บทที่ 42 ตัวเลือกของซูซินฉาง

ในสภาพแวดล้อมของหมู่บ้านชิงเฟิง เป็นสถานที่ที่สวยสดงดงามมาก ทั้งอากาศที่บริสุทธิ์ และยังเต็มไปด้วยดอกไม้ริมทางเดิน สถานที่แบบนี้จัดว่าหาได้ยากจริงๆในเมืองเหยียนจิงแห่งนี้

แต่ถึงอย่างนั้น ทางเข้าหน้าบ้านที่ใหญ่โตหลังหนึ่ง มีบุคคลสามคนกำลังเผชิญหน้ากันอยู่ คือเย่เฟิง ซูเหมิงหาน และแม่เลี้ยงของเธอ

“ซูเหมิงหาน เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ?”

เย่เฟิงถามเด็กสาว แต่กลับถูกเธอตอบกลับอย่างเย็นชา

“นี่มันไม่ใช่เรื่องกงการอะไรของนาย นายควรจะกลับบ้านของนายไปเดี๋ยวนี้เลย”

ถึงแม้เด็กสาวจะยังขุ่นเคืองใจ แต่เธอก็ไม่ต้องการให้เย่เฟิงเข้ามายุ่งเรื่องพวกนี้

“ไม่ ฉันมีเรื่องที่จะต้องบอกเธอ”

เย่เฟิงไม่ได้จากไปไหน และยังพูดต่ออีกว่า “แต่ก่อนหน้านั้น ฉันจะช่วยเธอแก้ปัญหาตรงหน้านี้เสียก่อน”

“นายเนี่ยนะจะแก้ปัญหาของฉัน?”

ซูเหมิงหานแค่นเสียงเบาๆ เพราะเธอไม่เคยรู้สึกชอบวิธีการแก้ปัญหาของเย่เฟิงที่ใช้แต่กำลังเลยแม้แต่น้อย “นายรู้ไหม ยังมีปัญหาอีกมากที่ไม่สามารถแก้ได้โดยใช้กำลังน่ะ”

“วางใจเถอะ ฉันไม่ได้คิดจะต่อสู้ตลอดเวลาหรอก”

เย่เฟิงยิ้มบางๆ

ในเวลานี้ ผู้หญิงสไตลิสคนนี้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาทั้งสองคน ก็เริ่มอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างให้กับซูซินฉางในโทรศัพท์ และเล่าออกมาอย่างหยาบคายและไม่มีเหตุผล

จากการคุยโทรศัพท์ เย่เฟิงรู้ว่าผู้หญิงคนนี้มีชื่อว่า เซี่ยหมิน ไม่ใช่แค่ตระกูลเซี่ยเป็นตระกุลที่มีอำนาจมาก แต่ยังจัดเป็นตระกูลอันดับต้นๆของเมืองหยางจิงแห่งนี้เพราะเนื่องมากจากผู้หญิงที่ชื่อเซี่ยหมินคนนี้ ทำให้ซูซินฉางสามารถทำให้กลุ่มซูเชิงของเขาได้รับประสบความสำเร็จเรื่อยมา

ซูซินฉางรับรู้ทันทีว่ามีเรื่องซับซ้อนเกิดขึ้นที่บ้านของเขา ชายวัยกลางคนจึงพยายามพูดทุกอย่างเพื่อยุติปัญหาและความขัดแย้งลงอย่างระมัดระวัง และไม่พยายามพูดเร็วจนเดินไป

หลังจากวางหูโทรศัพท์ เซี่ยหมินก็วางไอโฟนรุ่นล่าสุดของเธอลงไปในกระเป๋า Louis Vuitton ของเธอ และมองหน้าเย่เฟิงด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร

“อ่อ เดี๋ยวนี้นางจิ้งจอกน้อยไปอ่อยผู้ชายมาช่วยเธองั้นหรอ แต่ก็นะเจ้าหนุ่ม เธอควรจะรีบไปให้พ้นเดี๋ยวนี้ ในโลกนี้มีหลายที่เธอแก้ปัญหาไม่ได้”

