Ep.192

 

“บังอาจ!”

 

หญิงสาวเผ่าปีศาจราตรีตวาดเดือดดาล แสยะยิ้มเย็น “เป็นแค่เผ่ามนุษย์ ถือดียังไงถึงกล้ามาข่มขู่เผ่าปีศาจราตรีอย่างพวกเรา ช่างไม่รู้จักที่ตาย!”

 

สิ้นเสียง เธอก็ย่ำเท้าเบาๆ ส่งตัวเองทะยานเข้าหาซูเฉิน

 

“ผู้วิวัฒนาการเลเวล 3?” ซูเฉินขมวดคิ้ว

 

ผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 ถือได้ว่าเป็นผู้แข็งแกร่งระดับต้นๆของเกาะเฉียนหยู

 

อย่างไรก็ตาม ในสายตาของซูเฉิน เลเวล 3 ไม่ได้เก่งกาจอะไรเลย

 

เพราะในระดับเดียวกัน ซูเฉินจัดว่าอยู่ในสถานะคงกระพัน!

 

แล้วเขาจะกลัวหญิงสาวเผ่าปีศาจราตรีเลเวล 3 ได้อย่างไร?

 

ในจังหวะที่คู่ต่อสู้กำลังพุ่งเข้ามา ซูเฉินปลดปล่อยพลังจิตทันใด

 

หญิงสาวเผ่าปีศาจราตรีสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลที่มองไม่เห็นโถมเข้าใส่ สะกดเธอจนเชื่องช้าเสมือนดั่งจมอยู่ในหล่มโคลน สีหน้าของเธอแปรเปลี่ยนกลับกลาย กรีดร้องว่า “ปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 3!”

 

ในบรรดาสามอาชีพหลัก ปรมาจารย์พลังจิตเป็นอาชีพที่ฝึกฝนยากที่สุด น้อยคนนักที่จะสามารถเป็นได้

 

โดยเ​ฉพาะคนที่สามารถฝึกฝนจนไปถึงเลเวล 3 เป็นอะไรที่หาได้ยากพอๆกับขนหงสาหรือเขากิเลน หากสามารถบรรลุ อาจเรียกว่าเป็นยอดฝีมือในบรรดาผู้แข็งแกร่งได้เลย

 

กระทั่งในเผ่าปีศาจราตรี ที่มีอัจฉริยะมารวมตัวกันมากมาย ยังมีปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 3 อยู่แค่ไม่กี่คนเท่านั้น

 

ทว่าเผ่ามนุษย์ที่แสนอ่อนแอตรงหน้า กลับสามารถก้าวสู่ขอบเขตผู้ใช้พลังจิตเลเวล 3 ได้อย่างน่าฉงน

 

เรื่องนี้ทำให้เธอรู้สึกเหลือเชื่อมาก

 

และพิจารณาจากในแง่ของอายุ ชายหนุ่มเบื้องหน้าเธอ เขาน่าจะอายุไม่เกิน 20 ปีเท่านั้น

 

ปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 3 ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี!

 

มุมปากของซูเฉินยกโค้งขึ้นเล็กน้อย “อันที่จริงฉันเป็นมากกว่าปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 3 นะ”

 

“คุณหมายความว่ายังไง?”

 

หญิงสาวเผ่าปีศาจราตรี ผงะไปครู่หนึ่ง คล้ายกำลังย่อยความหมายในคำพูดของซูเฉิน

 

ซูเฉินไม่ตอบคำ ซัดกำปั้นชกเข้าตรงหน้าท้องเธอ

 

บังเกิดเสียงดังปึก!

