูเฉินก็เปลี่ยนไป