Ep.202

 

เมื่อเห็นว่าสามารถทานรับลมหายใจมังกรอันร้อนระอุได้ ซูเฉินกำหมัดแน่น รีบคว้ามันไว้ อำนาจอันทรงพลังส่งผ่านจากนิ้วมือเขา ผสานกับการสนับสนุนจากพลังจิต

 

เมื่อนิ้วทั้งห้าประสานกัน ลูกไฟลมหายใจมังกรก็เกิดการระเบิด

 

บังเกิดเสียงตูมมมม! ดังสนั่น

 

ทันทีที่ลมหายใจมังกรระเบิด บังเกิดประกายไฟสาดกระเซ็นไปทั่วฟ้า กระจายออกไปทุกทิศทาง

 

สะเก็ดไฟตกลงที่กำแพงเมือง กำแพงเมืองพังทลาย สะเก็ดไฟตกลงบนพื้น พื้นดินกลายเป็นหลุ่มบ่อ รวมไปถึงสัตว์กลายพันธุ์ที่อยู่ใกล้ๆ พวกมันถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่านในพริบตา

 

ส่วนซูเฉิน แม้จะยืนอยู่ในจุดศูนย์กลางการระเบิด

 

แต่สะเก็ดไฟเหล่านั้น ยามกระเซ็นลงบนตัวเขา พวกมันคล้ายเป็นเพียงหยาดฝนเม็ดเล็กๆ ไม่อาจสร้างแม้ระลอกคลื่นบนตัวซูเฉิน จางหายไปในอากาศอย่างไร้ร่องรอย

 

เฝ้ารอจนสะเก็ดไฟสลายหายไปอย่างสมบูรณ์ โดยมีซูเฉินเป็นจุดศูนย์กลาง ภายในรัศมีหลายสิบเมตร ทุกหนแห่งไหม้เกรียม ไม่เหลือดยอดหญ้าชูขึ้นมาแม้แต่ต้นเดียว

 

กระทั่งสัตว์กลายพันธุ์ก็ยังได้รับผลกระทบ หลายร้อยตัวจบชีวิตลง

 

แต่ซูเฉินยังคงยืนหยัดอยู่ท่ามกลางหายนะ กระทั่งรอยขีดข่วนก็ไม่มีปรากฏบนร่างกายเขา

 

มองไปยังฉากอันแสนอัศจรรย์นี้ ทุกคนตะลึงคล้ายถูกแช่แข็ง

 

โดยเฉพาะมังกรเพลิงทมิฬ มันตกใจมากซะจนลืมหายใจ นิ่งงันราวกับประติมากรรมหิน ลูกตาขนาดเท่าบาสเก็ตบอลแทบถลนออกมา

 

กาลครั้งหนึ่ง ลมหายใจมังกรที่มันเคยภาคภูมิ บัดนี้กลับถูกมนุษย์อ่อนแอทำลายด้วยมือเปล่า?

 

นี่มันจะเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!

 

แม้จะได้เห็นกับตา แต่มันก็ยังไม่อาจทำใจยอมรับ

 

หลังจากผ่านไปนาน หานคุนค่อยได้สติกลับมาอีกครั้ง แต่เวลานี้คล้ายมีพายุก่อตัวขึ้นในใจเขา

 

โอ้สวรรค์!

 

นี่อีกฝ่ายยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า?

 

ผู้ฝึกตนเผ่ามนุษย์ สามารถทำลายลมหายใจมังกรที่เหนือกว่าเวทย์ไฟเลเวล 4 ด้วยมือเปล่าได้อย่างไม่คาดฝัน!

 

จักต้องมีร่างกายแข็งแกร่งเพียงใดกันจึงทำเช่นนี้ได้?

 

น่ากลัวว่าต่อให้เป็นร่างกายของผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ก็ยังไม่แข็งแกร่งขนาดนั้นเลย

 

อีกอย่าง มนุษย์ผู้นี้มิใช่ปรมาจารย์มนตราธาตุสายฟ้าหรอกหรือ?

 

เหตุใดเขาถึงกลายเป็นผู้วิวัฒนาการไปได้?

