บทที่ 51 สงครามฝีปาก

การเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มทหาร 7-8 คนและเย่เฟิงที่กำลังกุมมือของซูเหมิงหานเกิดขึ้นตรงบริเวณเวณประตูของห้องส่วนตัว ขณะที่กลุ่มคนที่เหลือรอดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างลุ้นระทึก

เย่เฟิงประเมินกลุ่มทหารที่ยืนขวางทางเขาพลางคิดว่ามันง่ายดายนิดเดียวที่จะชักดาบของเขาออกมาฆ่าพวกคนเหล่านี้ซะ แต่น่าเสียดายที่ชายหนุ่มไม่อาจทำเช่นนั้นได้

เย่เฟิงหันกลับมามองหลิวลี่ฮุ่ย ครั้งนี้เขาน่าจะพอทำอะไรมีประโยชน์ได้บ้างใช่ไหม?

เมื่อหลิวลี่ฮุ่ยเห็นดังนั้นเขาไอเล็กน้อยและลุกขึ้นมาพร้อมกับพุงพลุ้ยๆ ในสถานการณ์แบบนี้แน่นอนว่าเขาต้องเลือกอยู่ฝั่งของเย่เฟิง

“อะแฮ่ม เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ผมขอพูดอะไรหน่อยแล้วกันนะ!”

หลิวลี่ฮุ่ยกล่าวพลางไอกลบเกลื่อนและพาร่างอ้วนลงพุงขยับมาใกล้ๆ “การจะกล่าวหาว่าเย่น้อยเป็นฝ่ายลงมือทำร้ายคนของกองทัพมันออกจะเกินไปหน่อยนะ เห็นกันชัดๆอยู่ว่ามันเป็นแค่การป้องกันตัวเท่านั้น ยังไงก็ตามเรื่องนี้มันชักจะเลยเถิดกันไปหน่อยแล้ว ว่าแต่เด็กตระกูลเซี่ยคนนั้นได้ข่าวว่าสถานะของนายในกองทัพก็ไม่ค่อยจะสู้ดีนักไม่ใช่หรือ?”

ขิงแก่ย่อมเผ็ดกว่าขิงอ่อนเป็นธรรมดา สีหน้าของเซี่ยเฉิงเย่ซีดลงอย่างฉับพลันจากคำพูดของหลิวลี่หุ่ย

“เหล่าหลิว เรื่องนี้นายไม่เข้ามายุ่งจะดีกว่านะ” (เหลา=แก่)

เซี่ยผิงฮุ่ยที่นั่งอยู่ข้างๆมองและกล่าวด้วยท่าทีใจเย็น “ตำรวจอย่างนายไม่น่าจะต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของทหาร ไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ?”

การปะทะกันเองระหว่างคนของกองทัพในประเทศจีนถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก สิ่งที่เซี่ยผิงฮุ่ยทำตอนนี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นการเตือนหลิวลี่ฮุ่ยด้วยความหวังดี

“เปล่าเลย”

แน่นอนว่าหลิวลี่ฮุ่ยไม่ได้ต้องการวางตัวอยู่ในสถานะเช่นนั้น ชายร่างอ้วนตบพุงที่ใหญ่โตเบาๆแล้วกล่าวด้วยท่าทียิ้มแย้ม “เมื่อกี้ผมก็แค่แสดงความคิดเห็นเท่านั้นเอง ตำแหน่งของผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้เลย ผมรู้ดีอยู่แล้วว่าไม่อาจจะเอาฐานะตำรวจของผมมายุ่งกับเรื่องนี้ได้อย่างที่เฒ่าเซี่ยเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี”

เซี่ยผิงฮุ่ยเคยเป็นเลขาธิการของเมืองเหยียนจิงเขตตะวันตกเฉียงเหนือแต่ตอนนี้ได้เกศียณออกมาแล้ว อย่างไรก็ตามหลิวลี่ฮุ่ยยังเกรงอยู่เล็กน้อยว่าเขาอาจจะยังมีอำนาจทำอะไรบางอย่างได้ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นตราบใดที่หลิวลี่ฮุ่ยเกาะติดอยู่กับเย่เฟิงเขามั่นใจว่าข้อขัดแย้งเล็กๆที่เกิดขึ้นนี้จะไม่มีทางทำอะไรเขาได้

นี่เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิตของหลิวลี่ฮุ่ยเลยทีเดียว!

