บทที่ 198 มังกรปะทะมังกร!

เสื้อคลุมยาวสีขาวของหลงโม่หรันเปียกชุ่มไปด้วยเลือด ทำให้เขาดูราวกับมังกรที่ทะยานลงมาจากฟากฟ้า หลงโม่หรันเหยียดเท้าลงมายังที่ที่ชายสวมหน้ากากนอนอยู่เพื่อหมายจะบดขยี้ร่างของมันให้แหลกละเอียดใต้ฝ่าเท้าคู่นี้!

“ระวัง!”

เมื่อหลงหวางเอ๋อเห็นแบบนั้น เธอก็ร้องตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนก แต่โชคไม่ดีที่เย่เฟิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ในตอนนี้ เขาไม่อาจหลบหนีไปจากฝ่าเท้าคู่นั้นได้เลย

ฟิ้ว!

โดยไม่คิดอะไรอีก หญิงสาวรีบยกแขนขึ้นมาแล้วรวบรวมพลังของศรดาราเพื่อยิงเข้าใส่หลงโม่หรันเหมือนที่เคยทำก่อนหน้านี้

ลูกศรที่ควบแน่นขึ้นมาอย่างรวดเร็วถูกยิงออกไปทันทีด้วยความเร็วสูง หลงโม่หรันไม่กล้าประมาทการโจมตีนี้ เพราะแขนของเขาข้างหนึ่งเพิ่งถูกตัดออกไปจากโจมตีชนิดเดียวกัน แล้วแบบนี้จะให้เขากล้าเพิกเฉยต่อศรสีน้ำเงินลูกนั้นได้หรือ?

ด้วยอาศัยทักษะเบี่ยงแสง ฝ่าเท้าของหลงโม่หรันยกขึ้นจากพื้นเล็กน้อย ความจริงแล้ว มันคือการเคลื่อนไหวแบบฉับพลันที่ทำให้หลบการโจมตีของศรสีน้ำเงินลูกนี้ไปได้ หลงโม่หรันหันกลับมาแล้วตกลงสู่พื้นดินในตำแหน่งที่ไม่ห่างจากเย่เฟิงมากนัก

ศรดอกที่สอง

ผู้คนโดยรอบต่างเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง พวกเขาอยากจะเอาหัวฟาดกำแพงเสียตอนนี้เลย เพราะไม่อาจเข้าใจได้ว่าเหตุใด หลงหวางเอ๋อถึงยิงลูกศรสีน้ำเงินเข้มลูกนั้นออกมาได้

การต่อสู้ในวันนี้มันเหมือนจะเกินกว่าความรู้ความเข้าใจของพวกเขาไปแล้ว

พลังชี่ภายในของหลงหวางเอ๋อควบแน่นจนกลายเป็นลูกศรสีน้ำเงินงั้นหรือ? ก็อาจเป็นไปได้ เพราะอย่างไรก็มีบางคนที่สามารถโจมตีในลักษณะที่ใกล้เคียงกับแบบนี้ในโลกยุทธภพ แต่คนเหล่านั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ชั้นยอดซึ่งเป็นระดับปรมาจารย์ด้านการปลดปล่อยพลังชี่ภายในออกมาใช้นอกร่างกาย!

ยิ่งกว่านั้น หลงหวางเอ๋อก็ได้ทำลายตันเถียนของตัวเองไปแล้ว ดังนั้นหญิงสาวจะยังสามารถใช้พลังชี่ภายในอยู่ได้อย่างไรกัน?

“เกะกะจริงๆ”

หลงโม่หรันยืนอยู่บนพื้นอย่างมั่นคง แขนเสื้อข้างหนึ่งที่ไร้ซึ่งแขนโบกสบัดไปตามสายลม เขาหันไปมองหลงหวางเอ๋อด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความเดือดดาล “ได้! ในเมื่อต้องการแบบนี้ งั้นฉันจะจัดการแกเป็นคนแรก!”

หากเทียบหลงโม่หรันกับมือภูติสังหารพระเจ้า ฉินเกอ ที่ได้เจอก่อนหน้านี้แล้ว อาจบอกได้ว่าพวกเขานั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ฉินเกอเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ชั้นสูงทั่วไปที่มีระดับวรยุทธ์ถึง 50 ปี แต่สำหรับหลงโม่หรันแล้ว ถึงแม้จะมีระดับวรยุทธ์ที่เท่ากัน แต่เขาคนนี้มีพรสวรรค์ได้ระดับที่น่าทึ่ง ควบคู่กับประสบการณ์การต่อสู้ที่หาที่เปรียบได้ยาก ต่อให้เย่เฟิงและหลงหวางเอ๋อรวมมือกันคิดแผนการออกมามากมาย มันก็ยังไม่อาจสังหารชายคนนี้ได้

หลงโม่หรันกวาดสายตามองไปทั่ว ตั้งแต่หลงหวางเอ๋อที่ยืนอยู่หลังรถบรรทุก หลินชื่อฉิงที่อยู่บนรถบรรทุก ตลอดจนชายคนหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ใต้รถบรรทุก

ไม่ว่าจะอย่างไร ชายสวมหน้ากากก็อยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ให้ความสำคัญกับมันอีก ในตอนนี้ หลงโม่หรันคิดว่าเขาควรจะจัดการพวกตัวเกะกะที่จ้องจะโจมตีเขาอยู่ตลอดเป็นอันดับแรก

นอกจากนี้ หลงจื่อและหลงชิงก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว

ในตอนแรก พวกเขามั่นใจในตัวหลงโม่หรันเป็นอย่างยิ่ง แต่ไม่คาดคิดเลยว่าท่านผู้นำตระกูลจะต้องประสบปัญหาใหญ่ขนาดนี้ เพราะงั้นพวกเขาจึงไม่ได้เตรียมตัวจะค่อยช่วยเหลืออยู่ล่วงหน้า

แต่เมื่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเกินกว่าที่หลงโม่หรันจะรับมือได้ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเสียแขนไปข้างหนึ่งอีกด้วย หลงจื่อและหลงชิงจึงรู้แล้วว่าตอนนี้หากพวกเขายังคงนิ่งเฉย ก็มีโอกาสที่หลงโม่หรันอาจต้องพบจุดจบที่น่าอนาถ

หลงจื่อและหลงชิงเป็นคนของตระกูลหลง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ชื่นชมกับพฤติกรรมของหลงโม่หรันมากนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหากในวันนี้ หลงโม่หรันถูกจัดการด้วยฝีมือของเด็กตัวเล็กๆเพียงไม่กี่คน สถานะของตระกูลหลงในโลกยุทธภพคงได้ตกต่ำจนน่าใจหายเป็นแน่

การจากไปของหลงโม่หรันนั้น จะสร้างผลกระทบอันใหญ่หลวงไปทั่วทั้งตระกูลหลง

ทั้งสองคนรีบเข้าช่วยเหลือหลงโม่หรันอย่างรวดเร็ว และเตรียมตัวที่จะโจมตีจากสองด้าน ด้านหนึ่งคือหลงหวางเอ๋อ และอีกด้านหนึ่งคือ “มือสังหาร”ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้รถบรรทุก สำหรับเรื่องการจัดการกับชายสวมหน้ากาก แน่นอนว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของพวกเขาอยู่แล้ว

หลงโม่หรันนั้นมีวรยุทธ์ถึงระดับ 50 ปี ขณะที่ชายสวมหน้ากากมีระดับวรยุทธ์เพียงแค่ 10 ปี แล้วแบบนี้เขาจะทนต่อการโจมตีของหลงโม่หรันได้หรือ? ต่อให้ไม่ตายแต่ก็ต้องได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสแน่นอน

แต่ด้วยที่หลงหวางเอ๋อสามารถยิงลูกศรสีน้ำเงินเข้มออกมาได้อย่างน่าประหลาดใจ พวกเขาทั้งคู่จึงเตรียมพร้อมกับมือเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา

นอกจากนั้นแล้ว คนตระกูลหลงที่เหลือต่างบีบวงล้อมเข้ามาอย่างแน่นหนา และพวกเขาก็ได้ส่งคนกลุ่มหนึ่งออกไปเพื่อค้นหาแขนของหลงโม่หรันที่หายไปในที่ใดสักแห่ง

ในเวลานี้ เสี่ยวเยวี่ยและชูชูพลันรู้สึกว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดีแล้ว เพราะพวกเธออาจจะถูกคนตระกูลหลงพบเข้า

“ฉันจะฆ่ามันเอง”

หลงโม่หรันเอ่ยออกมาด้วยความอาฆาต พร้อมกับเดินเข้าหาหลงหวางเอ๋อ นอกจากนี้ หลงจื่อและหลงชิงก็ได้ล้อมหญิงสาวไว้จากสองทิศทางเพื่อไม่ให้เธอสามารถหลบหนีไปได้

อย่างไรก็ตาม ดวงตาคู่งามของหลงวางเอ๋อจับจ้องอยู่แต่ร่างของเย่เฟิงที่ัยังคงนอนอยู่บนพื้น

ในเวลานี้ หัวใจของหญิงสาวล้วนกังวลอยู่แต่ตัวเขา แทนที่จะเป็นตัวของเธอเอง

“แกยังมีเวลาไปมองมันอีกหรือไง?”

