Ep.339

“ผู้อาวุโส ทุกอย่างที่ควรพูด ฉันก็ได้พูดไปหมดแล้ว ไม่ทราบว่าพอจะละเว้นชีวิตฉันได้หรือไม่?” โต่วหวู่ฉางถามอย่างอ่อนแรง

ซูเฉินปาดจมูกเขา “แกเป็นซอมบี้เลเวล 5 ถ้าไม่ฆ่าแก ฉันก็ไม่ได้ดรอปชิ้นส่วนดีๆสิ”

ยิ่งซอมบี้เลเวลสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสดรอปชิ้นส่วนมากขึ้นเท่านั้น

และซอมบี้เลเวล 5 อัตราการดรอปชิ้นส่วนแทบจะเป็น 100%

“ชิ้นส่วน? ท่านกำลังพูดเรื่องอะ–”

ขณะที่โต้วหวู่ฉางกำลังมึนงงสงสัย ซูเฉินก็ซัดหมัดระเบิดหัวอีกฝ่ายแล้ว

ช่วงเวลานั้นเอง ชิ้นส่วนสีส้มสองชิ้นสะท้อนแสงขึ้นมาจากศพมัน

อีกด้านหนึ่ง หวู่หยางและคนอื่นๆยังคงล่าซอมบี้ อย่างไรก็ตาม จำนวนซอมบี้ลดลงไปมากแล้ว ซูเฉินจึงไม่คิดเข้าช่วย เริ่มเก็บชิ้นส่วนแทน

ชิ้นส่วนแรกที่เขาหยิบคือสีส้มทั้งสองที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม

“คุณได้รับ [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (2/10) , จำนวนองค์ประกอบยังไม่ครบ ไม่สามารถปลดล็อคได้ ต้องการแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงานหรือไม่?”

ซูเฉินค่อนข้างคาดหวังกับยุงตัวนี้มาก จึงไม่เลือกแปลงแต้มพลังงาน จากนั้นคว้าชิ้นที่สอง

ปรากฏว่าชิ้นต่อมาก็ยังเป็น [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ]

ซูเฉินถอนหายใจ กวาดตามองไปรอบๆ ไม่ช้า ชิ้นส่วนหลายร้อยชิ้นก็ปรากฏขึ้นในสายตาเขา

นอกจากนั้น เขายังพบว่ามีชิ้นส่วนสีส้มดรอปอยู่มากกว่า 30 ชิ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“อยากรู้จัง ว่าครั้งนี้จะรวบรวมชิ้นส่วน [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] ได้ครบรึเปล่า” ซูเฉินค่อนข้างตื่นเต้นเล็กน้อย

ต่อมา เขาก็เริ่มเก็บชิ้นส่วนที่เหลือ

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ชิ้นส่วนทั้งหมดก็ถูกหยิบขึ้นมา

และสมดังปรารถนา ซูเฉินรวบรวมชิ้นส่วน [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] ได้ครบ และปลดล็อคมัน

สิ่งที่ปรากฏในมือเขาคือยุงสีทองขนาดเท่าหัวแม่มือ

บนตัวยุงถูกปกคลุมไปด้วยสีทองอร่าม หากไม่นับเรื่องนี้และตัวที่ใหญ่กว่าปกติแล้ว มันแทบไม่มีความแตกต่างกับยุงทั่วๆไป

ข้อมูลที่ถูกส่งมาก็คือ [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] เป็นแมลงที่สามารถเลื่อนระดับได้โดยการดูดเลือดของสัตว์กลายพันธุ์

ในตอนแรก มันจะเป็นแค่ยุงธรรมดา ไม่มีพลังโจมตีใดๆ กระทั่งคนธรรมดาก็ยังสามารถตบมันตายได้

อย่างไรก็ตาม หากได้ดูดกินเลือดของสัตว์กลายพันธุ์เลเวล 1 แล้ว มันจะสามารถเลื่อนขั้นเป็นแมลงเลเวล 1 ได้

ความสามารถในการต่อสู้ก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

และกระบวนการของมันก็จะเป็นไปตามลำดับ ยิ่งเลเวลของสัตว์กลายพันธุ์ที่มันดูดสูงมากเท่าไหร่ ระดับของมันก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น

แน่นอน ว่ากระบวนการนี้ต้องค่อยเป็นค่อยไป มิฉะนั้นจะโกงกันเกินไป

ในตอนนี้ มันสามารถดูดได้เฉพาะเลือดของสัตว์กลายพันธุ์เลเวล 1 เท่านั้น

และจะสามารถดูดเลือดเลเวล 2 ได้ก็ต่อเมื่อตัวมันเองเลื่อนขั้นเป็นเลเวล 1 แล้ว ไม่สามารถดูดเลือดสัตว์กลายพันธุ์ที่มีเลเวลมากกว่าตนหนึ่งขั้นได้

หากละโมบเกินไป ไม่เพียงแต่ไม่สามารถยกระดับ แต่ยังมีโอกาสสูงที่จะตาย

“ไม่เลวนี่”

ก้มมองไปยังยุงสีทองในมือ ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย

ในโลกใบนี้ มีสัตว์กลายพันธุ์อยู่เป็นจำนวนมาก

ยิ่งมีเขาเป็นเจ้านาย [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] ยิ่งไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีสัตว์กลายพันธุ์ตัวใดให้ดูดเลือด

ในกรณีนี้ หมายความว่ามันจะสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว

และหลังจากเลื่อนเป็นเลเวล 6 แล้ว ซูเฉินก็จะมีกำลังรบเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากลุ่มของเขาจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมมาก

หลังจากนั้น เขาใส่ [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] ลงใน [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] แล้วกลับไปยัง [รถศึกอัจฉริยะ]

หวู่หยางและคนอื่นๆยังคงขุดหินพลังงาน ซูเฉินว่างไม่มีอะไรทำก็ก้มมองหน้าจอควบคุมส่วนกลาง

และพบว่าบนจอไม่มีสัญญาณสีแดงหรือดำปรากฏขึ้นเลย แต่ดันเป็นจุดสัญญาณสีน้ำเงินจำนวนมากโผล่ขึ้นมาแทน คำนวณด้วยสายตาน่าจะมีนับหมื่น

และตำแหน่งที่ตั้งก็ไม่ได้อยู่ในเมือง แต่เป็นที่ราบบนภูเขา

เรื่องนี้กระตุ้นความสนใจของซูเฉิน

เดิมเขากำลังจะมุ่งไปเมืองจินอา แต่สถานที่ๆมนุษย์เหล่านี้รวมตัวกัน มันอยู่ระหว่างทางพอดี

ดังนั้นเลยต้องการหยุดดู ว่าที่นั่นมีอะไรกันแน่