บทที่ 52: เขตสีแดง (2)

 

 

 

‘ไอ้เวรนี่… มันจะบอกว่ามันจะรวบรวมวัสดุทั้งหมดนั่นภายในเวลาที่เหลืองั้นเหรอ?’

โยฮานไร้ซึ่งคำพูดใด

มันไม่ใช่ว่าพวกเขาต้องการวัสดุจำนวนมากสำหรับเรือใหญ่

เมื่อแม้ว่ามันจะถูกเรียกว่าวัสดุ เรือก็ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากสิ่งเหล่านั้น

ความจริงแล้ว วัสดุพวกนั้นให้ความรู้สึกเหมือนสิ่งแลกเปลี่ยนในการซื้อเรือเสียมากกว่า

แต่แน่นอนว่ามันไม่ได้ง่ายเพียงเพราะมันเป็นแบบนั้น

ยิ่งเรือนั้นแพงเท่าไหร่ แกนกลางที่จะต้องใช้ก็ยิ่งยากที่จะได้รับมากขึ้นเท่านั้น

ปรสิตคูรอนนั้นเป็นวัตถุดิบแกนกลางสำหรับเรือที่เหมาะสมกับคน 30 คนหรือต่ำกว่านั้น

เรือที่สามารถบรรทุกคนได้มากกว่า 30 คนต้องการหัวใจของซาลาแมนเดอร์จุดแดง และเรือสำหรับคน 2,000 คนที่กิลด์ใหญ่ใช้นั้นต้องการกะโหลกศีรษะของหมีภูเขาไฟที่มีเพียง 2 ตัวในชั้นสี่นี้

ไอเท็มแกนกลางที่ต้องใช้สำหรับเรือที่ใช้บรรทุกคน 500 คนคือหัวใจของกิ้งก่าโนโคคร๊อก

กิลด์สองกิลด์ที่ไม่ใช่หนึ่งในสหพันธ์ได้สร้างเรือนี้และได้รับความสูญเสียไปค่อนข้างมากในการล่าไอ้ตัวนี้

ในขณะที่โยฮานกำลังคิดถึงหลายๆ เรื่อง ฮันซูก็ตะโกนออกไปขณะที่เขาทะยานออกไป

“อย่ากังวล ฉันจะให้พวกนายไปด้วย”

“…อะไรนะ?”

ฮันซูแสยะยิ้มไปยังคำตอบที่ราวกับว่าทั้งหมดนั้นหูฝาด

ทำไมเขาต้องปล่อยให้พวกนี้ทั้ง 100 คนตายหลังจากที่สร้างเรือนั่นขึ้น?

คนพวกนี้ไม่อาจสร้างเรือได้ด้วยเวลาที่เหลืออยู่

“ถ้าพวกนายต้องการที่จะไปด้วย งั้นก็ไปหาไม้อารูนและถุงน้ำมูกของเคล็กมา นั่นคือราคาในการขึ้นเรือ ฉันจะไปเจอพวกนายที่ทางออก”

“เฮ้! เฮ้! เฮ้ รอเดี๋ยวก่อน!”

โยฮานตะโกนออกไปอย่างลนลาน ทว่าฮันซูได้หายไปไกลแล้ว

ทุกคนมองหน้ากันราวกับว่ากำลังระแวดระวังกันเอง ทว่าจากนั้นก็เริ่มพูดขึ้นทีล่ะคนสองคน

มันมีตัวเลือก 2 อย่าง

ด้วยการขึ้นเรือไปฟรีๆ แบบที่หมอนั่นพูด

หรือสร้างเรือและไปแบบนั้น

“เราจะทำยังไง?”

“เราควรจะ… รวมกลุ่มกันและสู้ไหม?”

