Ep.170

ซูเฉินสั่งการในใจ เปิดใช้งาน [รองเท้าเพิ่มความเร็ว] ในทันที แสงสีม่วงพลันสว่างวาบที่เท้าทั้งสองข้างของเขา ราวกับสายลมกรรโชก พุ่งไปยังทิศทางของเสียงโหยหวนที่ดังเข้ามา

เมื่อกระโจนถึงระยะห่างถึง 50 เมตร ภายในรัศมีพลังจิตของซูเฉิน ต้นไม้สีเลือดที่สูงใหญ่กว่าสิบเมตรก็ปรากฏขึ้น

ตามลำต้นของต้นไม้โลหิตนี้ เต็มไปด้วยเถาวัลย์หนาหลายสิบเส้นกำลังร่ายระบำ มองไปมองมาคล้ายหนวดหมึกสีแดง

ที่แปลกที่สุดก็คือ ตรงช่วงบนของต้นไม้โลหิต มีใบหน้าของผู้หญิงงอกออกมา แม้ใบหน้าจะดูเย็นชา แต่ขณะเดียวกันก็งดงามมาก

“จี๊ จี๊ จี๊!”

ในตอนนั้นเอง หญิงสาวพลันกวาดสายตาที่ทั้งเย็นชาและงดงามมองมายังซูเฉิน ส่งเสียงหวีดร้องน่าขนลุก

ดวงตาของซูเฉินค่อยๆหรี่ลง ขณะที่กำลังจะลงมือ ทันใดนั้นเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งก็ดังขึ้นข้างหูเขา

“เจ้าหนู แกเป็นใครกัน กล้าดียังไงถึงมาบุกรุกอาณาเขตของฉัน? เบื่อชีวิตแล้วหรือ?”

“นี่แกพูดภาษามนุษย์ได้ด้วย?” ซูเฉินอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ

แต่ไม่นาน เขาก็ตระหนักถึงความผิดปกติ เพราะเสียงไม่ได้ดังมาจากผู้หญิงเย็นชา แต่มันมาจากอีกทิศทางหนึ่ง

ซูเฉินควบคุมพลังจิต กวาดออกไปสำรวจ แต่แล้วเปลือกตาเขาต้องกระตุกทันที

ไม่ไกลออกไป ปรากฏหญิงสาวใบหน้าซีดเผือดคนหนึ่ง ตรงหน้าอกเธอถูกเถาวัลย์สีเลือดแทงทะลุ ห้อยเธอลอยอยู่กลางอากาศ

และเสียงเมื่อครู่ เป็นหญิงสาวคนนั้นที่พูด

นอกจากนี้ ซูเฉินยังพบว่า รอบๆหญิงสาวคนนั้น ยังมีมนุษย์อีกกว่า 20 คน ทั้งหมดถูกเถาวัลย์หนามแทง หิ้วตัวให้ลอยอยู่กลางอากาศเช่นกัน

และใบหน้าของทุกคนแสดงถึงความเจ็บปวด

“นี่แกกำลังทรมานมนุษย์อย่างงั้นหรอ?” ซูเฉินหันไปมองผู้หญิงท่าทีเย็นชา ปลดปล่อยจิตสังหารตรึงลงบนร่างเธอ

ในเวลานี้ เขาเข้าใจแล้ว ที่แท้มนุษย์เหล่านี้มิได้อยู่ร่วมกันกับสิ่งมีชีวิตต่างดาวอย่างสงบแต่อย่างใด

ตรงกันข้าม ทุกคนกำลังถูกพืชโลหิตเข้าควบคุม!

แม้ซูเฉินจะไม่รู้จักมนุษย์เหล่านี้ แต่อย่างไรก็เป็นเผ่ามนุษย์เช่นเดียวกัน นอกจากนี้เขาไม่ต้องการเห็นสิ่งมีชีวิตจากต่างโลกทำร้ายสหายร่วมชาติของตนเอง

“เจ้าหนู อย่าเข้ามาสอดเรื่องของฉัน ออกไปจากที่นี่ซะ แล้วฉันจะไว้ชีวิตแก!”

