Ep.343

 

ไม่นาน ซูเฉินและสาวๆก็มาถึงแผงขายแร่

 

ในเวลานี้ รอบแผงร้านขายแร่ รายล้อมไปด้วยผู้คนหลายกลุ่มกำลังมุงดูอย่างคึกคัก

 

และมีเสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นเป็นระยะๆ จับใจความได้ว่า

 

“ไอ้เด็กโง่พวกนั้นโผล่มาจากรูไหนกัน? กล้าแย่งของกับคนนิกายขวงฉี ส่งสัยจะเบื่อชีวิตแล้ว”

 

“คนหนุ่มยังไม่เคยเห็นโลกกว้างก็เป็นซะแบบนี้ ต้องปล่อยให้เขาเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง”

 

“แต่ฉันกลัวว่าพวกเขาจะไม่เหลือโอกาสเรียนรู้อีกแล้ว”

 

“ก็นั่นน่ะสิ คนที่กล้าล่วงเกินนิกายขวงฉี มีใครบ้างพบจุดจบที่ดี”

 

 

จากที่กล่าวมา ซูเฉินพอจับใจความได้ว่า หยางฮ่าวและคนอื่นๆน่าจะดันไปขัดแย้งกับพวกคนจากนิกายขวงฉีเข้า

 

แต่พูดถึงเรื่องนี้ เดิมซูเฉินกับนิกายขวงฉีก็มีความแค้นฝังลึกกันอยู่แล้ว

 

วันนั้นในตอนที่เขากำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองหวังเยว่ ยอดฝีมือของนิกายได้จบชีวิตลงภายใต้น้ำมือเขา

 

อาจกล่าวได้เลยว่า สำหรับนิกายขวงฉีแล้ว ซูเฉินไม่ได้มีความประทับใจใดๆ

 

ขณะนั้นเอง เฉาหรานสบถด่าขึ้นมา “พวกแกมันหน้าไม่อาย! เห็นอยู่ชัดๆว่าพวกเราซื้อแร่นี่ก่อน แล้วไหงถึงกลายเป็นของพวกแกไปได้?”

 

“เฮ้ เฮ้ เด็กน้อย รู้ไหมว่าพวกเราเป็นใคร เรามาจากนิกายขวงฉี แกคงเบื่อชีวิตแล้วใช่ไหม ถึงกล้ามาแย่งของกับพวกเรา!”

 

ชายวัยกลางคนที่มีดวงตาเล็กหยีจากนิกายขวงฉี ชี้หน้าเฉาหราน ตะโกนด่ากลับ

 

สือต้าหนิวก้าวออกมาข้างหน้า กล่าวเหยียดหยันว่า “อย่าว่าแต่ตัวกระจอกแบบแกจากนิกายขวงฉีเลย ต่อให้เป็นหลี่จ้านเทียนมาที่นี่ ถ้ามันกล้ามาแย่งของพวกเรา ฉันจะทุบมันให้ตายในค้อนเดียว!”

 

ทันทีที่คำนี้หลุดออกมา เกิดความโกลาหลขึ้นไปทั่ว

 

“ให้ตายเถอะ เจ้าเด็กนั่นบ้าไปแล้ว!”

 

“จบสิ้นแน่ๆ เจ้าเด็กนี่กล้าด่ากระทั่งประมุขนิกายขวงฉี ต่อให้เทพยดาจุติลงมา ก็คงช่วยเขาไม่ได้”

 

“มีชีวิตอยู่ดีๆไม่ชอบ ทำไมต้องแส่หาเรื่องตายด้วยนะ”

 

ผู้คนรอบๆเอ่ยเป็นเสียงเดียวกัน ว่าประโยคเมื่อครู่ของสือต้าหนิว มันเท่ากับเป็นการประกาศแล้วว่าเขาต้องตาย

 

และไม่ใช่แค่ตายธรรมดา แต่จุดจบคงน่าสังเวช

 

ซูเฉินเดาะลิ้นเขา ลอบร้องในใจว่า “ตั้งแต่สือต้าหนิวได้เลือกเดินบนเส้นทางแห่งความองอาจ เขาไม่ใช่แค่ปลดล็อคตัวเอง แต่ยังถลำลึกไปกับมัน”

 

สือต้าหนิวเป็นแค่ผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 เท่านั้น แม้ว่าจะแข็งแกร่งกว่าคนในเลเวลเดียวกัน แต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่จ้านเทียนในเลเวล 4 อย่างแน่นอน

 

นี่ยังไม่กล่าวถึงเรื่องที่ว่าเขาประกาศจะทุบคนให้ตายในค้อนเดียวอีกนะ

 

นั่นใช่เป็นการอวดโอ้เกินไปหรือไม่?

 

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วซูเฉินจะไม่ยอมเห็นสือต้าหนิวเสียเปรียบ เขาผลักฝูงชน เดินนำตันหลินและหยางเฉียนเข้าไป

 

ชายตาหยีเดือดดาลขึ้นมา กัดฟันกล่าวว่า “เจ้าหนู นี่แกกล้าดูถูกประมุขของพวกเรา? โทษนี้ถึงตาย! จงคุกเข่าลงซะ แล้วฉันจะยอมให้แกไปสบาย”

 

“ไปขู่ป้าข้างบ้านแกเถอะ!”

 

เฉาหรานตะโกนด่าสวน แต่ขณะที่กำลังจะด่าต่อ ซูเฉินก็เดินมาถึงพวกเขาแล้ว

 

“เป็นอะไรรึเปล่า ฉันได้ยินว่ามีคนแย่งของพวกนาย” ซูเฉินกวาดมองสำรวจทุกคน เอ่ยอย่างแผ่วเบา

 

“พี่เฉิน!”

 

เมื่อเห็นว่าผู้มาเยือนคือซูเฉิน สือต้าหนิวและคนอื่นๆต่างพากันดีใจยกใหญ่ ก้าวมารวมตัวกันรอบๆเขา

 

หยางฮ่าวหยิบแร่สีดำออกมา ยื่นไปหน้าซูเฉิน แล้วอธิบายว่า “พี่เฉิน พวกเราเห็นว่าหินก้อนนี้เหมือนหินรวมดาราในครั้งก่อน เลยตัดสินใจใช้หินพลังงานซื้อมันมา”

 

“แต่ไม่นึกเลย ว่าจู่ๆคนของนิกายขวงฉีก็สนใจแร่นี้เหมือนกัน พวกเขาเลยต้องการแย่งจากเรา”

 

ซูเฉินพยักหน้าและกล่าวเสียงขรึมว่า “ตลอดมา ฉันโม่เฉิงกงยึดมั่นในหลักการ ผู้ใดไม่ล่วงเกิน ฉันไม่ยุ่งเกี่ยว แต่ถ้ามีใครคิดรังควาน มันผู้นั้นก็เตรียมเผชิญกับความตายได้เลย!”

 

สิ้นเสียง เขาสาดสายตาไปยังชายตาหยี หัวเราะเสียงเย็นว่า “ต้าหนิว ฆ่ามันซะ!”