“เราต้องการเรือสำหรับ 20 คนอย่างน้อยห้าลำเพื่อที่มันจะเพียงพอสำหรับคน 100 คน… เราต้องการปรสิตคูรอนอย่างน้อย 10 ตัว เราไม่อาจฆ่าไอ้ตัวนั้นได้ 10 ตัวด้วยเวลา 2 ชั่วโมง”

“เวรเอ้ย…”

การที่พวกเขามารวมตัวกันแบบนี้ได้กลายเป็นปัญหาแล้วจริงๆ

พวกเขาสามารถจัดการได้สัก 3-4 ตัวด้วยคน 100 คนเช่นนี้

แต่พวกเขาไม่อาจสร้างเรือที่คน 100 คนสามารถขึ้นไปได้ได้

มันจะกลายเป็นการต่อสู้ละเลงเลือด

“…ไอ้ฉิบหายเอ้ย”

โยฮานขมวดคิ้ว

ไอ้หมอนั่นจะสามารถรวบรวมวัสดุในการสร้างเรือสำหรับ 500 คนได้จริงๆ หรือ?

เพราะเช่นนั้นมันก็จะไม่มีอะไรมากให้ทำ

เมื่อพวกเขาเองก็จะรู้สึกขอบคุณหมอนั่นเหมือนกัน

‘แต่หากหมอนั่นพูดแบบนั้นเพื่อให้เราสงบลง…’

หมอนั่นอาจจะสร้างเรือสำหรับ 10 คนและจากไปแบบนั้น

‘งั้นเราก็จะไม่ตายง่ายๆ’

ถ้ามันเป็นแบบนั้น พวกเขาก็จะทำลายเรือของหมอนั่น

‘แต่ทำไมเขาต้องบอกให้พวกเราเอาไอ้ของพวกนั้นไป?’

ถุงน้ำมูกของเคล็กและไม้อารูนนั้นไม่ใช่ส่วนหนึ่งของวัสดุที่จำเป็น

ทั้งจำนวนที่หมอนั่นต้องการยังค่อนข้างเยอะ

ถ้านับรวมถึงความแข็งของไม้อารูน เช่นนั้นคนทั้ง 100 คนก็ยังคงต้องทำงานอย่างหนักในการแยกชิ้นส่วนมัน

‘ฉันจะเคลื่อนไหวก่อน’

เมื่อมันนับได้ว่าเป็นค่าเดินทางที่ค่อนข้างถูกมาก

‘ได้โปรด… ให้พวกเราขอบคุณนาย’

การถูกทิ้งครั้งหนึ่งก็มากพอแล้ว

และไม่ช้าทุกคนก็ได้แยกย้ายกันไปในทิศทางต่างๆ

 

 

กรูววววว

‘กิ้งก่าโนโคคร๊อก’

ฮันซุทะยานไปรอบๆ จากนั้นจึงฟาดแก้มของอีกฝ่ายหลังจากมัดมันแน่นแล้ว

ตูมมมม!

แสงสีดำทองที่วิ่งวนอยู่บนลำแขนของชายหนุ่มได้รวมกันที่มือของเขาก่อนจะระเบิดออก

กิ้งก่าถูกโจมตีที่ศีรษะ เกลือกกลิ้งอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตายลง

ฮันซุเริ่มที่จะค้นศพของกิ้งก่า

‘ไหนดูสิ… ฉันควรจะเอาส่วนที่เส้นเลือดใหญ่ของหัวใจทั้งสามรวมตัวกันใช่ไหม?’

หัวใจสามดวง

ซึ่งเป็นสาเหตุให้พวกมันไม่ถูกนับ

ส่วนที่เส้นเลือดใหญ่ของหัวใจทั้งสามดวงรวมกันซึ่งมีเพียงจุดเดียวจึงจะนับ

ฮันซูนำแก่นของวัสดุออกมา จากนั้นจึงย้ายตำแหน่งไปยังที่ที่เขาจากมาด้านนอก

มันมีผู้คนรวมตัวกันอยู่ที่นั่นพร้อมด้วยไม้อารูนกับถุงน้ำมูกของเคล็กและใบหน้ากระวนกระวาย

“ไปกันเถอะ”

สีหน้าของทุกคนแปรเปลี่ยนไป ทว่าก็มีสีหน้าของความเคลือบแคลงเล็กๆ อยู่เช่นกัน

พวกเขาคงต้องอ่อนไหวแบบนี้เมื่อชีวิตของพวกเขากำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย

และพวกเขาไม่อาจเชื่อได้ว่าอีกฝ่ายได้รวบรวมวัสดุของเรือสำหรับคน 500 คนได้ด้วยเวลาสั้นๆ เช่นนี้

“นายได้พวกมันมาจริงๆ เหรอ?”

ฮันซูผงกศีรษะเมื่อโยฮานที่ยืนอยู่ด้านหน้าเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าเคลือบแคลงเล็กๆ

“รีบๆ มาตรงนี้ ตอนนี้เหลือเวลาน้อยกว่า 30 นาทีแล้ว”

จากนั้นชายหนุ่มจึงเดินไปยังทะเลพิษที่ได้ท่วมพื้นที่ราบต่ำของชั้นสี่และเริ่มที่จะกองวัสดุที่เขาหามาได้

‘… ของมันออกมาจากไอ้ถุงเล็กๆ นั่นเรื่อยๆ ได้ยังไงกัน? เขาฆ่าพวกมันทั้งหมดภายในเวลา 2 ชั่วโมง?’

ผู้คนแสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมา

ชิ้นส่วนของศพสัตว์อสูรจำนวนมากกำลังออกมาอย่างไร้ที่สิ้นสุด

“เฮือกก…”

ขณะที่ผู้คนกำลังแสดงสีหน้าหวาดกลัวขณะมองไปยังทะเลพิษที่ดูเหมือนว่าสามารถที่จะเพิ่มสูงขึ้นได้ทุกขณะ แฟรี่ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าพวกเขา

“ว้าว! ยินดีด้วย! พวกคุณรวบรวมวัสดุทั้งหมดได้! อย่างแรกฉันจะแสดงควา…”

“รีบๆ สร้างเรือก่อนเถอะได้โปรด!”

ใครบางคนตะโกนออกมาเสียงดัง

พวกเขาตระหนักได้ว่าพวกเขาจะไม่ตายแม้ว่าจะพูดจาเช่นนั้นกับแฟรี่

และสถานการณ์ที่น้ำทะเลพิษอาจมาถึงเท้าของพวกเขาได้ทุกเมื่อนั้นได้ทำให้พวกเขากระทั่งกระวนกระวายมากขึ้น

มันเหลือเวลาราวๆ 30 นาที แต่มันเป็นเวลาสำหรับการที่ทั่วทั้งชั้น 4 จะจมลงใต้น้ำ

หากพวกเขาช้าไปเพียง 5 นาที เช่นนั้นบริเวณที่พวกเขายืนอยู่อาจจมลงทั้งหมด

แฟรี่แย้มยิ้มขณะที่มันเอ่ยขึ้น

“โอ้ ตาย ขอโทษด้วย พวกคุณอาจจะกระวนกระวาย เรือที่พวกคุณจะนั่งไปคือ… นี่! <เรือที่แล่นผ่านทะเลคีทิลได้สำเร็จ!>

ทันทีที่สิ้นคำของแฟรี่ วัสดุทั้งหมดก็หลอมละลายและหายไป

จากนั้นพิษเหลวก็ได้เริ่มที่จะเดือดปุดพร้อมกับที่ฟองอากาศขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น

เบื้องหน้าฟองอากาศที่ดูราวกับว่ามันจะระเบิดออก ทะเลก็ได้แยกออกพร้อมกับที่เรือขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น

เรือที่มีขนาดเท่าเรือสำราญ

ในขณะที่ทุกคนกำลังประหลาดใจกับเรือที่ดูไฮโซนั้น โยฮานก็เอ่ยขึ้นอย่างเย็นชาไปยังแฟรี่

