Ep.335

 

“นี่แกมาจากภูเขาฉีหลิน?” จินซวี่หยางตกใจมาก

 

เขารู้จักภูเขาฉีหลินเป็นอย่างดี นั่นคือหนึ่งในห้าขุมกำลังชั้นนำของเขตหยูหลิน

 

พูดถึงเรื่องนี้ กลุ่มอินทรีทองก็ถือเป็นกองกำลังย่อยของภูเขาฉีหลินเช่นกัน

 

หากชายหนุ่มเบื้องหน้าเขามาจากภูเขาฉีหลินจริงๆ เขาคงไม่สามารถเอาเรื่องอีกฝ่ายได้

 

เพราะความพิโรธของภูเขาฉีหลิน มันไม่ใช่สิ่งที่กลุ่มเล็กๆระดับสามอย่างเขาจะทานทนได้

 

อย่างไรก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่จินซวี่หยางไม่เข้าใจ

 

ถ้าชายหนุ่มเบื้องหน้าเขามาจากภูเขาฉีหลินจริง แล้วจะฆ่าแกงกลุ่มอินทรีทองของพวกเขาไปทำไม?

 

“ผายลม!”

 

ซอมบี้ที่อยู่ถัดจากจินซวี่หยางจู่ๆก็ตะโกนออกมา “เจ้าตัวปลอม! คิดว่าเราราชาไม่รู้จักโม่เฉิงกงหรือ? บังอาจแอบอ้างเป็นคนจากภูเขาฉีหลิน ช่างกล้านัก ตอบมาแกชื่ออะไรกันแน่!”

 

โต้วหวู่ฉางตวาดลั่น เขาไม่ใช่แค่เจ้าเมืองจินอาเท่านั้น แต่ยังเป็นซอมบี้เลเวล 5 ฉะนั้นแน่นอนว่าเคยติดต่อกับผู้แข็งแกร่งมามากมาย

 

ถึงแม้เขาจะไม่เคยสนทนากับโม่เฉิงกงโดยตรง แต่ก็เคยได้เห็นหน้ามาก่อน

 

ดังนั้น เขาจึงรู้ได้ทันทีว่าซูเฉินไม่ใช่โม่เฉิงกงตัวจริง

 

“ตัวปลอม? แอบอ้าง?” จินซวี่หยางได้สติกลับมา ร้องคำรามว่า “ไอ้หนู แกกล้ามาก แม้แต่บิดาผู้นี้ยังกล้าโกหก สาบานได้เลยว่าจากนี้แกจะต้องทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส!”

 

ซูเฉินปาดจมูกเขา หัวเราะเบาๆ “ในเมื่อไม่สามารถแอบอ้างได้อีกต่อไปแล้ว งั้นฉันจะยอมเฉลยก็ได้ ฟังให้ดีนะๆ อันที่จริงแล้วฉันเป็นบรรพบุรุษของพวกแก เป็นไง? ได้รับคำตอบที่น่าพอใจไหม?”

 

“บังอาจ!” ใบหน้าของจินซวี่หยาง เริ่มปูดโปนไปด้วยเส้นเลือดเนื่องจากความโกรธ

 

ใบหน้าของโต้วหวู่ฉางเองก็หมองลงถนัดตา กัดฟันเสียงลั่นดังเอี๊ยดๆ

 

ถึงขนาดนี้แล้ว ซูเฉินยังกล้าหยอกล้อพวกเขา ความอดทนที่มีไม่เหลืออีกต่อไป!

 

โต่วหวู่ฉางหันมาสบตากับจินซวี่หยาง ทั้งคู่กระโจนเข้าเข่นฆ่าซูเฉินพร้อมกัน

 

จินซวี่หยางกุมดาบใหญ่เอาไว้ในมือ ระหว่างก้าวไปข้างหน้า ดาบใหญ่ถูกเหวี่ยงเป็นวงแหวน ยกขึ้นเหนือหัว ดูตระการตาน่าเกรงขาม

 

ส่วนโต้วหวู่ฉาง แม้ใช้มือเปล่า แต่ด้วยสถานะซอมบี้เลเวล 5 ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาสูงกว่ามนุษย์อย่างเห็นได้ชัด

