Ep.338

 

หวู่หยางและคนอื่นๆร่วมมือกับ [รถศึกอัจฉริยะ] ไล่ล่าซอมบี้อย่างต่อเนื่อง ในชั่วพริบตา ซอมบี้หลายพันตัวถูกสังหารลง

 

ซูเฉินเดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าโต้วหวู่ฉาง เตรียมลงมือปลิดชีวิตมัน

 

แต่ในตอนนั้นเอง โต้วหวู่ฉางได้ตะโกนร้องขอความเมตตา “ท่านอาวุโส โปรดไว้ชีวิตฉัน! ฉันเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของมหาจักรพรรดิเฮยหยุน”

 

หากอยากมีชีวิตอด วิธีเดียวคือต้องดึงคนที่มีศักดิ์ศรีมากพอออกมาเท่านั้น

 

และในมุมขมองของเขา มหาจักรพรรดิเฮยหยุน น่าจะสามารถข่มขวัญซูเฉิน ให้รู้สึกกลัวได้อย่างน้อยก็สามส่วน

 

ซูเฉินถูจมูกเขา เอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “จักรพรรดิเฮยหยุนก็เป็นซอมบี้ด้วยงั้นหรอ?”

 

สำหรับโต้วหวู่ฉาง เขาต้องฆ่ามันแน่ๆ แต่ก่อนจะทำเช่นนั้น จะดีกว่าไหมหากสอบถามข้อมูลบางอย่างที่มีประโยชน์

 

โต้วหวู่ฉางรีบตอบกลับ “มหาจักรพรรดิเฮยหยุนไม่ใช่ซอมบี้ แต่เป็นเผ่าอมตะ”

 

“เผ่าอมตะ?” ซูเฉินเลิกคิ้ว

 

เผ่าอมตะคือหนึ่งในสุดยอดห้าเผ่าพันธุ์ เขาเคยเผชิญหน้ากับพวกมันสองครั้งในเขตหวงหลิน แต่ไม่นึกเลยว่าในเขตหยูหลินก็จะมีด้วย

 

นอกจากนี้ เรื่องของมหาจักรพรรดิเฮยหยุนก็ดูน่าสนใจไม่น้อย

 

“ระดับฝึกตนของมหาจักรพรรดิเฮยหยุนอยู่ขั้นไหน? เขามีซอมบี้กี่ตัวอยู่ใต้การปกครอง?” ซูเฉินถามเสียงลุ่มลึก

 

“เขาคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 และซอมบี้ทั้งหมดในเขตหยูหลินล้วนอยู่ใต้การปกครองของเขา รวมๆกันแล้วนับล้านตน”

 

ซู๊ดดดด!

 

ได้ยินตัวเลขนี้ ซูเฉินสูดหายใจเฮือกใหญ่

 

กำลังรบของมหาจักรพรรดิเฮยหยุน เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยจินตนาการมาก่อน

 

“แล้วทำไมเขาถึงไม่เข้ายึดครอง รวมเกาะเฉียนหยูเป็นหนึ่งเดียว?” ซูเฉินรู้สึกสับสนเล็กน้อย

 

เพราะตามหลักเหตุผลแล้ว ด้วยความแข็งแกร่งของผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 บวกกับกองทัพซอมบี้นับล้าน ถือว่ามากพอแล้วที่จะกวาดล้างเกาะเฉียนหยูทั้งเกาะ

 

อย่างไรก็ตาม เขตหยูหลินเต็มไปด้วยผู้แข็งแกร่ง ดูเหมือนว่าขุมกำลังเหล่านั้นจะอยู่ในสภาวะเผชิญหน้ากัน เรื่องน่าจะเป็นแบบนี้ ส่วนสถานการณ์แบบแน่ชัดเขายังไม่ทราบ

 

“เพราะกำลังรบของมหาจักรพรรดิเฮยหยุน อยู่ในระดับเดียวกับสี่ขุมกำลังหลัก ทั้งหมดเฝ้ารอโอกาสที่จะซ้ำกันและกัน ดังนั้นไม่มีใครสามารถทำอะไรได้” โต้วหวู่ฉางอธิบาย