ถึงแม้เซี่ยหมินจะได้ยินทั้งสองคนพูดคุยกันแล้ว แต่เธอก็ไม่สนใจ

เธอรู้ว่าเมื่อวานเจ้าหนุ่มคนนี้พาเธอไปที่หลางฟาง เซี่ยหมินได้สืบเรื่องราวเกี่ยวกับเย่เฟิงและจากข้อมูลที่เธอได้มานั้น เย่เฟิงก็เป็นแค่เด็กมัธยมปลายธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น มีเรื่องที่เธอคิดไม่ถึงเล็กน้อยคือเขาเคยถูกจับข้อหาใช้บริการหญิงโสเภณี แต่ก็ถูกปล่อยตัวในที่สุด

เหมือนเทียบกันแล้วถ้าเป็นลูกของตระกูลเซี่ย เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอะไร ต่อให้เป็นพวกนครบาลก็ยังไม่กล้าที่จะจับเลยแม้แต่น้อย หากเทียบก็เย่เฟิง ราวกลับว่าเย่เฟิงนั้นไม่ได้มีอะไรเลย

“อยากให้ฉันไปให้พ้นงั้นหรอ?”

เย่เฟิงได้ยินดังนั้นก็ค่อยๆพูดออกมา “มันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณว่ามากพอที่จะไล่ผมไปได้หรือไม่”

“ชั่งเป็นเด็กที่หยิ่งยโสยิ่งนัก”

เซี่ยหมินยิ้มอย่างดูถูกและมองไปที่ซูเหมิงหาน พร้อมกับพูดว่า “ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะไม่เลือกผู้ชายอ่อนหัดแบบนี้หรอก ลุงสองของฉันสนใจสาวสวยอยู่นะ เขาทั้งใจดีและมีความเป็นผู้ใหญ่ ดูเหมาะกับเธอยิ่งกว่าเจ้าหนุ่มคนนี้อีก อยากให้ฉันแนะนำให้รู้จักไหม?”

“น่าเกลียดที่สุด!!”

ทั่วร่างของซูเหมิงหานสั่นสะท้านไปด้วยความโกรธ เธอไม่เคยคิดว่าแม่เลี้ยงของเธอจะเป็นคนที่ชั่วร้ายและไร้ยางอายได้ถึงขนาดนี้

นี่มันเป็นสิ่งที่แม่เลี้ยงสมควรพูดงั้นหรอ?

“งั้นหรอ?”

เมื่อเย่เฟิงเห็นซูเหมิงหานที่กำลังโกรธจัด เขาจึงโอบไหล่เธอเพื่อให้เด็กสาวใจเย็นลง และมองไปที่เซี่ยหมินพร้อมกับพูดว่า “หากฉันเป็นซูซินฉาง ฉันคงไม่เลือกผู้หญิงที่น่าเกลียดอย่างคุณมาเป็นภรรยาหรอก ในเมื่อเขาก็มีเลขาที่ทั้งแสนสวยและน่าดึงดูอยู่ข้างตัวแล้วจริงไหม?”

เย่เฟิงยังคงจำหูเหมยเหม่ยที่เป็นเลขาและคนขับรถของซูซินฉางที่เจอกันครั้งล่าสุดได้ เย่เฟิงรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ชัดเจนว่ากำลังเปรียบเทียบเลขาสุดสวยกับภรรยาสุดขี้เหล่ของซูซินฉาง และเปรียบเทียบต่อหน้าต่อตาเซี่ยหมินเลยด้วย…..

“ฮึ่ม!! คอยดูเถอะ ไอ้เด็กไม่สิ้นกลิ้นน้ำนม แกคิดว่าซูซินฉางจะกล้ามีใครนอกจากฉันงั้นหรอ?”

เซี่ยหมินแค่นเสียง และไม่ได้สนใจที่เย่เฟิงพูด

ในใจของเธอตอนนี้รู้ว่าซูซินฉางยังคงต้องการความเกื้อหนุนของตระกูลเซี่ย และหากเขากล้ามีผู้หญิงอื่นลับหลัง จะไม่ถือว่าเขากำลังท้าทายอำนาจของตระกูลเซี่ยงั้นรึ?