“ออกหน้าแทนเป็นการส่วนตัวงั้นหรือ ฟังดูดีนี่”

เซี่ยผิงฮุ่ยยิ้มแย้มกล่าว “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เฉิงเย่ เราไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรอีกแล้ว จัดการได้เลย”

เมื่อสถานการณ์ลงเอยเช่นนี้หากหลิวลี่ฮุ่ยเป็นผู้ออกปากเองว่าเขาไม่ได้เสนอหน้าในนามของผู้กำกับแห่งเขตตะวันตกเฉียงเหนือพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจตำรวจอ้วนคนนี้อีกต่อไป!

ได้ยินเช่นนั้นเซี่ยเฉิงเย่ยิ้มอย่างมาดร้ายในทันที สายตาทหารหนุ่มจับจ้องไปทางเย่เฟิงอย่างโกรธเกรี้ยว วันนี้เจ้าเด็กนี่กล้าตบหน้าเขา ถ้าหากเขาไม่ได้แก้แค้นคืนศักดิ์ศรีก็คงต้องป่นปี้หมดแน่

“ช้าก่อน!”

เห็นเช่นนี้หลิวลี่ฮุ่ยปราดมาอยู่หน้าเย่เฟิงและซูเหมิงหานเพื่อป้องกันฝ่ายทหารที่เตรียมตัวจะลงมือ ชายอ้วนมองเซี่ยเฉิงเย่ “เย่น้อยหลบไปก่อน เดี๋ยวฉันจัดการพวกนี้ให้เอง เฉิงเย่นายต้องคิดเรื่องนี้ใหม่ดีๆแล้วล่ะ ถึงฉันจะไม่ได้ออกหน้าในฐานะตำรวจแต่ก็ย้งถือว่าเป็นประชาชนคนหนึ่งที่ถูกคุ้มครองในกฎหมายอยู่ นายก็รู้ดีว่าถ้าทหารผู้ที่ควรปกป้องประชาชนมาเป็นฝ่ายลงมือทำร้ายเสียเอง มันไม่จบง่ายๆอย่างแน่นอน”

ถึงแม้ว่าหลิวลี่ฮุ่ยจะไม่ได้ออกหน้าในฐานะตำรวจแต่เขาก็ยังเลือกที่จะอยู่ฝั่งของเย่เฟิงอย่างไม่ลังเล นี่เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของเย่เฟิงอย่างมากและเขาก็รู้สึกซาบซึ้งกับสิ่งนี้ นี่ไม่ใช่ว่าเพื่อนนี้เชื่อถือไว้วางใจได้หรอกหรือ?

“หึ ถ้านายพูดแบบนี้แล้วเราจะทำให้เรื่องมันจบได้ยังไงกันล่ะ ก่อนอื่นเลยถ้าเจ้าเด็กนั่นไม่ยอมเอ่ยปากขอโทษ อย่าหวังว่าจะได้ออกไปจากที่นี่เด็ดขาด”

เซี่ยเฉิงเย่กล่าวด้วยสีหน้าหมองมัว แม้หลิวลี่ฮุ่ยจะเสนอหน้าแทนเป็นการส่วนตัวแต่สถานะผู้กำกับของเขาไม่ใช่จะหายไปง่ายๆเช่นนั้น ถ้าเขาคิดจะใช้อำนาจเข้าขัดขวางจริงๆการที่ชายอ้วนจะลงมือจัดการกลุ่มทหารโดยกล่าวโทษจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องยากเลย

“ขอโทษบ้าอะไรกันล่ะ หา!”

น้ำเสียงที่โกรธเกรี้ยวและขุ่มขู่ดังมาจากลิฟต์ที่อยู่สุดทางเดิน ตอนนั้นเองกลุ่มคนสวมเสื้อสูทที่ถือมีดปังตอเดินเข้ามา ส่วนใหญ่ของคนกลุ่มนี้ต่างเป็นนักเลงระดับชั้นทอง ชายหน้าบากนำกลุ่มนักเลงเข้ามา ความกล้าบ้าบิ่นของเขาแสดงถึงพลังอำนาจอย่างน่าเหลือเชื่อ!

จากมุมมองของลูกค้าคนอื่นหลายคนเริ่มสงสัย นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? ทำไมแก๊งอสรพิษสวรรค์ถึงปรากฎตัวเช่นนี้ และคู่กรณีของพวกมันในตอนนี้ยังเป็นพวกทหารอีกด้วย พวกมันไม่กลัวตายบ้างหรือไง?

