บทที่ 93 นางฟ้าแห่งทะเลจีนตะวันออก

เย่เฟิงและหลงหวางเอ๋อร์โอบกอดกันเงียบๆ ในเงามืดของแสงไฟข้างถนนเหมือนคู่รักวัยรุ่นทั่วไป… ไม่มีใครเข้าใจถึงความซับซ้อนของสถานการณ์ที่ทั้งคู่ประสบอยู่

โชคดีที่ในบรรยากาศเช่นนี้เรื่องราวต่างๆ ถูกพักเอาไว้ก่อน ทั้งสองโอบกอดกันโดยไร้เสียง  ทำให้ห้วงความคิดของพวกเขานั้นเรียบง่ายและบริสุทธิ์อย่างยิ่ง

“แล้ว… นายจะกลับเลยไหม? ไม่ปู่ของนายจะ…”

หลงหวางเอ๋อร์ยังคงกังวลเล็กน้อยในเรื่องของเย่เฟิง  เธอจึงไม่กล้ารั้งตัวเขาไว้นาน

“อืมมม ยังไง เธอต้องระวังตัวหน่อยนะ อย่าเที่ยววิ่งไปทั่วแบบที่ผ่านมาอีก”

เย่เฟิงลังเลเล็กน้อยก่อนจะเตือนหญิงสาวอีก “ถึงพลังบ่มเพาะของเธอจะเพิ่มขึ้นทีละน้อย แต่เธอก็ต้องคิดถึงความปลอดภัยของตัวเองก่อนเสมอ เข้าใจไหม?”

เขาคิดถึงสถานการณ์ที่ถ้าหลงหวางเอ๋อร์ตกอยู่ในเงื้อมมือของชายวิปริตอย่าง “คู่รักกระบี่สุขสันต์” อีก  และเขาไม่อยู่กับเธอในขณะนั้น  มันคงยากมากที่หญิงสาวจะหลีกหนีจากการไล่ล่าชายวิปริตผู้นั้น  ในสถานการณ์แบบนั้นย่อมเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นอย่างแน่นอน  สุดท้ายแล้วตัวเขาก็คงเสียใจไปตลอดชีวิต

ความจริงแล้วเย่เฟิงแค่กำลังรอคอยโอกาสที่จะเปิดเผยตัวตน  เพื่อที่เขาจะสามารถช่วยเหลือสาวน้อยของเขาในขั้นตอนของการทะลวงจุดชีพจร  เขารู้ดีว่าด้วยร่างชีพจรเทวะของหญิงสาว  พลังบ่มเพาะของเธอจะพุ่งสูงเสียดฟ้าอย่างแน่นอน  และในเวลานั้นพลังชี่ภายในตัวเธอจะไม่มีความหมายอีกต่อไป

แต่ในตอนนี้เย่เฟิงยังคงไม่กล้าและไม่ไว้วางใจพอที่จะเปิดเผยความลับเกี่ยวกับพลังฝึกตนของเขาให้เธอได้รับรู้  ชายหนุ่มจำสิ่งที่อาจารย์ซูเฟยหยิ่งของเขาได้สอนตั้งแต่เขายังเด็กได้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ให้สอดส่ายสายตาอย่างระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา และให้เหลือทางหนีสำหรับคนคนหนึ่งไว้เสมอ  นี่เป็นความจริงที่ขมขื่นยิ่งนัก

“ฉันจะกลับบ้าน…”

หลงหวางเอ๋อร์สัมผัสได้อย่างง่ายดายว่าเย่เฟิงกำลังเป็นห่วงเธออย่างมาก  หญิงสาวจึงพยักหน้ารับ  แล้วเธอก็ถามขึ้น “เอ่อ  แล้วตอนนี้  เกิดอะไรขึ้นในบ้านของครอบครัวเธอเหรอ? เด็กสาวคนนั้น…”

หัวใจของเย่เฟิงถึงกับเต้นผิดจังหวะเมื่อคำถามนี้หลุดจากปากหญิงสาว  เขารู้ว่าเธอหมายถึงซูเหมิงหาน

คำว่า‘เด็กสาว’ที่หลงหวางเอ๋อพูดถึง เย่เฟิงไม่ควรจะทำตัวเหมือนไม่เข้าใจ ดังนั้น เขาจึงตอบออกไปตามตรง “เธอคนนั้นเป็นเพื่อนร่วมชั้นของฉันเอง  แต่เพราะปัญหาบางอย่างทางบ้าน  เธอเลยมาอยู่ที่บ้านฉันชั่วคราว…”

“ไม่ต้องอธิบายแล้วล่ะ”

ปรากฏร่องรอยความขมขื่นที่ซ่อนอยู่ในตาคู่สวยของหลงหวางเอ๋อร์  หญิงสาวเม้มปากบางๆ ก่อนจะเขย่งเท้าขึ้น แล้วค่อยๆบรรจงจูบลงบนหน้าเขาอย่างอ่อนโยน “นอกจากเรื่องนี้  ฉันยังรู้อีกว่าการหมั้นหมายระหว่างนายกับหลานสาวคนโตของตระกูลหลินถูกกำหนดเอาไว้แล้ว…….”

