Ep.299

 

“ผู้อาวุโส โปรดหยุดมือ!” ชายผิวเข้มรีบตะโกนร้องขอชีวิต

 

ทั้งร่างของเขาถูกพันธนาการ ไม่อาจควบคุมความเป็นความตายของตัวเอง

 

หากเขาอยากชีวิตรอด ทำได้แค่อ้อนวอนชายหนุ่มตรงหน้าเท่านั้น

 

คนรอบข้างชายผิวเข้มเมื่อเห็นผู้นำถูกพันธนาการ ก็เริ่มรู้สึกตัวแล้วเช่นกัน

 

ชายหนุ่มตรงหน้าจริงๆแล้วเป็นปรมาจารย์พลังจิต แถมยังเป็นปรมาจารย์พลังจิตที่แข็งแกร่งมากอีกด้วย

 

การตายของชายหนุ่มกำยำก่อนหน้านี้ แท้จริงแล้วเป็นฝีมือซูเฉิน

 

สีหน้าของพวกเขาเริ่มไม่น่าดู หัวใจค่อยๆเต้นแรง บังเกิดความไม่สบายใจ

 

“บอกมา มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ซูเฉินจับจ้องชายผิวเข้ม เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 

ชายผิวเข้มกลืนน้ำลาย ตอบตามความจริงว่า “ท่านอาวุโส มีพวกต่างสายพันธุ์จำนวนมากปรากฏตัวขึ้นใกล้กับเทือกเขาฮวงเจ๋อ พวกมันทั้งแข็งแกร่งและกระหายเลือด พวกเราไม่มีทางสู้ ถูกกดดันจนต้องถอยร่นมาถึงที่นี่”

 

“พวกแกไม่มีทางสู้พวกต่างสายพันธุ์ เลยบุกสถานชุมชน เข้าสู้กับมนุษย์ด้วยกันเองแทน ทำแบบนี้ได้หรอ?” ซูเฉินแค่นเสียง

 

ชายผิวเข้มหวาดกลัวจนสั่นเทาไปทั้งตัว ไม่กล้าเอ่ยวาจาผายลมเพ้อเจ้ออีก

 

ซูเฉินถามต่อว่า “แล้วพวกต่างสายพันธุ์เหล่านั้นมีลักษณะเป็นยังไง? กำลังรบของพวกมันอยู่ระดับไหน?”

 

“พวกมันทั้งหมดดูเหมือนเต่า กำลังรบค่อนข้างแข็งแกร่ง อย่างน้อยทุกตนเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 1” ชายผิวเข้มตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

 

‘น่าจะเป็นพวกเผ่าเต่าเขียว’ หัวใจของซูเฉินเริ่มเต้นแรง

 

ในหลุมลึกของเทือกเขาฮวงเจ๋อ มีทางผ่านเขตแดนเชื่อมต่อกับที่อยู่ของพวกเผ่าเต่าเขียว

 

ควบคู่ไปกับคำอธิบายของชายผิวเข้ม เมื่อนำมารวมกันแล้ว ซูเฉินจึงตัดสินว่าพวกมันน่าจะเป็นเผ่าเต่าเขียว

 

จะว่าไปพอพูดถึงเรื่องนี้ เขาจำได้ว่าเคยทะเลาะกับเผ่าเต่าเขียวตนหนึ่งมาก่อน

 

และได้ข้อมูลของเผ่าเต่าเขียวจากมันเช่นกัน

 

ซูเฉินไม่หวาดกลัวการรุกรานของเผ่าเต่าเขียว ตรงกันข้าม เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

 

เหตุผลก็ง่ายๆ เพราะการสังหารพวกต่างเผ่า ก็สามารถดรอปชิ้นส่วนได้เช่นกัน

 

จำนวนประชากรของเผ่าพันธุ์หนึ่ง คงไม่พ้นมีปริมาณมหาศาล เช่นนั้นหากสามารถล้างบางทั้งหมดลงได้ เขาจะดรอปชิ้นส่วนกี่ชิ้นกัน?

 

ซูเฉินตั้งตารอเป็นอย่างมากที่จะได้เจอพวกมัน

 

“สิ่งมีชีวิตต่างเผ่าพันธุ์พวกนั้นโผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่? แล้วมุ่งหน้าหรือตั้งรกรากอยู่ที่ไหน” ซูเฉินถามอย่างใจเย็น

 

“พวกมันปรากฏตัวขึ้นเมื่อ 5 วันก่อน และตอนนี้น่าจะไปที่เมืองจิงกัง” ชายผิวเข้มครุ่นสักพักก่อนตอบคำถาม

 

“ดูเหมือนเมืองจิงกังคงจบสิ้นแล้ว” ซูเฉินพึมพำกับตัวเอง

 

เดิมเมืองจิงกังถือเป็นสถานชุมชนขนาดใหญ่ แต่เมื่อหวงคังและยอดฝีมือคนอื่นๆตาย กำลังรบของพวกเขาย่อมถดถอยลง

 

ในขณะที่ประชากรทุกตนของเผ่าเต่าเขียวล้วนเป็นผู้วิวัฒนากรเลเวล 1 ขึ้นไปทั้งสิ้น หากคิดโค่นเมืองจิงกิง มันแค่เรื่องง่ายดาย

 

“โอเค ฉันถามทุกอย่างที่ควรถามเสร็จแล้ว”

 

ซูเฉินถอนพลังจิต กล่าวเสียงเรียบ

 

ร่างของชายผิวเข้มกลับมาเป็นอิสระอีกครั้ง กล่าวด้วยสีหน้าเบิกบานว่า “ขอบคุณอาวุโสที่ไม่สังหาร”

 

ซูเฉินเบ้ปาก “เข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้บอกซะหน่อยว่าจะปล่อยแกไป!”

 

เขาไม่ได้เกลียดชังถึงขั้นแค้นฝังลึกกับพวกชายผิวเข้ม ทว่าปมพยาบาทได้ถูกผูกแล้ว ทั้งยังเป็นศัตรูกันตั้งแต่แรก ดังนั้นเขาต้องกำจัดรากเหง้า เพื่อป้องกันปัญหาไม่จบไม่สิ้นที่อาจตามมา

 

“ผู้อาวุโส ท่านหมายความว่ายังไง?”

 

รอยยิ้มบนใบหน้าของชายผิวเข้มแข็งค้าง ชักฝีเท้าถอย

 

คนอื่นๆก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน ความตึงเครียดแพร่กระจายในหมู่พวกเขา

 

“ความหมายก็ง่ายๆ– ” มุมปากของซูเฉินยกโค้งขึ้นเล็กน้อย กล่าวด้วยท่าทีสนุกสนานว่า “–ฉันจะระเบิดหัวสุนัขของพวกแกทุกตัวยังไงเล่า!”

 

“ที่แท้แกก็ไม่คิดจะปล่อยพวกเราไปตั้งแต่แรกแล้ว!” ชายผิวเข้มอดไม่ไหวอีกต่อไป ร้องคำรามอย่างบ้าคลั่ง “พี่น้องทั้งหลาย สู้มัน!”

 

ในเมื่อซูเฉินไม่ยินดีปล่อยพวกเขา เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่คิดนั่งรอความตายอยู่เฉยๆ

 

ชายผิวเข้มไม่เชื่อหรอก! ว่าฝั่งเขาที่มีหลายร้อยคน จะโค่นปรมาจารย์พลังจิตเลเวลสูงเพียงคนเดียวไม่ได้!