Ep.344

 

“ว่ากระไร!”

 

ทันทีที่ซูเฉินกล่าวประโยคนี้ออกมา ฝูงชนโดยรอบกลายเป็นเดือดพล่าน เกิดเสียงฮือฮาไปทั่ว

 

เดิมที พวกเขาคิดว่าแค่สือต้าหนิวก็หยิ่งยโสมากแล้ว

 

แต่ไม่เคยคิดเลย ว่าซูเฉินจะบ้ายิ่งกว่า ทันทีที่ปราฏตัว ก็เอ่ยปากว่าจะฆ่าคนของนิกายขวงฉีทันที

 

แบบนี้ไม่เรียกเข้ามาไกล่เกลี่ยแล้ว เขาเรียกเข้ามาหาเรื่องกันชัดๆ!

 

เมื่อได้ยินคำพูดของซูเฉิน สือต้าหนิวก็ไม่ลังเลเลย ยก [ค้อนสวรรค์] และก้าวออกไป

 

“นี่แกกล้า!?”

 

ชายตาหยีร้องคำราม ขณะที่กำลังจะตอบโต้ ก็ต้องพบกับเรื่องน่าตกใจ นั่นเพราะทั้งร่างของเขาถูกพันธนาการไว้ด้วยพลังที่มองไม่เห็น ไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวใดๆได้เลย

 

“อย่าฆ่าฉัน!”

 

เขารีบร้องขอความเมตตา

 

อย่างไรก็ตาม สือต้าหนิวไม่หวั่นไหวเลย หวดค้อนกระแทกลงไป

 

ได้ยินเพียงเสียงตูม!

 

ชายตาหยีถูกทุบเป็นพายเนื้อ เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว พื้นถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉาน

 

ซู๊ดดดด!

 

ได้เป็นสักขีพยาของฉากนี้ บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยเสียงสูดหายใจเย็นเยียบ

 

ชายชราหงอกขาวที่เคยพูดคุยกับซูเฉินบังเอิญผ่านมาพอดี และพบว่าซูเฉินกำลังฆ่าคนอีกแล้ว เขาก็อดลอบร้องในใจไม่ได้ว่า “โอ้พระเจ้า! เจ้าหนุ่มนี่เป็นต้องเป็นเทพหายนะอย่างแน่นอน ไม่ว่าเขาจะไปที่ใด ที่นั่นก็มีแต่คนตาย ฉันต้องอยู่ให้ห่างเขา!”

 

ไม่รอช้า ชายชราหงอกขาวหันหลังกลับ วิ่งหายออกจากตลาดไป

 

“พวกเขาฆ่าคนของนิกายขวงฉีจริงๆ!”

 

“ช่างเป็นไอ้พวกบ้าระห่ำ”

 

“แต่ว่าก็ว่าเถอะ พละกำลังของคนที่ถือค้อนแข็งแกร่งไม่เลวเลย!”

 

ฝูงชนต่างตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก อดชักฝีเท้าถอยไม่ได้ เพราะกลัวจะมีคนเห็นว่ายืนอยู่กับพวกซูเฉิน แล้วชักนำความเดือดร้อนมาให้

 

อีกไม่กี่คนที่เหลือของนิกายขวงฉีตัวแข็งทื่อ เมื่อได้สติร้องตะโกนใส่สือต้าหนิวว่า “เจ้าหนู แกกล้าฆ่าคนของนิกายขวงฉี โทษนี้ต่อให้ตายพันครั้งก็ไม่สามารถล้างบาปได้!”

 

แม้พวกเขาจะโกรธสุดขีด แต่ก็ไม่มีใครกล้าเคลื่อนไหว

 

เหตุผลหลักๆก็เพราะตกใจในความแข็งแกร่งของสือต้าหนิว

 

ต้องรู้นะว่า ชายตาหยีเมื่อครู่คือผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 แต่เขากลับถูกสือต้าหนิวทุบเป็นเนื้อบดในค้อนเดียว

 

ขณะที่พวกเขาเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 1 หากกระโจนเข้าแก้แค้นสือต้าหนิว จะไม่เท่ากับมองหาความตายหรือ?

 

“ขยะหลายตัวส่งเสียงดังน่ารำคาญ ฆ่าพวกมันซะ!” ซูเฉินแค่นเสียงเย็นชา ขยิบตาให้หยางฮ่าวและสหาย

 

จะยังไงซะ ในเมื่อเขากับนิกายขวงฉีบาดหมางกันอย่างเปิดเผยแล้ว จะฆ่าหนึ่งคน หรือร้อยคนก็เหมือนกัน

 

หยางฮ่าวและสหายวิ่งไปข้างหน้าด้วยความตื่นเต้น กวาดอาวุธเป็นแนวนอน ตัดหัวพวกคนของนิกายขวงฉีในที่นี้อย่างหมดจด

 

กลิ่นคาวเลือดแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ทั้งตลาดตกอยู่ในความเงียบงันอันน่าขนลุก

 

ทุกคนมองไปยังซูเฉินและกลุ่มของเขาด้วยความหวาดกลัว

 

หยิ่งผยอง! เผด็จการ! หน้าด้านหน้าทน! และทรงพลัง!

 

นี่คือการข้อสรุปที่คนอื่นๆมอบให้ซูเฉิน

 

ณ ตลาดที่ราบเทียนซาง คนจากนิกายขวงฉีมักกดขี่รังแกผู้อื่นเสมอมา แต่ไม่เคยมีเหตุการณ์ไหนเลยที่คนจากนิกายขวงฉีถูกฆ่า

 

นิกายขวงฉีคือหนึ่งในสามขุมกำลังชั้นนำ เมื่อถูกกระทำเช่นนี้พวกเขาจะอยู่เฉยหรือ?

 

คำตอบนั้นชัดเจน!

 

ไม่นาน ผู้คนจำนวนมากของนิกายขวงฉีก็ทราบข่าวและรีบตรงมายังที่นี่

 

“นั่นถังจ้านแห่งนิกายขวงฉี!”

 

“เจ้าพวกคนนอกกลุ่มนี้ตายแน่”

 

“รองหัวหน้านิกายออกหน้าด้วยตัวเอง ยังจะมีใครสู้กับเขาได้อีก?”

 

การปรากฏตัวของถังจ้าน ก่อให้เกิดความโกลาหลขึ้นโดยรอบทันที

 

ผู้ชมที่มุงดูถอยห่างออกมาอีกรอบ สละสถานที่ให้ใช้เป็นสนามรบ

 

ถังจ้านไม่เพียงเป็นรองหัวหน้านิกายขวงฉีเท่านั้น แต่เขายังมีหน้าที่รับผิดชอบตลาดที่ราบเทียนซางอีกด้วย

 

เมื่อทราบข่าวว่ามีคนนิกายขวงฉีถูกฆ่า เป็นธรรมดาที่รีบออกมาตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้น

 

และกำลังรบของเขาค่อนดีทีเดียว เป็นถึงผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 ที่แท้จริง

 

ในนิกายขวงฉีมีผู้แข็งแกร่งอยู่มากมาย แต่ชื่อของถังจ้านติดอยู่ในสิบอันดับแรก นั่นเพียงพอแล้วที่จะบ่งบอกถึงกำลังรบของเขา