บทที่ 75 การตื่นของหญิงสาว

ยามสายลมและแสงหมอกสีขาว ค่อยๆพริ้วไหวเข้าสู่ดวงตา

หลงหวางเอ๋อตื้นขึ้นมาพร้อมกับเปิดเหลือกตาคู่สวย หญิงสาวพบว่าร่างกายของเธอกำลังนอนพิงอยู่บนผนังเถาวัลย์อ่อน จากนั้นเธอสังเกตรอบๆและพบว่าไม่มีใครอยู่ นี่ทำให้หลงหวางเอ๋อตกใจและจ้องมองออกไปอย่างเลื่อนลอย

เกิดอะไรขึ้น ?

ทันใดนั้นความเจ็บปวดแล่นเข้าโจมตีเธออย่างหนักหน่วง หลงหวางเอ๋อค่อยๆนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ สีหน้าของหญิงสาวซีดลง ไหล่ของเธอสั่นเทาไปหมด

เธอทำอะไรลงไป?

หลังจากที่คว้าแผนที่และหนีเข้าไปในสุสานโบราณ ผลของยาพิษในร่างก็ปะทุขึ้นมา จากนั้นเธอจึงพุ่งเข้าใส่—

ชายสวมหน้ากาก!

ในที่สุดเธอก็จำได้รางๆเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมก่อนหน้านี้

หลงหวางเอ๋อไม่อาจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ หญิงสาวลุกขึ้นและก้มลงไปมองร่างกายที่ละเอียดอ่อนและมีเสน่ห์ของเธอ หญิงสาวเริ่มน้ำตาไหล ภายใต้แสงสีขาวสลัวของมุกรัตติกาลอันสดใสตำนาน ซึ่งถูกส่องจากด้านล่างของทะเลสาบ เงาโดดเดี่ยวเธอก็ปรากฏขึ้นมาทำให้เธอดูน่าสงสารเหลือเกิน

ในเวลานั้น หลงหวางเอ๋อเห็นสิ่งถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบรอบ ๆ ตัวเธอ

แผนที่ เหมือนมีข้อความบางอย่างถูกเขียนไว้ ไม่น่าเชื่อว่ายังมันไม่ได้ถูกนำไป

หญิงสาวกางมันออกด้วยมือที่ขาวราวกับหิมะ เธอหันไปมองแผนที่สุสานโบราณและแถวด้านล่างมีข้อความที่ถูกเขียนไว้ด้วยลายมือไก่เขี่ยว่า

“ร่างกายเธอเป็นของฉันแล้ว อยากฆ่าฉันไหมละ? ถ้างั้นก็จงออกจากที่นี้อย่างมีชีวิต”

เพื่อป้องกันไม่ให้หญิงสาวคิดฆ่าตัวตาย เย่เฟิงได้ทิ้งข้อความบางอย่างไว้ แม้ว่าคำพูดของเขาอาจดูไม่ดีและค่อนข้างน่าเกลียด แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

เวลานี้ ชายหนุ่มได้ซ่อนตัวอยู่เงียบๆ เขารวบรวมพลังไว้เพื่อเตรียมพร้อมขณะจ้องมองหญิงสาว หากเขาเห็นว่าเธอคิดจะฆ่าตัวตายหรือมีปฏิกิริยาที่คล้ายกัน เย่เฟิงจะรีบออกไปห้ามเธอทันที

ถ้าทั้งคู่อยู่ในสภาวะเผชิญหน้ากันเมื่อไหร่คงจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้ไปได้ ถึงแม้ว่าพลังยุทธ์ของเย่เฟิงจะก้าวหน้าขึ้นแล้วก็ตามจากความช่วยเหลือของหลงหวางเอ๋อ แต่ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะต่อสู้เป็นตายกับผู้หญิงของเขาแน่

หลังจากที่เย่เฟิงได้แผนที่มาแล้ว เขาใช้ช่วงเวลาที่หญิงสาวหลับไหลจดจำทุกสิ่งทุกอย่างลงในสมอง  จากนั้นจึงวางแผนที่ทิ้งไว้ให้กับเธอ

“ฆ่างั้นเหรอ ฆ่าคุณไปแล้วจะมีประโยชน์อะไรล่ะ…..”

หลงหวางเอ๋อกระซิบแผ่วเบา “แต่ จะให้ปล่อยคุณไปงั้นหรอ?”

