บทที่ 196 หลงหวางเอ๋อจำนวนมาก

ถึงแม้เย่เฟิงจะใช้ทักษะเพลิงสีแดงออกไปแล้วแต่เขาก็ไม่ได้วางใจ ชายหนุ่มรีบยกกระบี่ขึ้นเล็งไปที่หลงโม่หรันพร้อมกับแทงเข้าไป

ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ทันทีที่เสื้อคลุมของหลงโม่หรันลุกเป็นไฟ อุณหภูมิความร้อนและแสงสว่างก็ทำให้เขาพยายามจะยับยั้งมัน หลงโม่หรันจึงปลดปล่อยพลังชี่ภายใต้ออกมาสร้างเป็นโล่คุ้มกันให้ตัวเองทันที

ดูเหมือนชายวัยกลางคนจะรับรู้ได้ถึงกระบี่ของเย่เฟิงกำลังพุ่งเข้ามา เขาจึงใช้จังหวะนี้กลิ้งตัวหลบไปบนพื้นพร้อมกับใช้ความชื้นที่อยู่บนดินเพื่อดับไฟของเสื้อคลุมอย่างรวดเร็ว

นี่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าระดับวรยุทธ์ของหลงโม่หรันอยู่ในขั้นสูงส่ง และในสภาพอากาศเช่นนี้ ทักษะเซียน-เพลิงสีแดง ไม่อาจสร้างการคุกคามแก่เขาได้

แต่เย่เฟิงไม่ได้คาดหวังกับการจู่โจมก่อนหน้านี้อยู่แล้ว เมื่ออีกฝ่ายหลบการโจมตีออกไป เขาจึงเร่งเร้าเจินชี่ในร่างและตวัดกระบี่ในมือพร้อมกับปลดปล่อยรังสีกระบี่พุ่งเข้าหาหลงโม่หรันด้วยความเร็วสูงสุด

เคร้ง!

หลงโม่หรันพลันควบแน่นพลังชี่ภายในไว้ในกระบี่แล้วกวัดแกว่งมันเพื่อป้องกันการโจมตีของรังสีกระบี่ มันมีเรื่องความแตกต่างของระดับวรยุทธ์อยู่ ซึ่งไม่ว่าเย่เฟิงจะทำอย่างไรก็ไม่อาจลบช่องว่างนี้ออกไปได้

“ไอ้เด็กเวร มั่นใจได้เลยว่าแกต้องตายในวันนี้ แต่ฉันไม่ปล่อยให้แกได้ตายสบายแน่!”

การที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอนาถทำให้หลงโม่หรันเต็มไปด้วยความเดือดดาล เขากระโดดพุ่งตัวออกไปทันที

เพราะการกลิ้งไปบนพื้นก่อนหน้านี้ เสื้อคลุมสีขาวจึงเปื้อนไปด้วยคราบโคลนและเศษหญ้า นอกจากนี้ ผมยาวสลวยทีมัดไว้ยังถูกเผาจนแหว่งไปบางส่วนจากผลของบอลไฟ สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้สภาพของหลงโม่หรันดูน่าอนาถราวกับขอทานใต้สะพานลอย

ในเวลานี้ หลงโม่หรันไม่อาจรับมือกับการโจมตีของเย่เฟิงได้ดีนัก ทั้งยังถูกชายหนุ่มใช้ลูกเล่นจนต้องอยู่ในสภาพที่น่าอายและน่าขายหน้า ในที่สุด เขาจึงตัดสินใจจะให้ชายสวมหน้ากากต้องตายด้วยความทุกข์ระทม

แล้วสิ่งใดกันเล่าที่ทำให้ผู้คนต้องทุกข์ระทมมากที่สุด? แน่นอนว่ามันคือการมองเห็นคนรักได้รับความทรมาณต่อหน้าต่อตาโดยที่ตัวเองไม่อาจช่วยอะไรได้!

