บทที่ 22 ลอบสังหาร

แม้ว่าย่างก้าวไร้เงาจะใช้ได้เพียงชั่วคราวแต่มันก็เพียงพอแล้วสำหรับเย่เฟิง เขาพุ่งตัวไปข้างหน้ากว่า 20 เมตร และหยุดตรงหน้าของชายหน้าบาก ขณะที่ชายหน้าบากกำลังจะเหนี่ยวไกปืน เย่เฟิงปล่อยหมัดใส่มือข้างที่ถือปืน จนมันกระเด็นออกจากมือของอีกฝ่าย ก่อนที่เขาจะควบแน่นเจินฉีเข้าไปในแหวนดาบมังกรโบราณ

ปัง!

ประกายแสงสีแดงของฉีพุ่งที่ออกมา ควบแน่นกลายเป็นดาบสองคมสีแดง พร้อมกับพุ่งเข้าแทงใส่อกของหญิงโสเภณี

“ฉึก!”

ดวงตาของเธอนั้นเบิกกว้างอย่างตกตะลึง ตั้งแต่เธอติดตามชายหน้าบากมา เธอเคยเห็นคนตายมามากมายและเธอฆ่าก็คนมาแล้วนับไม่ถ้วนเช่นกัน แต่เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าวันตายของเธอจะมาถึงเร็วขนาดนี้

ร่างอันไร้เรี่ยวแรงของหญิงสาวล้มลงไปบนพื้น แหวนดาบมังกรโบราณส่งคืนเจินฉีกลับมาทันทีหลังจากที่มันลอบสังหารเสร็จอย่างรวดเร็ว ในขณะที่มือของเย่เฟิงยังคงคว้าคอของชายหน้าบากไว้แน่น

แม้ว่าชายหน้าบากจะยืนอยู่ข้างๆเย่เฟิง แต่เขาไม่เห็นเลยว่าเย่เฟิงสังหารหญิงสาวคนนี้ได้อย่างไร!

ลักษณะแผลเป็นของชายหน้าบากอยู่ที่ระหว่างหูและขอบขากรรไกรล่าง รอยแผลอันทรงเกรียติจากรอยมีดจากตาขวาไปยังมุมปากซ้าย ทำให้เขาดูดุร้ายดุจนักรบที่เข็มแข็ง

แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อมีคนถูกฆ่าต่อหน้าเขา มันย่อมเป็นเรื่องยากในการยับยั้งความหวาดกลัวในใจของตัวเอง

“กินนี่ซะ”

เย่เฟิงดึงเม็ดยาสีดำที่ทำจากหญ้าใบทองยัดใส่ปากของชายหน้าบากโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ชายหน้าบากไม่มีโอกาสได้ตอบสนองในสิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย

“แกเป็นใคร แกเอาอะไรให้ฉันกิน!”ชายหน้าบากกัดฟันถาม

“หึ เดี๋ยวก็รู้”

เย่เฟิงยิ้ม และปล่อยมือออกจากลำคอของอีกฝ่ายก่อนจะโบกมือตามสบาย ชายหน้าบากมองไปยังสาวสวยที่นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น เขาเห็นเลือดของเธอพุ่งออกจากหน้าอกครึ่งเปลื่อยเปล่า แต่นั้นกลับไม่ใช่สิ่งที่เขาสนใจ สิ่งที่เขาสนใจคือปืนพกที่หล่นอยู่อีกด้านหนึ่ง

ก่อนหน้านี้ หากเย่เฟิงช้ากว่านี้อีกเพียงนิดเดียว แล้วอีกฝ่ายสามารถเหนี่ยวไกปืนได้คนที่จะอันตรายจะเป็นเขาเสียเอง โชคยังดีที่อีกฝ่ายมัวแต่ตกตะลึงกับทักษะย่างก้าวไร้เงาที่เขาใช้ออกมา

