บทที่ 43 อยู่ในห้องเดียวกัน?

ซูซินฉางค่อนข้างที่จะอับอายที่จะพูดอะไรแบบนี้กับลูกสาวของเขา แต่หลังจากได้ยินเสียงของเธอที่พูดกับเขาด้วยท่าทีที่เย็นชาเหมือนกับจะเดาความคิดของเขาออกอยู่แล้ว เขาก็พูดออกมาอย่างชัดเจนว่า “พ่อจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ลูกเองไม่ว่าจะเรื่องค่าเทอมหรือค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน”

เขาพูดด้วยเสียงค่อนข้างเบา แต่ทุกคนก็สามารถเข้าใจได้ว่าเขาจะรับผิดชอบจนจบมหาลัยเท่านั้นและหลังจากนั้นเขาก็จะไม่ยุ่งหรือมาดูแลเธออีก

ในอีกความหมายคือเขาเลือกที่จะไม่หย่าร้างกับเซี่ยหมิน แต่เลือกที่จะทอดทิ้งลูกสาวของเขา และตัดขาดความสัมพันธ์พ่อลูกของพวกเขาทั้งสองคน

หลังจากที่เขาคิดอยู่สักพัก เขาก็รู้ว่า เย่เฟิงมีความสัมพันธ์ระดับสูงกับแก๊งอสรพิษสวรรค์ แต่นอกเหนือจากนั้น เขาไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเย่เฟิงอีกเลย ซูซินฉางไม่รู้ด้วยว่าเย่เฟิงมีความสัมพัทธ์กับตระกูลหลิน ตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองที่มีอิทธิพลมากจนเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการได้

ตอนแรกเขาคิดจะใช้ซูเหมิงหานเพื่อเอาชนะใจเย่เฟิง และหลังจากนั้นตระกูลเซี่ยกับแก๊งอสรพิษสวรรค์ก็จะได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียวและร่วมมือกันทางด้านต่างๆ หลังจากนั้นตัวซูซินฉางก็จะได้เลื่อนขั้นเป็นตระกูลชั้นหนึ่ง

แต่ตอนนี้ เขาทำได้แค่เลือกระหว่างสองทางนี้ และแน่นอนเขาจะต้องเลือกฝั่งที่มีความเสถียรมากกว่ายิ่งไปกว่านั้น แก๊งอสรพิษสวรรค์ตอนนี้ยังดูไม่จำเป็นสำหรับเขา แต่ตระกูลเซี่ยนั้นได้ช่วยเหลือด้านธุรกิจของเขามาเป็นเวลาเกือบ10ปี ถ้าหากเขาจำเป็นจะต้องเลือกจริงๆ เขาก็จะเลือกตระกูลเซี่ย

“ขอบคุณค่ะ แต่หนูไม่ต้องการอะไรจากพ่ออีก”

ซูเหมิงหา มองไปที่พ่อของเธออย่างเย็นชา และหันหลังเดินจากไป

“เฮ้ เธอจะไปไหนน่ะ?”

เย่เฟิงไม่คิดเลยว่าสาวน้อยคนนี้จะมีจิตใจที่เข้มแข็งขนาดนี้ นี่ทำให้เขาตะลึงไปพักหนึ่ง

“แล้วมันเรื่องอะไรของนายด้วยล่ะ?”

ซูเหมิงหานหยุดพูดแต่ไม่ได้หันหลังกลับมา ถึงอย่างนั้นเย่เฟิงก็รับรู้ได้ถึงเสียงอันสั่นเครือที่เหมือนกับคนร้องไห้

เมื่อต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ไม่ว่าจิตใจของเด็กสาวจะแข็งแกร่งมากเพียงใด แต่มันก็ยังคงสร้างความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสให้กับเธออยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้นซูเหมิงหานยังเป็นเพียงแค่เด็กมัธยมปลาย การที่เธอได้ยินประโยคอันโหดร้ายจากคนเป็นพ่อ มันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดเหมือนสวรรค์ทั่วทั้งฟ้ากำลังพังทลายตกลงมาทับเธอ ในใจของเด็กสาวเต็มไปด้วยความโศกเศร้าแต่กลับไม่สามารถระบาย หรือร้องไห้บนไหล่ของใครได้