หลงโม่หรันหันไปจ้องมองหลงหวางเอ๋อ และทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็พลันจมลึกพร้อมกับคิดในใจ ‘พวกแกทั้งคู่รักกันดีนักใช่ไหม? งั้นก็รอดูคนรักของแกตายไปต่อหน้าได้เลย!’

หลังจากคิดจบ หลงโม่หรันก็พลันเคลื่อนไหว

การเคลื่อนไหวนี้มองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเร็วยิ่งกว่าเย่เฟิง ขณะที่ถือกระบี่ไว้ในมือ หลงโม่หรันพุ่งตัวเข้าหาหลงหวางเอ๋อพร้อมกับแทงกระบี่เล่มยาวเข้าใส่ต้นขาของหญิงสาว!

เขาต้องการจะใช้กระบี่นี้สร้างความเจ็บปวดแก่หลงหวางเอ๋อ และสร้างความเจ็บปวดแก่ชายสวมหน้ากากไปพร้อมกัน!

จนถึงเวลานี้ อาการของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์โดยรอบที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นเสียงปราบวิญญาณได้กลับมาเป็นปกติแล้ว เมื่อพวกเขามองกลับมาที่การต่อสู้อีกครั้ง แต่ล่ะคนก็ต่างรู้สึกตกตะลึงเมื่อเห็นหลงโม่หรันตั้งใจจะแทงกระบี่ใส่ลูกสาวตัวเอง

เขาคิดจะสังหารลูกตัวเองจริงงั้นรึ?

กลุ่มฝูงชนพลันร้องตะโกนออกมาและรู้สึกว่าหลงโม่หรันช่างเป็นคนที่โหดร้ายสิ้นดี แต่เมื่อพวกเขาคิดถึงเหตุการณ์ที่ชายคนนี้กุดหัวภรรยาตัวเองโดยปราศจากความลังเล ทุกคนก็คิดว่าเหตุการณ์ในปัจจุบันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอันใด

หลงจื่อและหลงชิงต้องการจะกระโดดเข้าไปห้ามหลงโม่หรันไว้ แต่ชัดเจนว่าความเร็วของพวกเขาไม่อาจไล่ตามหลงโม่หรันได้ทัน

ด้วยเหตุนี้เอง ทั้งคู่จึงได้แค่หลับตาเพราะไม่อาจทำใจกับภาพที่จะได้เห็น

ฉึก!

ถึงแม้กระบี่ของหลงโม่หรันจึงแทงเข้าที่ต้นขาของหลงหวางเอ๋อ แต่ช่างน่าตกใจที่ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะไม่ได้รับบาดเจ็บอันใดเลย มันไม่มีแม้แต่เลือดสักหยดเดียว แต่ร่างของเธอกลับแตกกระจายกลายเป็นควันสีน้ำเงินไปต่อหน้าต่อตา

“บัดซบ ภาพล่วงตางั้นรึ?”

หลงโม่หรันรีบตอบสนองพร้อมกับถึงกระบี่ในมือกลับมา แต่เมื่อเขามองไปรอบๆ ชายวัยกลางคนก็พลันเห็นร่างของหลงหวางเอ๋อจำนวนมหาศาลปรากฏอยู่รอบตัวเขาเต็มไปหมด!

‘ทักษะอำพราง!’

เย่เฟิงเช็ดหยาดน้ำฝนที่มุมปากพร้อมกับร่างของเขาที่ค่อยๆจางลงไป

เมื่อครู่นี้ เขาได้ใช้ทักษะย่างก้าวไร้เงาขั้นสองเร่งเร้าความเร็วเพื่อพุ่งตัวเข้าใกล้หลงโม่หรัน ชายหนุ่มได้จัดเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว เวลานี้ เจินชี่ของเขาได้กระจายออกไปครอบคลุมไปทั่วทั้งป่า เพื่อใช้แสดงผลของทักษะอำพราง

เย่เฟิงคิดถึงความเป็นไปได้ที่หลงโม่หรันจะลอบโจมตีเพื่อสังหารหลงหวางเอ๋อไว้แล้ว นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงคิดกลยุทธ์นี้ขึ้นมาได้และแอบสร้างเขตอาคมขึ้นมาด้วยความเงียบเชียบ