“แกจะควบคุมมัน? มันไม่มีใครที่นี่ที่รู้วิธีการคุมเรือ”

มันยากมากพอแล้วในการที่จะควบคุมเรือยอชท์คนเดียว มันจะยากแค่ไหนในการที่ต้องควบคุมเรือขนาดใหญ่นั่น

เมื่อการควบคุมเรือเพียงอย่างเดียวที่พวกเขารู้จักคือการที่กัปตันโจรสลัดตะโกนออกไปขณะที่หมุนพังงาเรือของเรือหน้าตาแปลกประหลาด

แฟรี่ทำเพียงแย้มรอยยิ้มให้กับคำพูดนั้น

“อย่ากังวล เราจะบริการล่องเรือให้พวกคุณเมื่อมันเป็นครั้งแรก ดังนั้นก็พักผ่อนให้สบาย ฮี่ฮี่ เวลาที่ใช้โดยประมาณคือ 3 วัน! ถ้าพวกคุณปล่อยมันไว้มันจะมุ่งหน้าตรงไปยังเขตสีแดง แต่หากคุณต้องการที่จะเปลี่ยนทิศทาง ที่ควบคุมอยู่ที่กลางดาดฟ้า การควบคุมไม่ยากหรอก”

ทุกคนถอนหายใจอย่างโล่งอก

พวกเขาสามารถหลบหนีไปได้อย่างกล้ำกลืนใน 30 นาทีก่อนที่จะถูกจมลงใต้น้ำพร้อมกับทั้งเกาะ

แต่โยฮานมุ่นคิ้วเล็กๆ

‘… การควบคุมเรือเป็นบริการฟรีสำหรับครั้งแรก?’

และสำหรับพวกมันที่อนุญาตให้พวกเขาเปลี่ยนทิศทาง

นั่นหมายความว่ามันจะมีโอกาสที่พวกเขาจะเปลี่ยนทิศทางของเรืองั้นหรือ?

ในขณะที่โยฮานกำลังแสดงสีหน้าที่ค่อนข้างไม่น่าดู เสียงของฮันซูก็ดังขึ้นจากด้านบน

“พวกนายกำลังทำอะไร ขึ้นมา เอาไม้อารูนกับถุงน้ำมูกของเคล็กมาด้วย”

“หือ?”

ชี่

“ว๊ากกก! มันขึ้นมาถึงนี่แล้ว!”

“รีบขึ้นไป! เร็วเข้า!”

มันไม่ใช่ว่าพวกเขาจะหลอมละลายทั้งที แต่พวกเขาจะหลอมละลายถ้าหากจม

เมื่อพิษเหล่านั้นเริ่มหลอมละลายรองเท้าของพวกเขา ทุกคนก็ทะยานร่างของตัวเองขึ้นไปบนเรือพร้อมกับไม้อารูนกับถุงน้ำมูกของเคล็กด้วยความเร่งรีบ

แม้ว่าพวกเขาจะอ่อนแอ พวกเขาก็คือมนุษย์ที่มีร่างกายแบบซุปเปอร์แมนในโลกปกติ

การขึ้นไปบนเรือที่สูงเท่านี้เป็นเพียงแค่เรื่องขำขันเท่านั้น

และเมื่อคนทั้งหมดขึ้นไปบนเรือ ใบเรือก็ได้เริ่มที่จะขยับกระพือไปมาราวกับเวทมนต์

จากนั้นเรือขนาดใหญ่ก็เริ่มที่จะมุ่งตรงไปยังพื้นที่ต่อไป <เขตสีแดง>

 

 

“มาแนะนำตัวกันเถอะ ฉันชื่อโยฮาน ขอบคุณที่รับฉันขึ้นมา”

ทุกคนรวมตัวกันที่ดาดฟ้าของเรือและเริ่มที่จะแนะนำตัวเอง

เมื่อไม่ว่าพวกเขาจะเกลียดกันแค่ไหน พวกเขาก็อยู่ในเรือลำเดียวกัน และต้องอยู่ด้วยกันไปราวๆ 3 วันหรือมากกว่านั้น

