บทที่ 87 คนที่ถูกโยนลงมาจากตึก

ซ่งเทียนยิงที่ใส่ชุดสูทในสไตล์ตะวันตกมาถึงด้านหน้าของห้องชั้นหกของกาสิโนเทียนหัว เดิมทีห้องนี้เป็นที่ทำงานของชายหน้าบากแต่ตอนนี้เป็นที่ๆซูเหมิงหานกำลังถูกจับตัวไว้อยู่

“เป็นยังไงบ้าง ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือไม่?”

เขาเดินเข้าห้องไปสอบถาม

“เรียบร้อยดีฮ้าพี่ใหญ่ซ่ง”

ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าตกกระทรงผมฉาบด้วยเจลตอบอย่างตุ้งติ้ง

ซ่งเทียนยิงพยักหน้าด้วยความพอใจ จากนั้นมองไปยังในห้องเห็นซูเหมิงหานนอนอยู่บนโซฟาในสภาพไร้สติสัมปชัญญะ ใบหน้าสวยงามของเธอดูค่อนข้างซีดเผือด หญิงสาวใส่เสื้อชิฟฟอนสีชมพูดกระโปรงสีดำยาวถึงเข่า มันเปิดเผยผิวขาวนวลของซูเหมิงหานอย่างน่าดู

ยิ่งกว่านั้นมีชายแต่งชุดดำร่างสูงสองคนยืนอยู่ด้านข้างของโซฟา พวกเขาโค้งคำนับต้อนรับซ่งเทียนยิง

“สาวน้อย ยาตัวใหม่นี้แค่ได้ลองฉีดเข้าไปเพียงครั้งเดียวเธอก็จะขาดมันไม่ได้อีกต่อไป ไหนมาดูกันซิว่าจะรอดมือฉันไปได้อย่างไรกัน”
เขาหัวเราะอย่างชั่วช้าจากนั้นค่อยๆเดินไปถึงบริเวณขอบโซฟายื่นมือออกไปราวกับต้องการสัมผัสผิวอันนุ่มนิ่มของเธอ

แต่ทันใดนั้นประดูห้องถูกเปิดออกอย่างฉับพลัน!

“พี่ใหญ่ซ่ง ท่าไม่ดีแล้ว หน้าบาก… มันกลับมาแล้ว!”

ชายหนุ่มวิ่งเข้ามารายงานในสภาพหอยหายใจอย่างหนักหน่วง

“แล้วยังไงล่ะ? ต่อให้มันกลับมาพวกแกต้องกลัวด้วยงั้นหรือ? กลับไปทำตามแผนที่เราวางไว้ซะ แค่นั้นแหละ!”

ซ่งเทียนยิงกล่าวด้วยท่าทีค่อนข้างเหลืออด

“แต่ว่าพี่ซ่ง เจ้าหนุ่มคนนั้น คนที่จัดการพี่เถี่ยครั้งที่แล้วมันมาด้วยกันกับหน้าบากนะพี่!”

ชายหนุ่มยังพูดต่อไปอย่างร้อนรน

การบุกจู่โจมกาสิโนเทียนหัวครั้งที่แล้วของเย่เฟิงได้ฝังความกลัวไว้กับชายหนุ่มคนนี้อยู่ลึกทีเดียว เพราะว่าครั้งที่แล้วเย่เฟิงได้อัดพี่เถี่ยอย่างไม่สนใจใครแม้แต่น้อย ดังนั้นเมื่อเขาเห็นเย่เฟิงอีกครั้งมันทำให้เขากลัวกับความบ้าบิ่นของเย่เฟิงเป็นอย่างมาก

“อะไรนะ?”