 

“ยังมีอีกสี่ขุมกำลังหลักด้วยหรือ?” ซูเฉินถามเฉียบขาด

 

ก่อนจะมาที่นี่ เขาคิดว่าขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในเขตหยูหลินคือ นิกายวูหยิน , นิกายขวงฉี และเมืองทงเทียน

 

แต่พอได้รับข้อมูลจากผู้คนที่อาศัยอยู่ในเขตนี้ เขากลับพบว่า สายธารที่เรียกว่าเขตหยูหลิน มันไม่ได้ตื้นเขินอย่างที่คิด

 

ขุมกำลังใหญ่อย่างนิกายวูหยินในตอนแรก แท้จริงแล้วเป็นแค่สาขารองตัวเล็กๆ

 

“ยังมีภูเขาฉีหลิน , หุบเขาหวางโหย่ว , ขุนเขาเทียนฉี และเทือกเขาคงถง” โต้วหวู่ฉางตอบ

 

สามขุมกำลังแรกซูเฉินรู้อยู่แล้ว แต่เทือกเขาคงถง ไม่เคยได้ยินชื่อมันมาก่อน จึงเอ่ยถามว่า “เทือกเขาคงถงมีกำลังรบระดับไหน?”

 

“เทือกเขาคงถงเป็นโลกของพวกสัตว์กลายพันธุ์ ผู้นำของพวกมันคือหมาป่าปีศาจกระหายเลือดเลเวล 6”

 

“สัตว์กลายพันธุ์เลเวล 6 ?”

 

ซูเฉินขมวดคิ้วและถามต่อ “งั้นหมายความว่าขุมกำลังอย่างภูเขาฉีหลินและอื่นๆ ก็มีเลเวล 6 อยู่ด้วยน่ะสิ?”

 

“ใช่” โต้วหวู่ฉางพยักหน้า

 

ซูเฉินรู้สึกสับสนเล็กน้อย ตามความเข้าใจขอเขา สามขุมกำลังหลักอย่างพวกภูเขาฉีหลิน สมควรจะเป็นขุมกำลังของมนุษย์

 

อย่าไรก็ตาม จะมีเลเวล 6 เกิดขึ้นในเผ่ามนุษย์ได้หรือ?

 

“ภูเขาฉีหลิน , หุบเขาหวางโหย่ว , ขุนเขาเทียนฉี พวกเขาคือขุมกำลังที่ควบคุมโดยมนุษย์ใช่ไหม?” ซูเฉินถามเพื่อยืนยัน

 

“ไม่”

 

โต้วหวู่ฉางส่ายหัว กล่าวว่า “ภูเขาฉีหลินมีสมาชิกจากเผ่าราชวงศ์อสูรคอยหนุนหลัง , หุบเขาหวางโหย่วน่าจะมีเผ่ามายาอยู่เบื้องหลัง ส่วนขุนเขาเทียนฉี มีผู้แข็งแกร่งจากเผ่าวิหคเหินประจำการอยู่”

 

ซูเฉินลอบตกใจโดยไม่แสดงสีหน้าออกมา เขาไม่คาดคิดเลยว่าห้าขุมกำลังใหญ่ในเขตหยูหลินจะถูกควบคุมโดยสิ่งมีชีวิตต่างเผ่า

 

และมนุษย์ ดูเหมือนจะเป็นเพียงเบี้ยของพวกมันเท่านั้น

 

นอกจากนี้ ยังมีเผ่ามายารวมอยู่ด้วย

 

เผ่ามายามีความเชี่ยวชาญในเวทมนต์ และเป็นถึงหนึ่งในสุดยอดห้าเผ่าพันธุ์

 

ไหนจะเผ่าอมตะ นี่หมายความว่ามีสองในห้าสุดยอดเผ่าพันธุ์อยู่ในเขตหยูหลิน

 

ขณะที่เผ่าราชวงศ์อสูร และเผ่าวิหคเหิน สามารถรับมือกับสองเผ่าพันธุ์ข้างต้นได้ ฉะนั้นกำลังรบของพวกมันย่อมไม่อ่อนแอ