เวลานี้ เย่เฟิงใช้เจินฉีในตัวของเขาไปเกือบหมดแล้ว และในขณะที่ชายหน้าบากกำลังครุ่นคิดว่าเย่เฟิงสามารถหลบกระสุนปืนของเขาได้อย่างไร ยาภายในท้องก็เริ่มออกฤทธิ์ มันทำให้เขาเจ็บปวดราวกับว่าถูกฟาดด้วยของแข็งไปทั้งตัว ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะยาเม็ดสีดำเม็ดนั้น

เย่เฟิงไม่ได้สนใจอาการของชายหน้าบากแต่อย่างใด เขาเดินไปเก็บปืนพกที่ตกอยู่บนพื้นและหยิบมันขึ้นมา ขณะที่เขากำลังควงปืนเล่นอยู่นั้น จู่ๆเขาก็หันปากกระบอกปืนไปยังประตู

“เข้ามาข้างใน แล้วปิดประตูด้วย”

เมื่อชายชุดดำเปิดประตูเข้ามา เขาถึงกับตะลึงในสิ่งที่เห็น หัวหน้าของเขาถูกจัดการในเวลาแค่ไม่กี่วินาทีอย่างนั้นงั้นรึ?

แล้วภาพติดตาของเจ้าเด็กนี่อีก? มันสามารถหลบกระสุนได้อย่างไร?

ชายชุดดำถึงกับมึนงงและไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น แต่ในเวลานี้ ปากกระบองปืนในมือของเย่เฟิงเล็งมาทางเขาอยู่

เมื่อชายชุดดำเห็นสาวสวยนอนจมกองเลือดอยู่นั้น เขาไม่สงสัยแม้แต่น้อยว่าหากเขาวิ่งหนีไปตอนนี้ เจ้าเด็กนี่ต้องลั่นไกใส่เขาโดยไม่ลังเลอย่างแน่นอน และเขาก็ไม่ได้มีทักษะหลบกระสุนเหมือนมันเสียด้วย ดังนั้น เขาไม่มีทางเลือกนอกจากยอมทำตามคำสั่งแต่โดยดี

สุดท้าย ชายชุดดำก็ได้ก้าวเข้ามาในห้องและปิดประตูอย่างช้าๆ

สายตาของเย่เฟิงจับจ้องการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามอย่างระมัดระวัง เขาพบว่าขณะที่ชายคนนั้นกำลังจะปิดประตู มันได้ส่งสัญญาณบางอย่างภายนอก ดวงตาของเย่เฟิงหรี่ลงพร้อมกับพูดว่า

“ถ้าแกเล่นตุกติกอะไรละก็ ฉันยิงแกทิ้งแน่”

ปืนกระบอกนี้ในมือทำให้เย่เฟิงรู้สึกอุ่นใจ เขาหันมามองยังร่างของชายหน้าบากและพบว่าร่างของมันขดเหมือนลูกบอลและกำลังสั่นอย่างทรมาณจากยาเม็ดสีดำ แต่มันไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย ชัดเจนว่าจิตใจของมันเข้มแข็งอย่างยิ่ง

“เอาละ ได้เวลาแล้ว”

เย่เฟิงก้าวไปข้างหน้าแล้วเตะใส่ชายหน้าบากอย่างลวกๆ ลูกเตะนี้ถูกบรรจุไว้ด้วยเจินฉีที่เมื่อมันเข้าสู่ร่างของชายหน้าบากแล้ว มันจะระงับผลของยาพิษไว้ชั่วคราว

“ต่อจากนี้ คุณต้องมาพบผมทุกสัปดาห์ ไม่อย่างนั้นผลของยาจะกระจายเข้าสู่ร่าง และหลังจากนั้นคุณจะเสียชีวิตภายใน 1 ชั่วโมง ตอนนี้เรียกว่าผมเย่เฟิง ผมคือเจ้านายคนใหม่ของคุณในอนาคต หรือก็คือหลังจากนี้นั้นละ”