และเมื่อมันถึงตาของฮันซู ทุกคนก็หันไปจ้องมองเขา

เมื่อชายหนุ่มคือคนที่โดดเด่นที่สุด

เขาไม่มีอะไรเลย

ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ

ทว่าเขาแข็งแกร่ง

ฮันซูเอ่ยขึ้นขณะที่มองไปยังคนทั้งหมด

“ฉันชื่อคังฮันซู”

ทุกคนผงกศีรษะ

และคนจำนวนหนึ่งมีสีหน้าดูดีขึ้น

ถ้าคนที่แข็งแกร่งเป็นคนเสียสติ เช่นนั้นมันจะเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก

พวกเขาได้ขึ้นมาบนเรือด้วยความรู้สึกร้อนใจ แต่หากไอ้คนแข็งแกร่งนั่นจะเสียสติขึ้นมากลางเรือที่พวกเขาไม่มีที่ใดให้วิ่งหนี เช่นนั้นมันก็จะเป็นเรื่องที่เลวร้ายอย่างมาก

แต่จากการกระทำของเขา หมอนั่นยังเป็นคนที่ยังมีสติอยู่

โยฮานผงกศีรษะของเขาเล็กน้อยภายใน

‘เป็นหมอนี่เอง…’

ไอ้หมอนี่โด่งดังอย่างมาก

เมื่อเขาโดดเด่นออกมาตั้งแต่ยามที่อยู่ที่เกาะกลาง

แต่มันยังคงมีคำถามอยู่

‘มันไม่มีใครเห็นหมอนี่ในหอคอย’

แม้ว่าพวกเขาจะไปยังเกาะที่แตกต่างกัน พวกเขาก็ต้องมาเจอกันที่ชั้นสี่

เมื่อมันเป็นโครงสร้างของหอคอยนี้

แต่ไม่มีใครที่ได้เห็นหมอนี่ก่อน 2 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนการสิ้นสุดบทฝึกซ้อม

และเพราะแบบนั้น พวกเขาจึงคิดว่าหมอนี่ตายไปแล้ว แต่การที่หมอนี่ยังมีชีวิตอยู่

‘เอาเถอะ มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างปัญหา’

มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างปัญหาเมื่อพวกเขาจะอยู่ด้วยกันเป็นเวลา 3 วัน

เมื่อการแนะนำตัวของทุกคนสิ้นสุดลง พวกเขาก็มองไปรอบๆ เรือด้วยสีหน้าสบายใจและเอ่ยออกมา

“ยังไงก็ตาม… เราจะพักผ่อนอย่างนี้ตลอด 3 วันเลยเหรอ?”

ทุกคนแสดงสีหน้าเปี่ยมสุขออกมา

บทฝึกซ้อมสามเดือนนั้นคือการต่อสู้และความกดดันอย่างต่อเนื่อง

พวกเขามีเพียงแต่จะรู้สึกสบายเมื่อพวกเขาได้รับอนุญาตให้พักเป็นเวลา 3 วันในเรือที่ค่อนข้างหรูหรา

เมื่อพวกเขาลงไปใต้ดาดฟ้า พวกเขาก็เห็นอาหารที่น่าอร่อยจำนวนหนึ่งราวกับว่าเป็นบริการให้พวกเขา

แต่ฮันซูส่ายศีรษะ

แฟรี่บอกพวกเขาแล้ว

ว่าพวกมันจะไม่ยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยวกับพวกเขาเมื่อบททดสอบสิ้นสุดลง

แต่ว่ามันเป็นเพราะพวกมันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นอีกต่อไป

‘ชิ ตอนแรกฉันอยากจะสร้างเรือสำหรับ 2,000 คน’

เขาต้องการสร้างเรือที่ใหญ่ที่สุด และอาจสร้างมันได้อย่างสบายๆ แต่แผนของเขาถูกขัดขวางเพราะความยากของประตูที่สามเหนือกว่าที่เขาคาด