หลังจากพูดแบบนั้น หญิงสาวคลี่ยิ้มก่อนจะกล่าวต่อ “แต่ฉันไม่สนใจอะไรอีกแล้วล่ะ  เวลาที่ฉันไม่อยู่ใกล้นาย   นายจะไปควงสาวๆเหล่านั้นก็ได้นะ  และแน่นอนว่าวันใดที่ฉันรู้สึกว่านายไม่ต้องการฉันอีก นายจะ………”

“ไว้ใจฉันเถอะ ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอก”

เย่เฟิงรู้สึกอับจนหนทางขึ้นมาทันที (เย่เฟิงถึงกับมึนตึ้บ)

แค่การที่หลงหวานเอ๋อร์มีร่างชีพจรเทวะก็เพียงพอแล้วที่เย่เฟิงจะไม่ทอดทิ้งเธอ  แต่กลับกลายเป็นว่าหญิงสาวไม่สนใจทั้งซูเหมิงหานและหลินซื่อฉิง  นี่เป็นจุดที่เขาประหลาดใจที่สุดถึงกับสะดุ้งเล็กๆ  เพราะถ้าเกิดมีอุบัติเหตุบางอย่างให้หลงหวานเอ๋อร์สลับตัวกันกับซูเหมิงหาน  ด้วยเงื่อนไขเดียวกัน  เย่เฟิงมั่นใจ 100% เลยว่าหลงหวางเอ๋อร์จะต้องเกิดความหึงหวงเป็นอย่างมาก

เมื่อได้ยินคำรับรองจากเย่เฟิงว่าเขาจะไม่ทอดทิ้งเธอ  หลงหวางเอ๋อร์รู้สึกเหมือนได้รับการเยียวยาจิตใจจนมีความสุขมากขึ้น รอยยิ้มค่อยๆปรากฏบนใบหน้าของเธอ  จากนั้นจึงหันหลังเดินจากไปในที่สุด  แม้ว่าหญิงสาวกำลังเดินจากไป แต่เธอก็ไม่ได้เต็มใจและเกลียดช่วงเวลาแบบนี้เหลือเกิน  ช่วงเวลาที่เธอจะต้องแยกจากเย่เฟิง

ทันใดนั้นความคิดบางอย่างก็วาบเข้ามา  หลงหวานเอ๋อร์หยุดเดินแล้วหันหลังกลับในทันที  เธอเอียงหัวเล็กน้อยแล้วถามขึ้น “นายบอกฉันได้มั้ยว่าทำไมนายถึงไปที่สุสานโบราณนั่น”

“เพื่อตามหาคนๆหนึ่ง”

เย่เฟิงตอบตรงไปตรงมา เขาไม่มีความจำเป็นที่ต้องปิดบังเรื่องนี้

“หาคน? ผู้ชายหรือผู้หญิง”

หลงหวางเอ๋อร์เริ่มเป็นกังวลทันทีที่ได้ยินคำตอบ

“ผู้หญิง”

เย่เฟิงถอนหายใจก่อนจะตอบ “ผู้หญิงคนนั้นเป็นอาจารย์ของฉันเอง  ฉันไม่ได้เจออาจารย์มานานแล้ว  มีคนถ่ายรูปอาจารย์ไว้ได้ตอนที่อยู่ในสุสานโบราณ  ฉันเลยไปที่นั่นเพื่อตามหาอาจารย์…”

เขาบอกเพียงว่าเขามีอาจารย์  ซึ่งไม่ได้เป็นการเปิดเผยการมีอยู่ของโลกเทวะ

“อาจารย์ของนายสวยมั้ย?”

หลงหวานเอ๋อร์ถาม

“เธอสวยมาก”

เย่เฟิงพยักหน้า

“อาจารย์มีผมยาวมาก? และเป็นผู้หญิงที่มีความเยือกเย็นใช่มั้ย?”

เธอถามขึ้นอีก

เขารู้สึกแปลกใจนิดหน่อย แต่ก็ตอบ “ใช่  เธอรู้ได้ไง?”

เธอขมวดคิ้วดกดำของเธอก่อนตอบ “มันแปลกๆ นะ  แต่เหมือนกับว่าอาจารย์ของนายจะเป็นคนเดียวกับคนที่เค้าลือกันอยู่ตอนนี้  เค้าเรียกกันว่า นางฟ้าแห่งทะเลจีนตะวันออก…”

“นางฟ้าแห่งทะเลจีนตะวันออก?”

