Ep.191

 

“หุบปากให้หมด!”

 

ซูเฉินตวาดเสียงเย็น ทุกคนสะดุ้งตกใจ สรรพเสียงทั้งห้องพลันเงียบหายราวกับปีกจั๊กจั่น

 

เขากวาดมองไปทั่วห้อง สุดท้ายสายตาเบนกลงบนร่างของชายชราผอมบาง เอ่ยถามเสียงหม่นว่า “ที่นี่คือที่ไหน?”

 

“เรียนนายท่าน ที่นี่คือคฤหาสน์ของโจวฉาง” ชายชรากลัวว่าหากตอบช้าเกินไป จะชักนำเภทภัยมาสู่ตน จึงเอ่ยปากอย่างเร่งร้อน

 

“แล้วพวกคุณเป็นใคร?” ซูเฉินยังคงถามต่อ

 

“พะ .. พวกเราเป็นชาวเมืองหวังเยว่ จะเรียกว่าเป็นลูกน้องของโจวฉางก็ได้” สำหรับคำถามนี้ ชายชราตอบด้วยความรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

 

ซูเฉินหรี่ตาลง ใช้ความคิด

 

เขาพอจะเดาได้แล้ว คาดว่าคนเหล่านี้คงได้รับข่าวว่าโจวฉางถูกฆ่าตาย จึงฉวยโอกาสปล้นทรัพย์สิน

 

“งั้นมีซอมบี้หรือพวกสัตว์กลายพันธุ์ที่อยู่รวมกันเยอะๆอยู่แถวๆนี้บ้างไหม?” ซูเฉินถามอีกครั้ง

 

ก่อนหน้านี้ เขาไม่เจอสัญญาณของพวกซอมบี้หรือสัตว์กลายพันธุ์จำนวนมากบนหน้าจอควบคุมส่วนกลาง ดังนั้นเมื่อมีโอกาส จึงถามข้อมูลจากคนในพื้นที่

 

ชายชราผอมบางคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “มีสัตว์กลายพันธุ์จำนวนมากอาศัยอยู่ในเทือกเขาเหยกู่ ”

 

ได้ยินแบบนั้น ดวงตาของซูเฉินเปล่งประกายขึ้นทันที

 

เขาเคยเห็นเทือกเขาเหยกู่บนแผนที่มาก่อน มันเป็นทิวเขาที่ไม่เล็กไม่ใหญ่

 

นอกจากนี้ยังมีสถานชุมชนขนาดเล็กที่ชื่อว่า ‘เฝิงซี’ อยู่ใกล้ๆกันอีกด้วย

 

หลังจากได้รับข้อมูลที่ต้องการแล้ว ซูเฉินอารมณ์ดีขึ้นมาก กล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า “ออกไปจากที่นี่ให้หมด!”

 

“ขอบคุณนายท่าน!”

 

ชายชราผอมบางและคนอื่นๆคล้ายได้รับคำประกาศนิรโทษกรรม ทั้งหมดรีบหนีออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุด

 

รอจนกระทั่งทุกคนจากไป ซูเฉินจึงปลดปล่อยพลังจิต เริ่มสำรวจคฤหาสน์

 

จุดสีดำที่แสดงบนหน้าจอควบคุมส่วนกลาง มันตั้งอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้

 

จุดประสงค์ของการปลดปล่อยพลังจิต ก็เพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิตจากต่างโลก

 

ไม่นาน เขาก็พบว่ามีห้องใต้ดินซ่อนอยู่ในคฤหาสน์

 

ชั้นใต้ดินที่เจอมีขนาดไม่ใหญ่มาก และด้านในมืดสนิท

 

ซูเฉินควบคุมพลังจิตของเขา ค่อยๆขยายลงไป เมื่อถึงปลายทางของชั้นใต้ดิน หางตาของเขากระตุกขึ้นทันที

 

เพราะภายใต้รัศมีการสำรวจของพลังจิต เขาเห็นผู้หญิงผมยาวกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ข้างใน

 

อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงคนนี้แตกต่างจากมนุษย์มาก

 

เพราะเธอมีใบหูที่ยาวและแคบ หลังหูมีขนปุกปุย ผิวของเธอเป็นสีฟ้าอ่อน มีเขี้ยวแหลมสองซี่โผล่ออกมานอกปาก และยังมีปีกสีดำคู่หนึ่งบนแผ่นหลัง

 

“หรือว่าเธอจะเป็นสิ่งมีชีวิตจากต่างโลก?” ซูเฉินขมวดคิ้ว

 

ก่อนจะมาที่นี่ เดิมเขาคิดว่าคงเป็นพืชโลหิต แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่

 

หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง ซูเฉินก็ตัดสินใจว่าจะลงไปดู

 

เนื่องจากที่นี่คือบ้านของโจวฉาง และสิ่งมีชีวิตจากต่างโลกก็ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ดังนั้นระหว่างพวกเขาต้องมีการสมรู้ร่วมคิดบางอย่างกันแน่ๆ

 

เนื่องจากไม่ทราบกลไกทางเข้าห้องได้ดิน ซูเฉินเลยชกพื้นเปิดรู แล้วกระโดดลงจากด้านบน

 

หญิงสาวต่างสายพันธุ์ในห้องใต้ดิน เมื่อได้ยินเสียงโครมใหญ่ ก็ผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

เมื่อเธอเห็นว่ามีชายแปลกหน้าเข้ามา ก็ตะโกนสวนกลับไป “แกเป็นใคร? กล้าดียังไงถึงได้บุกรุกที่นี่ แล้วโจวฉางเล่าไปไหนแล้ว?”

 

หญิงสาวต่างสายพันธุ์ไม่ได้ใช้ภาษากลางของทวีปเสวียนเทียน แต่ซูเฉินปลดล็อค [หมื่นภาษาและคำศัพท์] เชี่ยวชาญในทุกๆสำเนียง ดังนั้นย่อมสามารถเข้าใจความหมายของมันได้ดี

 

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังรู้ด้วยว่าภาษาที่หญิงสาวต่างสายพันธุ์ใช้นั้นเป็นของ ‘เผ่าปีศาจราตรี’

 

จากนั้น เขาก็เอ่ยเป็นภาษาของ ‘เผ่าปีศาจราตรี’ ว่า “แกมาจากเผ่าปีศาจราตรีใช่ไหม? ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่?”

 

หญิงสาวต่างสายพันธุ์ตกใจอยู่พักหนึ่ง ก่อนเพ่งมองซูเฉินดีๆอีกครั้ง สีหน้าของเธอค่อยๆมืดมนลง กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมจริงจังว่า “คุณเป็นใคร? ทำไมถึงรู้ภาษาเผ่าปีศาจราตรีของพวกเรา?”

 

“ฉันเป็นใคร แกไม่มีคุณสมบัติที่จะรู้” ซูเฉินหรี่ตาลง เริ่มเอ่ยขู่ “และแกควรตอบคำถามฉันอย่างตรงไปตรงมา ไม่อย่างงั้นก็อย่าหาว่าฉันหยาบคาย!”