สีหน้าของซ่งเทียนยิงพลันเปลี่ยนสีอย่างรุนแรงจนได้ เขาเริ่มจริงจังมากขึ้น ไม่ใช่ว่าเจ้าหนุ่มนั่นต้องถูกฆ่าตายไปด้วยมือของนักฆ่าแห่งกลุ่มไวเปอร์ไปแล้วงั้นหรือ? แล้วมันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน? เขาใช้เงินไปกว่าแปดล้านเพื่อจ้างสไนเปอร์ฝีมือฉกาจ จากนั้นไปทำการตกลงกับโหมวเจิ้นเฉียงให้ตั้งด่านตรวจเพื่อสกัดเย่เฟิง แล้วทำไมเจ้าหนุ่มนั่นถึงรอดมาได้กัน?

“ไร้ประโยชน์สิ้นดี! เร็วเข้า ไปด้านล่างไป สั่งให้ทุกคนยิงเจ้าหนุ่มนั่นให้ตายไปพร้อมกับหน้าบากซะ!”

สีหน้าของเขาเริ่มแสดงถึงความเสียใจออกมา ถึงแม้ว่าการตัดสินใจสั่งฆ่าเย่เฟิงอาจจะนำมาซึ่งปัญหาต่างๆมากมายเพราะว่าเย่เฟิงมีความสัมพันณ์กับตระกูลหลินแห่งเมืองเหยียนจิง แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาคิดเรื่องหยุมหยิมแบบนั้นแล้ว

“งั้นเหรอ? ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าแกจะฆ่าฉันได้ยังไง”

ตอนนั้นเองที่ซ่งเทียนยิงได้ยินเสียงแสนจะคุ้นเคยผ่านเข้ามาจากด้านนอกของห้อง

ยังไม่ทันสุดเสียงดีเย่เฟิงก็เดินเข้ามาในชุดสูทแบบตะวันตก การมาของชายหนุ่มยาวกับภูติผีปีศาจ ทันทีที่เขาเข้ามาได้ต่อยหมัดใส่คนส่งสารจนร่างของมันลอยไปในอากาศ สุดท้ายจึงตกลงมานอนกระอักเลือดกองอยู่กับพื้นและไม่ขยับอีกต่อไป

คนอื่นๆในห้องเริ่มรู้สึกตัวและตอบโต้ทันที ชายชุดดำร่างสูงสองคนรีบหยิบปืนพกขึ้นมา

แต่ความเร็วของเย่เฟิงนั้นเหนือคนธรรมดาสามัญไปแล้ว เขาทิ้งภาพติดตาไว้หลายภาพจากนั้นไปโผล่ตรงหน้าของซ่งเทียนยิงดึงคอเสื้อของเขาขึ้นมาและยกด้วยมือข้างเดียว!

“เย่เฟิง ทำไมแกถึงยังไม่ตาย!”

ซ่งเทียนยิงผู้ตื่นตระหนกพยายามดิ้นรนเพื่อต้องการเป็นอิสระ สีหน้าของเขาซีดเผือด เขาไม่คิดเลยว่าเย่เฟิงจะรอดจากการซุ่มยิงไปได้

“แกไม่ต้องสนใจเรื่องนั้นหรอก ที่แกควรจะใส่ใจคือแกกำลังจะตายอย่างไรดีกว่านะ”

เย่เฟิงแค่นเสียงใส่ ชายหนุ่มโยนร่างของซ่งเทียนยิงขึ้นไปบนอากาศ

หลังจากนั้นเขากำหมัดแน่นพลันรวมรวบพลังชี่ไว้บริเวณหมัด แล้วต่อยออกด้วยความเร็วสูงสุดใส่บริเวณหน้าท้องของซ่งเทียนยิง!

เปรี้ยง!

ด้วยระดับพลังยุทธ์ตอนนี้หมัดของเขามีน้ำหนักได้ถึง 500 กิโลกรัม เพียงแค่หมัดเดียวที่ชกออกไปส่งให้ร่างของซ่งเทียนยิงลอยไปราวกับลูกวอลเล่ย์บอล ร่างของมันไปกระแทกกระจกตรงหน้าต่าง “เพล้ง” จากนั้นลอยร่วงออกจากตึกไป!