 

อย่าบอกนะว่าสามารถมีสองอาชีพหลักในร่างเดียว?

 

ถ้าอย่างงั้น ระดับการฝึกฝนของเขาอยู่ขั้นไหนกันแน่?

 

เลเวล 5 ? เลเวล 6 ?

 

แต่ทำไมเขาถึงดูอายุยังน้อยนัก?

 

คำถามต่างๆผุดขึ้นในใจหานคุน ทำให้เขาแทบอยากพุ่งไปหาซูเฉิน และสอบถามว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไงกันแน่

 

ในเวลาเดียวกัน ทุกคนใน [รถศึกอัจฉริยะ] ต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

ความสามารถของซูเฉิน ที่ใช้เพียงมือเปล่าก็ทำลายลมหายใจมังกรได้ นับว่าเพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขา

 

นอกจากนี้ ยังพิสูจน์ให้เห็นด้วย ว่าเขามีความสามารถมากพอที่จะสังหารมังกรเพลิงทมิฬ

 

หยางฮ่าวกับเฉาหรานมองหน้ากัน ยกนิ้วโป้งขึ้นพร้อมกัน กล่าวด้วยอารมณ์ว่า “พี่เฉินสุดยอดไปเลย!”

 

เห็นได้ชัดว่าความชื่นชมที่พวกเขามีต่อซูเฉิน ได้ทะลุขีดจำกัดเดิม เพิ่มไปอีกขั้น

 

หวู่หยางถอนหายใจ “ดูเหมือนความเข้าใจในความแข็งแกร่งของคุณ สำหรับฉันมันยังตื้นเขินเกินไป!”

 

ซูเฉินคว้าจับบอลไฟด้วยมือเปล่ามาแล้วสองครั้ง ซึ่งหวู่หยางเป็นสักขีพยานทั้งสิ้น

 

อย่างไรก็ตาม บอลไฟในครั้งก่อนมีเลเวลแค่ 2 เท่านั้น เทียบไม่ได้เลยกับลมหายใจมังกรของมังกรเพลิงทมิฬในครั้งนี้

 

ตอนแรก เขาคิดว่าซูเฉินคงมาถึงจุดจบเสียแล้ว

 

ไม่คาดหวังเลย ว่าซูเฉินจะสร้างปาฏิหาริย์อีกครั้งโดยการทำลายลมหายใจมังกรที่มีอานุภาพยิ่งกว่าเลเวล 4 ด้วยมือเปล่า

 

นี่คือสิ่งที่แม้แต่ผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ยังไม่กล้าแม้แต่จะคิด

 

ถึงจุดนี้ เขาก็ย้อนนึกไปการกระทำและคำพูดที่แล้วๆมาของซูเฉิน

 

ไม่ว่าซูเฉินจะทำอะไร อีกฝ่ายไม่กล่าวเพ้อเจ้อ แต่มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าสามารถทำได้

 

และผลงานของซูเฉินเมื่อครู่ ได้พิสูจน์เรื่องนี้อีกครั้ง

 

ตันหลินกับหยางเฉียนไม่ละสายตาไปจากซูเฉินเลย เวลานี้ นอกจากความชื่นชมที่กำลังสะท้อนอยู่ในแววตาแล้ว มันยังเปี่ยมไปด้วยความรักอันลึกล้ำ

 

 

อีกด้านหนึ่ง ซูเฉินสะบัดขี้เถ้าบนมือเขา มุมปากยกโค้งด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความหมาย

 

จากนั้น เขาก็จ้องมองไปยังมังกรเพลิงทมิฬ ค่อยๆก้าวไปหามัน

 

เมื่อสัตว์กลายพันธุ์ตัวอื่นเห็นซูเฉินตรงเข้ามา ไม่มีตัวใดกล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดเขา ถอยหลังเปิดเป็นเส้นทางให้

 

ซึ่งพฤติกรรมนี้ —

 

–คือความหวาดกลัวโดยสัญชาตญาณเวลาที่พบเจอผู้แข็งแกร่ง!