บทที่ 41 เธอกำลังหึง

หลังจากที่ชายหน้าบากเสร็จสิ้นการรายงานสิ่งต่างๆให้กับเย่เฟิง เขาก็รีบกลับไปจัดการตามที่เย่เฟิงต้องการ

ชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็นสมาชิกของแก๊งอสรพิษสวรรค์ ได้ขับรถไปส่งเย่เฟิงและซูเหมิงหานที่บ้านของพวกเขา ทั้งคู่ใช้เวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ที่หลางฝาง และพรุ่งนี้เช้า พวกเขาต้องตื่นไปโรงเรียน

ผลการสอบจำลองครั้งที่สองที่กำลังจะออกมา เวลานี้เย่มองไปที่ซูเหมิงหานที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาคิดในใจว่าถ้าคะแนนสอบออกมาเมื่อไหร่ เขาคงถูกเธอหัวเราะเยาะเอาแน่

อย่างไรก็ตาม หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้น เย่เฟิงไม่อยากจะพูดคุยกับสายน้อยคนนี้มากนัก เพราะดูเหมือนว่าเธอจะแสดงท่าทีรังเกียจเขาเหลือเกิน

แม้แต่ตอนงานจัดแสดงสินค้าวันนั้น ซูเหมิงหานได้สร้างปัญหาแก่เขาโดยที่เธอไม่รู้ตัว การพูดชื่อเย่เฟิงตอนที่เขารับโทรศัพท์อย่างเสียงดัง ทำให้ดึงดูดความสนใจของหลงหวางเอ๋อจนเขาเกือบจะถูกตระกูลมังกรจับตัวไป และต้องจบด้วยการสังหารผู้ฝึกยุทธ์ที่ช่ำชองอย่างดาบหมาป่าเพื่อหนีออกจากที่นั่น เรื่องเหล่านี้ต้องขอขอบคุณสาวน้อยคนนี้เลย

ถ้าเขาถูกหลงหวางเอ๋อจับตัวได้ละก็………

เย่เฟิงไม่อยากจะคิดต่อ หากเป็นเช่นนั้นจริง เขาอาจถูกหญิงสาวฆ่าทิ้งเลยก็ได้

“ที่สำคัญ ห้ามให้คนตระกูลมังกรรู้เข้าเด็ดขาดว่าแกสามารถฝึกวรยุทธ์ได้!!”

ประโยคจากเย่เวิ่นเทียนยังคงดังก้องอยู่ในหูของเขา ถึงแม้เย่เฟิงจะไม่รู้ว่าอะไรคือเหตุผลของความแค้นระหว่างตระกูลมังกรกับตระกูลเย่ และเขาก็ไม่รู้เช่นกันว่าปู่ของเขาไปตกลงอะไรกับตระกูลมังกรนั่น แต่ชายหนุ่มมั่นใจได้อย่างหนึ่งว่าปู่ไม่ได้โกหกเขา ยิ่งกับเรื่องสำคัญแบบนี้ด้วย

ในใจของเย่เฟิงที่กำลังขบคิดเกี่ยวกับเรื่องวรยุทธ์อยู่นั้น ด้วยความบังเอิญ เขาได้หันไปมองซูเหมิงหานที่นั่งอยู่ข้างๆ เขารู้ว่าตอนนี้เธอกำลังจะได้กลับบ้าน แต่เธอกลับดูนิ่งสงบ และเอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่าง ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่าเด็กสาวกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

ซูเหมิงหานที่จู่ๆก็ทำตัวออกห่างเย่เฟิงนั้น ชายหนุ่มคิดว่าเธอคงเกลียดเขาแล้ว ในชีวิตก่อนเขาไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรักมาก่อนเลย และไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับมันเลยแม้แต่น้อย ชัดเจนว่าความรู้สึกของเขาค่อนข้างจะโง่เง่ากับเรื่องแบบนี้

เมื่อคิดว่าดาวโรงเรียนคนนี้กำลังเกลียดเขา นี่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เลิกคิดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะเวลานี้ เขาไม่ควรจะคิดถึงเรื่องสวยหรูแบบนี้เลย

ระหว่างทางกลับบ้าน หนุ่มสาวทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกันเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่ชายหนุ่มจากแก๊งอสรพิษสวรรค์กำลังขับรถเข้าไปจอดตรงริมถนนหน้าบ้านของซูเหมิงหาน

“นี่ ฉันจะคืนเงินสองแสนให้นายแน่นอน”

ซูเหมิงหานพูดและเดินลงจากรถไป เด็กสาวไม่ได้หันกลับมามองเย่เฟิงอีก และมุ่งตรงเข้าบ้านของเธอไป

เย่เฟิงไม่ได้พูดอะไร และกำลังเดินลงจากรถเพื่อจะกลับเข้าบ้านของเขาเช่นกัน แต่ชายหนุ่มคนขับรถมาส่งก็เรียกเย่เฟิงไว้ซะก่อน

เย่เฟิงหันหน้ากลับมามองชายหนุ่มคนนั้น เขาเป็นคนตัวสูง และมีดวงตาที่สวยงามเหมือนคนที่มีชีวิตชีวา

อย่างไรก็ตาม เวลานี้ ต่อหน้าเย่เฟิงเขากลับแสงดท่าทางสุภาพเรียบร้อยเทน “พี่ใหญเย่ครับ ผมมีเรื่องอยากจะพูดบางอย่าง แต่ไม่รู้ว่าควรจะพูดออกมาตอนนี้ดีไหม”

“ถ้านายมีอะไรอยากจะพูดก็รีบพูดมาตรงๆ”

เย่เฟิงพยักหน้า

“ผมคิดว่านายหญิงต้องกำลังหึงพี่ใหญ่อยู่แน่เลยครับ ไม่รู้ว่าพี่ใหญ่สังเกตเห็นหรือเปล่า?”

ชายหนุ่มคนนั้นสงบใจลง และพูดด้วยความสุภาพ ขณะมองดูร่างบางของซูเหมิงหานที่หายเข้าไปในประตูบ้าน

“ว่าไงนะ? เธอกำลังหึงฉันงั้นหรอ?”

เย่เฟิงไม่คิดเลยว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้จากชายหนุ่มคนนี้ เขาจึงแปลกใจเล็กน้อย “ทำไมนายถึงคิดแบบนั้นล่ะ?”

เมื่อชายหนุ่มคนนั้นเห็นเย่เฟิงสนใจหัวข้อที่เขาพูด จิตวิญญาณของเขาก็พุ่งปรี๊ด และรีบอธิบายว่า “พี่ใหญ่เย่อาจไม่ได้สนใจมากนัก แต่จากการสำรวจนิสัยผู้หญิงของผมแล้ว เมื่อดูจากสายตาและพฤติกรรมของนายหญิง ผมมั่นใจ 100% ว่าเธอกำลังหึงคุณอยู่อย่างแน่นอน!! ที่เธอไม่พูดคุยกับพี่ใหญ่ ไม่ใช่เพราะว่าเธอกำลังโกรธ ผมว่าเธอน่าจะรู้ว่าพี่ใหญ่กำลังมีผู้หญิงคนอื่นอยู่แน่เลย”

“…….”

เย่เฟิงกำลังคิดว่า เขามีผู้หญิงคนอื่นด้วยหรือ?

ผ่านไปสักพัด ภาพของหลงหวางเอ๋อที่ทางเข้าหน้าโรงพยาบาลก็แวบเข้ามาในหัวของเขา

“เฮ้ย อย่าบอกนะว่า…….”

เย่เฟิงนึกทบทวนและเข้าใจเรื่องทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว ในระหว่างที่ไปหลางฝาง ซูเหมิงหานตกหลุมรักเขาแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย แต่หลังจากเหตุการณ์ของหลงหวางเอ๋อทำให้เธอรู้สึกหึงเขา

“นายชื่อว่าอะไร?”

เย่เฟิงถามชื่อของชายหนุ่มคนนั้นเพื่อแสดงความสำคัญต่อเขา หากไม่มีชายหนุ่มคนนี้ เย่เฟิงคงเข้าใจว่าเด็กสาวเกลียดเขาไปแล้ว

“ทุกๆคนต่างเรียกผมว่าเปย ชื่อเต็มๆคือจ้าวอี้เปย ฮ่าๆๆ พี่ใหญ่เย่ หากมีเรื่องอะไร สามารถถามผมมาได้ทุกเมื่อ”

เปยทำการแนะนำตัวอย่างอบอุ่น และพูดว่า “ยิ่งกว่านั้น หัวหน้าได้สั่งให้ผมมาเป็นคนขับรถให้พี่ใหญ่ครับ”

“เปยงั้นหรอ? เป็นชื่อที่ดี”

เย่เฟิงยิ้มและพูดต่อไปว่า “เอาละ ฉันก็ไม่ได้อยากได้คนขับรถขับไปส่งฉันไปไหนมาไหนตลอดเวลาหรอกนะ ไว้ถ้าฉันต้องการเมื่อไหร่จะโทรไปเรียก”

เย่เฟิงมองไปยังรถคันหรูเปยขับมาส่งเขา มันคือรถ BMW 7 Series สีบรอนซ์เงิน รถคันนี้รุ่นเดียวกับรถที่พ่อของซูเหมิงหานใช้อยู่ ถึงแม้มันจะเป็นรถที่พวกเศรษฐีส่วนใหญ่ชอบใช้กัน แต่ถ้าให้เขานั่งรถคันนี้ไปโรงเรียนทุกวัน ไม่นาน ตัวเขาต้องเป็นที่รู้จักไปทั้งโรงเรียนเป็นแน่ เย่เฟิงไม่ได้อยากจเป็นจุดรวมสายตาของคนในโรงเรียนขนาดนั้น

“พี่ใหญ่เย่ ถ้างั้นผมจะส่งข้อความที่มีเลขเบอร์มือถือของผมพิมพ์ลงไปด้วย เผื่อไว้ถ้าพี่ใหญ่มีอะไรหรือต้องการอะไร สามารถโทรเรียกผมได้ทันที”

จ้าวอี้เปยล้วงโทรศัพท์ออกมา และส่งข้อความไปหาเย่เฟิง ดูเหมือนว่าก่อนที่ชายหน้าบากจะส่งเปยมาเป็นคนขับรถให้เย่เฟิง เขาได้ให้เบอร์มือถือเย่เฟิงมาด้วย ซึ่งนั่นทำให้เขารู้ว่าจ้าวอี้เปยคนนี้เป็นคนที่ชายหน้าบากไว้ใจมากแค่ไหน

“ดีมาก นายกลับไปได้แล้ว เดี๋ยวฉันจะเข้าบ้าน”

เย่เฟิงโบกมือขณะที่กำลังเซฟเบอร์มือถือของเปยอยู่

ความจริงแล้วเย่เฟิงไม่ได้สนใจผู้หญิงสวยเท่าไหร่ ก่อนที่เขาจะมีความแข็งแกร่งมากพอจะคุ้มครองตัวเอง ชายหนุ่มไม่อยากคิดถึงเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้น ดูเหมือนว่าซูเหมิงหานจะถูกวางไว้ตรงหน้าเขาเสียแล้ว
ในโลกเทวะนั้น เขาพบเจอกับผู้หญิงที่งดงามเหมือนซูเหมิงหานมากมาย แต่เมื่อเทียบกับสาวสวยพวกนั้นแล้ว เย่เฟิงได้พบด้านที่แท้จริงของเด็กสาวในระหว่างที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน นั่นทำให้เย่เฟิงมีความรู้สึกดีดีให้กับเธอ

ที่หลางฝาง เมื่อคิดถึงท่าทีที่เอาแต่ใจของเธอที่จะช่วยเหลือญาติให้ได้ ในสมัยนี้จะสามารถหาผู้หญิงแบบนี้ได้ที่ไหนอีก? เย่เฟิงรู้สึกเช่นนั้น จิตใจที่ใสซื่อของเธอทำให้เขารู้ว่าโลกใบนี้มันสกปรกโสมมเพียงใด

ก่อนหน้านี้เขาเคยเจอสาวสวยมามากก็จริง แต่พวกเธอก็มีแต่เอาแต่ใจตัวเอง ยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง แต่กรณีของซูเหมิงหานกลับต่างออกไป เธอเอาแต่ใจเพื่อคนอื่น

“ช่างเถอะ อย่าไปคิดให้มากเลยจะดีกว่า”

เย่เฟิงคิดในใจ และกำลังจะเดินเข้าบ้านของเขา แต่ทันใดนั้น ชายหนุ่มก็บังเอิญเห็นซูเหมิงหานที่ถูกใครบางคนขัดขวางไม่ให้เธอเข้าไปในบ้าน

คนที่ยืนขวางทางเด็กสาวอยู่นั้นเป็นผู้หญิงที่แต่งตัวสไตล์อะไรก็ไม่รู้ ถือกระเป๋าแฟนซี และยังแต่งหน้าหนาเป็นปูนซีเมนต์ แต่ดูเหมือนเธอคนนั้นจะอายุประมาณ 30 กว่าๆ ดูท่า น่าจะเป็นภรรยาสุดมั่งคั่งของพ่อซูเหมิงหาน แล้วทำไมเธอต้องยืนอยู่ตรงนั้น และขวางทางเด็กสาวไม่ให้เข้าบ้านด้วย?

“ฉันได้ยินว่าเธอไปที่หลางฝางมา หึ ช่างดูซาบซ้ำเหลือเกินนะ”

ผู้หญิงสไตลิสต์คนนี้แค่นเสียงและพูดต่อไปว่า “ทำไมเธอต้องไปหายายของเธอด้วยหะ? เมื่อก่อน ถ้ามันไม่เข้าขัดขวางงานแต่งงานของฉันกับพ่อเธอ ฉันก็คงมีความทรงจำที่สวยงามไปแล้ว หึ แต่ก็น่าสงสาร เธอคงไปเห็นแค่หลุมศพของมันน่ะสิ ใช่ไหม?

เรียวแขนของเด็กสาวสั่นเทาด้วยความโกรธ “คุณมันชั่วร้ายและไร้ยางอาย! หรือจะเป็นคุณกันที่ทำร้ายยายของฉัน?”

“ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นเสียหน่อย แต่ในเมื่อเธอไปที่นั่นมาจริงๆ ฉันคงต้องขอถามซูซินฉางว่าจะทำไงกับเธอดี ไม่แน่ว่าเขาอาจจะหย่ากับฉัน หรือไม่ก็ตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับเธอ แต่เขาต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ถ้าเขาต้องการฉัน เขาก็ต้องไม่เก็บเธอไว้!! ในเมื่อเธอเติบโตขึ้นมาจากเงินตระกูลเซี่ยของฉัน แต่เธอก็ยังกล้าที่กลับไปหาพวกมัน!”

ความริษยาบังเกิดขึ้นในตาของผู้หญิงคนนั้นอย่างชัดเจน เธอพูดด้วยน้ำเสียงเสียดสี ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

เย่เฟิงดูมองพวกเธอจากที่ไกลๆ พร้อมกับคิดอยู่ในใจว่านี่คือแม่เลี้ยงของซูเหมิงหานงั้นหรอ? ผู้หญิงคนนี้ช่างใจแคบยิ่งนัก

……………………..