หญิงสาวกอดเข่าและขดตัวพิงกับกำแพงที่ถูกหุ้มด้วยเถาวัลย์อ่อนนุ่มด้วยสายตาอันไร้ชีวิตชีวา เรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายทางจิตใจแก่เธออย่างใหญ่หลวง หญิงสาวไม่สามารถทำใจได้ง่ายๆแล้ววิ่งออกจากสุสานไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้หรอก

เย่เฟิงที่ไม่ได้เร่งรีบหรือกังวลเกี่ยวกับอะไร ก็รออย่างอดทนอยู่อีกฝากหนึ่ง

ชายหนุ่มกำลังรอให้หลงหวางเอ๋อออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัย ชายหนุ่มคิดว่าตอนนี้ด้านนอก พ่อของเธอคงตามหาแทบบ้าคลั่งไปทั่วภูเขาแล้ว เพราะฉะนั้นเธอคงไม่ฆ่าตัวตายแน่ ยิ่งกว่านั้นเขาอยากจะอยู่ในสุสานให้นานกว่านี้อีกหน่อยเพื่อค้นหาร่องรอยแม้เพียงเล็กน้อยของอาจารย์เขา

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเย่เฟิงค่อนข้างชอบจะพึ่งพาอาจารย์คนสวยของเขา ขณะนี้ชายหนุ่มกำลังคิดอยู่ว่าถ้าหากบังเอิญอาจารย์อยู่ที่นี่จริงๆ ด้วยระดับพลังกว่าหนึ่งร้อยปี ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรรบกวนเธอได้เลย

“พึ่งพาคนอื่นงั้นเหรอ? ให้ตายเถอะฉันนี่เป็นผู้ชายที่ใช้ไม่ได้เลย!”

เย่เฟิงยิ้มเยาะตัวเองแล้วส่ายหัว เขารู้ว่าในฐานะลูกผู้ชายหากต้องการประสบความสำเร็จ กุญแจสำคัญคือการพึ่งพาตนเองให้มากที่สุด แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาต้องเลิกล้มการตามหาซูเฟยหยิ่ง ไม่ว่าอย่างไรก็ตามอาจารย์ก็เป็นบุคคลเดียวที่เขาใกล้ชิดมากที่สุด

หลงหวางเอ๋อยังคงนั่งกอดเข่าพิงกำแพงอย่างยาวนานไม่เคลื่อนไหวโดยสิ้นเชิง เย่เฟิงมองผ่านแสงสีขาวเห็นดวงตาของเธอคลอไปด้วยน้ำตา ไหล่เล็กๆสั่นเล็กน้อย ช่างดูน่าเศร้ายิ่งนัก

หญิงสาวยังคงสะอึกสะอื้นอีกประมาณครึ่งชั่วโมงจากนั้นเงยหน้าขึ้นกล่าว “คุณจะไม่ออกมาจริงๆงั้นหรือ?”

เสียงไพเราะราวกับนกร้องเพลงขับขานดังกึกก้องไปทั่ว ก่อนหน้านี้ที่เย่เฟิงเคยได้ยินก็ว่าไพเราะแล้ว แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่ามันจับใจมากยิ่งกว่าเดิม

เสียงของเธอทำให้ใจของเขาตื่นตระหนก นี่เธอรู้อย่างนั้นหรือ?

“ไม่สิ ไม่น่าจะเป็นไปได้ เธอต้องพยายามแกล้งหลอกให้เราออกไปแน่ๆ ในเมื่อเธอไม่มีทักษะเซียนยิ่งกว่านั้นเธอยังมีพลังยุทธ์เพียงแค่สิบปี ดังนั้นเธอไม่มีทางใช้วิชา “สัมผัสวิญญาณ” หาเราได้แน่ๆ”

เย่เฟิงรู้ทันทีว่านั่นเป็นแผนที่ชาญฉลาดของหญิงสาววางไว้เพื่อจะล่อเขาออกไป ชายหนุ่มจึงยังคงไม่เคลื่อนไหวใดๆแม้แต่น้อย

“ฉันรู้นะว่าคุณอยู่แถวนี้… ออกมาสิ ออกมาให้ฉันเห็น!”