เมื่อหลงโม่หรันมองเห็นสายตาของหญิงสาว สีหน้าของเขาก็ยิ่งมืดมนลงไปอีก ด้วยความรวดเร็ว หลงโม่หรันรวบรวมพลังชี่ภายในไว้ที่ขาทั้งสองข้างขณะถือกระบี่ไว้ที่มืออีกข้างหนึ่ง ถึงแม้เขาจะไม่สามารถใช้ทักษะกระบี่ใดๆได้ แต่ก็ยังสามารถใช้กระบวนท่าขามังกรเพื่อสังหารใครก็ตามได้อย่างง่ายดาย!

หลงจื่อกับหลงชิง แม้ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนี้ แต่เพื่อประโยชน์ของตระกูล พวกเขาจึงยังคงยืนขวางไม่ได้หลงหวางเอ๋อสามารถหลบหนีไปได้

ในเวลานี้ ผู้คนโดยรอบต่างคิดเหมือนกันว่าในอีกไม่กี่วินาที หลงหวางเอ๋อคงได้สิ้นชีพด้วยน้ำมือของพ่อเธอเองแน่นอน

“แค่ก…..”

ในเวลาเดียวกัน ไม่มีใครรับรู้ว่ามือของเย่เฟิงได้เคลื่อนไหวพร้อมกับปล่อยแสงสีทองออกมา มันคือทักษะแสงศักดิ์สิทธิ์! บาดแผลที่เกิดจากการโจมตีของหลงโม่หรันกำลังถูกฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าชายหนุ่มยังไม่ควรเคลื่อนไหวใดๆตอนนี้ แต่มันไม่มีเวลามาพักรักษาตัวอีกแล้ว

เย่เฟิงไม่มีทางยอมให้ใครมาทำลายบุคคลอันแสนล้ำค่าสำหรับเขา!

ถ้าพวกมันคิดจะทำร้ายหลงหวางเอ๋อ เช่นนั้นพวกมันก็ต้องข้ามศพเขาไปก่อน!

เย่เฟิงรีบลุกขึ้นยืน ด้วยที่อาศัยความรู้ความเข้าใจในเรื่องกระบวนท่าขามังกรของหลงโม่หรันที่ได้โจมตีใส่เขาก่อนหน้านี้ มือทั้งสองข้างของชายหนุ่มพลันควบแน่นเจินชี่อย่างรวดเร็วจนกลายเป็นกรงเล็บ ที่อัดแน่นไปด้วยพลังมหาศาล!

ในที่สุด เย่เฟิงก็สามารถบรรลุถึงทักษะกรงเล็บมังกรขั้นที่สามได้แล้ว

กรงเล็บมังกรอันแหลมคมทั้งสองที่ปรากฏขึ้นต่อหน้า เปล่งรัศมีสีทองที่ดูตระการตา และตามมาด้วยเสียงคำรามของมังกรเหมือนดังของหลงโม่หรันก่อนหน้านี้ มันกระจายออกไปจากตำแหน่งที่เย่เฟิงยืนอยู่

ในระดับขั้นของทักษะวรยุทธ์ทั้งหลายนั้น ขั้นแรกเป็นเพียงการเริ่มต้น ขณะที่ขั้นสอง พวกเขาสามารถปลดปล่อยพลังชี่ภายในไร้รูปลักษณ์ออกมากนอกร่างกายได้ และในขั้นที่สาม พวกเขาจะสามารถสร้างรูปลักษณ์ของทักษะวรยุทธ์ขึ้นมาได้

ในโลกยุทธภพ มีผู้ฝึกยุทธ์เพียงหยิบมือเดียวเท่านั้นที่สามารถบรรทุกทักษะวรยุทธ์ในขั้นที่สามได้ อย่างไรก็ตามในตอนนี้ ระดับขั้นความสำเร็จของเย่เฟิงเหมือนกับสิ่งที่เย่เวิ่นเทียนได้คาดคิดไว้ในตอนเริ่มต้น

เมื่อกรงเล็บมังกรปรากฏขึ้นมาต่อหน้าผู้คนโดยรอบ พวกเขาก็ได้แต่ตื่นตะลึงจนตาค้าง!