เสียงกรีดร้องอย่างน่าสมเพศเวทนาของซ่งเทียนยิงที่กำลังร่วงหล่นอย่างรวดเร็วดังลอยมา จากนั้นจึงดับไป ดูเหมือนว่าเขาจะตายเสียแล้ว

เย่เฟิงรับรู้ได้ว่าข้างล่างบริเวณด้านนอกของบาร์กำลังตกอยู่ในความวุ่นวาย

หัวใจของชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมา เขาได้ฆ่าเจ้าคนชั่วนั่นเพื่อแก้แค้นให้เจ้าอี้เปยได้แล้ว

ถ้าเจ้าอี้เปยไม่ได้เป็นคนขวางกระสุนนัดนั้นที่พุ่งมาหาเย่เฟิงเขาก็คงไม่ต้องจบชีวิตลงเช่นนี้ มันเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาเสียสละชีวิตให้กับเย่เฟิง! ดังนั้นชายหนุ่มจึงรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบแก่การตายของเจ้าอี้เปย

ในเมื่อซ่งเทียนยิงตายไปแล้ว เขาได้แต่หวังว่าเจ้าอี้เปยจะได้หลับอย่างสงบสุขเสียที

ชายหนุ่มถอนหายใจ เขารู้ว่าสิ่งที่พึ่งทำไปอาจจะก่อให้เกิดปัญหาได้ แต่เย่เฟิงไม่ได้กลัวมันแม้แต่น้อย เขาตัดสินใจต่อไปอีกว่าต้องกำจัดซ่งหู่ผู้เป็นลุงของซ่งเทียนยิงไปด้วยเช่นกัน

ชายหนุ่มหันหลังกลับไปมองชายร่างสูงในชุดดำสองคนที่ยืนอยู่ด้านข้างของโซฟากำลังถือปืนไว้ในมือมองทางเย่เฟิงอย่างหวาดกลัว

แน่นอนว่าพวกมันไม่คิดว่าเย่เฟิงจะเปิดฉากจู่โจมได้เด็ดขาดเช่นนี้ ต่อยซ่งเทียนยิงกระเด็นตกลงไปตาย แค่พลังของหมัดๆเดียวก็ทำให้พวกมันขวัญผวาไปหมด!

“พี่ใหญ่เย่!”

ทั้งสองคนรีบเก็บปืนไปอย่างรวดเร็วและแสดงความเคารพแก่เย่เฟิง ในแววตาของพวกมันยังมีร่องรอยความกลัวอยู่…

“พวกนายไม่ใช่ลูกน้องของซ่งเทียนยิงงั้นเหรอ?”

เย่เฟิงถามอย่างเอื่อยเฉื่อยพลันหันไปมองยังซูเหมิงหานที่กำลังนอนอยู่บนโซฟา ชายหนุ่มสังเกตุว่าใบหน้าสวยงามของเธอซีดเผือดจนทำให้เขารู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจ เย่เฟิงไม่รู้เลยว่าพวกมันทำอะไรกับซูเหมิงหานไปบ้างหลังจากเธอถูกพามาที่นี่

“พี่ใหญ่เย่ ตั้งแต่แรกเริ่มเราก็อยู่ฝั่งพี่หน้าบากมาตลอดอยู่แล้ว!”

หนึ่งในชายชุดดำกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เราจำเป็นต้องแกล้งจำนนต่อซ่งเทียนยิงชั่วคราวเพราะว่า…”

“ฉันไม่สนเรื่องนั้น แต่ทำไมซูเหมิงหานถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

เย่เฟิงเดินเข้ามาใกล้ซูเหมิงหานพลางถาม ชายหนุ่มกอดร่างของเธอไว้แนบแน่นจนรู้สึกได้ถึงร่างกายที่สั่นระรัวของเธอ เขารู้สึกผิดเหลือเกิน

ถ้าเพียงแค่เขามาเร็วกว่านี้ เธอก็คงไม่ต้องมาทุกข์ทรมาณอยู่ในสภาพเช่นนี้หรอก

“คือว่า…”

ชายชุดดำร่างสูงสองคนมองหน้ากันและกันอย่างลังเล พวกเขาไม่รู้ว่าจะบอกอย่างไรดี

“ถ้าพวกนายมีอะไรจะพูดก็รีบพูดมา ไม่ต้องมาอึกอัก”

เย่เฟิงพึมพัมเบาๆ เขาเงยหน้าขึ้นหันไปมองรอบๆ ด้านข้างของชายชุดดำทั้งสองคนมีชายหน้าตกกระคนหนึ่งพยายามแอบหนีไปเงียบๆ

“คิดจะหนีงั้นเหรอ?”

