บทที่ 50 ความพิโรธของชายหน้าบาก

ทหารหนุ่มเซี่ยเฉิงเย่ กำลังจ้องมองด้วยความโกธรเกรี้ยว ทุกๆคนจากตระกูลเซี่ยคาดการณ์ไว้แล้วว่าสิ่งที่ไม่ดีกำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ และทันใดนั้นเขาก็เหวี่ยงมือของเขาไปทางเย่เฟิง

เปรี้ยง!

เป็นเสียงที่ชัดเจน แต่สถานการณ์กลับแตกต่างจากที่ผู้คนได้คาดเอาไว้

ด้วยความโมโห เย่เฟิงจับแขนของเซี่ยเฉิงเย่ และตบที่ไปใบหน้าของเขา ร่างของทหารหนุ่มลอยไปกระแทกอย่างรุนแรงกับผนังที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ทันใดนั้นเลือดสดทะลักออกมาจากมุมปากของเขา!

เหตุการณ์นี้ เป็นอีกครั้งที่ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องถึงกับช๊อคอย่างมาก พวกเขาทั้งหมดถึงกับแข็งไปเลยในจุดนี้ และพนักงานสาวสวยเห็นฉากนี้ที่รุนแรงนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง เธอตื่นตระหนกและวิ่งออกจากห้องทันทีเพื่อรายงานเรื่องนี้ให้แก่ผู้จัดการโรงแรม

“เฉิงเย่ เป็นอะไรไหม?”

เซี่ยหมิน รีบวิ่งไปยังน้องชายของเธอทันที ประกายตาแห่งความโกรธและความประหลาดใจปรากฏชัดเจนบนใบหน้าของเธอ เซี่ยหมินไม่คาดคิดเลยว่าเด็กนั่นจะกล้าลงมือกับเธอและน้องชาย เจ้าหนุ่มนี่มันกล้ามากเกินไปแล้ว!

เซี่ยพิงฮุยเห็นดังนี้แล้วไม่สามารถนั่งนิ่งอยู่ได้อีก เขายืนขึ้นแล้วตะโกนเสียงดัง “หยุดได้แล้ว!”

“ทำไม อยากจะโดนด้วยอีกคนงั้นหรือ?”

เย่เฟิงเอียงศีรษะไปด้านข้างและถามเขาแบบไม่แยแส

“แก…………..”

ทั้งร่างของเซี่ยปิงหุ่ยสั่นเทาด้วยความโกรธ “แกชื่อเย่เฟิงใช่ไหม? แกไม่ได้เรียนหนังสือหรือไงถึงไร้มารยาทแบบนี้?”

“ฮ่าๆ คุณถามถึงเรื่องการศึกษาและการอบรมเลี้ยงดูงั้นหรอครับ?”

เย่เฟิงเหลือบมองไปยังด้านของเซี่ยหมิน “อบรมลูกสาวของคุณให้ดีก่อนดีไหม? แล้วค่อยพูดเรื่องอื่น”

เซี่ยผิงฮุยได้ยินดังนั้นก็เงียบทันที ก่อนหน้านี้เซี่ยหมินพูดคำว่า ”นังแพศยา” เมื่อเห็นแฟนสาวถูกเหยียดยามแบบนี้จากคนอื่น ก็เป็นเรื่องปกติที่เย่เฟิงต้องทนไม่ไหว

ในเมื่อบุตรชายและบุตรสาวของเซี่ยผิงฮุยถูกเย่เฟิงตบตีแบบนี้ มันก็คงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเห็นด้วยกับคำพูดของเย่เฟิง “แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแกจะมาตบตีคนอื่นแบบนี้ได้! ถ้าแกยอมขอโทษลูกสาวฉัน ฉันจะถือว่ามันเป็นแค่อุบัติเหตุ”

เซี่ยผิงฮุยบอกเย่เฟิงว่าจะถือว่าเป็นว่าการตบเซี่ยหมินเป็นอุบัติเหตุ แต่เขากลับไม่ได้บอกว่าการตบเซี่ยเฉิงจะเป็นอุบัติเหตุด้วยเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าเซี่ยผิงฮุยเป็นพวกจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ประการแรก เขาพยายามทำให้เย่เฟิงขอโทษลูกสาวเพื่อไม่ให้เขาขายหน้า และหลังจากนั้น เขาจะใช้ลูกชายเป็นของอ้างในการเล่นงานเย่เฟิง ช่างเป็นตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ที่น่ากลัวจริงๆ!

“เย่เฟิง……”

ซูเหมิงหานที่เห็นเย่เฟิงโมโหแล้วลงมือใส่คนอื่นเพื่อเธอ นั่นทำให้ใจของเด็กสาวรู้สึกยุ่งเหยิง เธอดึงแขนเสื้อของชายหนุ่ม

เมื่อเห็นเซี่ยหมินถูกตบโดยเย่เฟิง นั่นทำให้เธอรู้สึกร้อนใจและปรากฏความไม่สบายใจขึ้นบนใบหน้าของเธอ ซูเหมิงหานนั้นเป็นเด็กสาวที่มีจิตใจบริสุทธิ แม้ว่าเธอถูกกดขี่โดยเซี่ยหมินมามากกว่า10ปี โดยเฉพาะวัยเด็กของเธอที่ถูกเซี่ยหมินทำร้ายและมันไม่ใช่แค่ครั้งหรือสองครั้งเท่านั้นแต่มากจนนับไม่ได้

แต่เธอไม่ได้ต้องการที่จะเห็นเย่เฟิงทำเช่นนั้น แม้ว่าเขาจะมีแก๊งอสรพิษสวรรค์หนุนหลังอยู่ แต่เมื่อเทียบกับตะกูลเซี่ยชายหนุ่มไม่ได้อยู่ในสถานะที่เป็นต่อมากนัก แม้ว่าเขาจะเป็นญาติของบอสอสรพิษสวรรค์ แต่การมีเรื่องกับตระกูลเซี่ยก็ไม่สามารถจบลงได้ง่ายดาย นอกจากนี้โดยส่วนตัวของซูเหมิงหานแล้ว เธอชอบการแก้ปัญหาแบบสันติวิธีมากกว่า

คนที่เหลือของตระกูลเซี่ยเห็นเซี่ยเฉิงเย่ถูกตบอย่างรุนแรงจากเย่เฟิง จึงไม่มีใครกล้าออกมารับหน้าเขาเลยแม้แต่คนเดียว แต่เดิมพวกเขามาที่นี่เพื่อเชียร์ให้เซี่ยหมินทวงสิ่งที่เรียกว่า “ความยุติธรรม” แต่พวกเขาไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเย่เฟิงมาก่อนดังน้นมันจึงเลือกที่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหาที่เกินตัวนี้

เซี่ยผิงฮุยลุกขึ้นยืน เขามองไปยังเซี่ยเฉิงเย่ด้วยสายตาที่ดูคลุมเครือพร้อมกับพยักหน้าให้ ชายชราหันสายตาไปที่เย่เฟิงและกล่าวว่า “เกิดอะไรขึ้น? เพราะสิ่งที่เรียกว่าเกียรติยศของผู้ชายแกเลยปฏิเสธที่จะเอ่ยปากขอโทษก่อนงั้นหรือ?”

ในความคิดของเขาแม้ว่า เย่เฟิง ได้รับการสนับสนุนโดยแก๊งอสรพิษสวรรค์ แต่เขาก็เป็นเพียงนักเรียนชั้นมัธยมปลายดังนั้นมันก็ไม่ยากสำหรับพวกเขาที่จะกดดันให้ชายหนุ่มยอมรับความพ่ายแพ้

แต่ความจริงกลับไม่เป็นไปตามที่เขาหวัง เย่เฟิงไม่คิดที่จะขอโทษเธอเลยแม้แต่น้อย

“ลองมองไปที่ใบหน้าของเมิงหานสิครับ ยังจะมีหน้าขอให้ผมเอ่ยปากขอโทษอีกงั้นเหรอ?”

เย่เฟิงไม่ได้สนใจกับผู้คนที่เหลือที่เฝ้ามองเขาอยู่ด้านหนึ่ง เขานั่งลงและกล่าวอย่างช้าๆ “จะว่าไป

แล้ว ในเมื่อเราอยู่ที่นี่กันพร้อมหน้าแล้ว ทำไมพวกคุณไม่ลองอธิบายเรื่องที่อุบัติเหตุทางรถยนต์ของคุณยายซูเหมิงหายดูล่ะ?”

“อุบัติเหตุทางรถยนต์?”

เซี่ยปิงหุ่ย แค่นเสียงอย่างเย็นชา

“อุบัติเหตุรถยนต์ เรามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างไร ทำไมพวกเราต้องให้คำอธิบายล่ะ”

เซี่ยหมินรู้สึกกังวลเล็กน้อย เธอพยามปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ของเย่เฟิง พร้อมกันนั้นเธอส่งสัญญาณผ่านสายตาให้เซี่ยเฉิงเย่ เซี่ยเฉิงเย่ทันทีเข้าใจความหมายเบื้องหลังที่ซ่อนอยู่ผ่านดวงตาของเธอ เขาพยักหน้าให้เธอและดึงโทรศัพย์มือถือออกมาส่งข้อความ

“’งั้นหรอครับ? ถ้าคุณปฏิเสธผมก็จะไม่บังคับคุณหรอก”

เย่เฟิงยิ้มและมองที่ซูซินฉางและเซี่ยปิงหุ่ยที่นั่งอยู่ด้วยกันแล้วก็หันมามองซูเหมิงหานแล้วจับมือเธอ เขาต้องการออกจากที่นี่ตอนนี้

มันไม่มีประโยชน์ที่จะยู่ที่นี่อีกต่อไป เกี่ยวกับอุบัติเหตุทางรถยนต์เย่เฟิงสามารถใช้ประโยชน์จากแก๊งอสรพิษสวรรค์ในการตรวจสอบเรื่องนี้ เขามั่นใจว่าพวกเขาจะต้องเจอเบาะแสอย่างแน่นอน

“หยุดตรงนั้น! หลังจากทำร้ายคนอื่นแล้วแกต้องการที่จะเดินออกไปจากที่นี่งั้นเหรอ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ!”

เซี่ยเฉิงเย่ เดินไปขวางทางพวกเย่เฟิงไว้ ขณะจ้องมองพวกเขาด้วยความโกธรจนหน้าแดงก่ำไปกว่าครึ่ง

เย่เฟิงจับมือซูเมิงหาน มองไปรอบ ๆ และเหลือบมองไปที่เซี่ยหมิน: “นั่นง่ายมาก เพียงเธอขอโทษเหมิงหานแล้วในทางกลับกันผมจะขอโทษเธอเช่นกัน!”

“ไอ้เด็กเวร ฝันไปเถอะ! แกกล้าที่จะทำร้ายทหารเท่ากับมีแต่ความตายเท่านั้นที่รอแกอยู่!”

เซี่ยหมินไม่ได้ใส่ใจเรื่องเย่เฟิงเลย ที่เธอต้องการทำคือการตบตีเย่เฟิงด้วยมือของเธอเอง ดังนั้นเธอจะยอมขอโทษได้อย่างไร?

“ถ้างั้นก็ถอยไปได้แล้ว อย่ามาทำให้คนอื่นเสียเวลาไปด้วย ถ้าคุณมีความขัดแย้งกับซูซินฉางก็จัดการตกลงแก้ไขกันเอง”

เย่เฟิงเดินมาถึงด้านหน้าของเซี่ยเฉิงเย่และมองตรงเข้าไปในดวงตาของเขาแบบไม่ไส่ใจแม้แต่น้อย

“หลบไป”

เซี่ยเฉิงเย่มองอย่างดูถูกไปที่เย่เฟิง “ตอนนี้ว่าแม้แกอยากจะยอมขอโทษ มันก็สายไปแล้ว”

เขาเพิ่งจะกล่าวคำพูดของเขาและในเวลาเดียวกันก็มีกลุ่มคนรีบวิ่งออกมาจากลิฟท์ของทางเดินเครื่องแต่งกายของพวกเขามันก็ค่อนข้างชัดเจนว่ากลุ่มคนเหล่านั้นเป็นทหาร

“พี่ใหญ่เซี่ย เกิดอะไรขึ้น!”

ท่าทีที่คุกคามของกลุ่มทหารนี้ทำให้เกิดสถานการณ์วุ่นวายบริเวณทั้งทางเดิน มีลูกค้ารายอื่นและคนที่กำลังจะไปเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อเห็นความวุ่นวายพวกเขากลัวจนก้าวถอยหลังไม่กล้าที่จะเข้าใกล้

เพียงไม่กี่วินาที พวกสวมเครื่องแบบทหารรวมตัวกันรอบประตูห้องปิดกั้นทางของเย่เฟิง พวกเขาล้วนเป็นบุคคลภายใต้การบังคับบัญชาของผู้นำทหารของเซี่ยเฉิงเย่

ซูเหมิงหานรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย “เย่เฟิง…….”

“เชื่อใจฉันเถอะ จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก”

เย่เฟิงตบไหล่ของเธอเบาๆเพื่อให้เธอรู้สึกสบายขึ้นบ้างเล็กน้อย จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองสำรวจอย่างถี่ถ้วน

“นี่…….”

