Ep.302

 

หลังจากคิดออกว่าเกิดอะไรขึ้น ซูเฉินก็สั่งให้ [รถศึกอัจฉริยะ] เร่งความเร็ว และดักหน้ารถฐานทัพของเผ่าเต่าเขียว

 

“ซิลิกัว .. ทูลิคิรา … ”

 

ตามด้วยเสียงคำราม เต่าที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์หลายสิบตัวเดินลงมาจากรถฐานทัพฝั่งตรงข้าม

 

ถ้าให้อธิบายถึงรูปลักษณ์ พวกมันเหมือนกับ ‘เต่านินจา’ จากการ์ตูนฝรั่งในชีวิตก่อนของซูเฉินเลย

 

ทั้งร่างของพวกมันเป็นสีเขียว แบกกระดองเต่าไว้บนหลัง

 

“ไอ้เต่าเฒ่า นั่นแกหรอ?”

 

ซูเฉินลงจากรถ ตะโกนกลับไปด้วยภาษาของอีกฝ่าย

 

เขารู้สึกว่าเสียงของเต่าเขียวที่คำรามเมื่อครู่ค่อนข้างคุ้นเคย สงสัยว่าจะเป็นตัวที่เคยทะเลาะกับเขาในครั้งก่อน

 

คำพูดของซูเฉินทำให้เต่าเขียวหลายตัวตกตะลึง

 

พวกมันไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดมนุษย์ถึงเอ่ยภาษาของตนเองได้

 

แต่ไม่นาน เผ่าเต่าเขียวที่ตัวสูงเป็นพิเศษได้ก้าวออกมาจากกลุ่มพวกมัน อันดับแรกที่ทำ มันเพ่งมองซูเฉินจนมั่นใจ แล้วจึงกล่าวว่า “ไอ้หนู เจ้าคงไม่ใช่คนที่เคยคุยกับข้าในเทือกเขาฮวงเจ๋อหรอกกระมัง?”

 

ซูเฉินยิ้มมุมปาก กล่าวด้วยเสียงหัวเราะว่า “ไอ้เต่าเฒ่า นี่ท่านปู่เอง! ยังไม่รีบคุกเข่าแล้วโขกศีรษะลงอีก?”

 

แค่นี้ก็ชัดเจนแล้ว ว่าไอ้เต่าเขียวตัวสูงตรงหน้า คือตัวที่เขาเคยล้อเล่นกับมันจริงๆ

 

“ฮะ ฮะฮ่า … ”

 

เต่าเขียวตัวสูงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง จ้องไปยังซูเฉินด้วยความหยามเหยียด กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไอ้เด็กตัวเหม็น ทางไปสวรรค์มีไม่ชอบ ดันมาเคาะประตูนรกถึงที่ คราวนี้มาดูกัน ว่าเจ้าจะหนีรอดไปได้อย่างไร!”

 

ตั้งแต่ครั้งก่อนที่ถูกซูเฉินกลั่นแกล้ง มันเอ่ยสัตย์สาบาน ว่าจะฉีกร่างของซูเฉินให้เป็นชิ้นๆ

 

หลังจากบุกเข้ามาได้ มันไล่ตามหาที่อยู่ของซูเฉินตลอดมา แต่กลับไม่พบเบาะแสอะไรเลย

 

ไม่คาดฝันจริงๆ ว่าวันนี้ซูเฉินจะโยนตัวเองมาส่งถึงหน้าประตู

 

“พวกต่างเผ่าแบบแกนี่มีวิธีทักทายคนอื่นเหมือนกันหมดเลยสินะ? มาถึงก็ชอบทำเป็นอวดดีใส่คนอื่น” ซูเฉินส่ายหัว เอ่ยดูแคลน

 

ไม่ว่าจะตอนไหน เกือบทุกครั้งที่เขาได้พบกับพวกต่างเผ่า พวกมันล้วนขู่ว่ามาดูกัน ว่าเขาจะรอดไปได้ยังไง แต่ผลลัพธ์น่ะหรือ?

