Ep.298

 

“เสี่ยวจือ วิ่งไปขวางหน้าพวกเขาเร็ว!” ซูเฉินตะโกน

 

เขากับหานคุนเป็นสหายกัน และเขาจะไม่มีวันยอมเห็นเพื่อนตายต่อหน้าต่อตา

 

บางทีอาจเพราะสัมผัสได้ถึงความร้อนรนของซูเฉิน [รถศึกอัจฉริยะ] เพิ่มแรงม้า ส่งเสียงหวีดหวิวผ่านสายลม พุ่งเข้ากลางสนามรบ

 

เนื่องจาก [รถศึกอัจฉริยะ] ตรงเข้ามาพร้อมแรงกดดันมหาศาล มันเลยดึงดูดความสนใจของทุกคน

 

ทั้งสองฝ่ายในสมรภูมิถูกบังคับให้แยกจากกัน การต่อสู้หยุดลงชั่วคราว

 

เอี๊ยดดดด!

 

เสียงเบรกดังขึ้นอย่างกระทันหัน [รถศึกอัจฉริยะ] ดริฟท์อย่างสวยงาม มาหยุดเบื้องหน้าหานคุน

 

แทบจะในทันทีหลังจากนั้น ซูเฉินและคนอื่นๆทยอยกันลงจากรถ

 

“อาเฮียซู!”

 

หานคุนตื่นเต้นมาก ราวกับว่าเขาได้พบพระผู้ช่วยให้รอดชีวิต

 

เหล่าคนที่ห้อมล้อมหานคุนต่างหยุดมือ ถอยไปรวมกลุ่มกัน ลอบสำรวจซูเฉินและคนอื่นๆอย่างระมัดระวัง

 

“พี่หาน ผมมาทีไรพี่ก็ตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตายตลอดเลยนะ”

 

ซูเฉินกล่าวหยอกล้อ ก้าวออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย คล้ายกับว่าไม่เห็นสถานการณ์ของทั้งสองฝ่ายอยู่ในสายตา

 

“อาเฮียซู โชคดีมากที่เฮียมาทันเวลา ถ้าช้าไปกว่านี้อีกก้าวเดียว น่ากลัวว่าฉันคงถูกพวกมันฆ่าไปแล้ว” หานคุนกล่าวด้วยหัวใจที่สั่นเทา

 

เขารู้ว่าซูเฉินกำลังแซว แต่ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะตอบติดตลกกลับไป

 

“บอกผมหน่อยสิ นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?” ซูเฉินหุบยิ้ม กล่าวด้วยท่าทีจริงจัง

 

มีซูเฉินอยู่ข้างๆ หานคุนมั่นใจขึ้นหลายส่วน ชี้หน้าศัตรู ก่นด่าสาปแช่ง “ไอ้นรกพวกนี้เป็นคนจากสถานชุมชนซีอาน! มันต้องการปล้นเมืองของเรา”

 

“สถานชุมชนซีอาน?” ซูเฉินทวนคำ และจู่ๆก็เริ่มสนใจขึ้นมา

 

เพราะจะว่าไป เขาก็เคยมีปัญหาบางอย่างกับสถานชุมชนซีอานอยู่เหมือนกัน ซูเฉยเคยฆ่าสมาชิกของพวกมันไปหกคน

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ตกก็คือ สถานชุมชนซีอานอยู่ห่างจากที่นี่หลายพันไมล์

 

แทนที่จะอยู่ในสถานที่ของตัวเอง แล้วทำไมพวกเขาถึงมาปล้นสถานชุมชนเล็กๆไกลปืนเที่ยงเช่นนี้?

 

ใช้เพราะอดอยากจนเป็นบ้าไปแล้วรึเปล่า?

 

ซูเฉินกวาดมองอีกฝ่าย สายตาหยุดลงที่ชายวัยกลางคนผิวสีเข้ม กล่าวเสียงขรึมว่า “ทำไมพวกแกถึงมาปล้นเมืองของเพื่อนฉัน?”

 

ชายวัยกลางคนเป็นปรมาจารย์มนตราเลเวล 2 ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาศัตรู และมีแนวโน้มว่าน่าจะเป็นผู้นำของกำลังพลที่ยกมาในครั้งนี้

 

ได้ยินแบบนั้น ชายผิวเข้มก็ขมวดคิ้ว และไม่ตอบในทันที

 

เพราะซูเฉินแม้ดูเด็กมาก แต่ทุกย่างก้าวกลับแฝงไปด้วยกลิ่นอายของราชา ทำให้เขาอดพึมพำออกมาไม่ได้

 

เขาไม่มั่นใจ ว่าซูเฉินแค่แสร้งทำเป็นเก่ง หรือแข็งแกร่งจริงๆกันแน่

 

เห็นชายผิวเข้มไม่พูด คนรอบข้างเขาที่เดิมไม่พอใจอยู่แล้ว หนึ่งในนั้นที่เป็นชายร่างกำยำได้เอ่ยขึ้นแทน “แกเป็นใครกัน ถ้ายังมีสมองอยู่ก็ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นแกจะตายทั้งๆที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตายไปแล้ว!”

 

ซูเฉินยิ้มมุมปาก “เป็นคำขู่ที่ไม่เลว ฉันขอทดลองใช้ดูหน่อยนะ”

 

ว่าจบ ได้ยินเสียงดังโผล๊ะ! ศีรษะของชายหนุ่มร่างกำยำระเบิดออกอย่างน่าฉงน

 

เฉกเช่นเดียวกับที่เขาเพิ่งเอ่ยเมื่อครู่ ว่าตายทั้งๆที่ยังไม่รู้ตัว

 

เผชิญกับสถานการณ์แปลกประหลาดเช่นนี้ คนรอบข้างชายผิวเข้ม ใบหน้าซีดเผือดด้วยความกลัว ก้าวถอยหลังพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย

 

ส่วนชายผิวเข้ม แม้ไม่ได้เคลื่อนไหว แต่ระลอกคลื่นในดวงตาเขา กระเพื่อมไปด้วยความหวาดกลัวอย่างลึกล้ำ

 

คนอื่นอาจไม่ทราบว่าชายหนุ่มร่างกำยำเสียชีวิตลงอย่างไร แต่เขาพอคาดเดาสาเหตุได้

 

เกรงว่าคงไม่พ้นถูกพลังจิตของชายหนุ่มตรงหน้าสังหารเอา

 

ซึ่งหากต้องการระเบิดสมองของผู้วิวัฒนาการเลเวล 1 อย่างไร้สรรพเสียง เกรงว่าจะมีเพียงปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 3 หรือสูงกว่าเท่านั้นจึงจะทำได้

 

เมื่อคิดได้แบบนี้ ชายผิวเข้มเผลอกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว กล่าวเสียงสั่นว่า “ผู้อาวุโส เป็นความผิดของผู้น้อยเอง พวกเราจะถอนตัวเดี๋ยวนี้”

 

“ฉันบอกเมื่อไหร่ว่ายอมให้แกไป?”

 

ซูเฉินแค่นเสียงเย็นชา ปลดปล่อยพลังจิตของเขาตรึงร่างชายผิวเข้มอยู่กับที่

 

ยังไม่ทราบจุดประสงค์แน่ชัดที่มาเยือน นอกจากนี้ เขามีความขัดแย้งกับสถานชุมชนซีอานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นแม้ว่าจะไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น ซูเฉินก็ไม่คิดปล่อยอีกฝ่ายไปง่ายๆอยู่ดี