ซูซิงฉางไม่คิดว่าสถานการณ์จะบานปลายเช่นนี้ เขาก็มองไปที่เซี่ยผิงฮุยและอยากจะพูดอะไรบางอย่าง

“เธอทำอะไรเกี่ยวกับเนื่องนี้ไม่ได้อีกแล้วและไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีกต่อไป มันเป็นเรื่องของทหารแล้วตอนนี้”

เซี่ยผิงฮุยขัดซูซินฉางก่อนที่เขาจะทันพูดอะไร ทหารหนุ่มมองเย่เฟิงและซูเหมิงหานที่ถูกขวางทางอย่างสงบ

เซี่ยผิงฮุยไม่ชอบที่ซูเหมิงหานคอยอยู่รอบซูซิงเฉิง และ เซี่ยหมิน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เซี่ยหมินและซูซิงเฉิง ก็ไม่มีบุตรจนถึงตอนนี้นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมการมีอยู่ของซูเหมิงหานถึงเป็นเรื่องละเอียดละอ่อน

ดูเหมือนว่าตอนนี้จะเป็นโอกาสดีที่เขาจะทำให้ซูซินฉางต้องละทิ้งซูเหมิงหานแล้ว จริงไหม?

เพราะว่ามีการหนุนหลังจากบุคลากรทางทหารแล้ว เซี่ยเฉิงเย่จึงใจสงบมากขึ้น เขากำลังมองไปที่เย่เฟิง “เด็กน้อย หวังว่าแกจะเข้าในสถานการณ์ของแกตอนนี้นะ ถ้าแกเห่าเหมือนสุนัขสามครั้งตบหน้าตัวเอง 100 ครั้งและหมอบคลาน ฉันจะยอมปล่อยแกไปก็ได้นะ ว่าไงล่ะ?”

ทันทีที่เขาพูดจบ ทุกคนในห้องอ้าปากค้าง มันไม่มากเกินไปเหรอแบบนั้น?

……

ในขณะนั้นเองตรงบันไดของร้านอาหารจิงเฉิง กลุ่มของสมาชิกจากอสรพิษสวรรค์หลายคนขึ้นบันไดพร้อมถือมีดปังตอมาในท่าทีที่คุกคาม

ชายหน้าบาก เดินนำหน้าของพวกเขา ไม่กี่นาทีที่ผ่านมาเขาได้ยินจากจ้าวอี้เปย ว่าเหมือนจะมีกองทหารเข้ามาหาเย่เฟิง โดยไม่ต้องเสียเวลาสักวินาที ชายหน้าบากนำกลุ่มคนของเขามุ่งมาที่นี่ทันที

ที่ล็อบบี้ของผู้จัดการโรงแรมบอกให้พนักงานของเขารายงานตำรวจอย่างเร่งรีบ สถานการณ์เช่นนี้ไปไกลเกินกว่าอำนาจของผู้จัดการโรงแรมจะสามารถควบคุมได้แล้ว

…………………….

แปลโดยทีมงานGSI

ALPHIE: เหนื่อยมากครับ กับการแปลครั้งแรก

Solar Spark : สู้ๆครับ ALPHIE ผู้อ่านรออยู่ อิอิ

ชี้แจงเล็กน้อยนะครับ เห็นมีคนถามมาเรื่องการบริจาค ตอนแรกผมก็คิดจะทำเหมือนกัน แต่ไม่ได้เอาเงินเข้าทีมแปลนะครับ จะเอาเงินให้ผู้แปลENG ไป แต่คิดไปคิดมา อีกไม่นานก็น่าจะตามทันของENG แล้ว ไว้ถึงตอนนั้นหากใครอยากอ่านต่อเร็วๆก็คงต้องช่วยกันบริจาคให้ทางนู้นแล้วละครับ ส่วนตอนนี้ใครอยากอ่านเร็วๆมีโปรโมชั่น ไลค์ของเพจขึ้นทุกๆ200ไลค์นับตั้งแต่ไลค์ที่1000เป็นต้นไป บวกให้หนึ่งตอนจากปกติที่ลงวันละ 2 ตอนครับ

ส่วนของเว็บ lnmtl.com ที่มีแปลจนจบแล้ว ผมขอไม่แปลจากเว็บนี้นะครับ เพราะมันเป็นการแปลจากจีนมาโดยใช้โปรแกรมแปลภาษา ซึ่งอ่านแล้วพอจับใจความได้ เขียนสปอยพอไหว แต่ให้แปลเป็นตอนคงไม่ไหว ยังไงเรื่องสนุกแบบนี้รออ่านเป็นตอนดีกว่าเนอะ แต่ถ้าใครอ่านแล้วก็ขออย่าสปอยลงในคอมเม้นหรือในเพจนะครับ เพราะทีมงานส่วนใหญ่ก็อ่านถึงแค่ที่ENG แปล เคยโดนคนสปอยมาทีหนึ่งนี่เซ็งไปหลายวันเลยครับ55

ผมแปลจากเว็บนี้นะครับ http://www.novelsaga.com/category/gsi/