Ep.334

 

“กล้ามารนหาที่ตายด้วยตัวเอง!” ประกายเย็นชาสะท้อนในแววตาของซูเฉิน

 

เดิมที เขามีแผนที่จะกำจัดกลุ่มอินทรีทองอยู่แล้ว แต่นึกไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะมาที่นี่ด้วยตัวเอง แบบนี้ช่วยประหยัดเวลาให้เขาได้เยอะ

 

กองกำลังซอมบี้และกลุ่มอินทรีทองเมื่อประชิด ก็กระจายตัว ล้อมรอบซูเฉินและคนอื่นๆไว้ตรงกลาง

 

เอี๊ยดดดด!

 

รถฐานทัพสองคันจอดลง

 

รถฐานทัพทางซ้ายมือ เป็นร่างผอมแห้งเหมือนเสาไม้ไผ่เดินลงมา ใบหน้าของมันมืดมนบ่งบอกว่าเป็นซอมบี้

 

รถคันขวามือเป็นชายหัวล้านตาเดียว

 

ทั้งสองเมื่อลงจากรถ ก็มองไปยังซูเฉินและคนอื่นๆ ดวงตาของทั้งคู่ลุกโชนไปด้วยไฟแห่งความเกลียดชัง

 

หลังจากเฝ้ามองอย่างเงียบๆอยู่ครู่หนึ่ง ชายหัวล้านตาเดียวก็โบกมือไปข้างหลัง ตะโกนว่า “พาตัวมา!”

 

“รับทราบ!”

 

ชายสองคนจากกลุ่มอินทรีทอง พาตัวชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามา

 

ชายชราคนนี้ คือหนึ่งในมนุษย์ที่เคยถูกหยางซือลี่จับตัวมาก่อน ซูเฉินได้สนทนากับเขาสองสามคำ เลยยังพอจำได้

 

ถึงจุดนี้ เขาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดกลุ่มอินทรีทองถึงไล่ตามมา

 

คงเป็นเพราะหลังจากที่ชายชราคนนี้หนีไป คงโชคร้ายถูกกลุ่มอินทรีทองจับตัวได้อีกครั้ง เลยยอมสารภาพ

 

“ใช่พวกนี้รึเปล่า?”

 

ชายหัวล้านตาเดียวชี้ไปทางซูเฉินและคนอื่นๆ ตวาดเกรี้ยวกราด

 

ชายชราตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เอ่ยเสียงสั่นว่า “เป็นพวกเขา”

 

เมื่อยืนยันได้แล้ว ชายหัวล้านตาเดียวฟาดฝ่ามือลงบนศีรษะชายชราจนแหลกคามือ จากนั้นกวาดมองซูเฉินและคนอื่นๆ แค่นเสียงเย็นชา “ในหมู่พวกแก ใครเป็นคนฆ่าสมาชิกกลุ่มอินทรีทองของฉัน จงก้าวออกมารับความตาย!”

 

“ไอ้หมอนี่มันเล่นใหญ่ชะมัด อวดดีซะไม่มี” เฉาหรานเบ้ปาก

 

“เหอะๆ คนจากเขตหยูหลิน มีใครบ้างที่ไม่อวดดี? แค่ทำตัวให้ชินกับมันก็พอแล้ว” หยางฮ่าวพูดอย่างไม่ใส่ใจ

 

ตั้งแต่เข้ามาในเขตหยูหลิน พวกเขาได้พบเจอผู้คนจำนวนมาก เกือบทุกคนล้วนเป็นคนพาล แม้แต่ซอมบี้ที่มีสติปัญญาก็ยังทำตัวอวดเบ่ง ดังนั้นควรปรับตัวให้คุ้นเคยเข้าไว้

 

“ฉันนี่แหละเป็นคนฆ่าเอง” ซูเฉินก้าวไปข้างหน้า เอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “ส่วนแกคงเป็นจินซวี่หยาง หัวหน้ากลุ่มอินทรีทองใช่ไหม?”

 

“เออ! บิดานี่แหละจินซวี่หยาง!”

 

ชายหัวล้านตาเดียวตอบด้วยสีหน้าภาคภูมิ จากนั้นใช้สายตาประเมินซูเฉินอีกครั้ง ทันใดนั้นใบหน้าเขาปรากฏร่องรอยของความรังเกียจ เอ่ยดูแคลนว่า “ไอ้หนู อย่าขี้โม้ไปหน่อยเลย อย่างแกน่ะหรือเป็นคนฆ่าหยางซือลี่?”

 

ซูเฉินดูยังไงก็อายุน้อยกว่า 20 ปี จะแข็งแกร่งซักแค่ไหนเชียว?

 

ต่อให้เป็นอัจฉริยะหรือลูกรักของพระเจ้า อย่างมากสุดก็เป็นได้แค่ผู้วิวัฒนาการเลเวล 3

 

แม้หยางซือลี่จะเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 เช่นกัน แต่เธอคือตัวตนชั้นยอดในเลเวล 3 ต่อให้เป็นตัวจินซวี่หยางเอง หากเผชิญหน้ากันก็ใช่ว่าจะได้เปรียบเธอ แล้วแบบนี้ชายหนุ่มตรงหน้ามีหรือจะฆ่าหยางซือลี่ได้?

 

ซูเฉินปาดจมูกเขา ขึ้นเสียงว่า “ไม่ต้องพูดถึงหยางซือลี่ ต่อให้พวกแกทุกคนมัดรวมกัน มันก็ไม่ต่างจากมดในสายตาฉัน สามารถบี้ให้ตายได้ด้วยมือเดียว!”

 

คำพูดนี้อวดโอ้เป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังหยิ่งผยองนัก แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่ไม่มีใครเทียบได้ของซูเฉิน

 

อย่างไรก็ตาม คนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามไม่ได้คิดเช่นนั้น

 

พวกเขาทั้งหมดคิดว่าซูเฉินคงเป็นบ้า แถมยังเป็นคนบ้าที่แสร้งทำเป็นเก่ง

 

ซอมบี้นับพันรวมถึงกลุ่มอินทรีทองหลายร้อยคน กลับกลายเป็นมดในสายตาเขาอย่างงั้นหรือ?

 

จะอวดเก่งทั้งที สมควรมีลิมิตบ้างสิถึงจะถูก

 

เมื่อเผชิญหน้ากับพวกเขา ต่อให้เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ก็ยังไม่กล้าอาละวาดแบบนี้เลย

 

ขณะที่แกเป็นแค่เด็กขนเพิ่งเริ่มขึ้น ยังอายุไม่ถึง 20 ปีด้วยซ้ำ กล้าพูดแบบนี้ได้อย่างไร?

 

“ฮะ ฮะ … ฮ่า ฮ่า ฮ่า ”

 

ในตอนนั้นเอง มีเสียงหัวเราะลั่นแว่วมาจากเบื้องหลังจินซวี่หยาง

 

ซอมบี้ที่มีใบหน้ามืดมนเลิกคิ้วสูง มองซูเฉินด้วยความสนใจ เอ่ยถามว่า “ในเมื่อแกบอกว่าตัวเองแข็งแกร่งนักหนา งั้นกล้าประกาศชื่อตัวเองหรือไม่?”

 

“บิดาโม่เฉิงกงแห่งภูเขาฉีหลิน พวกมดปลวกอย่างแกจะทำอะไรฉันได้?” ซูเฉินตัดสินใจกวนประสาทพวกมัน เอ่ยชื่อนี้ดังสุดเสียง