หรือพูดอีกอย่างได้ว่าเหล่าแก๊งอาชญากรรมใต้ดินเหล่านี้ไม่เคยที่จะกล้าแสดงอิทธิพลของพวกมันในยามเวลากลางวันแสกๆมาก่อน ที่มากกว่านั้นการก่อเรื่องกับกองทัพเช่นนี้ไม่เคยมีผลลัพธ์หรือจุดจบที่ดีเลย

เซี่ยเฉิงเย่คิดแบบนั้นเช่นกัน เขาประหลาดใจเล็กน้อยกับกลุ่มนักเลงพวกนี้แต่ก็ไม่ได้ให้ค่ากับพวกมันมากนัก

แต่เมื่อกลุ่มชายหน้าบากมาถึงและเริ่มกระจายตัวกันล้อมห้องส่วนตัวนั้น เหล่าทหารเริ่มรู้สึกหวั่นใจว่าพวกเขาไม่อาจประมาทกลุ่มคนเหล่านี้โดยที่คิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆได้

เกือบทุกคนในห้องต่างสับสน หลิวลี่ฮุ่ยก็ไม่ได้ยินดีกับท่าทีก้าวราวคุกคามของกลุ่มอสรพิษสวรรค์พวกนี้เช่นกัน

“พวกแกเป็นใครน่ะ?”

สีหน้าของหลิวลี่ฮุ่ยเปลี่ยนไป การนำมีดปังตอมาเพื่อขู่พวกทหารของกองทัพ หากเรื่องนี้หลุดออกไปถึงจะเป็นตำแหน่งเขาก็ตามมันก็ยากที่จะปกป้องชายหน้าบากไว้ได้

แน่นอนว่าตำรวจอ้วนผู้นี้ก็ไม่ได้เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างเขาและชายหน้าบาก ชายอ้วนเพียงแกล้งถามคำถามราวกับพวกเขาไม่รู้จักกันมาก่อน

ชายหน้าบากยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เขาไม่ได้โง่และลื่นไหลไปตามสถานการณ์ ชายหน้าบากหยิบเอกสารฉบับหนึ่งออกมาจากกระเป๋าของเขา “ฉันหรือจะเรียกว่าพ่อของพวกแกก็ได้ มาที่นี่เพื่อรักษาความสงบของร้านอาหารจิงเชิง ในเมื่อพวกแกมาก่อปัญหากันแน่นอนว่าฉันต้องออกมาจัดการอยู่แล้ว”

“อะไรนะ?”

คนกลุ่มหนึ่งมาที่นี่แล้วสร้างความวุ่นวายปั่นป่วนในขณะที่อีกด้านนึง แก๊งอาชญากรรมพวกนี้กลับมาในฐานะผู้รักษาความปลอดภัย?

ใบหน้าเซี่ยเฉิงเย่หมองคล้ำทันที ทหารหนุ่มจ้องรอยแผลบนหน้าของชายหน้าบาก เขาแค่นเสียงอย่างเฉยชาและหยิบตราทหารออกมาแสดงจากกระเป๋า

“ฉันไม่อยุญาติให้พวกแกมาขัดขวางงานเจ้าหน้าที่จากกองทัพหรอกนะ!”

พูดจบเซี่ยเฉิงเย่ก็เชิดคางยืดอกแสดงท่าทีที่เหนือกว่า เขามองชายหน้าบากอย่างดูถูกไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร แก๊งอาชญากรรมใต้ดินหรือจะมีอำนาจเหนือกว่าทหารได้ ‘ฉัน พ่อของพวกแก!’คำที่ไร้สาระสิ้นดี

เมื่อชายหน้าบากฟังจบเขาสับประตูห้องแยกออกเป็นสองเสี่ยงด้วยมีดในมือเขาและจ้องเซี่ยเฉิงเย่พลางกล่าวอย่างข่มขู่ “ทำไมคนของกองทัพถึงสอดมือมายุ่งกับเรื่องของคนอื่นตามใจได้ล่ะ พวกเราเป็นผู้รักษาความปลอดภัยของที่นี่ หน้าที่ของพวกเราคือดูแลความปลอดภัยของลูกค้าทุกคนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ไม่งั้นถ้าลูกค้ายื่นเรื่องร้องเรียนพวกเราพวกแกจะมีปัญญาชดใช้ค่าเสียหายอย่างนั้นเหรอ?”