คำพูดของเย่เฟิงทำให้ชายหน้าบากรู้สึกหนาวไปถึงขั้วหัวใจ เขาค่อยๆยืนขึ้นโดยใช้มือค้ำโต๊ะเอาไว้

“ช่างโหดเหี้ยมจริงๆ อาเฉียง มานี่”

เมื่อได้ยินดังนั้น ชายชุดดำค่อยๆหันมองเย่เฟิง เขาเห็นเย่เฟิงพยักหน้า ขณะยังควงปืนในมือเล่นอย่างสงบ

อาเฉียงก้าวเดินไปหาหัวหน้า และทันใดนั้น ชายหน้าบากได้หยิบมีดปอกผลไม้บนโต๊ะและแทงเข้าไปที่หน้าอกของอาเฉียงอย่างรวดเร็ว

“ฉึก!”

ดวงตาของอาเฉียงเบิกกว้างอย่างตกตะลึง ชายหน้าบากใช้มือปิดปากของเขาไว้พร้อมกับแทงซ้ำเข้าไปอีกหนึ่งที เลือดมากมายไหลทะลักออกมาจากอกของอาเฉียงพร้อมกับร่างของเขาที่ล้มลงไปบนพื้น

ชายหน้าบากทิ้งมีดที่เปื้อนเลือดลงบนพื้นแล้วหยิบผ้าเช็ดปากมาเช็ดมือ จากนั้น เขาจึงเงยหน้าขึ้นมองเย่เฟิง

“ลงมือได้ยอดเยี่ยม”

เย่เฟิงพยักหน้าพร้อมกับยิ้ม

การกระทำของชายหน้าบากแสดงให้เห็นการความเป็นมืออาชีพในการเป็นหัวหน้าของแก๊งอันธพาล เขารู้ว่าชื่อเสียงมีผลอย่างมากในการควบคุมสมาชิกในแก๊ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้กลับถูกอาเฉียงเห็นเข้าทั้งหมด ดังนั้น การกำจัดผู้ที่รู้เห็นจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่เช่นนั้นเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ต้องกระจายออกไปข้างนอกอย่างแน่นอน

สำหรับชายหน้าบากแล้ว ชัดเจนว่าชีวิตของเขาสำคัญกว่าสิ่งใดๆ และเขามั่นใจว่ายาพิษที่อยู่ในร่างตอนนี้ไม่ใช่ของปลอม เมื่อได้ยินเย่เฟิงบอกว่าจะเป็นหัวหน้าแก๊งคนใหม่โดยจะออกคำสั่งหลังม่าน เขาก็เข้าใจชัดเจนว่าสิ่งที่เขาควรทำคืออะไร

“หลังจากนี้ หากมีสิ่งใดต้องการก็สั่งมาได้เลยครับ”

ชายหน้าบากพูดด้วยเสียงทุ้ม

“ถ้าคุณไม่มั่นใจว่ายาพิษนั่นเป็นของจริง คุณจะไปตรวจดูที่โรงพยาบาลก็ได้”

เย่เฟิงหันหลังกลับมาพูดด้วยรอยยิ้ม “แต่อย่าหาว่าผมไม่เตือน หากคุณหาทางแก้ยาพิษนี่สุ่มสี่สุ่มห้าแล้วละก็ ผลสุดท้ายมันอาจเลวร้ายจนตัวผมเองก็อาจช่วยอะไรคุณไม่ได้”

“พี่เย่โปรดวางใจ”

ชายหน้าบากแสดงความเคารพพร้อมกับกล่าวว่า “พี่เย่เรียกผมว่าหน้าบากได้ ผมรู้ว่าคุณไม่ใช่คนธรรมดา ก่อนหน้านี้ที่คุณได้ใช้ทักษะการหลบหลีกรวมทั้ง……….”

