Ep.342

 

ซูเฉินเริ่มตื่นตัว เอ่ยถามน้ำเสียงร้อนรนว่า “เถ้าแก่ แล้วต้นไม้นั่นอยู่ที่ไหน?”

 

ต้นผลแก่นแท้คือหนึ่งในสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของสายพันธุ์พืชปีศาจ ผลที่มันออกดอกสามารถช่วยเสริมพลังแห่งจิตวิญญาณได้

 

เจ้าสิ่งนี้มีค่าไม่ด้อยไปกว่าต้นผลอายุวัฒนะเลย ซูเฉินอยากได้มันมานานแล้ว

 

หากมีโอกาสทราบที่อยู่ของต้นผลแก่นแท้ ก็ถือเป็นวาสนา และเขาจะไม่ยอมพลาดมันไปอย่างแน่นอน

 

“มีคนซื้อไปแล้ว” เจ้าของร้านกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ

 

เขาไม่รู้จักต้นผลแก่นแท้ซักนิด ที่ขายๆส่วนใหญ่ก็เป็นสมุนไพรที่ไม่รู้จักอยู่แล้ว ดังนั้นไม่คิดจริงจังกับมัน

 

“ขายให้ใคร?” ซูเฉินเริ่มกังวลขึ้นมา

 

ต้นผลแก่นแท้มีความสำคัญต่อเขามาก เพราะแม้อาชีพหลักทั้งสามของเขาล้วนอยู่ในเลเวล 4 แต่เมื่อเทียบกับทางฝั่งปรมาจารย์มนตราและผู้วิวัฒนาการแล้ว ด้านปรมาจารย์พลังจิตของเขาถือว่าอ่อนแอที่สุด

 

หากไม่ได้เสริมความแข็งแกร่งให้มัน เกรงว่าสุดท้ายสิ่งนี้อาจกลายเป็นแค่เครื่องประดับไร้ราคา

 

และเขาจะไม่ยอมให้ตัวเองไปอยู่ในจุดนั้นแน่นอน

 

“มีตั้งหลายคนเข้ามาซื้อของร้านฉัน ใครจะไปจำได้” เจ้าของร้านส่ายหัว

 

อันที่จริงเขายังพอจำได้อยู่บ้าง

 

ยังไงก็ตาม ซูเฉินไม่ได้ซื้อของร้านเขานี่? เพราะงั้นทำไมต้องบอกด้วย?

 

“ช่วยลองคิดดูดีๆอีกทีเถอะ”

 

ซูเฉินหยิบหินพลังงานจำนวนหนึ่งออกมา และยัดมันลงในมือเจ้าของร้านแผงลอย

 

มองไปยังหินพลังงานสว่างไสวในมือ ดวงตาของเจ้าของร้านเหยียดตรง ใบหน้าเขาเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม รีบเอ่ยว่า “ฉันจำได้แล้ว ดูเหมือนมันจะถูกซื้อไปโดยร้านยู่หลินแห่งเมืองทงเทียน”

 

“พวกเขาซื้อไปนานแค่ไหนแล้ว?” หัวใจของซูเฉินเริ่มเต้นแรง

 

หากคนของร้านยู่หลินเพิ่งจากไปได้ไม่นาน ซูเฉินอาจสามารถขอซื้อต้นผลแก่นแท้กลับคืนมาได้

 

“หายไปเกือบครึ่งวันแล้ว ตอนนี้พวกเขาน่าจะกลับไปเมืองทงเทียนแล้ว ” เจ้าของร้านครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบกลับ

 

สีหน้าของซูเฉินหมองลง พยักหน้าขอบคุณ จากนั้นพาตันหลินกับหยางเฉียนออกจากที่นี่

 

เนื่องจากคนของร้านยู่หลินจากไปนานแล้ว ดังนั้นคงสายเกินกว่าที่จะไล่ตาม

 

ยังไงก็แล้วแต่ เดิมเขาตั้งใจจะไปยังเมืองทงเทียนอยู่แล้ว ดังนั้นตราบใดที่รู้ว่าใครคือผู้ซื้อ ไม่ว่าจะต้องทุ่มเงินหรือปล้นชิง เขาก็จะต้องได้ต้นผลแก่นแท้มาอยู่ในมือให้ได้

 

“ซูเฉิน ต้นไม้นั่นสำคัญกับนายมากหรอ?” ตันหลินเอ่ยถามด้วยความสงสัย

 

เธอไม่เคยเห็นซูเฉินใส่ใจเรื่องอะไรมากขนาดนี้มาก่อน

 

“สำคัญสิ สำคัญมาก” ซูเฉินตอบกลับ

 

“งั้นพวกเราก็ไปที่เมืองทงเทียนกันเถอะ” ตันหลินเสนอแนะ

 

“ไม่ต้องรีบร้อน เอาไว้เดินให้สุดทางตลาดแล้วค่อยว่ากัน” ซูเฉินยิ้ม

 

ในเมื่อไม่ช้าก็เร็วจะไปเมืองทงเทียนอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ต้องรีบร้อน

 

หลังจากนั้น ทั้งสามคนก็เดินเที่ยวอีกสักพัก ซื้อของหลายอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนติดไม้ติดมือกลับมา แต่ระหว่างทางที่กำลังเดินไปยัง [รถศึกอัจฉริยะ] ซูเฉินก็ดันได้พบกับคนรู้จัก เขาก้าวเข้าหา เอ่ยทักทาย “ท่านลุง บังเอิญจริงๆที่เจอกันที่นี่”

 

อีกฝ่ายคือชายชราหงอกขาวที่ซูเฉินเจอตอนจะเข้าอุโมงค์สู่เขตหยูหลิน

 

“เป็นคุณ!”

 

เมื่อเห็นว่าผู้ทักทายคือซูเฉิน สายตาของชายชราหงอกขาว ฟุ้งไปด้วยความหวาดกลัวราวกับเห็นผี วิ่งหลบหนีไป

 

มองไปยังอีกฝ่ายกลืนหายไปกับฝูงชนอย่างรวดเร็ว ซูเฉินงุนงงเล็กน้อย บ่นอุบว่า “ตาลุงนั่นเป็นอะไร สงสัยจะป่วย”

 

ซูเฉินคงไม่รู้หรอก ว่าตั้งแต่ครั้งก่อนที่เขาพบซุนเทียนกังแห่งเมืองทงเทียน ชายชราหงอกขาวได้รู้แล้วว่าซูเฉินฆ่าคนโดยแอบอ้างเป็นคนของภูเขาฉีหลิน

 

ฉะนั้น หากอยู่ใกล้ซูเฉินแล้วมีคนเห็นเข้า มันอาจนำหายนะถึงตายมาสู่ตัวเขาได้

 

ซูเฉินไม่คิดมาก เดินต่อกลับไปยัง [รถศึกอัจฉริยะ]

 

แต่เดินไปได้แค่ไม่กี่ก้าว เขาก็ได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทรุนแรงดังขึ้นไม่ไกล

 

“นี่มันเสียงของหยางฮ่าว?” ใบหน้าของหยางเฉียนแปรเปลี่ยนไปทันที

 

ซูเฉินก็ได้ยินเช่นกัน แถมเสียงทะเลาะนี้ ไม่ได้มีแค่หยางฮ่าว แต่ยังมีเฉาหรานและสือต้าหนิวรวมอยู่ด้วย

 

“ไปดูกันเถอะ”

 

ซูเฉินกลัวว่าหยางฮ่าวและคนอื่นๆจะได้รับบาดเจ็บ จึงรีบไปยังจุดเกิดเหตุ