บทที่ 254 ความแข็งแกร่งของสำนักเซียนเร้นลับ

เมื่อเย่เฟิงเปิดกระตูออกไป ก็มองเห็นชายวัยกลางคนกำลังจะกดกริ๊ง ชายคนนี้จมูกใหญ่ราวกับตัวตุ่นหน้าตาดูชั่วร้าย เมื่อเห็นเย่เฟิงเปิดประตูออกมา ก็แสดงท่าทางดูถูก

“แกเป็นใคร? ฉันมาตามหาคน”

ถึงแม้ชายวัยกลางคนจะสูงน้อยกว่า 1.6 เมตร แต่เมื่อเห็นแววตาของเย่เฟิงที่มองมาอย่างจองหอง เขาก็ทำเหมือนกับตัวเองเป็นผู้ออกคำสั่ง

“นี่มันบ้านฉัน แกยังมีหน้ามาถามอีกหรอว่าฉันเป็นใคร?”

สีหน้าของเย่เฟิงเยียบเย็นลง “ไสหัวไป!”

ชายคนนี้มาหาหลินชื่อฉิงแน่นอน แต่มีหรอที่เขาจะให้โอกาสมันได้พบ? ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้ หลินชื่อฉิงก็อยู่ในฐานะคู่หมั้นของเขา ชายหนุ่มไม่ยอมให้ชายหน้าตาชั่วร้ายคนนี้มาระรานเธอแน่

“บอกให้ฉันไสหัวไปงั้นหรือ?”

ทันทีที่ชายวัยกลางคนได้ยินคำพูดของเย่เฟิง ใบหน้าของเขาก็พลันกลายเป็นเขียวคล้ำ “แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”

“จะเป็นใครก็ช่างหัวแกสิ”

เย่เฟิงเค้นเสียง เมื่อเห็นท่าทางจะเอาเรื่อง ชายหนุ่มก็เตะเข้าใส่อีกฝ่ายทันทีจนร่างของชายคนนั้นกระเด็นไปชนกับรถ Mercedes-Benz สีดำของเขาเอง

ชายวัยกลางคนไม่ทันได้ตอบสนอง เขาเห็นเพียงภาพรางๆจากนั้นตัวเองก็กระเด็นไปชนกับรถและร่วงลงมานอนกองอยู่ที่พื้น กระดูกทั่วร่างระบมไปหมดจนอดไม่ได้ที่จะร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

เขาไม่คิดเลยว่าเย่เฟิงเย่เฟิงจะกล้าลงมือแบบนี้!

ชายวัยกลางคนกระดูกไม่ดีอยู่แล้ว เมื่อถูกเย่เฟิงเตะใส่ก็แทบจะขยับตัวไม่ได้ จึงทำให้เพียงล้วงโทรศัพท์ไอโฟนสีทองออกมาและกดโทรออกหาใครบางคน

“ฮัลโหล! ผู้กำกับหลิวใช่ไหม? ผมถูกทำร้ายที่หมู่บ้านชิงเฟิง!”

ชายวัยกลางคนตะโกนใส่โทรศัพท์ด้วยความเจ็บปวด

เย่เฟิงเห็นดังนั้นก็เลิกสนใจและหันกลับไปหาหลินชื่อฉิง “หน่วย NSA มาหรือยัง?”

หลินชื่อฉิงที่เห็นการกระทำของเย่เฟิง ก็ไม่คิดว่าตอนที่เด็กหนุ่มโมโหจะน่ากลัวขนาดนี้ เธอตอบกลับไปอย่างลังเล “ลุงธันเดอร์ส่งคนมาแล้ว อีกไม่นานก็คงมาถึง”

“อืม”

เย่เฟิงพยักหน้า ไม่ว่าชายคนนี้จะส่งใครมา เมื่อต้องเจอกับหน่วย NSA มันก็คงไม่กล้ามาสร้างความรำคาญให้เขาอีก

เย่เฟิงกลับเข้ามาในบ้านพร้อมกับปิดประตู เมื่อเข้ามาด้านใน เขาก็เห็นหลงหวางเอ๋อและซูเหมิงหานกำลังดูบางสิ่งอยู่ในโทรศัพท์

“สำนักเซียนเร้นลับตั้งอยู่ที่นี่”

หลงหวางเอ๋อไม่ใส่ใจกับสถานการณ์ด้านนอก เมื่อเห็นเย่เฟิงกลับเข้ามา ก็เปิดแผนที่ในโทรศัพท์ให้ชายหนุ่มดู

เย่เฟิงดูในแผนที่ก็พบว่ามันอยู่ในเทือกเขาคั่วชาง(括苍山)ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของมณฑลเจ้อเจียง ไม่ไกลจากทะเลจีนตะวันออก เพียงมุ่งหน้าลงใต้ไปเล็กน้อย ดูจากตำแหน่งที่ตั้งของมัน ด้านใต้ติดกับเขาแย่นต้าง ด้านเหนือเป็นเขาเทียนไถ ทางตะวันตกเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ส่วนตะวันออกมองลงไปเห็นทะเล ตำแหน่งภูมิประเทศของมันเยี่ยมยอดมาก สมแล้วที่เป็นหนึ่งในสิบสถานที่ศักดิ์สิทธิของประเทศจีน

ไกลมาก

เย่เฟิงคิดว่าเขาคงต้องนั่งเครื่องบินไป

“ถ้าจะไปที่นั่น ต้องนั่งเครื่องบินไปลงไท่โจว ให้พี่จองตั๋วให้ไหม?”

หลินชื่อฉิงยืนหน้าเข้ามาและเอ่ยถามเย่เฟิง

“อืม งั้นก็ตามนั่นครับ เอาเป็นวันพรุ่งนี้”

เย่เฟิงหรี่ตาลง ตั้งแต่เกิดใหม่ในโลกใบนี้ เขายังไม่เคยไปที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งไหนเลย เป็นโอกาสดีที่สำนักเซียนเร้นลับมอบให้จริงๆ

ในเวลานี้ หลงหวางเอ๋อและซูเหมิงหานไม่ได้รู้สึกหึงหวงเย่เฟิงแล้ว ทั้งสองสาวต่างรู้สึกเป็นห่วงเขาแทน

“นายจะไปจริงๆหรอ? ถ้าเกิด…”

คิ้วของหลงหวางเอ๋อขมวดแน่น ถึงแม้สำนักเซียนเร้นลับจะเสื่อมถอยลงไปกว่าเมื่อก่อนมาก แต่ก็ยังถือว่าเป็นหนึ่งในสำนักใหญ่ของโลกยุทธภพ บอกได้เลยว่ามันไม่ใช่สำนักที่จะสามารถดูแคลนได้

“ไม่ต้องห่วง ในแหวนมิติของอาจารย์มีเครื่องรางคุ้มกันอยู่หลายชิ้น ไม่มีใครทำอะไรฉันได้หรอก”

เย่เฟิงกล่าวอย่างปลอบประโลม

“งั้นฉันไปกับนายด้วยได้ไหม?”

หลงหวางเอ๋อเอ่ยถาม

“เธออยู่ที่นี่แหละ คอยดูแลเหมิงหานให้ดี เข้าใจไหม?”

เย่เฟิงดึงร่างของสาวสองมากอดไว้ พร้อมกับตบหลังพวกเธอเบาๆเพื่อปลอบใจ จากนั้นจึงเอ่ยถาม “ตอนนี้สำนักเซียนเร้นลับ มีใครที่แข็งแกร่งบ้าง”

“ผู้นำสำนัก‘ฉีหลินจื่อ’วรยุทธ์ระดับ 65 ปี หัตถ์มารทลายเทพ‘ฉินสือ’วรยุทธ์ระดับ 55 ปี เป็นพี่ของหัตถ์ภูติสังหารเทพ‘ฉินเกอ’ (ตายแล้วในบทที่190) ผู้คุมกฏอาวุโส‘หลี่เทียน’เป็นพ่อบุญธรรมของ‘หลี่จวิ้นหลง’ซึ่งตายที่เขาฉางไป่(บทที่65) มีวรยุทธ์ระดับ 60 ปี นอกจากนั้นยังมีผู้อาวุโสทั่วไปของสำนัก 3 คน แต่ละคนมีวรยุทธ์ระดับ 50 ปี”

หลงหวางเอ๋อกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว ในเรื่องของโลกยุทธภพนั้น เธอรู้ดีกว่าเย่เฟิงมาก “ส่วนที่เหลือก็เป็นพวกวัยกลางคน วรยุทธ์ระดับ 30-40ปี และก็พวกรุ่นเดียวกับพวกเราซึ่งไม่มีอะไรน่ากลัว”

จากนั้น หญิงสาวจึงเผยรอยยิ้ม “ตราบใดที่เลี่ยงการปะทะกับสามคนแรกได้ นายรับมือไหวแน่นอน”

เย่เฟิงได้ยินดังนั้นก็คิดในใจ ให้เลี่ยงการปะทะงั้นหรอ? ไม่มีทาง ด้วยเครื่องรางคุ้มกันที่มี เขาก็มีความสามารถพอจะสังหารผู้นำสำนักเซียนเร้นลับได้เลยด้วยซ้ำไป

“อีกอย่าง ทุกที่บริเวณรอบสำนักเซียนเร้นลับมีค่ายกลซ่อนอยู่มากมาย คนธรรมดายากจะฝ่าเข้าไปได้ แต่นายมีทักษะสัมผัสวิญญาณอยู่แล้ว ค่ายกลเหล่านั้นคงไม่เป็นปัญหา”

หลงหวางเอ๋อกล่าวเสริม

“อืม เยี่ยมไปเลย”

เย่เฟิงพยักหน้า ขณะคิดในใจว่าเขาต้องระมัดระวังให้ดี เกิดตกม้าตายตั้งแต่แรกคงขายหน้าน่าดู

หลังจากเข้าใจสถานการณ์เบื้องต้นแล้ว เย่เฟิงก็พลันได้ยินเสียงไซเรนรถตำรวจด้านนอกใกล้เข้ามา และมาหยุดอยู่หน้าบ้านเขา

เสียงนี้ไม่ได้ทำให้เย่เวิ่นเทียนที่อยู่บ้านข้างตื่นตัวอันใด ถ้าเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ต้องให้เขาจัดการละก็ เขาจะไม่ยุ่งทั้งวันหรือไง? เย่เฟิงสามารถจัดการได้เองอยู่แล้ว ชายชราย่อมไม่ยื่นมีเข้าไปสอด

“เหมิงหาน หลับสบายดีไหม”

เย่เฟิงยิ้มไปยังสาวน้อยหน้าใสที่พึ่งตื่นนอน ไร้ความสนใจกับสถานการณ์ภายนอกอย่างสิ้นเชิง

ซูเหมิงหานได้ยินดังนั้นก็พลันหน้าแดง เธอยังรู้สึกเหนื่อยอยู่นิดหน่อย และอดตำหนิเย่เฟิงในใจไม่ได้ เด็กสาวรู้สึกอายจึงดึงหลงหวางเอ๋อขึ้นไปชั้นบนด้วยกัน

“พี่หลิน ออกไปข้างนอกด้วยกันหน่อยสิครับ”

เย่เฟิงยิ้ม ขณะที่รอธันเดอร์พาหน่วย NSA มา เขาอยากจะออกไปดูข้างนอกกับหลินชื่อฉิงหน่อย

“ไปสิ”

หลินชื่อฉิงตอบกลับอย่างไม่คิดอะไรมาก ได้ยินเสียงไซเรนข้างนอก เธอก็รู้สึกช่วยไม่ได้ “นี่ น้องเย่ คราวหลังก็อย่าทำอะไรวู่วามสิ ทำแบบนี้ ปัญหาก็มีแต่จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ”

“พี่หลินเป็นห่วงผมหรอ?”

เย่เฟิงหัวเราะ “เจ้าคนหน้าตาชั่วร้ายนั่น กล้ามาตามระรานพี่หลินแบบนี้ ไม่ใช่วอนหาที่ตายหรือไง?”

“นั่นมันเราต่างหาก พี่ไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก.

หลินชื่อฉิงยิ้มเล็กน้อย “เกิดเราไปฆ่าใครเข้าแล้วติดคุกขึ้นมา พี่สาวคนนี้ก็ช่วยไม่ได้นะ”

ไม่รู้ทำไหมหลังจากเหตุการณ์บนโซฟาเมื่อครู่นี้ เวลาที่พูดคำว่า “พี่สาว” หลินชื่อฉิงก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ทุกที่ ชิ เจ้าน้องคนนี้ บีบคลึงหน้าอกเธอจนตอนนี้ยังรู้สึกชาไม่หาย เดี๋ยวเธอต้องคิดบัญชีคืนแน่!

พอคิดถึงเรื่องนี้ หญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเขินอายพร้อมกับหัวใจที่เต้นรัวขึ้นมา เธอไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร

เย่เฟิงไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของหลินชื่อฉิง เขาสังหารคนมามากมายแล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะติดคุกตรงไหน

สังหารพวกคนชั่วช้า คือการลงทัณฑ์แทนสวรรค์!

เมื่อทั้งคู่เดินออกไปข้างนอกพร้อมกันก็เห็นรถตำรวจหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน มีตำรวจหลายนายกำลังพยุงชายวัยกลางคนร่างเตี้ยอยู่ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นคนที่เย่เฟิงรู้สึกคุ้นเคย

………………..

แปลโดย Solar Spark