เขาก้มลงมองร่างของสาวสวยที่นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น

แน่นอน ผู้คนล้วนหวาดกลัวในสิ่งที่ตนเองไม่รู้

ไม่เพียงเย่เฟิงจะหลบกระสุนได้เท่านั้น เขายังสังหารสาวสวยอย่างรวดเร็วด้วยวิธีที่บอกไม่ได้ นี่ทำให้ชายหน้าบากรู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่ง หากเย่เฟิงตั้งใจจะฆ่าเขา เขาก็ไม่มีโอกาสรอดไปได้

“คุณคือผู้ฝึกวรยุทธ์งั้นหรือ?”

ชายหน้าบากถามด้วยความลังเล

“เรื่องที่คุณไม่ควรถาม ก็ไม่จำเป็นต้องถาม”

เย่เฟิงเปล่งเสียงทางจมูกพร้อมกับพูดว่า “เอาละ ผมหมดเรื่องแล้ว คุณไปจัดการสิ่งที่คุณควรทำซะ ผมไม่สนใจเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจของคุณ และคุณยังคงเป็นหัวหน้าของแก๊งอสรพิษวรรค์เหมือนเดิม”

“ทราบแล้วครับ”

ชายหน้าบากตอบกลับด้วยน้ำเสียงสุภาพ

“ส่วนพวกคนที่อยู่ข้างนอก คุณไปจัดการให้ผมที”

เย่เฟิงเก็บปืนพกไว้ในกระเป๋าแล้วเดินไปที่ประตู

ก่อนหน้านี้ ท่าทางของอาเฉียงทำให้เย่เฟิงรู้ว่าตอนนี้มีคนมากมายอยู่ภายนอกห้อง และส่วนใหญ่ล้วนได้ยินเสียงปืนอย่างชัดเจน

“พี่เย่ไม่ต้องเป็นห่วง”

ชายหน้าบากพยักหน้าหลายครั้งแล้วจึงตะโกนไปนอกประตู “พวกแกที่อยู่ข้างนอก เข้ามาลากศพสองคนนี้ไปจัดการทีซิ!”

“ปัง” เสียงเปิดประตูดังออกมาจากภายนอก และเหล่าสมาชิกระดับสูงของแก๊งรีบวิ่งเข้ามาในห้องนี้ แต่ไม่นาน พวกเขาก็ต้องตะลึงกับสิ่งที่เห็น และพากันคิดไปถึงเรื่องต่างๆนาๆ

“พวกแกมองอะไรกัน? ยังไม่รีบจัดการศพของเจ้าคนทรยศสองคนนี่อีก! นี่คือญาติผู้น้องของฉันที่ช่วยชีวิตฉันไว้ แสดงความเคารพกับเขาเหมือนที่แสดงความเคารพกับฉันด้วย!”

ชายหน้าบากส่งสายตาเกรี้ยวกราดไปทางลูกน้องขณะชี้นิ้วแนะนำเย่เฟิง เรื่องนี้ทำให้พวกเขาถึงกับเงียบเป็นเป่าสาก

“งั้นผมขอตัว”

เย่เฟิงไม่อยากยุ่งกับเรื่องซับซ้อนเหล่านี้จึงตัดสินใจกลับไปก่อน เขาทักทายชายหน้าบากเล็กน้อย ก่อนจะออกจากห้องไปโดยไม่ทักทายกับใครอีก เมื่อเหล่าสมาชิกของแก๊งรับรู้แล้วว่าเย่เฟิงคือญาติผู้น้องของหัวหน้า ก็ทำท่าทางแสดงความเคารพต่อเย่เฟิงที่เดินออกจากห้องไป

ชายหน้าบากอยากไปส่งเย่เฟิงเป็นการส่วนตัว แต่สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่เหมาะสม เขายังจำเป็นต้องจัดการกับศพสองคนนี่แล้วอธิบายสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นให้สมาชิกของแก๊งฟังเสียก่อน

……………..

ผู้แปล : Novas

ปรับสำนวน : Solar Spark