เรื่องที่ได้ยินกระตุ้นความสนใจของเย่เฟิงในทันที

“อา! ช่วงนี้มีข่าวลือในโลกยุทธภพถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่ปรากฏตัวขึ้นที่ทะเลจีนตะวันออก พวกเขาเรียกเธอว่า นางฟ้า  ความเยือกเย็นของเธอ  เธอดึงดูดความสนใจของผู้คนในโลกยุทธภพอย่างมาก  ดังนั้นใครๆก็อยากจะไปเห็นนางฟ้าผู้เลอโฉม ผู้มีผมยาวถึงสะโพก ผู้ที่มีความเย็นชาไม่สนใจใครทั้งปวง”

หลงหวานเอ๋อร์คายข่าวลือทั้งหมดที่ได้ยินมาให้เขาฟัง

“ถ้างั้น ต้องเป็นอาจารย์แน่ๆ”

เป็นอีกครั้งที่ความสนใจของเย่เฟิงพุ่งข้ามข้อจำกัดทั้งปวง  เขาตื่นเต้นแบบสุดๆ  ชายหนุ่มพลันนึกถึงครั้งก่อนในสุสานโบราณที่เขาล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการตามหาร่องรอยของอาจารย์ซูเฟยหยิ่ง  ดีที่ครั้งนี้เขาได้ข่าวของอาจารย์ค่อนข้างเร็ว

“เอ…  นางฟ้าแห่งทะเลตะวันออก?”

ถ้าเป็นซูเฟยหยิ่งจริงๆ  อะไรที่ทำให้เธอไปที่นั่น  ตอนแรกมีคนเห็นเธอที่สุสานโบราณในภูเขาฉางไป่  ต่อมาก็ทะเลจีนตะวันออก…

เย่เฟิงส่ายหัวไปมา  เขาไม่เคยเดาใจเดาความคิดอาจารย์ถูกเลยสักครั้งเดียว

“ดังนั้นตอนนี้ นายอยากจะไปทะเลจีนตะวันออกใช่ไหม?”

หลงหวานเอ๋อร์ถามเขาด้วยความกังวลบางอย่าง

“อืมมม ยังหรอก ฉันยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ ยังไงเธอก็ระวังเรื่องความปลอดภัยของตัวเองด้วยล่ะ”

เย่เฟิงผงกหัว  เขาขอบคุณหลงหวานเอ๋อร์จากก้นบึ้งของหัวใจเขาเลยทีเดียวสำหรับข่าวสำคัญข่าวนี้

“งั้น… ฉันไปนะ”

หลงหวานเอ๋อร์ยืนอยู่ตรงนั้น ไม่มีคำพูดใดๆ  สุดท้ายก็ค่อยๆ หันหลังเดินจากไปหลังจากมองเย่เฟิงอย่างลึกล้ำ

ความจริงแล้ว  ยังมีสิ่งที่ธออยากจะถามเขาอีกมากมาย  อย่างเช่น  ทำไมเขาถึงปกปิดพลังฝึกตนของเขา  เป็นต้น  แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป  เพราะเธอเข้าใจว่าทุกคนมีความลับที่ไม่อยากเปิดเผยให้คนอื่นรู้  เธอเองก็มีเช่นกัน

ก่อนที่หลงหวางเอ๋อจะไป เย่เฟิงมองเห็นห้วงอารมณ์อันกว้างขวางปรากฎขึ้นในดวงตาของเธอ  และเขารู้ว่าเขาจะไม่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในห้วงเหล่านี้อีกแล้ว

“อาจารย์ แล้วผมจะรีบไปที่นั่นเพื่อตามหาท่าน!”

เย่เฟิงเงยหน้าขึ้น  เขามองขึ้นไปยังท้องฟ้าที่อาบไปด้วยแสงจันทร์  ไม่มีแม้ดาวสักดวงอยู่บนนั้น  มันเตือนเขาอีกครั้งว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ “โลกเทวะ” ที่เขาจากมาอีกแล้ว

ในโลกเทวะนั้น  ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน  ฟากฟ้ายามค่ำคืนจะเต็มไปด้วยดวงดาวเสมอ  ทำไมท้องฟ้าแห่งนี้จึงช่างกว้างขวางและว่างเปล่าเช่นนี้หนอ?

แน่นอน  ก่อนจะไปยังทะเลตะวันออก  เขาจะต้องกลับไปยังบ้านของเขา  ไม่เช่นนั้นแล้วตาเฒ่าปู่ของเขาต้องโมโหหนักจนทำให้เขาต้องหนีไปสุดขอบโลกแน่

………..

