Ep.114

“กองกำลังซอมบี้ของจิ่นเฟยซี ตอนนี้มีจำนวนเท่าไหร่แล้ว?” ซูเฉินถาม

สีหน้าของหานเฟิงอึมครึมลงเล็กน้อย ถอนหายใจและกล่าวว่า “อย่างน้อยมากกว่า 100,000 ตัว”

“100,000 … ” ซูเฉินพยักหน้า หัวใจเขาเริ่มเต้นรัวขึ้นเล็กน้อย

ซอมบี้หนึ่งแสนตัว เทียบเท่าได้กับคลื่นซอมบี้ขนาดกลาง หากเป็นคนอื่น แค่ได้ฟังตัวเลขนี้คงขวัญหนีดีฝ่อแล้ว

แต่ซูเฉินไม่เพียงไม่กลัว ตรงกันข้าม เขาเกิดความรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

เขาต้องการชิ้นส่วนจำนวนมากเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเอง ถ้าเขาสามารถสังหารกองกำลังซอมบี้นี้ลงได้ ซูเฉินอาจกอบโกยชิ้นส่วนมากถึง 10,000 ชิ้นในคราวเดียว

และ [กายาเทพอสูรนิรันดร์] ที่เขาใฝ่ฝัน อาจสามารถแลกเปลี่ยนได้ในที่สุด

แน่นอน ซอมบี้แสนตัวไม่ใช่จำนวนน้อยๆ ยังคงเป็นเรื่องยากหากคิดจะล่าและสังหารพวกมัน จำเป็นต้องมีการเตรียมการอย่างรอบคอบ และวางแผนในระยะยาว

หลังจากได้ข้อสรุปนี้ ซูเฉินก็หยิบผลไม้ขนมปังสองสามลูกออกจากถุงเก็บของ และวางมันลงในมือของหานเฟิง “นี่สำหรับคุณ ส่วนหินพลังงานนั่นเอากลับไปเถอะ”

ข่าวจากหานเฟิงสำคัญมาก เพียงพอที่จะแลกเปลี่ยนผลไม้ขนมปังเหล่านี้

“เจ้าสิ่งนี้คืออะไร ฉันสามารถกินได้จริงๆหรอ?”

นี่เป็นครั้งแรกที่หานเฟิงได้เห็นผลไม้หน้าตาประหลาด เขาไม่แน่ใจว่าจะกินมันได้หรือไม่ จึงลองชิมดู

หลังจากกัดไปคำหนึ่ง ดวงตาของเขาเปล่งประกายขึ้นทันใด

ผลจากต้นขนมปังไม่ใช่แค่กินได้อย่างเดียว แต่รสชาติยังดีมากอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอย่างเขาที่ไม่ได้กินอาหารมาหลายวันแล้ว สิ่งนี้เสมือนดั่งอาหารอันโอชะ

“น้องชาย ขอบคุณมากนะ” หานเฟิงกล่าวด้วยความสำนึกคุณ

แม้ซูเฉินจะไม่ได้ให้มามากมาย แต่ก็เพียงพอที่จะช่วยให้เขาและภรรยาไม่อดตายไปสองสามวัน

ยิ่งไปกว่านั้น ซูเฉินไม่รับค่าตอบแทนจากพวกเขา เรื่องนี้น่ายกย่องมาก

ต้องรู้นะว่า ในวันสิ้นโลก อาหารเป็นสิ่งหายากและมีค่ามาก

ต่อให้ซูเฉินคิดละโมบ ถือโอกาสนี้ขอหินพลังงานเพิ่ม เพื่อแลกกับการไม่อดตาย หานเฟิงก็อาจยอมประนีประนอม

ซูเฉินยิ้มและกล่าวว่า“คุณบอกข้อมูลแก่ผม ผมจ่ายอาหารตอบแทน ถือเป็นการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม”

ข่าวที่หานเฟิงนำมา มีค่ามากกว่าหินพลังงานไม่กี่ก้อน

อีกอย่าง นั่นเป็นแค่ผลจากต้นขนมปังไม่กี่ลูกเท่านั้น ซูเฉินยังมีเก็บไว้อีกมากมายในถุงเก็บของ

“น้องชาย ขอถามอะไรหน่อยสิ ไม่ทราบว่านายจะไปที่ไหน?” หานเฟิงถามอย่างไม่มั่นใจ

ซูเฉินยิ้มและกล่าวว่า “เรียกผมว่าซูเฉินก็ได้ ”

เขารู้สึกว่าหานเฟิงไม่เลวเลย ซูเฉินบอกตามความจริง “พวกเรากำลังจะไปยังเทือกเขาฮวงเจ๋อ”

“ซูเฉิน .. ” หานเฟิงพึมพำ แต่แล้วสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป รีบเอ่ยเตือน “ซูเฉิน ฉันได้ยินมาว่ามีซอมบี้จำนวนมากปรากฏตัวขึ้นในเทือกเขาฮวงเจ๋อ นายไม่ควรไปที่นั่น”

“ไม่ต้องห่วง ผมเตรียมการเอาไว้แล้ว” ซูเฉินไม่สนใจ

เรื่องคลื่นซอมบี้น่ะ เขารู้อยู่ตั้งแต่แรกแล้ว

เพราะอย่างไรเสีย ในตอนที่เขาหนีออกจากเทือกเขาฮวงเจ๋อ ซูเฉินยังไล่ฆ่าซอมบี้ระหว่างทางเป็นจำนวนมากอยู่เลย

เมื่อเห็นว่าซูเฉินไม่สนใจ หานเฟิงจึงชักชวนอีกครั้ง “ย่านนั้นไม่ปลอดภัย ไม่เพียงมีซอมบี้มารวมตัวกัน แต่จิ่นเฟยซีก็เหมือนจะหมายตาสถานที่แห่งนั้นไว้เช่นกัน ฉันว่านายไปเมืองจิงกังกับพวกเราดีกว่า”

“เมืองจิงกังตอนนี้ก็วุ่นวายไม่ต่างกัน แต่ก็ยังถือเป็นสถานที่ที่ดี พวกเรามีธุระ ดังนั้นคงไปกับคุณไม่ได้” ซูเฉินพยักหน้า กล่าวอธิบาย

เขาเพิ่งสร้างหายนะในเมืองจิงกัง เป็นไปได้สูงว่าเมืองจิงกังคงเละเป็นโจ๊กในเวลานี้

“ถ้าอย่างนั้น หวังว่าโชคชะตาจะพาพวกเรามาพบกันอีก” หานเฟิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย หลังจากกล่าวคำอำลา เขาก็กลับขึ้นไปที่รถฐานทัพพร้อมเฉินเหมยฮวา

ฝั่งซูเฉิน เขากลับขึ้นมายัง [รถศึกอัจฉริยะ]

หลังจากทั้งสองฝ่ายร่ำลา ก็แยกย้ายกันไปคนละเส้นทาง