เสียงของหลงหวางเอ๋อที่เต็มไปด้วยความเศร้าและเจ็บปวดคร่ำควญราวกับกำลังร้องไห้อยู่ หญิงสาวยังคงอยู่ในท่ากอดเข่าและสะอึกสะอื้นไม่หยุด ไหล่ของเธอสั่นไหวมากกว่าเดิม

เย่เฟิงยังคงไม่ขยับไปไหน

“คนบ้า! ไร้ยางอาย! อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกเลยนะ!”

เธอเดินไปมารอบๆเผื่อมองหาตัวเขาแต่ไม่เจอแม้แต่ร่องรอย หลังจากมองหาเย่เฟิงอีกครึ่งชั่วโมงแล้วหญิงสาวเริ่มรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย ตอนนี้เธอที่เธอสังเกตุเห็นกระเป๋าเป้สีดำที่วางอยู่ข้างแผนที่ เธอเปิดมันออกมาและเจอกับของกินต่างๆอย่างคาดไม่ถึง

ช็อคโกเลต เนื้อแห้ง และพวกอาหารอื่นๆที่ให้พลังงานสูง

หญิงสาวที่หิวอยู่แล้วไม่ลังเลที่จะกินมันทันที หลงหวางเอ๋อที่ผ่านสถานการณ์แบบนั้นมาแล้ว ไม่คิดแม้แต่น้อยว่าของกินเหล่านี้อาจจะโดนวางยาแบบครั้งก่อนก็เป็นได้

เย่เฟิงมองเห็นทุกอย่างอยู่อีกฝากหนึ่ง ท่าทางการกินอย่างกระหิวกระหายของเธอทำให้เขารู้สึกตลกอยู่บ้าง แต่ไม่สามารถหัวเราะดังได้มากเกินไปไม่งั้นคงถูกจับได้ ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่ขยับตัวเลยด้วยซ้ำ ด้วยระดับพลังยุทธ์ของเธอหากมีการขยับตัวเกิดขึ้นเธอต้องรับรู้ได้ทันที

ถึงแม้ว่าจะมีอาหารอยู่ไม่มากนัก แต่พวกมันก็มากพอที่จะทำให้หลงหวางเอ๋อรู้สึกพอใจ หลังจากกินเสร็จเรียบร้อยเธอเริ่มรู้สึกคอแห้งจึงเดินไปยังทะเลสาบที่มีน้ำใสแจ๋ว

ทะเลสาบใต้ดินนี้ไม่ได้เป็นน้ำที่ขังอยู่ แต่มันยังเชื่อมต่อไปข้างนอก ดังนั้นมันจึงมีความสะอาดและบริสุทธ์พอที่จะดื่มกิน ถึงแม้ว่าจะเห็นปลาหลายตัวว่ายไปมาตรงหน้าก็ตามที

อย่างไรก็ตามนี่เป็นใจกลางของสุสานโบราณ ยิ่งกว่านั้นยังเป็นทะเลสาบนี่ยังอยู่ตรงห้องโถงอีกด้วย เพียงแค่คิดว่าน้ำพวกนี้อยู่กับคนตายมาตลอด มันจะบริสุทธ์ได้อย่างไร หญิงสาวจึงเลือกที่จะไม่ดื่มลงไป

ถึงแม้ว่ามันจะไม่สามารถดื่มได้แต่ถ้าแค่อาบน้ำละก็ถือว่าใช้ได้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

หลงหวางเอ๋อไปถึงบริเวณขอบของทะเลสาบ ชุดกระโปรงยาวสีขาวที่สวมอยู่ทำให้หญิงสาวดูสวยราวกับนางฟ้าตัวน้อย คราบน้ำตาบนใบหน้าขับเด่นความสวยงามของเธอมากขึ้นไปอีก มันทำให้เธอดูน่าดึงดูดใจมากกว่ายามปกติแบบเทียบไม่ได้เลย

หญิงสาวมองลงไปในทะเลสาบและเห็นเงาสะท้อนรูปร่างอันสวยงามของเธอ ผมที่นุ่มสลวยของหญิงสาวห้อยลงทำให้ภาพดูน่าเศร้านัก

“นี่ ถ้าคุณไม่ออกมาละก็ ฉันจะฆ่าตัวตาย คอยดูเลย!”

