Ep.301

 

ซูเฉินกับหานคุนสนทนากันสักพัก หลังจากนั้นนำเมล็ดพันธุ์พืชและศพสัตว์ทะเลออกมา และจากไปอย่างเร่งรีบ

 

เดิมเขาก็ตั้งใจที่จะอยู่ที่นี่หนึ่งวันเพื่อพูดคุยกับหานคุนอยู่หรอก

 

แต่การปรากฏตัวของเต่าเขียวกระตุ้นความสนใจเขา ทำให้ต้องเปลี่ยนแผน

 

การสังหารสิ่งมีชีวิตต่างเผ่า มีโอกาสดรอปชิ้นส่วนมากกว่าซอมบี้ ดังนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

 

“เสี่ยวจือ มุ่งหน้าไปเมืองจิงกัง” กลับขึ้นมาบนรถ ซูเฉินออกคำสั่งทันที

 

“รับทราบ”

 

[รถศึกอัจฉริยะ] ล็อคตำแหน่งเมืองจิงกัง สตาร์ทเครื่องอย่างรวดเร็ว

 

“ซูเฉิน พวกเราไม่ไปที่สถานชุมชนเทียนหนานแล้วหรอ?” หวู่หยางถามด้วยความสงสัย

 

ซูเฉินเล่าถึงการปรากฏตัวของเผ่าเต่าเขียว รวมไปถึงเรื่องที่ว่าพวกมันได้บุกเข้าโจมตีเมืองจิงกัง

 

หลังจากได้ยินเรื่องนี้ ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ขณะเดียวกันก็ยังรู้สึกประหม่า

 

เพราะที่แล้วๆมา แม้พวกเขาจะพบเจอพวกต่างเผ่ามาบ้างแล้ว แต่ไม่เคยสู้ด้วยเลยสักครั้ง

 

เหตุผลก็คือพวกมันมีจำนวนน้อยเกินไป อีกอย่าง ทั้งหมดถูกซูเฉินสังหารสิ้น

 

และในครั้งนี้ เผ่าเต่าเขียวก็มีแนวโน้มอาจถึงขั้นสิ้นเผ่าพันธุ์ แต่จำนวนของพวกมันมีมหาศาล ดังนั้นย่อมตกมาถึงมือพวกเขา

 

เนื่องจากเมืองจิงกังยังอยู่อีกไกล ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองวันในการเดินทาง

 

ซูเฉินจึงอาศัยประโยชน์จากเวลาว่างนี้ เรียกทุกคนมาล้อมวง และวางมาตรการรับมือ

 

เพราะท้ายที่สุดแล้ว เผ่าเต่าเขียวไม่ใช่ซอมบี้ ในกลุ่มพวกมันมีผู้แข็งแกร่งปะปนอยู่มากมาย ดังนั้นไม่ยืนรอให้ถูกฆ่าอย่างโง่เขลา

 

หากไม่เตรียมตัวล่วงหน้า อาจเป็นพวกเขาซะเองที่เพลี้ยงพล้ำ

 

 

สองวันต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] ในที่สุดก็ใกล้ถึงเมืองจิงกัง เหลือระยะห่างไม่ถึง 300 กิโลเมตร

 

สายตาของซูเฉินจับจ้องอยู่กับหน้าจอควบคุมส่วนกลาง แต่ในตอนนั้นเอง เขาก็พบจุดสัญญาณสองสี หนึ่งน้ำเงิน หนึ่งดำปรากฏขึ้น ทั้งสองกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง

 

จุดสีดำที่อยู่บริเวณใกล้เคียงนี้ มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าคือเผ่าเต่าเขียว

 

หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เผ่าเต่าเขียวกำลังไล่ล่ามนุษย์!

 

“เสี่ยวจือ ล็อคตำแหน่งพวกเขาและตามไป” ซูเฉินสั่ง

 

แผนการของเขาคือจับตัวเผ่าเต่าเขียว แล้วเค้นสอบสถานการณ์ของพวกมัน

 

“รับทราบ”

 

[รถศึกอัจฉริยะ] หักเลี้ยวไปอีกทิศทาง มุ่งหน้าไปตามจุดสัญญาณสองสี

 

ประมาณหนึ่งชั่วโมง [รถศึกอัจฉริยะ] ก็จอดลง

 

ไม่ไกลนัก ปรากฏรถฐานทัพสองคันแล่นมาด้วยความเร็วสูง

 

เห็นได้ชัดว่ารถคันหน้าถูกขับโดยมนุษย์ และคันที่อยู่เบื้องหลังคือพวกเผ่าเต่าเขียว

 

ซูเฉินกวาดมองไปยังรถฐานทัพทั้งสองคัน เลิกคิ้วเล็กน้อย

 

นั่นเพราะเขารู้สึกว่ารถฐานทัพคันหน้าค่อนข้างคุ้นตา เหมือนจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

 

หลังจากครุ่นคิดสักพัก ก็นึกขึ้นได้

 

ว่าเจ้าของรถฐานทัพคันนั้น ดูเหมือนจะเป็นหานเฟิงที่เคยเจอกันระหว่างทาง

 

ในวันนั้น ขณะกำลังมุ่งหน้าสู่เทือกเขาฮวงเจ๋อ เขาได้จอดคุยกับหานเฟิงพักหนึ่ง และมอบขนมปังกับผลไม้แก่อีกฝ่าย

 

ทั้งยังได้ข้อมูลมา ว่าสถานที่ที่หานเฟิงกำลังไปคือเมืองจิงกัง

 

จากข้อมูลนี้ ทำให้ซูเฉินค่อนข้ามั่นใจ ว่าคนที่อยู่ในรถฐานทัพคันหน้าจะต้องเป็นหานเฟิงกับเฉินเหมยฮวา ภรรยาอย่างแน่นอน

 

ซูเฉินค่อนข้างประทับใจในตัวหานเฟิง ดังนั้นจะไม่ยอมทนดูอีกฝ่ายถูกเผ่าเต่าเขียวไล่ล่า

 

“เสี่ยวจือ ขับไปรับพวกเขา” ซูเฉินออกคำสั่ง

 

“น้อมรับคำสั่ง”

 

ได้ยินเสียงดังบรื้น! [รถศึกอัจฉริยะ] วิ่งตรงไปยังรถฐานทัพทั้งสองคัน

 

เมื่อรู้ว่าพวกเขากำลังไปหารถฐานทัพของเผ่าเต่าเขียว หยางฮ่าวและสหายก็เริ่มตื่นเต้นอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม ขณะที่รถศึกของซูเฉินกำลังตรงเข้าไปใกล้ รถฐานทัพคันหน้ากลับหักเลี้ยว ขับเปลี่ยนไปอีกทิศทางหนึ่งอย่างกะทันหัน

 

ตอนแรกซูเฉินรู้สึกสับสนเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขามาช่วยหานเฟิง แล้วเหตุใดอีกฝ่ายถึงหนีออกไปเล่า?

 

แต่ไม่นาน เขาก็เข้าใจความคิดของหานเฟิง อีกฝ่ายคงกลัวว่าจะสร้างปัญหาให้เขา ดังนั้นเลยหักเลี้ยวล่อเผ่าเต่าเขียวออกไป

 

ในวันสิ้นโลก มีคนไม่มากนักหรอกที่มีอุปนิสัยเช่นนี้

 

หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ช่วงเวลาระหว่างความเป็นความตายเช่นนี้ ใครจะไปสนว่าตัวเองอาจโยนภาระให้คนอื่น ตรงกันข้าม พวกเขาคงแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะฉุดดึงพวกคุณลงเหวไปด้วยกัน