Ep.336

 

จินซวี่หยางอ้าปากค้าง เหลือบมองดูด้ามจับดาบที่อ้างว้างโดดเดี่ยวในมือ สลับกับมองไปทางซูเฉินอีกครั้ง

 

เมื่อเห็นว่าซูเฉินไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆจริงๆ หนังศีรษะเขาคล้ายเกิดอาการด้านชา ทั้งคนทั้งร่างแข็งทื่อเป็นหิน

 

เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเหตุใดการจู่โจมอันทรงพลังของผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 เช่นเขา ยามสับลงบนร่างซูเฉินจึงไม่ต่างจากการจั๊กจี้?

 

ร่างกายของชายหนุ่มตรงหน้าแข็งแกร่งถึงขนาดไหนกัน?

 

พลังป้องกันขนาดนี้ เกรงว่าแม้แต่ผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 ก็ยังไม่สามารถเทียบได้

 

แล้วแบบนี้ เขาต้องใช้วิธีใด ถึงจะเอาตัวรอดไปจากผู้แข็งแกร่งเช่นนี้?

 

โต้วหวู่ฉางที่อยู่ไม่ไกลก็เห็นฉากนี้เช่นกัน ในตอนนี้เขาเผลอลืมเลือนความเจ็บปวดไปสิ้น หัวใจด้านชา ลมหายใจขาดห้วง

 

ความแข็งแกร่งของซูเฉิน กระทบกระเทือนจิตใจเขาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

 

ในสมองคล้ายเกิดภาพลวงตาขึ้นมา ว่าตนเองเป็นมด และกำลังถูกซูเฉินบี้อย่างไร้ปราณี

 

“กลุ่มอินทรีทองก่อกรรมทำชั่วเอาไว้มากมาย พวกแกทุกคนสมควรตาย วันนี้อย่าหวังเลยว่าจะหนีรอดไปได้!”

 

ขณะที่จินซวี่หยางยังไม่ทันตั้งตัว ซูเฉินก็ซัดหมัดออกไปแล้ว

 

บังเกิดเสียงดังโผล๊ะ!

 

หัวของจินซวี่หยางระเบิดเป็นละอองเลือด จบชีวิตลงทั้งๆอย่างนั้น

 

“โอ้พระเจ้า เขาไม่ใช่มนุษย์!”

 

“วิ่งหนีเอาชีวิตรอด!”

 

สมาชิกที่เหลือของกลุ่มอินทรีทอง พอเห็นหัวหน้าของพวกเขาตาย ไหนเลยจะกล้าอยู่ต่อ?

 

ทั้งหมดเตลิดหนีด้วยความหวาดกลัว กระเจิดกระเจิงไปทุกทิศทาง

 

ซูเฉินตั้งใจว่าจะกวาดล้างกลุ่มอินทรีทองอยู่แล้ว ฉะนั้นเขาจะปล่อยให้พวกมันหนีไปได้อย่างไร?

 

“ตายซะให้หมด!”

 

หนึ่งหมัดซัดออก ปรากฏเงาหมัดอีก 99 สาย ส่งเสียงฉวัดเฉวียนในอากาศ

 

สมาชิกกลุ่มอินทรีทองกรีดร้องโหยหวน ชั่วพริบตาเดียว ผู้คนกว่า 200 คนกลายเป็นกองเนื้อบด

 

บางคนที่อยู่ห่างออกไป โชคดีรอดพ้นจากภัยพิบัตินี้ไปได้ ยิ่งวิ่งหนีเอาชีวิตรอดสุดกำลัง

 

“เทคนิคหมัด!”

 

โต้วหวู่ฉางกลืนน้ำลาย หัวใจทั้งดวงจมดิ่งสู่ก้นบึ้งหุบเหว

 

สังหารผู้วิวัฒนาการกว่า 200 คนในหมัดเดียว พลังอำนาจต้องอยู่ในระดับใดกัน?

 

ผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 ไม่สามารถทำแบบนี้ได้อย่างแน่นอน

 

เป็นไปได้ไหมว่าเขาคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 7?

 

คิดถึงเรื่องนี้ โต้วหวู่ฉางเกือบตกใจตาย

 

“เสี่ยวตี๋ ไล่ตามไป อย่าให้เหลือรอด” ซูเฉินสั่ง

 

“รับทราบ”

 

[นักรบจักรกล] วิ่งไล่ตาม โบกสะบัดดาบโค้งในมือมันอย่างต่อเนื่อง

 

ทุกคมดาบที่สับลง ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องโหยหวน

 

หลังจากออกคำสั่งกำจัดกลุ่มอินทรีทอง ซูเฉินหันมามองโต้วหวู่ฉาง

 

ภายใต้สายตาของซูเฉิน โต้วหวู่ฉางคล้ายถูกโยนลงไปในห้องเก็บน้ำแข็ง ร่างกายเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น

 

เขาทราบดี ว่าซูเฉินไม่มีทางปล่อยเขาไป ดังนั้นแผนในตอนนี้ คือรีบหนีให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อรักษาชีวิตน้อยๆของเขาให้คงอยู่ต่อไป ปากอ้าประกาศลั่น

 

“พวกแกทุกตัว ฆ่าเขาซะ!”

 

โต้วหวู่ฉางคำราม สั่งซอมบี้ทั้งหมดโจมตีซูเฉิน

 

ส่วนตัวเขา ใช้จังหวะนี้หลบหนีไปเบื้องหลัง

 

ในความคิดเขา ซอมบี้หลายพันตัวไม่มีวันฆ่าซูเฉินได้

 

แต่หากมีสิ่งกีดขวาง มันพอที่จะช่วยซื้อเวลาให้กลับขึ้นไปยังรถฐานทัพ ถึงตอนนั้น มีโอกาสสูงมากที่จะหนีพ้น

 

แต่น่าเสียดาย ที่ซูเฉินไม่ปล่อยโอกาสนี้ตกถึงมือเขา

 

[ดาบเสริมมนตรา] กวาดเป็นแนวนอน คลื่นสีฟ้าม้วนออกไป

 

ท่ามกลางเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า ซอมบี้หลายร้อยตัวกลายเป็นขี้เถ้าในพริบตา

 

บังเกิดพื้นที่ว่างระหว่างซูเฉินกับโต้วหวู่ฉาง

 

“คิดหรือว่าจะหนีไปได้?”

 

ซูเฉินยิ้มดูแคลน รังสีแสงสีม่วงทอประกายบนสองเท้าเขา ก้าวไล่ตามไป ดั่งพายุเฮอริเคนพัดเข้าหาโต้วหวู่ฉาง

 

ในชั่วพริบตาเดียว ซูเฉินก็มาหยุดอยู่เบื้องหน้าโต้วหวู่ฉางแล้ว

 

โต้วหวู่ฉางตกใจแทบอกแตกตาย กรีดร้องด้วยความสิ้นหวัง “ช่วยฉันด้วย!”

 

ได้ยินเพียงเสียงตูม!

 

ในพริบตา รถฐานทัพที่อยู่เบื้องหลังโต้วหวู่ฉางระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

แทบจะในทันทีหลังจากนั้น สัตว์ประหลาดขนาดตัวกว่าสิบเมตรก็กระโดดออกมา

 

อสูรร้ายตัวนี้ถูกปกคลุมไปด้วยชั้นขนสีเทา มีรูปร่างเหมือนเสือ ดวงตากลมโตคล้ายระฆังทองแดงคู่หนึ่ง กำลังทอประกายสีฟ้าเย็นเยียบ