2 ชั่วโมงนั้นห่างไกลจากคำว่าเพียงพอแม้ว่าจะเป็นเขาก็ตาม

‘แม้ว่าเรือสำหรับ 500 คนจะไม่แย่…’

มันไม่ใช่ว่าจำนวนของคนที่เรือสามารถบรรทุกได้เป็นเรือสำคัญ แต่เป็นพลังป้องกันและความทนทานของเรือจะเพิ่มขึ้นตามขนาดของมัน

และเพราะแบบนั้น คนที่นี่จึงต้องทำให้ดี

‘พวกเขาต้องจ่ายค่าอาหารของตัวเอง’

ฮันซูพึมพำขณะที่มองไปยังทะเลที่ห่างไกล

 

 

“มันเพียงพอในการสร้างเรือสำหรับ 30 คนใช่ไหม? มันไม่มีเหตุผลในการสร้างเรือใหญ่ๆ ใช่ไหม?”

หนึ่งในคนที่อยู่บนเรือที่กำลังแล่นไปยังเขตสีแดงตะโกนขึ้นเสียงดัง

ทุกคนหัวเราะขณะที่พยักหน้า

เรือของพวกเขานั้นเป็นเพียงแพเมื่อเทียบกับเรือขนาดใหญ่ที่สหพันธ์ใช้ แต่หากนับถึงการที่พวกเขานับร้อยได้วิ่งวุ่นไปรอบๆ ตลอดทั้งเดือน เรือนี้ก็นับว่าดีกว่ามากในด้านของประสิทธิภาพ

‘อย่างที่ฉันคิด… นี่มันดีกว่าการที่ต้องดิ้นรนสร้างเรือสำหรับคน 100 คนหรือ 200 คน’

พวกเขาไม่รู้สึกว่ามีที่ว่างเลยแม้แต่น้อยเมื่อคน 30 คนได้ขึ้นมาบนเรือสำหรับ 30 คน แต่ความไม่สะดวกนี้ก็แค่ต้องอดทนไปจนกว่าพวกเขาจะไปถึงในอีก 3 วัน

‘ถึงพวกสมาคมอิสระพวกนั้นจะถามว่าพวกเราจะไปกับพวกนั้นไหม…’

คนพวกนั้นน่ารำคาญมาก เพราะพวกนั้นตั้งข้อจำกัดไว้หลายเรื่อง

และการเข้าร่วมกิลด์ก็ค่อนข้างรับไม่ได้เพราะความรู้สึกของพวกเขาจะถูกเปลี่ยนแปลงไป

นี่มันดีกว่าแม้ว่าพวกเขาจะต้องทรมานสักหน่อย

“มาพักผ่อนกันสัก 3 วันเถอะ เมื่อเราดิ้นรนอย่างหนักมาจนถึงตอนนี้”

ทุกคนพยักหน้าให้กับคำพูดนั้น

พวกเขาลำบากมากแค่ไหนในการสร้างสิ่งนี้ขึ้นมา

พวกเขาดิ้นรนอย่างมากด้วยการไปยังพื้นที่ล่าอันตราย และล่าด้วยตนเอง

‘แต่มันก็ยังคงเป็นการตัดสินใจที่ฉลาด’

พวกเขาหัวเราะอยู่ในใจไปยังผู้คนที่ยังคงอยู่ที่หอคอยหรือได้จมลงใต้น้ำแล้ว

พวกเขาจะเชื่อในพวกสหพันธ์และรอพวกนั้นได้ยังไง

ชีวิตของพวกเขาแขวนอยู่บนเส้นด้าย

คนพวกนั้นหัวเราะใส่พวกเขาตอนที่พวกเขาสร้างเรือ แต่คนที่มีชีวิตรอดในที่สุดคือพวกเขา

‘มันฟังดูเหมือนเรื่องราวของมดกับจักจั่น’ (TL: A Jean de la Fontaine fable)