 

ทั้งหมดล้วนตกตายลงด้วยน้ำมือเขาอย่างไม่มีข้อยกเว้น!

 

ดังนั้น การแสร้งทำเป็นเก่งเช่นนี้ ไม่มีประโยชน์ใดๆ ไม่สามารถใช้ขู่เขาได้เลย

 

ได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของเผ่าเต่าเขียวตัวสูงก็กลายเป็นมืดมน เอ่ยอย่างดุร้าย “ไอ้หนู ข้าจะปล่อยให้เจ้าบ้าไปก่อน อีกประเดี๋ยวเจ้าจะได้รู้ซึ่งถึงพลังของข้า”

 

สิ้นเสียง มันไม่รอช้า หมายจะก้าวออกไปข้างหน้าเพื่อจับตัวซูเฉิน

 

แต่ในตอนนั้นเอง รถฐานทัพคันแรกที่ขับหายไปแล้ว ได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง

 

เอี๊ยดดดด!

 

ได้ยินเสียงเบรกกะทันหัน รถฐานทัพหยุดลงข้างๆซูเฉิน จากนั้น หานเฟิงและเฉินเหมยฮวาก็ลงจากรถ

 

“ซูเฉิน สิ่งมีชีวิตต่างเผ่าพวกนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่เราเถอะ คุณรีบหนีไปเร็วเข้า” เมื่อมาถึง หานเฟิงกล่าวด้วยความกังวล

 

แม้ไม่ได้ตั้งใจล่อพวกต่างเผ่ามาที่นี่ แต่สุดท้ายกลับลากซูเฉินเข้ามาเกี่ยวข้องจนได้

 

เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกเสียใจมาก ดังนั้นวกกลับมา อาสาหยุดพวกมัน ให้ซูเฉินใช้โอกาสนี้หลบหนีไป

 

ซูเฉินปาดจมูกเขา กล่าวยิ้มๆ “พี่หาน ผมจงใจมาที่นี่เพื่อจับไอ้เต่าพวกนี้โดยเฉพาะ”

 

เห็นได้ชัดว่าหานเฟิงสามารถใช้โอกาสนี้หลบหนีไปก็ได้ แต่สุดท้ายก็ยังเสี่ยงกลับมา นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้

 

ซูเฉินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประทับใจในความปรารถนาดีของหานเฟิง เขายอมรับอีกฝ่ายเพิ่มขึ้นหนึ่งส่วน

 

“จับเต่าพวกนี้?”

 

หานเฟิงกลืนน้ำลาย และเกือบสำลักเพราะคำพูดของซูเฉิน

 

เต่าที่ซูเฉินกำลังพูดถึง จะเป็นอะไรไปได้อีกหากไม่ใช่พวกต่างเผ่านับสิบที่อยู่ตรงหน้า

 

เหตุใดซูเฉินถึงได้เอ่ยโอ้อวดเกินจริงเช่นนี้?

 

อย่าลืมสิว่าพวกต่างเผ่าตรงหน้าล้วนเป็นผู้วิวัฒนาการ!

 

แม้หานเฟิงจะไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของซูเฉิน แต่ซูเฉินยังเด็กนัก แล้วเขาจะเก่งกว่าพวกมันได้ยังไง?

 

“ซูเฉิน ช่วยฟังพี่ชายคนนี้แนะนำหน่อยเถอะ รีบไปจากที่นี่ พวกต่างเผ่าเหล่านี้แข็งแกร่งเกินไป แม้แต่เมืองจิงกังยังถูกพวกมันเข้ายึดครอง”

 

หานเฟิงร้อนใจดั่งถูกเผา เขาหันไปส่งสายตาให้ซูเฉิน ว่ารีบหนีซะก่อนที่จะสายเกินไป