ร่างเพรียวบางเคลื่อนตัวไปถึงขอบทะเลสาบ หญิงสาวมองไปรอบๆขณะกำลังพินิจพิเคราะห์และพร้อมจะทำตามที่ว่าทุกเมื่อ

น่าเสียดายที่ยังคงมีแต่ความเงียบสงบ นอกจากเสียงของเธอแล้วไม่มีเสียงอื่นใดอีก มีเพียงแต่ปลาที่แหวกว่ายอย่างรวดเร็วในทะเลสาบและเสียงน้ำสาดกระเซ็นเบาๆ

ผ่านไปอีกระยะหนึ่ง เธอเริ่มเชื่อแล้วว่าไม่น่าจะมีคนอยู่แถวนี้จริงๆ เจ้าบ้านั่นใช้กำลังข่มเหงเธอ พอเสร็จเรื่องแล้วก็หายไปแบบนี้เลยเนี่ยนะ

“หึ สุดขอบโลกเลยใช่มั้ย? มาดูกันว่าคุณจะไปได้ไกลแค่ไหนกัน”

หญิงสาวหัวเราะเบาๆ เห็นได้ชัดเจนว่ามีความขุ่นเคืองอยู่ในน้ำเสียงของเธอ แต่ก็มีความรู้สึกอื่นปะปนอยู่ด้วย หลังจากปล่อยวางได้แล้วเธอไม่รีรออีกต่อไป คิดกับตนเองว่ามันเป็นเพียงแค่ฝันร้ายที่ผ่านไปแล้วเท่านั้น ตอนนี้เธอรู้สึกสกปรกไปหมด อยากจะอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดเสียก่อน

มือขาวเรียวของหญิงสาวค่อยๆปลดกระโปรงออกจากเอว ตอนนั้นเธอก็พึ่งคิดได้ว่าชุดมันดูไม่เข้าที่เข้าทางนัก ทำไมเธอแต่งตัวประหลาดแบบนี้กันนะ?

แน่นอนที่หญิงสาวจำไม่ได้ว่าตอนที่เธอถอดเสื้อผ้าของเธอออกไปนั้น เย่เฟิงเป็นคนช่วยใส่มันกลับไปอย่างงุ่มง่าม เขาเป็นแค่มือใหม่เท่านั้น จะรู้ดีเรื่องการแต่งตัวให้ผู้หญิงได้อย่างไรกัน? เห็นได้ชัดว่ามันทำให้เธอดูประหลาดไปเลยตอนนี้

จากนั้นหญิงสาวค่อยๆถอดชุดกระโปรงสีขาวออก สายตาของเย่เฟิงถูกดึงดูดไปกับภาพเรือนร่างสีขาวราวกับหิมะ มันดูงดงามเต็มไปด้วยเสน่ห์จนทำให้หัวใจของชายหนุ่มเต้นระรัว

“ให้ตายเถอะ เธอไม่ได้จงใจจะยั่วฉันใช่ไหม?”

เย่เฟิงไม่คิดเลยว่าเพื่อหลบหนีการเผชิญหน้า เขาจะต้องมานั่งอดทนรอนานถึงขนาดนี้ แล้วตอนนี้มันสำคัญมากเลยหรือไงที่เธอจะต้องมาอาบน้ำในที่โล่งแจ้งแบบนี้น่ะ!

ชายหนุ่มอดคิดถึงเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านไปก่อนหน้านี้ตอนที่เขาใกล้ชิดเธอไม่ได้

ทันใดนั้น น้องชายของเขาก็เริ่มตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง ให้ตายเถอะ! เขาดันมามีอารมณ์ในสถานการณ์แบบนี้อีก แต่เย่เฟิงก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากอดทนไว้เท่านั้น

ไม่เช่นนั้น หากเขาควบคุมตัวเองไม่ได้และกระโจนออกไปเมื่อไหร่ ด้วยนิสัยของหญิงสาวแล้ว เธอคงไม่มีทางยอมเขาง่ายๆแน่ ผลสุดท้ายก็คงมีแต่ต้องสู้กันเท่านั้น

………………………………

แปลโดยทีมงาน GSI

Solar Spark: หื่นจริงๆนะพระเอกเรา แต่ผมว่าถ้าสถานการณ์แบบนี้ยังไม่ตื่นตัวอีกนี่ ถ้าไม่เป็นเกย์ก็เสื่อมสมรรถภาพแล้วละครับ555