 

หญิงสาวเผ่าปีศาจราตรีถูกอัดด้วยหมัดจนร่วงลงกับพื้น

 

แต่เพราะยังมีเรื่องอยากจะถาม ซูเฉินจึงไม่ใส่พละกำลังทั้งหมดลงไปในหมัดนี้

 

ถึงกระนั้น หญิงสาวเผ่าปีศาจราตรีก็ยังถูกแรงปะทะจนกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง นอนชักกระตุกอยู่กับพื้น

 

“เอาล่ะ ตอนนี้แกน่าจะยอมบอกที่มาให้ฉันรู้ได้แล้วใช่ไหม?” ซูเฉินก้มมองหญิงสาวเผ่าปีศาจราตรี กล่าวหยอกเย้า

 

หญิงสาวเผ่าปีศาจราตรีเงยหน้าขึ้น ในดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือว่า “คุณ … ที่แท้คุณก็เป็นผู้วิวัฒนาด้วยเลเวล 3 ด้วย!”

 

เป็นถึงสองอาชีพหลัก แถมทั้งคู่ยังก้าวไปถึงเลเวล 3 แล้ว การดำรงอยู่ดั่งสัตว์ประหลาดเช่นนี้ แม้แต่ในเผ่าปีศาจราตรีก็ไม่เคยปรากฏมาก่อน

 

“ความอดทนของฉันมีจำกัด เลิกพล่ามไร้สาระได้แล้ว!” ซูเฉินชักสีหน้าเย็นชา ในแววตาทอประกายเย็นยะเยือก

 

ภายใต้สายตาอันเฉียบคมของซูเฉิน หญิงสาวเผ่าปีศาจราตรีตัวสั่นงันงก กัดฟันข่มอารมณ์ แล้วกล่าวว่า “ถ้าฉันบอกคุณทั้งหมด คุณจะปล่อยฉันไปได้ไหม?”

 

“แกไม่มีคุณสมบัติที่จะเอ่ยถามหรือต่อรองกับฉัน!” ซูเฉินเอ่ยเสียงเย็น ปราศจากเมตตาแม้แต่น้อย

 

“ในเมื่อบอกไปก็ไม่รอด แล้วจะพูดทำไม” หญิงสาวเผ่าปีศาจราตรีก็ไม่ยอมถอยเช่นกัน เธอต้องการใช้เรื่องนี้แลกเปลี่ยนกับซูเฉิน

 

“ช่างไม่รู้จักชั่วดี!” ซูเฉินแค่นเสียงเย็นชา เนื่องจากอีกฝ่ายไม่ให้ความร่วมมือ งั้นเขาก็คร้านจะหว่านล้อมเธออีกต่อไป

 

พลังจิตแปรเปลี่ยนเป็นมือใหญ่ที่มองไม่เห็น ฉกเข้าคว้าคอหญิงสาวเผ่าปีศาจราตรี ยกขึ้นไปในอากาศ

 

จากนั้น ซูเฉินก้าวออกมาหยุดอยู่เบื้องหน้าเธอ ในมือเขาทอประกายแสงสีทอง คว้าแขนข้างหนึ่งของหญิงสาวเผ่าปีศาจราตรี แล้วหักมันอย่างแรง!

 

ได้ยินเพียงเสียง เป๊าะ!

 

กระดูกแขนของหญิงสาวเผ่าปีศาจราตรีถูกหักแยกออกเป็นสองส่วน หากไม่มีเนื้อและผิวหนังคอยเชื่อมต่อ มันคงหลุดออกจากร่างเธอไปแล้ว

 

“อื๊อออ!”

 

ใบหน้าของหญิงสาวเผ่าปีศาจราตรีบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด แต่เพราะถูกบีบคอ เธอเลยไม่สามารถตะโกน ได้แต่ทำเสียงอู้อี้ในลำคอ

 

ซูเฉินไม่หวั่นไหว ตรงไปหักแขนอีกข้างทันที

 

เจ็บปวดเพียงใดสามารถมองออกได้อย่างชัดเจน เวลานี้ดวงตาของหญิงสาวเผ่าปีศาจราตรีเปลี่ยนเป็นขาวซีด แทบจะเป็นลมอยู่แล้ว

 

เมื่อเห็นว่าจุดไฟแห่งความหวาดกลัวจนได้ที่ ซูเฉินก็ถอนพลังจิตออก เหวี่ยงหญิงสาวเผ่าปีศาจราตรีลงกับพื้น