Ep.333
ซูเฉินเดาะลิ้น เอ่ยชมในใจว่า ‘เจ๋ง!’
[หินบดดาราเทียนกัง] สามารถขยายใหญ่ขึ้นได้ ตอนแรกเขาไม่รู้เรื่องนี้
เพราะตอนที่เขาได้รับมันครั้งแรก ไม่มีข้อมูลใดๆกล่าวถึงในส่วนนี้
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น นับเป็นสิ่งที่ดี
เอาไว้ในอนาคต เขาค่อยศึกษา และเพิ่มวิธีใช้มันโจมตีอีกหลายๆแบบ
แล้วอีกอย่าง พลังของ [หินบดดาราเทียนกัง] ยังน่าประทับใจมาก สามารถใช้สังหารผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 ได้ง่ายๆ
หากเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ก็ยังมั่นใจได้ว่าอีกฝ่ายจะถูกทุบจนตาย
จมอยู่ในห้วงภวังค์ความคิดพักหนึ่ง ซูเฉินก็ก้าวไปข้างหน้า เอื้อมมือก้มลงสัมผัส [หินบดดาราเทียนกัง]
ทันทีที่สั่งการในจิตใจ มันก็หดเล็กลงอย่างรวดเร็วจนมีขนาดเหลือแค่กำปั้น ลอยกลับเข้าไปถุงเก็บของโดยอัตโนมัติ ราวกับมีจิตวิญญาณ
หลังจาก [หินบดดาราเทียนกัง] ถูกเก็บกลับไป ก็ปรากฏพายเนื้อสีแดงเหลวขึ้นบนพื้น
ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าพายเนื้อนี้คือซุนเทียนกัง
ซูเฉินกวาดมองไปรอบๆ และกลับไปยัง [รถศึกอัจฉริยะ]
“ซูเฉิน พวกเราจะไปที่ไหนกันต่อ?” หวู่หยางเดินมาหยุดข้างๆซูเฉิน แล้วเอ่ยถาม
“ไปเมืองจินอา ที่นั่นมีซอมบี้ 50,000 ตัวรอพวกเราอยู่” ซูเฉินตอบกลับไป
“เยอะขนาดนั้นเชียว?”
หยางฮ่าวและสหายพอได้ยินก็เริ่มตื่นเต้นเล็กน้อย ขณะเดียวกันรู้สึกประหม่า
เพราะแม้ก่อนหน้านี้ จำนวนซอมบี้ที่พวกเขาเคยสังหาร รวมๆกันจะเกินกว่า 50,000 ตัวไปแล้วก็ตาม แต่สนามรบครั้งต่อไปที่จะถึงนี้ เป็นครั้งแรกที่ได้เผชิญหน้ากับซอมบี้ 50,000 ในคราวเดียว
หลังจากนั้น [รถศึกอัจฉริยะ] ก็เริ่มมุ่งหน้าสู่เมืองจินอา
แต่ผ่านมาได้ครึ่งชั่วโมง ซูเฉินก็สั่งให้มันหยุด แล้วเริ่มเตรียมอาหาร
ซอมบี้ 50,000 ตัวไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เขาไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะฆ่าพวกมันหมด
ดังนั้นก่อนที่จะไปถึง เขาตั้งใจเติมพลังงานให้อิ่มท้องก่อน
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ทุกคนกินดื่มจนอิ่มหนำ และกำลังจะออกเดินทางต่อ แต่ทันใดนั้นเสียงแจ้งเตือนจาก [รถศึกอัจฉริยะ] ก็ดังขึ้น
“คำเตือน มีซอมบี้จำนวนมากและมนุษย์กำลังใกล้เข้ามาหาพวกเรา”
“หืม?” ซูเฉินงงเล็กน้อย
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่มนุษย์และซอมบี้อยู่รวมกันได้?
เขาฟังผิดไปรึเปล่า มันอาจเป็น ‘ฝูงซอมบี้จำนวนมากกำลังไล่ฆ่ามนุษย์’ ใช่ไหม ไม่ก็ ‘มนุษย์กำลังไล่ล่าซอมบี้?’
เมื่อไม่เข้าใจสถานการณ์ ซูเฉินหันหน้าไปมองหน้าจอควบคุมส่วนกลางเพื่อดู และพบว่ามีจุดสัญญาณสีแดงและน้ำเงินนับพันบนหน้าจอจริงๆ อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของจุดสัญญาณเหล่านั้นต่างจากที่เขาคิดไว้
จุดสีแดงและสีน้ำเงิน ไม่มีฝ่ายใดตกอยู่ในสถานะไล่ล่าหรือถูกล่า แต่พวกมันปะปนกัน และกำลังมุ่งมาทางนี้
ความหมายนั้นชัดเจน ซอมบี้และมนุษย์ กำลังอยู่ในสถานะร่วมมือกัน
พวกมันต้องการอะไร?
หรือมาที่นี่เพื่อเขา?
ซูเฉินขมวดคิ้วมุ่น เริ่มเหม่อลอยจมอยู่กับความคิดของตัวเอง
หวู่หยางสังเกตเห็นว่าสีหน้าของซูเฉินไม่สู้ดี เอ่ยถามเสียงต่ำ “ซูเฉิน เกิดอะไรขึ้น?”
“มีฝูงซอมบี้กับกลุ่มมนุษย์กำลังตรงเข้ามาหาเรา เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการต่อสู้” ซูเฉินตอกลับอย่างง่ายๆ จากนั้นเปิดประตูรถและเดินลงไป
ซอมบี้ไม่กี่พันแม้จะจำนวนน้อยไปบ้าง แต่เนื่องจากพวกมันพาตัวเองมาส่งถึงหน้าประตู ซูเฉินก็จะสนองให้ตามคำขอ
“ยังมีซอมบี้ที่กล้ามาหาเรื่องพวกเราก่อนอยู่อีกหรอ?” สือต้าหนิวแสยะยิ้ม ยก [ค้อนสวรรค์] ขึ้นวางบนบ่า เดินตามหลังซูเฉิน
คนอื่นๆมองหน้ากัน ทยอยกันลงจากรถ
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ปรากฏรถฐานทัพสองคันวิ่งมาทางพวกเขา และที่อยู่เบื้องหลังรถฐานทัพ เป็นฝูงซอมบี้และมนุษย์
เมื่อคู่ต่อสู้บุกมาถึงเบื้องหน้า ซูเฉินหรี่เพ่งมอง ก่อนเลิกคิ้วและหัวเราะหยัน “ที่แท้ก็เป็นพวกกลุ่มอินทรีทองนี่เอง”
หนึ่งในรถฐานทัพมีหัวอินทรีทองติดตั้งอยู่หน้ารถ ซึ่งนั่นเป็นสัญลักษณ์เฉพาะของกลุ่มอินทรีทอง
นอกจากนี้ มนุษย์ที่วิ่งตามมายังสวมชุดสีดำทั้งหมด
มันแทบจะเหมือนกับการแต่งกายของพวกอินทรีทอง ที่ซูเฉินเคยฆ่าก่อนเข้าอุโมงค์ทุกประการ
ด้วยสองประเด็นที่กล่าวมานี้ ซูเฉินจึงเดาว่าฝ่ายมนุษย์ผู้มาเยือน คือกลุ่มอินทรีทอง