ช่วงเวลานั้นเอง เสียงของผู้ชายอีกคนหนึ่งดังขึ้น

เป็นชายวัยกลางคนที่ถูกแทงด้วยเถาวัลย์สีเลือด ลอยมาอยู่ตรงหน้าซูเฉิน

เมื่อเผชิญกับคำข่มขู่จากพืชโลหิต ซูเฉินหาแยแสไม่ เอ่ยเสียงเย็นว่า “แกมาจากเผ่าพันธุ์อะไร บอกความจริงมาซะ แล้วฉันจะยอมปล่อยให้แกตายในสภาพครบสามสิบสอง!”

“ปากร้ายนักนะ ในเมื่อแกไม่อยากไป งั้นก็อยู่ที่นี่ กลายเป็นแบบเดียวกับมนุษย์คนอื่นๆซะ!” พืชโลหิตคำรามด้วยความโกรธ

เถาวัลย์มากกว่าสิบเส้นวิ่งออกจากต้นไม้ใหญ่ เลื้อยซ้ายเลื้อยขวาทิศทางไม่แน่นอน แต่เป้าหมายมีหนึ่งเดียว นั่นคือพุ่งเข้าหาซูเฉิน

ก่อนหน้านี้เพราะมันกลัวความแข็งแกร่งของซูเฉินเล็กน้อย นั่นคือเหตุผลที่มันเลือกจะข่มขู่ให้ซูเฉินล่าถอยออกไป

แต่เมื่อเห็นว่าซูเฉินไม่หวั่นไหว ทั้งๆที่มันถึงขั้นขู่ฆ่า

พืชโลหิตก็คล้ายถูกกระตุ้น เดือดดาลอย่างสิ้นเชิง เปลี่ยนใจเข้าสังหารซูเฉินในทันที

“ลงมือได้!” ซูเฉินประกาศลั่น

[นักรบจักรกล] ที่ยืนสงบอยู่ข้างกายซูเฉินตลอดมา บัดนี้คล้ายถูกเปิดสวิชซ์สังหาร กระโจนไปข้างหน้าอย่างดุเดือด

เถาวัลย์หลายเส้นถูกสะบั้นขาดจากกันทันที สร้างความเจ็บปวดจนพืชโลหิตจนร้อง จี๊ จี๊

ซูเฉินไม่อยู่เฉย หยิบ [ดาบเสริมมนตรา] ออกมา หลังจากอัดฉีดเวทย์ไฟเสร็จสิ้น คมดาบก็ถูกวาดออกไปในคราวเดียว

เห็นแค่เพียงมังกรไฟที่ก่อร่างขึ้นในอากาศที่ว่างเปล่า เหาะเหินไปข้างหน้า อุณหภูมิโดยรอบเพิ่มสูงขึ้น ราวกับว่ามันต้องการเผาไหม้บรรยากาศโดยรอบ

เถาวัลย์เลือดที่กำลังร่ายระบำ เพียงสัมผัสกับมันแค่เล็กน้อย ก็ถูกเผาเป็นเถ้าถ่านทันที

“อ๊าาาาาา!”

ได้รับความทุกทรมานจากเปลวเพลิง ลำต้นใหญ่ของพืชโลหิตสั่นเทาอย่างรุนแรง ใบหน้าของหญิงสาวบนต้นก็กลายเป็นบิดเบี้ยว

“โปรดยั้งมือ! ฉันยินดีที่จะแลกหินพลังงานเป็นการชดเชย ได้โปรดยกโทษให้ฉันด้วย”

เหมือนจะตระหนักได้ว่าตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซูเฉิน พืชโลหิตเริ่มหันมาขอความเมตตา

ซูเฉินหยุดโจมตี เอ่ยถามเสียงดัง “ขอถามอีกครั้ง แกเป็นคนของเผ่าพันธุ์ไหน?”

เห็นได้ชัดว่าพืชโลหิตไม่ใช่สายพันธุ์ดั้งเดิมของเกาะเฉียนหยู เช่นนั้นต้นกำเนิดของมันมาจากที่ใดกัน?

เรื่องนี้ดึงดูดความสนใจของซูเฉินเป็นอย่างมาก