และตอนนี้พวกเขาต้องพักผ่อนกับรางวัลนี้เป็นอย่างดี

เมื่อชีวิตในสถานที่ที่พวกเขาจะไปถึงนั้นย่อมไม่ง่ายดาย

‘เทือกเขาต้นไม้โลก… ถึงชื่อจะฟังดูดีก็เถอะ’

ในขณะที่พวกเขาคิดถึงชื่อของเขตสีแดงที่แฟรี่ได้บอกมันแก่พวกเขา เสียงที่น่าพรั่นพรึงก็ได้ดังขึ้นจากพื้น

แคร่กก

ฉึก ฉึก

ปุด

ทุกคนแสดงสีหน้ากระวนกระวายไปยังเสียงแปลประหลาดนั้นขณะที่พวกเขาลุกขึ้นยืน

“มันดังมาจากไหน?”

“มันมาจากใต้เรือ…”

“ฉันจะไปตรวจดู”

คนคนหนึ่งเดินลงไปข้างล่างอย่างระมัดระวัง

และจากนั้นก็ขึ้นมาพร้อมด้วยเสียงกรีดร้อง

“เหี้ยเอ้ย!! ไอ้เวรบางตัวกำลังสร้างรูอยู่ที่ก้นเรือ!”

“อะไรนะ!!”

ทุกคนสติหลุดพร้อมกับกระเด้งตัวออกจากที่นั่งทันที

การว่ายข้ามทะเลพิษที่ต้องใช้เวลาเดินทางด้วยเรือ 3 วันจะเป็นไปได้อย่างไร?

และพวกเขาเห็นคนที่พยายามจะข้ามมันไปด้วยแพแล้ว

ถ้าเรือจม มันก็จะกลายเป็นการสังหารหมู่

ทุกคนสิ่งลงไปอย่างบ้าคลั่ง

จากนั้นก็สติหลุดไปกับหอกสามเล่มที่แทงขึ้นมาจากใต้เรือ

ทุกคนวิ่งตรงไปที่มันพร้อมกับเหวี่ยงดาบของพวกเขาอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับน้ำทะเลพิษที่ทะลักทะลายเข้ามา

“เวรเอ้ย! กั้นมันไว้!”

“ไอ้เวรพวกนี้ไม่เข้ามา! ไอ้ลูก***นี่แค่แทงจากด้านนอก!”

“ฉิบหายเอ้ย! ใครก็ได้ลงไปในทะเลแล้วเอาพวกมันออกไปตอนที่พวกเรากั้นมาจากที่นี่!”

ทุกคนชะงักไปจากคำพูดนั้น

‘กระโดดลงไปในทะเลพิษ?’

พวกเขาสามารถต่อสู้ได้ในระดับหนึ่ง

เมื่อร่างของพวกเขาจะไม่ละลายในทันทีแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในทะเลพิษ

แต่โอกาสที่พวกเขาจะตายเพิ่มขึ้นนับสิบเท่า

‘เวรเอ้ย… พวกเราควรสร้างเรือที่ใหญ่กว่านี้’

หากเป็นเช่นนั้น รูก็จะไม่ถูกสร้างขึ้นง่ายเพียงนี้ และพวกเขาจะสามารถใช้การโจมตีระยะไกลในการฆ่าพวกมันระหว่างนั้นได้

“เวรเอ้ย!”

“อ๊ากกกก”

ทุกคนมีสีหน้าสิ้นหวังขณะที่มองไปยังเรือที่จมลงอย่างช้าๆ

จากพื้นที่ฝึกซ้อมนับหมื่น

เรือทั้งหมดได้เริ่มแล่นจากพื้นที่ฝึกซ้อมที่แตกต่างกัน จำนวนหลายหมื่นเมื่อนับรวมกัน และเกิดเหตุการณ์เดียวกันขึ้นในเวลาเดียวกัน

 


TL: เรือโนอาร์ของปู่จะไปได้ถึงไหนน้า