ในที่สุด เซี่ยหมินก็ตัดสินใจจะให้ซูซินฉางเลือกระหว่างเธอกับซูเหมิงหาน เพราะว่าเธอนั้นแต่งงานกับซูซินฉางมาแล้ว10 แต่กลับไม่มีลูกเลยซักคน แต่ซูซินฉางกับมีลูกสาวที่ติดมาจากภรรยาเก่าของเขา ทำให้ในใจของเซี่ยหมินไม่มีความสงบอยู่เรื่อยๆ

เย่เฟิงรับรู้ได้ว่าเซี่ยหมินนั้นไม่เชื่อเขา ดังนั้น ชายหนุ่มจึงเพียงแค่ยิ้ม และไม่อยากจะพูดอะไรกับผู้หญิงน่ารังเกียจคนนี้อีก ตอนนี้ เย่เพียงรอให้ซูซินฉางมาถึงแล้วดูว่าเขาจะทำอย่างไร

ซูเหมิงหานจับแขนของเย่เฟิงเบาๆ เพราะมันทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจ ยิ่งเมื่อเด็กสาวรู้ว่าชายหนุ่มคนนี้ยังคอยยืนอยู่ข้างเธอเสมอ นี่ทำให้เธอไม่รู้สึกกลัวอะไรอีกไม่ว่าจะเป็นเซี่ยหมินหรือพ่อของเธอก็ตาม

ตลอดมาซูซินฉางเป็นสามีที่กลัวภรรยาคนนี้ของเขามาก เนื่องด้วยเหตุนี้ทำให้เขาเลี้ยงดูซูเหมิงหานอย่างเข้มงวด ในสายตาของคนอื่น ซูเหมิงหานดูเหมือนจะเป็นสาวสวยจากตระกูลอันมั่งคั่งและมีอภิสิทธิ์ต่างๆ มากมาย แต่ความจริงเธอไม่มีอิสระอะไรเลยในชีวิตของเธอ

ถ้าซูซินฉางคิดจะ ละทิ้งเธอก็เหมือนกับการปล่อยให้ซูเหมิงหานออกจากกรง และทำให้ไม่มีอะไรให้รู้สึกเสียใจอีกภายหลัง

ซูซินฉางมาถึงอย่างรวดเร็ว

เขาไม่เคยคิดเลยว่า เซี่ยหมินจะแอบส่งคนไปมาสอดแนมลูกสาวของเขา และรู้ว่าซูเหมิงหานจะกลับมาจากหลางฟางในเวลานี้ หลังจากได้ยินเรื่องราวทั้งหมด ทำให้ใจของเขารู้สึกไม่สงบเลยแม้แต่น้อย เขาจึงรีบมาที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

เมื่อรถ BMW เขามาจอดหน้าบ้านหลังโต ชายวัยกลางคนที่ใส่สูทสไตล์ตะวันตกก็เดินลงมาจากรถ เขาคือซูซินฉาง เย่เฟิงจำหูเหมยเหม่ยซึ่งเป็นเลขาสุดสวยและคนขับรถของเขาได้ดี แต่ถึงอย่างไร หญิงสาวคนนั้นไม่ได้ลงมาจากรถตามหัวหน้าของเธอ เพราะคืดว่านี่เป็นเรื่องที่เธอไม่สมควรเข้าไปยุ่งหรือเกี่ยวข้องด้วย
ตามปกติ ซูซินฉางถือเป็นคนที่ดูมีความเป็นผู้ใหญ่ และมีความมั่นคง แต่เวลานี้ คิ้วของเขาขมวดแน่น ชัดเจนว่ากำลังมีเรื่องบางอย่างรบกวนจิตใจเขาอยู่

“เหมิงหาน หมิน พวกเธอสองคนทำอะไรกันอยู่?”

ซูซินฉางถอนหายใจและถามออกไปในขณะที่เดินไปหาพวกเธอ

“ถามลูกสาวสุดที่รักของคุณสิ ว่าเธอไปไหนมาในตลอดสองวันที่แล้ว”

เซี่ยหมินพูดเสียงดัง

“ลูกไม่ได้ไปที่หลางฝางมางั้นหรอ?”

