บทที่ 34 ความหึงหวง

เวลานี้ หลงหวางเอ๋อสวมเสื้อพอดีตัวสีขาวพร้อมด้วยเม็ดกระดุมที่กลัดไว้แน่น และสวมกระโปรงลูกไม้ที่คลุมถึงเข่า เผยให้เห็นขาเรียวยาวเพียงสองส่วน

ป้ายราคายังคงติดไว้ที่ปกคอเสื้อ แสดงให้เห็นว่าเธอซื้อชุดนี้มาอย่างเร่งรีบ และสวมชุดใหม่ทับกระโปรงตัวเก่าที่ขาดวิ่น เวลานี้มีเศษผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยมากมายที่โพล่ออกมาและถูกพัดไหวไปตามลม

ในตอนนี้ หญิงสาวผูกผมห่างม้าในสภาพที่ค่อนข้างยุ่งเหยิง เมื่อเงยหน้าขึ้น ดวงตาคู่สวยของเธอจ้องมองเย่เฟิงอย่างเป็นฟืนเป็นไฟ เวลานี้เธอยืดอกขึ้นจนเผยให้เห็นเรือนร่างของเธอที่เป็นส่วนเว้าโค้งอย่างชัดเจน เรือนร่างอันงดงามของหญิงสาวที่เปล่งประกายภายใต้แสงไฟริมถนนยามค่ำคืน ทำให้รูปลักษณ์ของเธอดูมีเสน่ห์อย่างยิ่ง

สาวสวยยืนขวางทางเดินของพวกเขาที่หน้าทางเข้าโรงพยาบาลเอาไว้ ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นที่สนใจของผู้คนแทบนั้นอย่างมาก

“เย่เฟิง เธอเป็นใครกัน?”

ซูเหมิงหานดูร้อนใจ เมื่อเด็กสาวเห็นหลงหวางเอ๋อคนนี้ นั่นทำให้เธอกุมมือเย่เฟิงแน่นขึ้น

เวลานี้มีคำถามมากมายปรากฏขึ้นในใจของเด็กสาว เย่เฟิงไปทำอะไรมา? ทำไมหญิงสาวที่มีสภาพกระเซิงคนนี้ถึงจ้องมองเขาด้วยแววตาไม่พอใจแบบนี้?

ทีแรกเธอรู้สึกดีใจมากที่ถูกเย่เฟิงกุมมือไว้ แต่เวลานี้ ดูเหมือนว่าเขากำลังมีผู้หญิงคนอื่นด้วยอย่างงั้นหรอ?
“คุณอีกแล้ว?”

เมื่อเย่เฟิงเห็นหลงหวางเอ๋อ เขาไม่ได้แสดงความตื่นตกใจออกมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติ “มีเรื่องอะไรละ คุณถูกใครไล่ตามมารึไง?”

แน่นอนว่าการแสดงออกของเขาซ่อนพิรุธไว้ได้อย่างแนบเนียน

ชายหนุ่มถอดหน้ากากและเปลี่ยนชุดตั้งแต่ก่อนเข้ามาในโรงพยาบาลแล้ว ซึ่งสร้างความมั่นใจให้เขาพอสมควรว่าฝ่ายตรงข้ามจะไม่เหลือหลักฐานอะไรมาอ้างได้ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังมีไพ่ตายเก็บไว้สำรองอีกอย่างหนึ่ง

หลงหวางเอ๋อเปล่งเสียงทางจมูกเบาๆขณะที่สายตาของเธอจับจ้องไปที่เขาอย่างมั่นใจ “หยุดเสแสร้งแล้วมากับฉัน อย่าบังคับให้ฉันต้องใช้ความรุนแรง!”