 

ขณะนี้ หมัดของเขากำลังซัดตรงเข้าใส่ซูเฉินอย่างดุเดือด

 

“ผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 … ซอมบี้เลเวล 5 นี่สินะพวกแกถึงได้มั่นใจนัก” ซูเฉินเย้ยหยัน

 

ในขณะที่โต้วหวู่ฉางกำลังวิ่งเข้ามา ทันใดนั้นปรากฏหินที่ดูพิเศษก้อนหนึ่งขึ้นในมือซูเฉิน มันประดับประดาไปด้วยแสงดาว

 

ต่อจากนั้น เขาก็โยนมันออกไปด้วยท่วงท่าสบายๆ ขว้างไปทางโต้วหวู่ฉางอย่างไม่ใส่ใจ

 

“ก็แค่แมลงหวี่แมลงวัน!”

 

มองไปยังหินขนาดเท่ากำปั้นที่ลอยเข้ามา โต้วหวู่ฉางยิ้มดูแคลน จากนั้นคลายกำปั้นเป็นกรงเล็บ

 

ตอนแรกเขาต้องการคว้าหินก้อนนี้ แต่ทันทีที่เขาสัมผัสมัน วินาทีนั้นกลับรู้สึกได้ถึงพลังอำนาจชนิดหาผู้ใดเทียมเทียบหลั่งไหลเข้ามา

 

“อะไรกัน!”

 

สีหน้าของโต้วหวู่ฉางแปรเปลี่ยนไป ขณะที่เขาเตรียมจะออกแรงแก้สถานการณ์ พลังมหาศาลนี้ก็ได้บดขยี้เข้ามาแล้ว

 

ได้ยินเพียงเสียงลั่น ‘กร๊อบ’ อันคมชัด

 

ฝ่ามือทั้งข้างของโต้วหวู่ฉางถูกทุบจนแหลกละเอียด กระทั่งร่างเขาก็กระเด็นออกไป

 

หลังจากร่วงถึงพื้น เขากระอักเลือดออกมาอย่างบ้าคลั่ง ได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

แม้ว่าเขาจะเป็นถึงซอมบี้เลเวล 5 แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ น้ำหนัก 10,000 จิน ของ [หินบดดาราเทียนกัง] ก็ไม่อาจต่อกรได้เลย

 

ไม่ต้องกล่าวถึง ช่วงจังหวะนั้นมันอยู่ในสถานการณ์ไม่ทันตั้งตัว

 

มองไปยังฉากนี้ จินซวี่หยางตกตะลึงจนเกือบขวัญหนีดีฝ่อ

 

ซอมบี้เลเวล 5 ได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะรับการโจมตีเพียงครั้งเดียวของฝ่ายตรงข้าม?

 

นี่อีกฝ่ายใช้กลวิเศษอันใดกัน?

 

เมื่อครู่ไม่ใช่การขว้างก้อนหินธรรมดาๆหรอกหรือ?

 

แม้เห็นภาพนี้ชัดเต็มสองตา แต่จินซวี่หยางขึ้นขี่หลังเสือแล้ว พุ่งจนเกือบประชิดถึงตัวซูเฉิน ดาบใหญ่เองก็สั่งสมพลังอย่างเต็มที่ หากคิดถอนคืนตอนนี้ เกรงว่าจะไม่ทันการ

 

สุดท้าย เขาจึงกัดฟัน สับคมดาบลงใส่ซูเฉิน

 

ทว่าซูเฉินราวกับมองไม่เห็นดาบนี้ ไม่ขยับหลบลี้ ปล่อยให้คมกล้าของมันสับลงบนหัวเขา

 

เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น จินซวี่หยางดีใจ ร้องตะโกนว่า “ไปลงนรกซะ!”

 

วินาทีต่อมา ดาบใหญ่ฟาดลงบนหัวของซูเฉินอย่างแรง ทว่าสิ่งที่น่าเหลือเชื่อดันปรากฏขึ้น กลับเป็นใบดาบใหญ่ของเขาที่หักลง ขณะที่ซูเฉิน แม้แต่ขนซักเส้นยังไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเลย