บทที่ 253 ของใครใหญ่กว่า

เวลานี้ หลินชื่อฉิงที่เดิมเป็นสาวมั่นกลับกลายเป็นสาวน้อยไปในทันที ใบหน้าของหญิงสาวแดงก่ำเพราะการกระทำของเย่เฟิง

เมื่อเย่เฟิงรับรู้แล้วว่ามือขวาของเขากำลังจับต้องสิ่งใดอยู่ก็รู้สึกกระอักกระอวนและรีบถอนมือกลับมาอย่างรวดเร็ว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมในใจ สมแล้วที่เป็นสาวสวยอันดับหนึ่ง ขนาดของมันใหญ่กว่าของผู้หญิงสองคนรวมกันด้วยซ้ำไป

แต่ถ้าเทียบกับของเสี่ยวเยวี่ยแล้ว มันยังเล็กกว่านิดหน่อย ทันใดนั้นเย่เฟิงก็รีบเรียกสติคืนมา มันไม่ใช่เวลามาคิดถึงเรื่องนี้เสียหน่อย

“สัตว์ป่า! ทำอะไรของนายน่ะ!”

ทั้งสามสาวที่อยู่ชั้นบนต่างได้รับรู้ว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้น หลงหวางเอ๋อจึงรีบวิ่งลงมาชั้นล่างและพบกับภาพของเย่เฟิงที่กำลังกดร่างของหลินชื่อฉิงลงบนโซฟา มันเป็นภาพที่น่าคลุมเครือจริงๆ

หลงหวางเอ๋อโมโหขึ้นมาทันที ทำไมหมอนี่ถึงได้หื่นกามแบบนี้นะ?

เย่เฟิงเห็นดังนั้นก็รีบอธิบาย “มีพวกนักฆ่าลอบจู่โจมพวกเรา ฉันแค่ดึงเธอลงมาหลบเท่านั้น”

“พวกนักฆ่าหนีไปนานแล้ว”

หลงหวางเอ๋อกล่าวอย่างขุ่นเคืองใจ

ระยะสัมผัสวิญญาณของหญิงสาวนั้นกว้างกว่าเย่เฟิงซึ่งไกลถึง 250 เมตร หลังจากการโจมตีระลอกแรก เธอพบว่าพวกก็พากันหลบหนีไปแล้ว

ได้ยินดังนั้นเย่เฟิงก็โล่งใจ เขาผละออกจากร่างของหลินชื่อฉิง แต่ก็อดคิดถึงสัมผัสความนุ่มเมื่อครู่นี้ไม่ได้ ความรู้สึกมันยังติดมืออยู่เลย

แก้มทั้งสองข้างของหลินชื่อฉิงแดงระเรื่อ เธอลุกขึ้นนั่งและรีบจัดการเสื้อผ้าเผ้าผมที่รุงรังให้เรียบร้อย ภาพที่เห็นนี้มันดูราวกับว่าเย่เฟิงพึ่งทำมิดีมิร้ายกับหญิงสาวไป

หลงหวางเอ๋อส่งตาเขียวปั้ดมาให้เย่เฟิง จากนั้นจึงเดินมายังโซฟาและดึงมีดเล่มหนึ่งที่ปักอยู่ด้านหลังโซฟาออก มันมีเศษกระดาษแขวนอยู่กับมีดเล่มนั้น

“พวกมันเป็นคนของสำนักเซียนเร้นลับ บอกว่าให้คืนตำราวรยุทธ์มีดบินปีศาจคำรามมา ไม่อย่างนั้นพวกมันจะลอบจู่โจมเข้ามาอีก และเป้าหมายไม่ใช่นายแต่เป็นคนรอบตัวนาย” หลงหวางเอ๋อคิ้วขมวดขณะกล่าว

“วอนหาที่ตาย!”

เย่เฟิงสบถออกมาทีหนึ่ง พวกคนของสำนักเซียนเร้นลับถึงกับกล้าจู่โจมและข่มขู่เขาแบบนี้ พวกมันคงเหนื่อยจะที่มีชีวิตอยู่แล้ว!

ถ้าการโจมตีแบบเมื่อครู่นี้เล็งเป้าไปที่ซูเหมิงหานหรือชูชูละก็ ทั้งสองคนคงไม่มีทางป้องกันตัวเองได้ ไม่ต้องสังสัยเลยว่าครั้งนี้พวกมันเพียงต้องการข่มขู่เขา

“ให้พี่เรียกคนมาช่วยไหม?”

หลินชื่อฉิงพึ่งจัดการเสื้อผ้าเผ้าผมเสร็จ เมื่อรับรู้ถึงสถานการณ์ของเย่เฟิงก็รีบกล่าว “ถ้าอยู่ภายใต้การคุ้มกันของหน่วย NSA ล่ะก็ ทุกคนสบายใจได้หายห่วง”

หญิงสาวคิดว่าถึงแม้เย่เฟิงจะเก่งกาจ แต่ก็ไม่มีทางจะปกป้องซูเหมิงหานและชูชูไปพร้อมกันได้ แต่ถ้ามีหน่วย NSA ช่วยคุ้มกัน ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล

นอกจากนั้นในตอนกลางคืน เย่เฟิงก็ไม่สามารถคุ้มครองทุกคนได้ หรือจะให้ทั้งสามสาวนอนเตียงเดียวกันกับเขา?

หลงหวางเอ๋อได้ยินชัดเจน แต่เมื่อคิดเหตุการณ์อันน่าคลุมเครือของทั้งสองคนบนโซฟาเมื่อครู่นี้ เธอก็รู้สึกโมโหและตั้งใจจะปฏิเสธไป ในความคิดของหญิงสาว หน่วย NSA จะไปทำอะไรได้?

ถึงอย่างนั้น เย่เฟิงกลับเอ่ยปากขึ้นมาก่อนด้วยน้ำเสียงจริงจัง “งั้นต้องรบกวนพี่หลินแล้ว ส่วนเรื่องของงานจัดแสดง ผมรับปาก”

เขารับปากหลินชื่อฉิงทันทีเพราะกลัวหลงหวางเอ๋อจะตอบปฏิเสธ ไม่ว่าอย่างไร ความปลอดภัยของทุกคนก็สำคัญที่สุด ถ้ามีคนของหน่วย NSA คอยช่วยคุ้มกัน เย่เฟิงก็พอจะโล่งใจได้บ้าง

สำนักเซียนเร้นลับถึงกับกล้าข่มขู่เขาแบบนี้? ดีมาก เย่เฟิงก็จะทำแบบเดียวกับพวกมันเช่นกัน แต่เขาจะไปสังหารพวกมันถึงหน้าประตูเลยทีเดียว! อาศัยทักษะล่องหนและทักษะอำพราง ความสามารถในการลอบสังหารของเขาก็สูงกว่าคนของสำนักเซียนเร้นลับไม่รู้กี่เท่า

“อืม งั้นพี่จะไปโทรเรียกคนมา”

หลินชื่อฉิงไม่ลังเลที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาพ่อของเธอทันที

ในเวลานี้ หลงหวางเอ๋อกำลังมีใบหน้าบูดบึ้ง

“ไม่เอาน่าหวางเอ๋อ มันเป็นแค่อุบัติเหตุเท่านั้นเอง” เย่เฟิงวางมือบนไหล่หญิงสาวเพื่อปลอบประโลม

“เฮอะ”

หลงหวางเอ๋อเค้นเสียง “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่านายวางมือไว้ตรงตำแหน่งไหน แถมยังบีบเค้นมันด้วย”

“……”

เย่เฟิงประหลาดใจ สาวน้อยคนนี้รับรู้เหตุการณ์ตั้งแต่แรกเลยงั้นสิ แต่ถึงอย่างนั้น การได้สัมผัสเพียงชั่วครู่มันก็รู้สึกดีจริงๆ

“มันใหญ่กว่าของฉันรึเปล่า?”

หลงหวางเอ๋อเอ่ยถามเสียงเบา

“แค่เกือบเท่าน่ะ”

เย่ฟิงกลัวหญิงสาวจะโกรธจึงรีบตอบออกไปทันที

ใครจะรู้ว่าเมื่อหลงหวางเอ๋อได้ยินดังนั้นก็โมโหขึ้นมาและอ้าปากงับมือชายหนุ่ม ต่อให้ไม่มีทักษะสัมผัสวิญญาณ เธอก็ประมาณได้ด้วยสายตาแล้วว่าของหลินชื่อฉิงนั้นใหญ่กว่า เย่เฟิงถึงกับกล้าพูดโกหกกับเธอ แบบนี้ให้อภัยไม่ได้!

เย่เฟิงถูกกัดหลังมือจนเลือดห่อ ก็คิดในใจ สาวน้อยคนนี้โหดเหี้ยมจริงๆ!

“ห้ามใช้แสงศักดิ์สิทธิ์รักษาด้วย”

หลงหวางเอ๋อกระซิบข้างหูเย่เฟิงด้วยเสียงที่เย็นเยียบ

“……”

เย่เฟิงพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้

“ฉันรักนายนะ”

หลงหวางเอ๋อกล่าว จากนั้นจึงเขย่งปลายเท้า กางแขนรวบรอบลำคอเย่เฟิง ก่อนจะจูบเขา

นี่มันตบหัวแล้วลูบหลังนี่นา!

เย่เฟิงประหลาดใจเล็กน้อย เขาเดาความคิดสาวน้อยคนนี้ไม่ถูกเลยจริงๆ แล้วจะจูบกันแบบนี้ต่อหน้าหลินชื่อฉิงเลยงั้นหรอ? แต่เมื่อหญิงสาวหันมา หลงหวางเอ๋อก็เปลี่ยนเป็นกัดเขาซะงั้น!

หลินชื่อฉิงที่กำลังโทรศัพท์อยู่อีกด้านหนึ่ง เมื่อเห็นเย่เฟิงถูกหลงหวางเอ๋อกัดอย่างโหดร้ายก็รู้สึกสาแก่ใจ

ใครใช้ให้เขาเล่นไม่ซื่อกับเธอล่ะ? ชิ ถูกกัดแบบนั้นก็สมควรแล้ว! แต่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ใบหน้าของหญิงสาวก็เริ่มขึ้นสี เย่เฟิงแรงเยอะจนทำให้ร่างกายเธออ่อนปวกเปียกไปหมด รู้สึกร้อนที่ท้องน้อยจนตอนนี้ยังไม่หาย

เวลานี้ หลินชื่อฉิงดูมีเสน่ห์กว่าที่เคย เรือนผมของเธอไหลพาดบ่าลงมาด้านหน้า ปิดบังหน้าอกทั้งสองข้าง เผยให้เห็นหลังคอขาวที่น่าดึงดูดใจ นอกจากนั้นเรียวขางามที่สวมถุงน่องไว้ ตลอดจนใบหน้าสวยที่มีสีแดงระเรื่อ ทำให้ชูชูที่ยืนอยู่ใกล้ๆอดไม่ได้ที่จะชื่นชมอยู่ในใจ คุณหนูหลินคนนี้เป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ

แล้วถ้าเป็นแบบนี้ เย่เฟิงจะยังทนไหวอยู่หรอ?

ในใจของชูชูเริ่มสงสัยและรู้สึกกังวลเล็กน้อยกับหลงหวางเอ๋อ ถ้าเย่เฟิงมีผู้หญิงหลายคน หลงหวางเอ๋อคงต้องรู้สึกเสียใจมากแน่

“หวางเอ๋อ บอกตำแหน่งที่ตั้งของสำนักเซียนเร้นลับมาหน่อยสิ”

เย่เฟิงไม่คิดว่าสำนักเซียนเร้นลับจะกล้าข่มขู่เขา พวกมันคิดว่าเขาจะยอมถูกขี้รดหัวอยู่แบบนี้หรือไง?

ชายหนุ่มต้องไปสั่งสอนพวกมันเสียหน่อย พร้อมกับประกาศให้โลกยุทธภพรู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่ยอมให้ใครมารังแกได้ง่ายๆ!

“สำนักเซียนเร้นลับตั้งอยู่ที่เขาเหมินไจ้”

หลงหวางเอ๋อกล่าวได้แค่นั้นก็พลันขมวดคิ้ว ขณะมองไปยังทางเข้าบ้าน

ทักษะสัมผัสวิญญาณของเย่เฟิงรับรู้ได้ว่า ชายวัยกลางคนสวมแว่นดำที่นั่งอยู่ในรถเมอซิเดสเบนซ์ เปิดประตูออกมา และเดินเข้ามาหมายจะกดกริ๊งบ้านหลังนี้

เย่เฟิงโมโหขึ้นมาทันที มารดามันเถอะ ตอนนี้เขากำลังขุ่นเคืองใจกับพวกสำนักเซียนเร้นลับอยู่แท้ๆ ไอ้แก่คนนี้ยังมีหน้ามาหาเรื่องอีก วอนหาที่ตายจริงๆ!

………………….

แปลโดย Solar Spark