“ยัยผู้หญิงบ้า ซูเหมิงหาน ไปกันเถอะอย่าสนใจเธอเลย”

เย่เฟิงส่งสายตาแสดงความไม่เข้าใจให้หญิงสาว แล้วจึงจูงมือซูเหมิงหานเดินออกไปอีกทาง

แต่เขาไม่คิดว่าทันใดนั้น ซูเหมิงหานกลับรู้สึกไม่พอใจหลงหวางเอ๋อ และเวลานี้ ได้ปรากฏไฟแห่งความหึงหวงขึ้นในใจของเธอ เด็กสาวเก็บความรู้สึกขอบคุณต่อเย่เฟิงไว้ แล้วปล่อยมือเขาออก เธอจ้องไปที่ชายหนุ่มพร้อมกับพูดว่า “อย่างแรก นายต้องทำให้ชัดเจนก่อนว่าเรื่องทั้งหมดนี่มันคืออะไร”

เย่เฟิงไม่มีทางเลือกอื่น เขาจึงอธิบายให้เธอฟัง “ครั้งล่าสุดที่เจอกัน ฉันเห็นผู้หญิงคนนั้นหมดสติอยู่ใกล้กับโรงเรียน ฉันจึงช่วยพาเธอไปส่งที่โรงแรม แต่เทียนโย่วเหลียงกลับเข้าใจผิดเลยไปแจ้งตำรวจ……”

ซูเหมิงหานจำเรื่องในตอนนั้นได้ทันที เทียนโย่วเหลียงกระจายข่าวเรื่องเย่เฟิงข้องเกี่ยวกับเรื่องค้าประเวณี แล้วนี่คือเรื่องจริงภายใต้ข่าวลือเรื่องนั้นอย่างงั้นหรอ?

แต่ทำไมหญิงสาวแสนสวยคนนี้ถึงปรากฏตัวในสภาพกระเซอะกระเซิงแล้วจ้องมองเขาด้วยสายตาโมโหแบบนั้น? เด็กสาวรู้สึกว่าเย่เฟิงกำลังโกหกเธอ แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของเขา ทันใดนั้น หัวใจของเธอกลับเต้นรัว เหมือนว่าลึกๆในใจแล้ว เธอเชื่อในตัวเขา

ถ้าอย่างนั้น เย่เฟิงก็ไม่ได้สนใจอะไรผู้หญิงคนนี้ใช่ไหม? เธอมีคำถามอีกมากมาย แต่เธอคิดว่าควรเก็บไว้ถามเขาในภายหลัง

“เข้าใจแล้ว ไปกันเถอะ”

รอยยิ้มอันสดใสผลิบานขึ้นบนใบหน้าซูเหมิงหาน เธอจับแขนของชายหนุ่มไว้และเตรียมจะเดินไปจากที่นี่

แม้หลงหวางเอ๋อจะเห็นดังนั้น แต่เธอยังคงพยายามขวางพวกเขาไว้อย่างดื้อรั้น “นายไม่ยอมรับใช่ไหม? ได้!”

ในฐานะที่เป็นผู้นำของคนรุ่นเยาว์ของตระกูลมังกร หญิงสาวจึงมีความเด็ดเดี่ยวและความมั่นใจในตัวเองสูง เวลานี้ เมื่อเธอเห็นเย่เฟิงยังคงปฏิเสธที่จะยอมรับข้อหาของเขา ทันใดนั้นเธอกวาดขาข้างขวาแล้วเตะเข้าใส่เย่เฟิงอย่างรุนแรง!

เมื่อเย่เฟิงเห็นลูกเตะของหลงหวางเอ๋อที่ใกล้เข้ามา ชายหนุ่มพลันดึงร่างของซูเหมิงหานมาไว้ข้างหลังอย่างไม่ลังเล แล้วยืนรอรับลูกเตะของหญิงสาวอย่างมั่นคง

“ปัง!” ด้วยเสียงที่ดังลั่น เย่เฟิงถูกเตะเข้าที่เอวส่งผลให้ร่างของเขากระเด็นไปไกลหลายเมตร แล้วร่วงลงสู่พื้นอย่างรุนแรง

“เย่เฟิง!”

ซูเหมิงหานตื่นตระหนกอย่างยิ่ง เธอรีบวิ่งเข้าไปหาเย่เฟิงแล้วประคองเขาไว้ เด็กสาวมองเห็นเลือดสดๆที่ไหลออกมาจากมุมปากของชายหนุ่ม นี่ทำให้เธอรู้ว่าเขาได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง

“อะไรกัน?”

หลงหวางเอ๋อขมวดคิ้ว ทำไมเขาถึงไม่ป้องกันตัวเอง? หากเขาเป็นชายสวมหน้ากากที่สามารถสังหารดาบหมาป่าได้ในชั่วพริบตา เขาก็ควรจะหลบหลีกลูกเตะของเธอได้ไม่ยากสิ ถ้าเขารับลูกเตะของเธอเข้าไปเต็มๆแบบนี้ มันอาจจะทำให้ถึงแก่ชีวิตเลยก็ได้!

เธอรีบเดินเข้าไปจับข้อมือของเย่เฟิงเพื่อตรวจสอบพลังฉีภายใน

และในไม่ช้า สีหน้าของเธอก็พลันเปลี่ยนไปทันที

“คนธรรมดา?”

หลงหวางเอ๋อถอนมือกลับ เธอรู้สึกอับอายและลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะหันหลังเดินจากไป

ซูเหมิงหานที่คอยประคองเย่เฟิงจ้องมองหญิงสาวอย่างระมัดระวัง และพร้อมจะเข้าไปขัดขวางตลอดเวลาหากมีอะไรเกิดขึ้น เธอรู้สึกขุ่นเคืองในใจเมื่อเห็นหลงหวางเอ๋ออยู่ๆก็หนีไปจากที่นี่ เด็กสาวคิดจะโทรแจ้งตำรวจแต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะเวลานี้ อาการบาดเจ็บของเย่เฟิงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับเธอ

“เย่เฟิง นายเป็นอะไรไหม?”

ซูเหมิงหานโน้มหัวลงถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

“ฉันไม่เป็นไร……..ช่วยฉันหาที่พักที……”

เย่เฟิงรู้สึกเขาได้รับบาดเจ็บไม่มากเท่าไหร่ แต่เส้นลมปราณได้รับความเสียหาย เขาถึงกระอักเลือดออกมาเล็กน้อย

โชคดีที่เขาใช้งานทักษะแห่งเซียนที่มีชื่อว่า‘แฝงตัวลอบสังหาร’ซึ่งมีผลในการอำพรางเจินฉีภายในร่าง และอำพรางวรยุทธ์ของเขาไว้ ทำให้เขาไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดา และคนธรรมดาย่อมไม่สามารถสังหารผู้ฝึกวรยุทธ์เช่นดาบหมาป่าได้จริงไหม? ดังนั้นหลงหวางเอ๋อจึงเลิกสงสัยเขาอีก

ทักษะแฝงตัวลอบสังหารนี้เองคือไพ่ตายของเขา

เมื่อพิจารณาจากระดับวรยุทธ์ของเย่เฟิงในปัจจุบัน การใช้ทักษะนี้สร้างความเสียหายต่อเส้นลมปราณของเขาไม่น้อยเลยทีเดียว

ทักษะเซียนชนิดนี้มักนำมาใช้ในการลอบสังหารกันอย่างกว้างขวางในโลกเทวะ และในสถานการณ์นี้ เย่เฟิงถือว่าใช้มันได้อย่างเหมาะสมเลยทีเดียว

“นายจะกลับไปที่โรงพยาบาลไหม?”

ซูเหมิงหานถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นเขากระอักเลือด เขาควรกลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล

“กลับไปโรงพยาบาลหรอ? เธอมีเงินหรือไง?”

เย่เฟิงกระอักเลือดอีกครั้งแล้วให้เด็กสาวช่วยประคองตัวขึ้นมา

“ฉันจ่ายไปเกือบหมดแล้ว……..”

ซูเหมิงหานตอบอย่างลังเล เป็นอย่างที่เขาพูด ตอนนี้พวกเธอไม่มีเงินพอจะแอ็ดมิทเย่เฟิงเข้าโรงพยาบาล แต่เด็กสาวก็รีบเปลี่ยนใจแล้วพูดว่า “เดี๋ยวฉันบอกพ่อให้ช่วยแอ็ดมิทนาย……….”

“ไม่เป็นไรหรอก อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่เลย แค่เช่าโรงแรมแล้วพักซักคืนก็พอแล้ว”

เย่เฟิงส่ายหัว และเงยหน้าขึ้นมองผู้คนโดยรอบ เขาเห็นบางคนในกลุ่มคนพวกนั้นหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป เขาจึงรีบเช็ดเลือดที่มุมปากออก จากนั้นจึงพาซูเหมิงหานไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว

เดิมทีก็มีข่าวไร้สาระมากมายในโลกออกไลน์อยู่แล้ว

เย่เฟิงคิดว่าเดี๋ยวคงมีข่าวที่ลงรูปของเขาแล้วจั่วหัวประมาณว่า “ชายหนุ่มจับปลาสองมือถูกเตะอย่างรุนแรงจนเลือดกระจายใกล้ๆกับโรงพยาบาล……..”

โชคดีที่รูปภาพพวกนี้ไม่ชัดเจนเท่าไหร่ เพราะพวกเขาถ่ายรูปอย่างเร่งรีบภายใต้แสงไฟที่สลัวยามค่ำคืน

เย่เฟิงอิงตัวไว้กับซูเหมิงหานเล็กน้อยขณะเดินไปตามถนน เมื่อมาถึงโรงแรม พวกเขายื่นบัตรประจำตัว และใช้เงินที่เหลืออยู่เล็กน้อยในการเช่าห้อง

หลังจากเข้าไปในห้อง เย่เฟิงรีบทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาแล้วหยิบยาผสมสองสามเม็ดมากลืนลงท้อง ตอนนี้เขาพร้อมจะโคจรลมปราณเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว

วันนี้ ชายหนุ่มได้กุดหัวดาบหมาป่า และล่วงเกินหลงหวางเอ๋อรวมทั้งตระกูลมังกร การกระทำของเขาถือว่าหุนหันพลันแล่นและไม่ได้คิดอย่างรอบคอบ มันมีช่องโหว่มากเกินไป ดังนั้น เขาคิดว่ามันจะมีผลกระทบตามมาอีกมากในภายหลัง เพราะฉะนั้นเวลานี้ เขาต้องรีบคิดวิธีจัดการกับปัญหาเหล่านั้นที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ซูเหมิงหานมองดูเย่เฟิงอย่างเป็นกังวล เธอเตรียมผ้าขนหนูและรีบต้มน้ำหม้อหนึ่งเพื่อเช็ดตัวให้เขา สิ่งเหล่านี้ที่เด็กสาวล้วนทำมันอย่างตั้งใจ

เด็กสาวที่น่าสงสาร เธอไม่รู้ตัวเลยว่าเวลานี้ ชายหนุ่มได้เข้ามานั่งอยู่ในหัวใจเธอแล้ว ทีแรก เธอรู้สึกรำคาญเย่เฟิงอย่างไม่ต้องสงสัย แต่หลังจากเผชิญกับเรื่องเลวร้ายมามากมาย และเขาคนนี้ได้คอยยืนอยู่เคียงข้างเธอเสมอมา เมื่อนึกถึงเรื่องราวเหล่านั้นที่เกิดขึ้น หัวใจของเธอก็พลันเต้นรัวไปเสียทุกที

เมื่อนึกถึงเรื่องของหญิงสาวแสนสวยที่เจอกันหน้าโรงพยาบาลในวันนี้ เธอก็รู้สึกกระสับกระส่ายและไม่สบายใจ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอกำลังรู้สึกหึง และไม่ใช่ความรู้สึกหึงที่เล็กน้อยเสียด้วย

เย่เฟิงและสาวสวยคนนั้น เกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างพวกเขากัน ถึงนำพาให้เกิดความขุ่นเคืองใจที่รุนแรงขึ้นระหว่างทั้งสอง? หรือจะเป็นการฟันแล้วทิ้งแบบที่เธอเคยได้ยินมา…….

………………

แปลโดย : Solar Spark

Solar Spark : เขาว่ากันว่าผู้หญิงชอบคิดมาก อันนี้จริงหรือเปล่าครับท่านผู้อ่าน อิอิ