มังกรปะทะมังกระ!

หรือว่าก่อนหน้านี้ ตอนที่หลงโม่หรันแสดงกระบวนท่าขามังกรตลอดจนเสียงคำรามของมังกรออกมา มันทำให้ชายสวมหน้ากากสามารถบรรลุทักษะกรงเล็บมังกรขึ้นเป็นขั้นที่สามได้ในทันที!?

เมื่อเห็นดังนี้ หลินชื่อฉิงเอามือป้องปากและเกือบจะร้องออกมาด้วยความตกใจ นี่เธอมองเห็นสิ่งใดกันแน่? กรงเล็กมังกรสีทองทั้งสอง! ภาพลวงตานี่ปรากฏขึ้นมาท่ามกลางพายุฝนนี้ได้อย่างไร? แล้วยังเสียงคำรามของมังกรนั่นอีก?

ด้วยที่เป็นคนของตระกูลหลิน หญิงสาวรับรู้ถึงการมีอยู่ของโลกยุทธภพดี และรู้ด้วยว่ามีผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูงมากมายที่สามารถกระโดดข้ามกำแพง หลังคาบ้าน รวมทั้งหลบหลีกเม็ดฝนที่ตกลงมาก็ยังได้ แต่เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าผู้ฝึกยุทธ์จะสามารถแสดงพลังแบบนี้ออกมาได้ด้วย

แขนทั้งสองข้างของเขาขยายออกจนกลายเป็นกรงเล็บมังกรสีทอง นี่มันเกินกว่าความรู้ความเข้าใจของเธอไปแล้ว

‘ถ้าเจ้าหนุ่มนี่สามารถรอดชีวิตไปจากเหตุการณ์ในวันนี้ได้แล้วล่ะก็ อนาคตของเขาคงโชติช่วงชัชวาลจนเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้แน่นอน!’

ความคิดดังกล่าวพลันพุดขึ้นมาในหัวใจของทุกๆคนที่อยู่ในที่นี้

ในชั่วขณะที่หลงโม่หรันกำลังรวบรวมพลังทั้งหมดในการใช้กระบวนท่าขามังกรเพื่อสังหารหลงหวางเอ๋อ ทันใดนั้น เขาก็พลันรู้สึกว่าร่างกายถูกบางสิ่งจับยึดไว้แน่นจนไม่อาจเคลื่อนไหวใดๆได้

หลงโม่หรันพยายามหันกลับไปมองอย่างยากลำบาก สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาก็คือกรงเล็บมังกรที่เปล่งแสงสีทองคู่หนึ่งกำลังบีบรัดร่างของเขาไว้ ภายใต้ผลของหน้าไม้ยับยั้งลมปราณรวมทั้งกระสุนยาสลบ พละกำลังของหลงโม่หรันถูกลดทอนลงไปมากเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ เขาจังไม่สามารถสลัดตัวเองให้หลุดจากรงเล็บมังกรคู่นี้ได้

“ตายๆไปซะ!”

ทักษะกรงเล็บมังกรขั้นที่สามของเย่เฟิงบีบรัดร่างของหลงโม่หรันไว้แน่นจากด้านหลัง จากนั้นจึงเขวี้ยงออกไป

ปัง!

กรงเล็บมังกรเริ่มด้วยการบีบรัดจนแน่น จากนั้นจึงยกร่างของหลงโม่หรันขึ้นมาและกระแทกเข้ากับรถบรรทุกอย่างแรง ทำให้ตัวรถสั่นไหวจนเกือบจะพลิกคว่ำ

Swish!

หลังจากนั้น หลงโม่หรันพลันถูกยกตัวขึ้นไปบนอากาศ และในเวลาต่อมา ร่างของเขาก็ถูกปาทิ้งลงบนพื้นอย่างแรง!

ตูม!

ด้วยเสียงที่ดังสนั่นสั่นไหวไปทั่ว หลุมลึกพลันปรากฏออกมาบนพื้นดินที่เปียกชื้นจากการกระแทกราวกับมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ถูกผลักตกลงจากสวรรค์!

……………………

แปลโดย Solar Spark