วันนี้ลง 141 142

Ep.141

“เฒ่าโหยวร่วมมือกันกำจัดเขา!”

หวงคังสูดหายใจลึก หันไปข้างๆ ส่งสายตาให้ชายคนหนึ่งที่ใช้ผ้าพันคอสีดำบดบังใบหน้า

เมื่อตระหนักว่าซูเฉินน่าจะเป็นผู้ฝึกฝนครบทั้งสามอาชีพหลัก หวงคังก็กระจ่างแก่ใจ  หากสู้ตัวต่อตัว พวกเขาทั้งสามไม่ว่าจะคนไหน ล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซูเฉิน

และหากต้องการสังหารสัตว์ประหลาดเช่นนี้ มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น คือทั้งสามคนต้องรวมมือกัน จึงมีโอกาสสำเร็จ

ด้วยเหตุนี้ หวงคังจึงมิอาจยืนเฉย ปล่อยให้ชายชุดคลุมเหลืองถูกซูเฉินฆ่าตายโดยเด็ดขาด

ชายที่ถูกเรียกว่าเฒ่าโหยวก็มองออกว่าสถานการณ์ไม่ดีเช่นกัน ร้องตะโกนว่า “ทุกคนโจมตีพร้อมกัน!”

ทันใดนั้น สมาชิกนับสิบที่หวงคังและเฒ่าโหยวนำมา ทั้งหมดตรงเข้าหาซูเฉิน มุ่งหมายสังหารเขา

แต่ในเวลานั้นเอง ซูเฉินไวกว่าก้าวหนึ่ง เขาเริ่มโจมตีสวนกลับชายชุดคลุมเหลืองแล้ว

เห็นแค่เพียงหนึ่งหมัดที่กำแน่น ซัดแหวกอากาศ โดยปลายทางคือศีรษะของชายในชุดคลุมเหลือง

ชายในชุดคลุมเหลืองหวาดกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ แต่เพราะถูกพันธนาการด้วยพลังจิต ทำให้การเคลื่อนไหวของเขาเป็นไปอย่างเชื่องช้า ไม่มีเวลามากพอที่จะทานรับกำปั้นอันตรายของซูเฉิน

ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤต เขาตะโกนเสียงดังลั่น “แกจะฆ่าฉันไม่ได้! ฉันเป็นคนของเมืองทงเทียน!”

“ไร้สาระ! ต่อให้เจ้าเมืองทงเทียนมาอยู่ที่นี่  ฉันก็จะฆ่ามัน!”

ซูเฉินหัวเราะเย็นชา พลังอันบ้าคลั่งรุนแรงปะทุออกจากกายเขา หนึ่งหมัดประทับลงเหนือศีรษะของชายชุดคลุมเหลืองอย่างแม่นยำ

ได้ยินเพียงเสียง ‘กร๊อบ’ ของกะโหลกที่แตกหัก ศีรษะของชายชุดคลุมเหลืองยุบไปครึ่งหนึ่ง ตายอย่างไม่สามารถตายได้อีก

“สารเลว! ชีวิตแลกชีวิต! แกต้องตาย!”

ความตายของชายชุดเหลือง ทำให้เฒ่าโหยวเศร้าโศก แหงนหน้ากู่ก้องฟ้า

“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันจะส่งแกไปอยู่เป็นเพื่อนมันเอง!” ซูเฉินหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือออกไปและหยิบ [ดาบเสริมมนตรา] ออกมาจากถุงเก็บของ

“ฆ่า!”

หวงคังถือขวานยักษ์ไว้ในมือ กระโจนเข้าหาซูเฉินก่อนเป็นคนแรก

เขาทราบดี วันนี้หากซูเฉินไม่ตาย พวกเขาก็อย่าหวังว่าจะได้พบจุดจบที่ดี

ดังนั้นขจัดสิ้นความกลัวที่มีต่อซูเฉินไปอย่างสิ้นเชิง ทุ่มสุดกำลังโจมตี

เฒ่าโหยวกุมดาบโค้งในมือ กวาดฟันคราหนึ่งจากด้านข้าง ประสานโจมตีกับหวงคัง

แม้ตกอยู่ในสถานการณ์นี้ แต่ซูเฉินก็ยังคงเยือกเย็น สงบนิ่งไม่ไหวติง

จนกระทั่งหวงคังพุ่งมาถึงด้านหน้า แสงสีม่วงพลันสว่างวาบใต้เท้าซูเฉิน เสี้ยวพริบตาต่อมา เขาหายวับไปดั่งภูติผี

ในจังหวะนั้นเอง หวงคังสับขวานลงไปพอดี ทว่ามันไม่แม้จะได้สัมผัสกระทั่งชายเสื้อของซูเฉิน

“ท่าไม่ดีแล้ว!”

หวงคังตระหนักถึงอันตรายได้ทันที นั่นเพราะเขาใช้พละกำลังเกือบทั้งหมดไปกับคมขวานนี้ แต่กลับไม่สามารถสร้างความเสียหายใดๆแก่ซูเฉินได้เลย

ซึ่งโดยปกติแล้ว หลังจากทุ่มโจมตีสุดแรง ต้องใช้เวลาครู่หนึ่งตั้งหลักใหม่ และในช่วงเวลานั้น  ซูเฉินย่อมฉวยโอกาสลอบโจมตีเขาอย่างแน่นอน ปัจจุบันหวงคังจึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก

หางตาของเฒ่าโหยวกระตุก ลอบร้องในใจ “เหตุใดเขาถึงได้ว่องไวเช่นนี้!?”

เดิมทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 ดังนั้นความเร็วของพวกเขาสมควรเทียบเท่ากัน

อย่างไรก็ตาม ซูเฉินได้เปรียบตรงที่เขามี [รองเท้าเพิ่มความเร็ว]  ยิ่งหลังจากที่มันถูกอัพเกรด ขีดจำกัดความเร็วของมันก็ยิ่งสูงกว่าเดิมมาก

อาศัยเจ้าสิ่งนี้ ขับหนุนให้ความเร็วของซูเฉินในปัจจุบัน มันไวยิ่งกว่าผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 เสียอีก!

จึงไม่น่าแปลกใจเลย ว่าทำไมหวงคังถึงโจมตีไม่โดน

ในเวลาเดียวกัน ร่างของซูเฉินวูบไหว ปรากฏกายขึ้นเบื้องหลังหวงคัง ฟาดฟันลงไป

“รู้อยู่แล้วว่าแกต้องฉวยโอกาสนี้ ยังอ่อนหัดนัก!”

ท่ามกลางช่วงเวลาความเป็นความตาย หวงคังเกร็งแขนจนเส้นเลือดปูดโปน ตวัดขวานยักษ์ไปด้านหลัง ยกขึ้นปิดกั้นการโจมตีจากมุมอับ

เจ้าตัวคิดใช้ขวานยักษ์ในการสกัดกั้นกระบวนท่าสังหารของซูเฉิน แม้รับไม่ได้ทั้งหมด จนอาจถึงขั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่มีทางถึงตายอย่างแน่นอน

น่าเสียดาย ที่หวงคังดูเหมือนจะมั่นใจ และดูแคลนพลังทำลายล้างของซูเฉินมากเกินไป

ดาบในมือซูเฉินไม่เพียงแต่แฝงไปด้วยพละกำลังของผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 เท่านั้น แต่มันยังอัดฉีดไปด้วยเวทมนต์ธาตุลมอีกด้วย

นอกจากนี้ [ดาบเสริมมนตรา] ยังเป็นอาวุธวิเศษ ขวานธรรมดาจะต้านทานมันได้อย่างไร?