ภาพที่มองเห็นโดยรอบกลายเป็นสิ่งที่น่าตื่นตะลึงไปในทันทีในสายตาของหลงโม่หรัน

หลงหวางเอ๋อ

หลงหวางเอ๋อ

หลงหวางเอ๋อ

………

หลงโม่หรันมองไปรอบๆและพบว่าผู้คนที่ยืนอยู่โดยรอบกลับกลายเป็นหลงหวางเอ๋อไปทั้งหมด มันเป็นภาพที่น่าเหลือเชื่อ แต่จุดสำคัญก็คือ แม้แต่ชายสวมหน้ากาก หลงจื่อ หลงชิง และผู้ฝึกยุทธ์ถูกคนก็กลายเป็นลูกสาวของเขา!

หลงโม่หรันพลันมีสีหน้าจมลึก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

หรือว่าเขาเหนื่อยจนเกินไป ถึงได้มองเห็นภาพหลอนแบบนี้?

ไม่ ไม่ใช่ นี่ต้องเป็นภาพล่วงตาที่เจ้าเด็กเวรนั่นสร้างขึ้นมาแน่ ถ้ามันสามารถพ่นบอลไฟออกมาจากปากได้ และสิ่งที่หลัวเฟิงแห่งหมัดเทพทวาราได้พูดไว้ก่อนหน้านี้เป็นเรื่องจริง เช่นนั้นก็เป็นบอลไฟลูกนี้เองที่ทำให้หลัวเฟิงได้รับบาดเจ็บสาหัสในตอนนั้น!

การที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์อันแปลกประหลาดนี้ ทำให้หลงโม่หรันรับรู้ได้ว่าศัตรูของเขาในวันนี้มีทักษะอันแปลกประหลาดที่น่าหวาดหวั่นยิ่ง ดังนั้น เขาจึงไม่อาจจัดการกับมันแบบเดียวกันกับที่จัดการกับผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปได้

สีหน้าของหลงโม่หรันกลายเป็นมืดมนเพราะในตอนนี้ เขาไม่อาจระบุได้ว่าคนไหนคือหลงวางเอ๋อตัวจริง และคนไหนคือภาพล่วงตา

เมื่อเย่เฟิงเห็นชายวัยกลางคนทำอะไรไม่ถูก เขาก็พลันรู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก เมื่อรู้ว่าเขตอาคมยังสามารถแสดงผลได้ตามหน้าที่ของมัน

ทักษะเซียน – ร่างวิญญาณหยินเทียม!

เย่เฟิงแอบสร้างร่างเทียมขึ้นมาในที่ลับตาคนให้มีลักษะเหมือนกับตัวเขาทุกประการ หลังจากนั้น ร่างเทียมที่ถือกระบี่สีทองไว้ในมือก็ได้พุ่งตัวเขาหาหลงโม่หรันและแทงกระบี่เข้าใส่แบบประจันหน้า

ส่วนตัวเขาเองขณะอยู่ในสภาพล่องหน ชายหนุ่มก็พุ่งตัวเข้าไปใกล้หลงโม่หรันอย่างเงียบเชียบจากด้านหลัง

นอกจากหลงหวางเอ๋อแล้วก็ไม่อาจมีใครในที่นี้ทราบถึงกลลวงนี้ได้อีก เมื่อหลินชื่อฉิงมองเห็นการเคลื่อนไหวของชายสวมหน้ากาก เธอก็คิดว่าผู้ชายคนนี้กำลังบ้าไปแล้ว!

ขณะถือกระบี่ไว้ในมือ ชายสวมหน้ากากได้พุ่งตัวเข้าหลงโม่หรันแบบประจันหน้าเพื่อหมายจะแทงกระบี่เข้าใส่อีกฝ่าย นี่ช่างเป็นความคิดที่ผิดมหันต์! ต่อให้หลงโม่หรันจะดูเหมือนกำลังสับสนด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่ลำพังแค่อาศัยสัญชาตญาณในการต่อสู้ของเขาก็มากพอจะสังหารชายสวมหน้ากากได้เป็นร้อยครั้ง!