เย่เฟิงเดินไปจับตัวชายหนุ่มคนนั้นไว้

“พี่ใหญ่เย่ มันนี่แหละ!”

หนึ่งในชายชุดดำสองคนตะโกนออกมาอย่างไร้ซึ่งความอดกลั้น เขากัดฟันชี้นิ้วไปทางชายหนุ่มที่เย่เฟิงจับอยู่แล้วกล่าว “ก่อนหน้านี้มันฉีดยาตัวใหม่ใส่นายหญิงเย่…”

“อะไรนะ?”

ทันทีที่เย่เฟิงได้ยินเช่นนั้นใบหน้าของเขาถมึงทึงทันที ชายหนุ่มไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไปจนเจินชี่พลุ่งพล่านออกมาอย่างรุนแรง เขาหักคอชายหนุ่มคนนั้นลงทันที!

ซูเหมิงหานถูกฉีดยาเข้าไป!

เปรี้ยง!

เย่เฟิงโยนศพที่กระดูกลำคอแตกละเอียดลงไปจากชั้นหกและรีบวิ่งมาตรวจสอบสภาพของซูเหมิงหาน

ตอนนี้เองที่เขารู้สึกว่าซ่งเทียนยิงตายง่ายเกินไป เจ้าชั่วนั้นสมควรถูกฆ่าให้ตายอย่างทรมาณมากกว่านี้ มันกล้ามาฉีดยาใส่ซูเหมิงหานของเขาได้อย่างไร!

เวลาเดียวกันปรากฎกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งขึ้นที่หน้าห้อง เป็นชายหน้าบากและคนของเขาซึ่งนำซูซินฉางมากด้วย ชายหน้าบากจับตัวเขาได้ตอนที่ซูซินฉางพยายามหนีออกไป

“เชื่อฉันสิ! ฉันไม่รู้เลยนะว่าเจ้าพวกนั้นจะกล้าฉีดยาใส่เหมิงหานน่ะ จริงๆนะ…”

ซูซินฉางกลัวจนปัสสาวะราดออกมา

“พี่ใหญ่เย่ เจ้านี้รวมหัวกับซ่งเทียนยิงหลอกนายหญิงเย่ออกมา พวกเราจะทำอย่างไรกับมันดีครับ?”

ชายหน้าบากพูดเสียงต่ำ เขาผลักซูซินฉางไปข้างหน้าให้คุกเข่าอยู่ตรงประตูทางเข้า

ซูซินฉางมองไปยังด้านใจเห็นสีหน้าของเย่เฟิงที่โกรธจนแทบจะฆ่าคนได้ หัวใจของเขาสั่นไปด้วยความหวาดกลัวและพยายามคิดหาวิธีเอาตัดรอดจากที่ตรงนี้
เขาไม่รู้เลยว่าชายหน้าบากจะมีชีวิตรอดมาได้ขนาดว่าซ่งเทียนยิงสั่งมือปืน 5-6 คนไปจัดการแล้ว นั่นเป็นเพราะว่าเย่เฟิงได้จัดการพวกนั้นไปในคราวเดียวเรียบร้อยแถมยังจัดการส่งซ่งเทียนยิงลงมาตายอย่างน่าอนาจอีกด้วย

…………………………….

แปลโดยทีมงาน GSI

Teepo_V : รางวัลพ่อดีเด่นมอบให้แก่ซูซินฉางเลยครับ 555+