ที่ซูเหมิงหานไม่หันกลับมา ไม่ใช่เพราะเธอโกรธหรือเกลียด แต่เพราะเธออยากที่จะซ่อนน้ำตาของตัวเอง

เมื่อเห็นซูเหมิงหานที่อยู่ในสภาพที่น่าเศร้าเช่นนี้ หัวใจของเย่เฟิงรู้สึกเหมือนถูกบีบรัด ชายหนุ่มเดินไปหาเด็กสาวพร้อมกับกอดเธอไว้แน่น ถึงเธอจะพยายามจะผลักเขา แต่มีหรือที่เขาจะยอมปล่อยเธอไป

“ฉันไม่รู้จริงๆว่าผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้าโรงพยาบาลเป็นใคร เธอต้องไม่เข้าใจผิดเรื่องนี้ และอีกอย่าง ถ้าเธอไม่สามารถอยู่บ้านของเธอได้ ทำไมเธอไม่มาอยู่ที่เดียวกับฉันเสียล่ะ?”

เย่เฟิงถามออกไปตรงๆ

เมื่อซูเหมิงหานได้ยินเช่นนี้ เธอจึงหยุดเดิน

ในความรู้สึกของเย่เฟิง เมื่อเห็นเด็กสาวที่เป็นเช่นนี้ นั่นทำให้เขารู้สึกสงสารเธอเป็นอย่างมาก นัยน์ตาของเธอที่ถูกย้อมไปด้วยความรู้สึกเศร้าและความเสียใจอยู่เต็มไปหมด

เด็กสาวยังคงยืนนิ่ง และยืนคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเสนออกมา

“แล้ว…มันจะไม่ทำให้นายลำบากหรอ?”

ซูเหมิงหานถามเย่เฟิงขณะที่ยังคงไม่หันหน้ากลับมา เธอไม่อยากจะอยู่บ้านของเธออีกต่อไป มังคงเป็นอะไรที่เจ็บปวดมากหากเด็กสาวอยู่บ้านของเธอต่อไปทั้งอย่างนั้น ส่วนเรื่องจะออกไปอยู่ข้างนอกก็คงเป็นไปไม่ได้เพราะเธอไม่มีเงินติดตัวเลยแม้แต่น้อย แต่จะให้ไปอยู่บ้านเดียวกับเยเฟิง ก็ดูจะเป็นอะไรที่น่าอายเกินไปสำหรับเธอ เพราะพวกเขาต่างก็เป็นเพศตรงข้ามกัน

“บ้านฉันออกจะใหญ่โต มันจะไปลำบากได้ยังไงล่ะ?”

เย่เฟิงถามออไป ขณะที่เห็นเด็กสาวกำลังเช็ดน้ำตา เขาไม่สามารถช่วยบรรเทาความเจ็บปวดทางจิตใจของเธอได้ แต่เขาก็อยากจะปกป้องเธอ อยากจะปกป้องด้านที่งดงามและใสซื่อของสาวน้อยคนนี้เอาไว้

เวลานี้ เขาอยู่ในโลกใบนี้ ใครจะรู้ว่าตัวเขาจะสามารถกลับไปยังโลกเทวะได้หรือไม่ เพราะฉะนั้น เขาควรทำทุกสิ่งในโลกใบนี้ให้ดีที่สุด อย่างน้อยก็เพื่อคนรอบข้างของเขา

“ก็ได้ แต่ฉันจะจ่ายค่าเช่า”

ซูเหมิงหานพยักหน้า ถึงแม้ว่าเธอจะยังคงอยู่ในอารมณ์โศกเศร้า แต่เด็กสาวก็รู้สถานการณ์ของตัวเองดีว่าตอนนี้เธอไม่มีบ้านอยู่อีกแล้ว ถ้าไม่ไปอยู่บ้านเย่เฟิง เธอก็ไม่รู้จะไปอาศัยอยู่ที่ไหน

หลังจากนั้นพวกเขาได้เห็นรถ BMW ขับออกไป โดยมีซูซินฉางนั่งอยู่ด้วยหลัง มองลูกสาวของเขาด้วยความรู้สึกเสียใจ และพยายามบอกกับเธอว่าเขาจะให้ค่าชดเชยกับเธอ แต่เซี่ยหมินที่นั่งอยู่ข้างๆเขา ทำท่าทางหยิ่งยโสและทำหน้าเหมือนกับว่า ได้รับชัยชนะอยู่เต็มใบหน้า

ถึงอย่างนั้นซูเหมิงหานไม่ได้มองไปที่พวกเขา เธอหันหลังกลับและเดินเข้าบ้านของเย่เฟิงไป

เย่เฟิงมองไปที่ซูซินฉางและคิดว่าต่อจากนี้ไป คนๆนี้จะกลายเป็นคนที่ซูเหมิงหานเกลียดที่สุดในชีวิต ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นพ่อของเธอก็ตาม สำหรับเย่เฟิงเรื่องในครั้งนี้ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอะไรเท่าไหร่ เพราะในโลกเทวะเรื่องแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่ปกติมาก แต่สำหรับโลกนี้แล้วมันเป็นเรื่องที่หาได้ยากมาก

เมื่อเย่เฟิงเดินตามเธอไป สักพักนึง โทรศัพท์ของเด็กสาวก็เด้งเตือนข้อความขึ้นมา

ซูเหมิงหานหยิบโทรศัพท์ออกมา และมองไปที่ข้อความ เธออดไม่ได้ที่จะแค่นเสียงออกมาดังๆ เย่เฟิงมองไปที่ข้อความนั้นละเห็นว่า เป็นข้อความที่แสดงถึงยอดเงินในบัญชีของเธอในตอนนี้ซึ่งมีอยู่มากกว่าล้าน ไม่ต้องแปลกใจเลยคนที่ให้เงินจำนวนนี้มาต้องเป็น ซูซินฉางพ่อของเธออย่างแน่นอน และเขาก็แอบทำลับหลังเซี่ยหมินภรรยาของเขา

เมื่อเห็นดังนั้น ซูเหมิงหานก็รู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย

ถึงอย่างนั้น เย่เฟิงไม่ได้คิดว่าซูซินฉางทำไปเพราะรู้สึกผิด เขาคิดว่าซูซินฉางกำลังเสแสร้งทำเป็นรู้สึกผิดมากกว่า แต่เด็กสาวมองไม่ออก

ซูซินฉานนั้น เป็นนักธุรกิจต้องการความมั่นคงในธุรกิจของเขา และในตอนนี้เขาไม่สามารถที่จะตัดขาดความสัมพันธ์กับใครทั้งนั้นแม้แต่กับตัวซูเหมิงหานเอง เพื่อที่จะได้นำไปใช้ประโยชน์ในอนาคต เพื่อสร้างหนทางและโอกาศแห่งความสำเร็จใหม่ในธุรกิจของเขาเอง

หากเย่เฟิงไม่ได้เดาผิด หลังจากนี้ไม่นานซูซินฉางจะต้องกลับมาหาซูเหมิงหานเพื่อขอให้เธออภัยให้เขาแน่ แน่นอนว่าในสายตาของซูซินฉาง เขามองซูเหมิงหานเป็นแค่เด็กม.ปลายที่ชักจูงให้เชื่อฟังได้ง่ายมาก

เย่เฟิงมองไปยังรถ BMW คันนั้นที่กำลังขับออกไป ชายหนุ่มคิดว่าหลังจากนี้เขาจะดูแลซูเหมิงหานเป็นอย่างดีและจะไม่ยอมให้เธอถูกใครหลอกอีกเป็นครั้งที่สอง

ถ้าหากเขารักลูกสาวของเขาจริง ซูซินฉางจะยอมปล่อยให้ลูกสาวของเขาได้รับความเจ็บปวดเช่นนี้หรือ ไม่ว่าซูซินฉางวางแผนจะทำอะไรในอนาคต แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ก็เพียงพอที่เย่เฟิงจะเห็นธาตุแท้ของพ่อคนนี้แล้ว

เย่เฟิงเปิดประตูเข้าไปในบ้านของเขา และเดินเข้าไปพร้อมกับซูเหมิงหาน

“นายมีห้องว่างบ้างไหม? ก่อนอื่นฉันจะได้ย้ายของจากบ้านเก่ามาที่นี่”

ซูเหมิงหานเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจเข้มแข็งมาก เธอไม่ได้ร้องไห้นานมาก และเธอก็รู้และว่าการร้องไห้มันไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นเลย เพราะฉะนั้น เธอจึงเริ่มที่จะคิดเรื่องของตัวเองและเรื่องต่อจากนี้ การที่เด็กสาวถูกพ่อทอดทิ้ง มันกระทบกระเทือนกับจิตใจของเธอเป็นอย่างมาก ยิ่งในเวลานี้เธออยู่ในระหว่างการเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย และถ้าผลสอบออกมาไม่ดีตามที่หวัง อนาคตของเธอก็คงจะดับมืดอย่างแน่นอน

ซูเหมิงหานไม่อยากจะเป็นเหมือนเซี่ยหมิน ที่เอาแต่พึ่งหน้าตาและรูปร่างเพื่อหาผู้ชายให้กับตัวเอง

เด็กสาวอยากจะช่วยเหลือตัวเองและพึ่งพาแค่ตัวเองเท่านั้น เพื่อที่จะทำให้พ่อของเธอรู้สึกเสียใจภายหลังที่เขาทิ้งเธอไป

“ห้องว่าง…เอ่อ”

เมื่อเด็กสาวถามคำถามนนี้ออกมา เย่เฟิงก็ตะลึงไปสักพัก เพราะชายหนุ่มพึ่งนึกขึ้นได้ว่าในบ้านหลังนี้ เขาไม่สามารถจัดการอะไรต่างๆในบ้านได้อย่างตามใจ ถ้าไม่งั้นปู่ของเขาคงจะเล่นเขาแน่

บ้านหลังนี้มีห้องนอนของเขา ห้องอาบน้ำ และห้องรับแขก สำหรับห้องครัว ชายหนุ่มอย่างเขาที่เคยเล่นแต่เกมออนไลน์ ไม่ได้เคยต้องการมัน

เย่เฟิงกำลังคิดว่าเขาควรจะทำอย่างไรดี ในตอนนี้ แน่นอนว่าเขาไม่สามารถไล่เธอออกนอนนอกห้องได้ แต่สองคนจะมานอนในห้องเดียวกันงั้นหรอ? หรือว่าเขาควรจะหาที่อยู่อื่นให้เธอ ไหนๆเด็กสาวก็มีเงินเป็นล้านแล้วทั้งที

เย่เฟิงมองไปยังซูเหมิงหานด้วยความลังเล

“มีอะไรหรือป่าว”

ซูเหมิงหานมองไปที่เย่เฟิงอย่างงงๆ “อย่าบอกนะว่านายไม่มีห้องว่างน่ะ”

บ้านแต่ละบ้านในหมู่บ้านชิงเฟิง มีการออกแบบในรูปแบบเดียวกัน เธอยังจำได้ว่า ปกติแต่ละบ้านจะมีสามห้องนอน หรือว่าเย่เฟิงจะยังไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องแค่นี้?

………………………..

แปลโดยทีมงานGSI

Eins :  น่าสงสารนางนะครับ โดนพ่อทิ้งอย่างถาวร

Solar Spark : นี่ถ้าเป็นเมืองไทยสงสัยคงมีกระทู้พันทิปหัวข้อ “ถูกพ่อทิ้งทำไงดีคะ?” แน่เลย