“ถูกแล้ว พี่ผู้นี้กล่าวได้ถูกต้อง”

หลิวลี่ฮุ่ยที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งพูดต่อ “ก็เห็นกันชัดๆอยู่ว่าพวกคุณตระกูลเซี่ยเข้ามาก่อกวนหาเรื่องที่นี่เอง ไม่ว่าอะไรตามที่เย่น้อยทำถือว่าเป็นการป้องกันตัวเท่านั้น แต่พวกคุณกลับไม่ยอมจบขวางทางไม่ให้พวกเขาไป นี่หรือคนของกองทัพทหาร มันน่าผิดหวังซะจริงๆ!”

“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”

เซี่ยผิงฮุ่ยตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดังกึกก้อง ณ ที่นี้มีแต่เขาเท่านั้นในตระกูลเซี่ยที่มีอำนาจในการลับฝีปากกับหลินลี่ฮุ่ย “นี่เป็นความขัดแย้งส่วนตัวของเราตระกูลเซี่ย เจ้าเด็กเริ่มทำร้ายคนของเราก่อน และที่มากกว่านันมันยังไม่ยอมแม้แต่จะขอโทษ แล้วพวกเราจะปล่อยให้เจ้าหนูนี่จากไปง่ายๆแบบนี้ได้อย่างไรกันล่ะ?”

“เหอะ”

หลิวลี่ฮุ่ยหัวเราะเยาะ “ขอโทษด้วยการเห่าเหมือนสุนัขตบหน้าตัวเองหนึ่งร้อยครั้งตามด้วยคลานเข่าเนี่ยนะ?”

“อะไรนะ? พวกแกกล้าดูหมิ่นลูกค้าเราขนาดนี้เลยอย่างนั้นเหรอ ร้านจิงเชิงของเราไม่ต้อนรับพวกแกแล้ว พวกเราเตรียมตัวจับเจ้าคนพวกนี้โยนออกไป!”

ในชั่วพริบตาความโกรธของชายหน้าบากเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด เขากวักมือสั่งงานคนของกลุ่มอสรพิษสวรรค์ให้ลงมือทันที!

เซี่ยเฉิงเย่ผู้ที่มาที่นี่เพื่อช่วยเหลือพี่สาวของเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาเจอสถานการณ์เช่นนี้ เขากับทหารลูกน้องของเขามาตัวเปล่าปราศจากอาวุธ เผชิญหน้าเหล่ามาเฟียพร้อมอาวุธมีดแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะจัดการได้ง่ายๆแล้ว

“คนจริงจะไม่ยอมตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบตั้งแต่เริ่มแรก แต่พวกมันกลับชองลงมือก่อนตั้งแต่ต้นเสียแล้ว”

กลุ่มทหารหลายคนผุดความคิดนี้ขึ้นมาในหัวและต่างมองกันอย่างผวา พวกเขาต่างมือเปล่าทั้งนั้น ต่อหน้ามีดพวกนี้สิ่งที่เขาอยากทำกลับเป็นการหนีไปให้เร็วที่สุดและร้องขอให้คนมาช่วยเหลือต่างหาก!

เมื่อชายหน้าบากพยายามเข้าควบคุมเหตุการณ์กลับปรากฎกลุ่มคนจำนวนมากอีกกลุ่มขึ้นมาอย่างฉับพลัน

เป็นแถวตำรวจเรียงสี่เดินมาอย่างพร้อมเพรียงจากสุดทางเดินนำมาด้วยชายร่างสูงกำยำในชุดตำรวจ อินทรนูกิ่งมะกอกสีเงินพร้อมเข็มกลัดอีกสามและดอกไม้ทรงสี่เหลี่ยมส่องประกายแวววาว เหล่านี้บ่งชี้ถึงยศที่สูงล้ำอย่างมาก

“เขาคือโหมวจิ้นเฉียง ผู้กำกับการสำนักงานตำรวจเมืองเหยียนจิง!”

ผู้คนต่างอุทานกันออกมาอย่างตกใจ ไม่มีใครคาดคิดว่าคนใหญ่โตระดับนี้จะมาอยู่ที่นี่ได้ ทุกคนต่างอยู่ในภาวะสับสน เย่เฟิงขมวดคิ้วพลางคิด เรื่องมันชักจะเริ่มซับซ้อนกันไปใหญ่แล้ว

…………………………………..

แปลโดยทีมงาน GSI

Solar Spark : ดูจากยอดไลค์แล้ววันนี้ได้จัดอย่างน้อย 4 ตอนแน่นอนครัช