Ep.203

 

มังกรเพลิงทมิฬได้สติ มันพบว่ามนุษย์ที่ทำลายลมหายใจมังกรกำลังใกล้เข้ามา

 

แม้ไม่เต็มใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามนุษย์ตรงหน้าให้ความรู้สึกอันตรายเป็นอย่างยิ่ง

 

โดยเฉพาะรอยยิ้มชั่วร้ายที่ผุดอยู่บนมุมปาก และสายตาที่จ้องมองมาด้วยความตะกละ คล้ายกำลังปฏิบัติราวกับตัวมันเป็นแค่เหยื่อ

 

ช่วงเวลานี้ หัวใจของมังกรเพลิงทมิฬเต้นครึกโครม มันกระจ่างแจ้งแก่ใจ ว่าหากไม่รีบจากไป มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะตกเป็นอาหารของอีกฝ่าย

 

เมื่อฉุกคิดได้ มันเร่งกระพือปีกอย่างบ้าคลั่ง พยายามที่จะยกตัวลอยขึ้นฟ้าและบินหนีจากไป

 

เห็นฉากนี้ ทุกคนต้องตกละลึง

 

สถานการณ์นี่มันอะไรกัน?

 

มังกรเพลิงทมิฬผู้แข็งแกร่งและทรงพลังชนิดหาผู้ใดเปรียบ เวลานี้ต้องการหลบหนีกระนั้นหรือ?

 

มันไม่สนใจศักดิ์ศรีของเผ่ามังกรเลยรึไง?

 

มองไปยังมังกรเพลิงทมิฬที่คิดหลบหนี มุมปากของซูเฉินยกโค้งขึ้นเล็กน้อย แสยะยิ้มหยัน “คิดหรือว่าจะหนีไปได้?”

 

สิ้นเสียง หนึ่งมือสะบัดไปข้างหน้า ปลดปล่อยลำแสงสีเขียว เมื่อสัมผัสลงบนตัวมัน ลำแสงพลันแปรสภาพกลายเป็นเถาวัลย์ขนาดใหญ่ รัดขาข้างหนึ่งของมังกรเพลิงทมิฬเอาไว้อย่างแน่นหนา

 

มังกรเพลิงทมิฬยังไม่ทันได้บิน ทันใดนั้นมันพบว่าข้างข้างหนึ่งไม่สามารถขยับได้

 

เมื่อก้มลงมอง ก็พบเถาวัลย์เขียวพันอยู่รอบๆ เกิดความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อขึ้นมา

 

นี่ตนกำลังถูกเทคนิคพันธนาการธาตุไม้อันกระจอกงอกง่อยควบคุมกระนั้นหรือ?

 

มังกรเพลิงทมิฬระเบิดพละกำลังเดือดดาล พยายามดิ้นหลุดจากพันธนาการของเถาวัลย์

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ เถาวัลย์นี้คล้ายมิใช่เทคนิคพันธนาการธรรมดา แต่กลับเหนียวอย่างน่าเหลือเชื่อ

 

แม้ระหว่างดิ้นรนจะมีเถาวัลย์ขาดไปหลายเส้น แต่หากต้องการเป็นอิสระจากมันได้อย่างสมบูรณ์ในระยะเวลาอันสั้น เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

 

ต้องรู้นะว่า เทคนิคพันธนาการธาตุไม้ที่ซูเฉินปลดปล่อยออกมา มันได้ผสานรวมเข้ากับ [ไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งสระวิเศษ] ดังนั้นจึงมีอำนาจมากกว่าเทคนิคพันธนาการทั่วไปถึงสองเท่า

 

มังกรเพลิงทมิฬไม่สามารถสลัดหลุดได้ ก็สมเหตุสมผลแล้ว

 

เมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้ มังกรเพลิงทมิฬก็ยิ่งตื่นตระหนก

 

เพราะมนุษย์ผู้นั้น จะยอมปล่อยให้มันมีเวลาจนสามารถสลัดหลุดหรือ?

 

คำตอบนั้นชัดเจน

 

ช่วงเวลานี้ ซูเฉินกุมดาบสงครามสีดำสนิทเอาไว้ในมือ ทั้งคนทั้งร่างทะยานดั่งลมกรรโชก

 

มังกรเพลิงทมิฬไม่รอรับความตายอยู่เฉยๆ มันยกอุ้งเท้าขึ้น กางกรงเล็บอันแหลมคม ตะปบสวนซูเฉิน

 

ซูเฉินมิได้เลือกทานรับตรงๆ สองเท้าทอประกายสีม่วง [รองเท้าเพิ่มความเร็ว] ถูกเปิดใช้งานทันที ตัวเขาหายวับไปจากที่เดิม

 

วินาทีถัดมา กรงเล็บของมังกรเพลิงทมิฬกระแทกลงบนพื้น ก่อให้เกิดแผ่นดินสะเทือน ส่งเสียงหึ่ง หึ่ง

 

ร่างของซูเฉินกระพริบไหวมาปรากฏขึ้นด้านหน้าของมังกรเพลิงทมิฬ ง้างสองแขนชูขึ้นเหนือหัวและสับลงไป

 

เห็นแค่เพียงรังสีสายฟ้าบนใบดาบ จากนั้นพายุสีฟ้าพลันโหมกระหน่ำ ม้วนเป็นเกลียวคลื่นโถมเข้าใส่ศีรษะของมังกรเพลิงทมิฬ

 

“ช่างเป็นเวทย์สายฟ้าที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้!” หานคุนบนกำแพงเมือง กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นระริก

 

แม้ตัวอยู่ไกล แต่เขายังสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจน ว่าอำนาจสายฟ้าที่อัดแน่นอยู่ในเกลียวคลื่นสีฟ้านี้ น่าสยดสยองเพียงใด

 

ฉะนั้นความรู้สึกของมังกรเพลิงทมิฬที่เป็นผู้ทานรับมันโดยตรง จะลึกล้ำยิ่งกว่าขนาดไหน คงไม่ต้องกล่าวถึง

 

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีด้วยเวทย์สายฟ้าอันน่าสะพรึง มันสั่นสะท้าน ส่วนลึกในจิตใจบังเกิดความรู้สึกไร้กำลัง

 

คล้ายกับว่าจำนนแล้วต่อโชคชะตา มันยอมให้กระแสสายฟ้าโถมเข้ากลืนกิน

 

ตูม เปรี้ยง!

 

ท่ามกลางกระแสสายฟ้า พายุสีฟ้ากระแทกเข้าใส่ศีรษะของมังกรเพลิงทมิฬ ระเบิดหัวทั้งหัวกลายเป็นหมอกเลือด

 

หลังจากนั้น ร่างไร้ศีรษะของมังกรเพลิงทมิฬก็ร่วงลงกับพื้น

 

“เขา .. เขาสังหารมังกรเพลิงทมิฬได้ในดาบเดียว!” หานคุนอ้าปากค้าง กรามแทบหลุดด้วยความตกใจ

 

จิตใจของเขากังวานก้องไปด้วยเสียงหึ่ง หึ่ง คล้ายตกอยู่ในสถานะสับสนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน