บทที่ 223 กระบี่ในเสี้ยวพริบตา!

เมื่อลิ่วจื่อไกว้พุ่งเข้าหาเย่เฟิงด้วยเจตนาสังหาร นิวเหมิ่งก็รีบวิ่งเข้าไปที่มุมของลานน้ำแข็งขณะที่ดวงตาอิเล็กทรอนิกส์ของเขาเริ่มประมวณผลอย่างรวดเร็วเพื่อจับภาพสถานการณ์โดยรอบในปัจจุบัน

‘ไอ้โง่ธันเดอร์ แทนที่จะรีบจบภารกิจ มัวแต่เสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่ได้’

หนิวเหมิ่งรู้สึกโมโหมากที่ธันเดอร์ไม่ยอมจัดการกับเย่เฟิงเสียที หากเป็นเขา เขาคงออกคำสั่งยิงไปแล้ว!

นี่คือความต่างระหว่างหนิวเหมิ่งและธันเดอร์

แนวทางของหนิวเหมิ่งในการจัดการกับสิ่งต่างๆนั้นเป็นอีกอย่างหนึ่ง หากไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ที่มีตัวตนสำคัญเกินไป เขาย่อมสังหารคนเหล่านั้นอย่างไม่ลังเล แต่ถึงอย่างนั้นหน่วย NSA ก็มีกฏระเบียบข้อบังคับอยู่ หนิวเหมิ่งจึงมักเลือกภารกิจมี ผู้ฝึกยุทธ์ที่มีภัยคุกคามสำคัญเพื่อจะสามารถลงมือได้เต็มที่

แต่ธันเดอร์นั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เขาไม่ใช่พวกหัวรุนแรงอย่างหลี่เฟิงหรือหนิวเหมิ่ง สิ่งที่เขาต้องการคือการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขกับเหล่าผู้ฝึกยุทธ์

ความจริงแล้ว หน่วย NSA นั้นแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มหัวรุนแรงและกลุ่มอนุรักษ์นิยม ทั้งหลี่เฟิงและหนิวเหมิ่งนั้นถือเป็นตัวแทนของกลุ่มหัวรุนแรงนั้นเอง

“เข้ามาเลย ความแค้นของโลกยุทธภพ!”

เมื่อเย่เฟิงเห็นชายชราพุ่งเข้ามาด้วยความดุร้าย ความโมโหของเขาก็เริ่มปะทุขึ้น

ด้วยความเฉียบคมของทักษะสัมผัสวิญญาณ เย่เฟิงรับรู้ได้ว่าพลังชี่ทั่วร่างกายอีกฝ่ายไหลเวียนมารวมกันที่นิ้ว นั้นหมายความว่าชายชราจะใช้ทักษะที่นิ้วเป็นหัวใจหลัก นอกจากนี้ ท่าทางของมันยังแสดงให้เห็นว่า มันต้องการจะสังหารเขาในการโจมตีนี้ทีเดียว

ไม่ว่าจะอย่างไร ชายชราคนนี้ก็เป็นศัตรูคู่แค้นของตระกูลเขาอยู่แล้ว เย่เฟิงจึงลงมือได้เต็มที่โดยไม่ต้องปราณี ซ้ำสถานการณ์ในตอนนี้ยังค่อนข้างรีบเร่ง เขาต้องรีบจัดการเรื่องนี้และไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

ในการเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าแม่เฒ่าเจวี๋ยฉิง แม้เย่เฟิงจะมีทักษะในการต่อสู้มากมายอย่างเช่น กรงเล็บมังกร ศรดารา รังสีกระบี่ และเพลิงสุดขั้ว แต่ทักษะเหล่านี้ไม่สามารถจัดการกับอีกฝ่ายได้ในทีเดียว ฉะนั้นในกรณีนี้ จึงเหลือเพียงทักษะเดียวที่เขาต้องใช้คือ – ทักษะกระบี่ผ่ามิติ!

อาศัยพลังจากแหวนกระบี่มังกรโบราณ แม้เย่เฟิงจะเคยใช้ทักษะนี้เพียงครั้งเดียวและใช้ได้โดยบังเอิญ แต่นั่นก็มากพอให้เขาเข้าใจและใช้ทักษะนี้ได้อีกครั้ง ความรู้สึกของมันยังคงตราตรึงอยู่ในใจ

ความสามารถของทักษะกระบี่ผ่ามิติจะทำให้เขาเคลื่อนที่ได้ระยะ 60-70 เมตรในเสี้ยววินาที เพราะฉะนั้นเมื่อใช้ต่อหน้าชายชราหกนิ้ว ทักษะนี้ย่อมทำให้มันตื่นตกใจและถูกกุดหัวในที่สุด

แต่นั่นก็หมายความว่าเขาต้องเปิดเผยทักษะนี้ต่อหน้าหน่วย NSA น่ะสิ?

อย่างไรเสียเทคโนโลยีในด้านห้วงมิติยังไม่ปรากฏบนโลกใบนี้ ต่อให้พวกนั้นเห็นเข้าก็คงไม่มีทางเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น นอกจากนี้ถ้ามันทำให้พวกเขารู้สึกเกรงกลัวได้ นั้นย่อมเป็นผลดีกับเย่เฟิงเพราะมันจะช่วยสร้างโอกาสที่จะทำให้เขาพาร่างของซูเฟยหยิ่งหลบหนีไปได้

“คิดจะฆ่าฉันเพราะอยากได้ตำราของตระกูลเย่งั้นหรอ? ถ้าทำได้ก็ลองดู!”

ประกายตาเย็นเยียบสว่างวาบในดวงตาเย่เฟิง ขณะที่กระยี่สีเขียวเข้มพลันปรากฏขึ้นมาในมือ ชายหนุ่มเคลื่อนไหวพร้อมกับเจินชี่ที่ปะทุขึ้นมารอบตัว

กระบี่ผ่ามิติ!

ภาพรอบตัวรวมทั้งการรับรู้ของทักษะสัมผัสวิญญาณกลายเป็นพร่ามัวและเริ่มบิดเบี้ยว เย่เฟิงเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยและในเสี้ยววินาที ร่างของเขาก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าชายชรา

ฉึก!

ร่างของเย่เฟิงปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งด้านหลังของชายชรา ชายหนุ่มยืนอย่างมั่นคงอยู่บนพื้นน้ำแข็งพร้อมกับกระบี่สีเขียวเข้มในมือที่สลายไป

หลังจากนั้น ทุกๆสิ่งรอบตัวเขาก็กลับคืนสู่สภาพเดิมไม่ว่าจะเป็นการมองเห็นหรือการรับรู้จากทักษะสัมผัสวิญญาณ หลังจากการใช้ทักษะนี้ในครั้งที่สอง เย่เฟิงก็รู้สึกคุ้นเคยและเข้าใจมันอย่างถ่องแท้แล้ว!

การกระทำทั้งหมดนี้ใช้เวลาน้อยกว่า 0.01 วินาที ในระยะเวลาที่สั้นแค่นี้ย่อมไม่มีใครที่สามารถตอบสนองได้ทัน

แม้แต่อุปกรณ์ล้ำสมัยของหน่วย NSA ก็ไม่อาจจับการเคลื่อนไหวของเย่เฟิงได้ ไม่เว้นแม้แต่ดวงตาอิเล็กทรอนิกส์ของหนิวเหมิ่ง มันจับการเคลื่อนไหวใดๆไม่ได้เลยราวกับคนตาบอด สิ่งที่รับรู้เพียงอย่างเดียวคือ เย่เฟิงได้เคลื่อนย้ายตำแหน่งเพียงชั่วพริบตา

แต่ลิ่วจื่อไกว้ที่ยังคงลอยอยู่กลางอากาศไม่คาดคิดเลยว่าตัวเขาจะถูกเย่เฟิงแทงกระบี่ตัดขั้วหัวใจอย่างรวดเร็วแบบนี้ ร่างของชายชราจึงสูญเสียเรี่ยวแรงและร่วงลงสู่พื้นในที่สุด

เทเลพอร์ต?

เทเลพอร์ต!

ราวกับสายฟ้าที่ผ่าลงมา ร่างของทุกๆคนรวมทั้งธันเดอร์และหนิวเหมิ่งแข็งค้างขณะที่ดวงตาทุกคู่เบิกกว้าง พวกเขาแทบไม่อยากจะเชื่อในภาพที่ได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นการมองด้วยตาเปล่าหรืออุปกรณ์ล้ำสมัย ร่างของเย่เฟิงก็เคลื่อนที่ในเสี้ยววินาทีราวกับเทเลพอร์ต นี่มันจะเกินขอบเขตความเข้าใจของพวกเขาไปแล้ว

ภาพจากอุปกรณ์ตรวจจับแสดงให้เห็นว่าร่างของเด็กคนนั้นกระโดดจากตำแหน่งเดิมและปรากฏตัวขึ้นในตำแหน่งใหม่ มันเป็นเพียงแค่การกระโดดธรรมดา ซึ่งไม่ควรจะเคลื่อนที่ได้ในระยะทางที่ไกลขนาดนี้

หากมันเป็นแค่การเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็ว มันคงไม่ทำให้ธันเดอร์และคนอื่นๆต้องตกตะลึงขนาดนี้ แต่เย่เฟิงกลับเคลื่อนตำแหน่งได้ในชั่วพริบตาเหมือนกับสิ่งที่พวกเขารู้จักในชื่อว่า การเทเลพอร์ต!

หากชายชราคนนั้นสามารถตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทัน นั่นก็เรียกว่าปาฏิหาริย์แล้ว

ทุกๆคนล้วนอยู่ในความตกตะลึง เด็กที่ชื่อว่าเย่เฟิงคนนี้ เขาเป็นคนของโลกใบนี้จริงๆน่ะหรือ? แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ก็ไม่มีใครสามารถทำแบบนี้ได้!

ทุกๆคนในหน่วย NSA รวมทั้งธันเดอร์และหนิวเหมิ่งต่างกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว

เมื่อจัดการกับลิ่วจื่อไกว้สำเร็จแล้ว เย่เฟิงไม่ลังเลที่จะพุ่งตัวไปคว้าร่างของซูเฟยหยิ่งมา และหมายจะกระโดดลงไปในทะเลเพื่อหาตัวหลงหวางเอ๋อ จากนั้นก็รีบไปจากที่นี่ แต่ทันใดนั้นเอง ทักษะสัมผัสวิญญาณของเขาก็รับรู้ได้ถึงบางสิ่งที่ทำให้หัวใจของเขาต้องจมลึก

บ้าจริง ทำไมหลงโม่หรันถึงมาที่นี่?

……………

ย้อนกลับไปเมื่อครู่นี้ หลงโม่หรันพร้อมด้วยฉีเสี่ยวหยูนั่งเรือสปีดโบทมาถึงเกาะน้ำแข็ง และหลังจากนั้น แต่ละคนก็ทยอยกันลงจากเรือ

ในเวลาเดียวกัน กลุ่มผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นเช่น วังกระบี่สวรรค์ ตระกูลถัง และกลุ่มอื่นได้มุ่งหน้ามาที่นี่จากทั่วทิศทาง เมื่อล่วงรู้ว่ามีสุดยอดสมบัติสวรรค์อยู่ที่เกาะน้ำแข็ง ผู้คนทั้งหลายจะทนต่อสิ่งล่อใจแบบนี้ได้หรือ?

“คิดจะแย่งชิงกับฉันงั้นรึ? พวกแกประเมินตัวเองสูงไปแล้ว”

หลงโม่หรันกวาดสายตาเย็นเยียบไปยังเรือลำอื่นๆ พร้อมกับรู้สึกดูถูกคนเหล่านี้อยู่ในใจ

ในวันนี้ เขาต้องเป็นผู้ที่ได้รับสุดยอดสมบัติสวรรค์ชิ้นนี้!

หลงโม่หรันก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกับฉีเสี่ยวหยู แต่เมื่อมองไปยังใจกลางของลานน้ำแข็ง ภาพที่เห็นก็ทำให้พวกเขายืนนิ่งเป็นหินพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างจนแทบจะถลนออกมานอกเบ้า

เย่เฟิง!

นอกจากนั้นแล้วยังมี “เทพธิดาแห่งทะเลจีนตะวันออก”ที่ถูกแช่ไว้ในชิ้นน้ำแข็งอีกด้วย!

นอกจากนั้น ผลึกน้ำแข็งทรงเพชรยังอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน มันถูกแทรกอยู่ที่พื้นกลางลานน้ำแข็ง มันคือสุดยอดสมบัติสวรรค์!

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกตื่นตะลึงมากที่สุดคือการได้เห็นการเคลื่อนไหวชั่วพริบตาของเย่เฟิง

ไม่มีใครสามารถเห็นการเคลื่อนไหวของชายหนุ่มได้ชัดเจน ชายชราลิ่วจื่อไกว้พร้อมด้วยระดับวรยุทธ์ที่สูงถึง 55 ปี ถึงแม้จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสูง แต่กลับถูกสังหารในกระบี่เดียว!

ความเงียบงันแผ่กระจายไปทั่วบริเวณ

เจ้าเด็กที่ชื่อว่าเย่เฟิง มันได้รับสมบัติสวรรค์ที่ช่วยให้เติบโตได้เร็วขนาดนี้พร้อมกับทักษะน่าทึ่งอันนั้นงั้นหรือ?

อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้ เจ้าเด็กนั่นยังเป็นเพียงเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาที่ไม่เคยดึงดูดความสนใจใดๆของผู้ฝึกยุทธ์ในประเทศนี้อยู่เลย!

แม้แต่หลงโม่หรันเองยังรู้สึกหนาวไปถึงกระดูกสันหลัง

น่ากลัวเกินไปแล้ว

เขาต้องสังหารมันที่นี่ให้ได้ก่อนที่มันจะเติบโตไปมากกว่านี้ และก่อนหน้านั้น เขาต้องจับมันมารีดเค้นความลับทั้งหมดออกมา

เปรียบเทียบกันแล้ว ฉีเสี่ยวหยูรู้สึกเสียดายมากยิ่งขึ้นไปอีก ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะความสามารถที่เย่เฟิงมี มากพอจะสั่นสะเทือนไปทั่วโลกยุทธภพ ช่างน่าเศร้าจริงๆที่ต้องสังหารลงเสียที่นี่

แต่สำหรับหลงโม่หรันนั้น ความคิดเดียวที่เขามีคือการฆ่า ฆ่า และฆ่า!

หากเขาไม่ได้มาเห็นเจ้าเด็กนี่ในตอนนี้ และปล่อยให้มันเติบโตต่อไป วันหนึ่ง ชะตากรรมของเขาคงไม่ต่างอะไรกับลิ่วจื่อไกว้คนนั้น!

หลงโม่หรันก้าวเท้าไปข้างด้วยแววตาที่หนักแน่นและซับซ้อน

วันนี้ เขาต้องไม่ปล่อยให้เจ้าเด็กนั่นมีชีวิตต่อไปแน่!

……………..

แปลโดย Solar Spark