หลังจากที่หลงหวานเอ๋อร์แยกจากเย่เฟิง  เธอได้เดินตรงไปที่สถานีรถไฟเหยียนจิง

ตามธรรมชาติแล้วผู้คนในโลกยุทธภพมักจะเลือกใช้รถไฟในการเดินทางไกล  สำหรับหลงหวานเอ๋อร์ เธอเพียงต้องการหาที่พักสำหรับคืนนี้และซื้อตั๋วเดินทางในวันรุ่งขึ้น  แต่เมื่อถึงสถานีรถไฟเธอพลันเห็นเงาร่างคุ้นเคยสองร่างอยู่ด้านนอกสถานี

หลงชิง! หลงจื่อ!

คนสองคนที่เคยเป็นท่านลุงของเธอ  แต่ละคนมีพลังบ่มเพาะถึง 30 ปี  แถมยังเก่งกาจไร้เทียมทานในวิทยายุทธดั้งเดิมของตระกูลหลงอย่าง มังกรฟาดหาง เพลงดาบเลื่อนลอย และฝ่ามือคุณธรรม

“ท่านพ่อส่งพวกเขามาตามหาฉันเหรอ?”

เธอคิดกับตัวเอง  อย่างไรพวกเขาก็เป็นคนของเธอ  ยิ่งกว่านั้นเธอต้องกลับไปให้เร็วที่สุด  เพราะฉะนั้นหญิงสาวจึงไม่จำเป็นต้องกลัวพวกเขา

คิดดังนั้นเธอจึงเดินไปข้างหน้าอีกสองสามก้าวไปอยู่ตรงหน้าท่านลุงทั้งสองของเธอ “ท่านลุงชิง ท่านลุงจื่อ  พวกท่านมาที่นี่ได้อย่างไร?”

“หวานเอ๋อร์!”

หลงชิงที่อยู่ในเสื้อคลุมสีเขียวสำรวจสาวน้อยอย่างรวดเร็วตั้งแต่หัวจรดเท้า  เมื่อเห็นแล้วว่าไม่มีอะไรผิดปกติก็ผ่อนคลายลง

“หวานเอ๋อร์ หลานหนีออกมาได้ยังไงโดยที่ไม่มีใครรู้?”

หลงจื่อคาดคั้นหน้าตาจริงจัง  “ประมุขตระกูลหลงโกรธมาก  คราวนี้พี่สะใภ้ชวยหลานหนีใช่หรือไม่?  หลานรู้ไหมว่าพี่สะใภ้ต้องพลอยติดร่างแหไปด้วย”

“อืมมมมมมม…”

หลงหวานเอ๋อร์ยอมรับความผิดแต่โดยดี  แต่เธอก็รู้สึกเศร้าใจและสับสน  เธอหนีออกมาได้ด้วยความช่วยเหลือของพี่สะใภ้ชูชูแน่นอน  ซึ่งถ้าหลงโม่หรานรู้เรื่องนี้เขาจะต้องลงโทษเธอทั้งสองคนอย่างหนัก!  โชคยังดีที่คนในตระกูลหลงมักจะไม่ปล่อยให้ข่าวประเภทนี้เข้าถึงหูท่านประมุข  เพราะทุกคนคุ้นเคยกับสภาวะอารมณ์ของเขาเป็นอย่างดี ที่ความผิดแม้เล็กน้อยก็สามารถทำให้คนตกตายได้

“หนูอยากเจอพ่อ ลุงชิง ลุงจื่อ กลับบ้านกันเถอะ”

หลงหวางเอ๋อร์ไม่คิดอะไรมาก  เธอบอกท่านลุงของเธออย่างง่ายๆ

“ได้สิ ที่สำคัญคือเราต้องกลับไปกันนี่แหละ แต่หลานจะไม่ได้เจอท่านประมุขหรอกนะ”

หลงจื่อพูดต่อ “ตอนที่พวกลุงออกมาหาหลาน  ท่านประมุขก็ออกเดินทางไปทะเลจีนตะวันออกแล้ว  หลานก็รู้ว่าพ่อของหลานไม่ได้แต่งงานใหม่มาหลายปีแล้ว  คราวนี้ถ้าท่านหาโฉมงามเจอก็คงจะดี…”

เมื่อได้ยินแบบนี้ หลงหวางเอ๋อก็พลันอึ้ง

พ่อของเธอไปทะเลจีนตะวันออกเพื่อตามหานางฟ้ามาเป็นภรรยางั้นหรอ?

นางฟ้าคนนั้นคืออาจารย์ของเย่เฟิงไม่ใช่หรือไง?

………………………

แปลโดยทีมงานGSI