ซูซินฉางถามซูเหมิงหานก่อนที่จะเดินไปกุมมือของเซี่ยหมิน ด้วยความจริงใจ และพูดว่า “นี่จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย มันจะไม่เกิดขึ้นอีก คุณช่วยใจเย็นลงก่อนได้ไหม?”

“ไม่ ครั้งนี้คุณต้องให้คำอธิบายกับฉัน”

เซี่ยหมินพูดและชี้ไปที่ซูเหมิงหาน “ระหว่างลูกสาวของคุณกับฉัน คุณจะเลือกใคร เลือกมาเลยเดียวนี้!”

ดูเหมือนว่าสิ่งที่ซูซินฉางพูดไปจะไม่สามารถส่งไปถึงเธอได้เลย ไม่ว่ายังไงเมื่อเธอจัดสินใจแล้ว ไม่ว่าเขาจะพูดยังไงเซี่ยหมินก็จะไม่เปลี่ยนความคิดของเธอ

ซูเหมิงหานที่ยืนอยู่อีกฝั่งนึงกำลังมองพวกเขาสองคนอย่างเงียบๆ เย่เฟิงก็ยืนอยู่ข้างๆอย่างใจเย็น เขาต้องการที่จะดูตัวเลือกของซูซินฉาง

หากเขาตัดสินใจเลือกซูเหมิงหานและหย่าร้างกับเซี่ยหมิน เขาก็จะถือว่าเป็นพ่อที่ดี แต่หากเขาเลือกภรรยาของเขาและทอดทิ้งลูกสาวของเขา เขาก็จะเป็นพ่อที่น่าผิดหวังและไร้ความรับผิดชอบ

แน่นอนสำหรับ ซูซินฉางนั้น นี่เป็นตัวเลือกที่ยากมากๆ

เขาพยายามพูดโน้มน้าวใจของเซี่ยหมินแล้วแต่ต่อให้พยายามยังไงเธอก็ไม่ฟังและไม่คิดที่จะเปลี่ยนใจเธอเลยแม้แต่น้อย ทุกๆครั้งที่เซี่ยหมินเห็นซูเหมิงหาน นี่เหมือนกับมีหนามมาคอยิ่มแทงใจ และเธอพยายามอดทนกับความเจ็บปวดนี้มาตลอด 10 ปี

หากมันยังเป็นเช่นนี้ต่อไป สักวันหนึ่งเธอคงต้องคลังตายเป็นแน่

เซี่ยหมินมองไปที่เย่เฟิงและซูเหมิงหานที่ยืนอยู่ข้างๆ กันอย่างเกลียดชัง และไม่ว่าซูซินฉางจะพูดยังไงเธอก็จะไม่มีวันเปลี่ยนความคิดของเธอเด็ดขาด!

หลังจากนั้นสักพักนึง ในที่สุดซูซินฉางรู้แล้วว่าเซี่ยหมินไม่มีทางยอมเปลี่ยนใจ เขาทำอะไรไม่ได้อีกนอกจากถอนหายใจ

ซูซินฉางมองไปที่ซูเหมิงหานและเย่เฟิงที่ยืนอยู่ข้างเธอ เขารู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เขาต้องการที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเย่เฟิงและลูกสาวของเขา แต่ตอนนี้เขากลับให้ต้องเลือกตัวเลือกที่ทำให้เขาต้องรู้สึกลำบากใจที่สุด

“ซูเหมิงหาน มากับพ่อแปปนึงซิ”

ซูซินฉางเรียกลูกสาวของเขาไปเหมือนจะต้องการที่จะไปคุยอะไรกันสองคน

“ถ้าหากพ่อมีอะไรจะพูดก็พูดมาเลยค่ะ ยังมีอะไรน่าอายที่จะพูดตรงนี้อีก?”

ซูเหมิงหานพูดด้วยเสียงเย็นชามากๆ เด็กสาวดูเหมือนจะเดาตัวเลือกของพ่อเธอได้แล้ว เพราะสำหรับพ่อของเธอแล้ว ธุรกิจของเขาสำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

………………………….

แปลโดยทีมงานGSI