ในเวลานี้ ร่องรอยของความร้อนรนใจปรากฏอยู่บนใบหน้าของหลินชื่อฉิงที่นั่งอยู่บนรถบรรทุก

ถ้า….ถ้าชายสวมหน้ากากคือเย่เฟิงและเขาเกิดสิ้นชีพที่นี่ขึ้นมาจริงๆ เธอจะทำอย่างไร?

จากข้อมูลทั้งหมดที่หญิงสาวค้นพบ มันมีความเป็นไปได้สูงมากที่เย่เฟิงและชายสวมหน้ากากโม่จิ่วเกอจะเป็นคนๆเดียวกัน แต่เธอก็ยังไม่อาจยืนยันเรื่องนี้ได้ ดังนั้นจึงไม่ได้บอกเรื่องนี้แก่เสี่ยวฉี

แต่ถ้านี่เป็นเรื่องจริงล่ะ……..

ถ้าเย่เฟิงคือชายสวมหน้ากาก….

และถูกสังหารโดยหลงโม่หรัน…..

หลินชื่อฉิงรีบหยิบปืนยาสลบในอกขึ้นมา และแอบเล็งไปที่หลงโม่หรันทันที

ความร้อนรนใจทำให้หญิงสาวกล้าที่จะทำในสิ่งที่เธอไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าทำได้!

ในที่สุดร่างเทียมของเย่เฟิงก็เข้ามาในระยะ 5 เมตรของหลงโม่หรัน พร้อมกับกระบี่ในมือที่เล็งไปที่ลำคอของชายวัยกลางคน

เมื่อเห็นการจู่โจมนี้ ผู้ฝึกยุทธ์ที่ยืนอยู่โดยรอบก็พากันถอนหายใจด้วยความเสียดาย พวกเขาคิดว่าชายหนุ่มคนนี้ยังไร้เดียงสาเกินไป การโจมตีเข้าที่ลำคอถือเป็นเรื่องที่ทำได้ยากยิ่งโดยเฉพาะเมื่อต้องประจันหน้ากัน คนในโลกยุทธภพทั้งหลายล้วนไม่มีใครเลือกจะจู่โจมแบบนี้ แต่ชายสวมหน้ากากทำเลือกจะทำแบบนี้จริง

แล้วก็เป็นไปตามคาด ถึงแม้หลงโม่หรันจะมองไม่เห็นใครตรงหน้า แต่อาศัยสัญชาตญาณในการต่อสู้ เขาก็สามารถรับรู้ได้ถึงคมกระบี่ที่พุ่งเข้ามา ในเสี้ยววินาที หลงโม่หรันควบแน่นพลังชี่ภายในเข้าไปในกระบี่ซึ่งมากพอจะผ่าร่างของเย่เฟิงออกเป็นสองซีกในทีเดียว

แต่ทันใดนั้นเอง

ปิ้ว!

หลินชื่อฉิงลั่นไกปืนยาสลบในมือ ซึ่งการจู่โจมการด้านหลังแบบไม่คาดคิดนี้ทำให้หลงโม่หรันต้องตื่นตกใจ

ปิ้ว!

และในเวลาถัดมา หนานฟางที่หลบซ่อนตัวอยู่ใต้รถบรรทุกลั่นไกหน้าไม้เข้าใส่บั้นท้ายของหลงโม่หรัน! (-*-)

เมื่อสัมผัสได้ถึงการลอบจู่โจมแบบต่อเนื่องนี้ ก็ทำให้หลงโม่หรันรู้สึกร้อนรนไปชั่วครู่ แต่สำหรับเขาแล้ว การกุดหัวเย่เฟิงคือเรื่องสำคัญที่สุดในตอนนี้ เพราะฉะนั้น เขาจึงไม่คิดจะหลบหลีกการโจมตีพวกนั้น และฟาดกระบี่ในมือออกไปเพื่อหมายจะผ่าร่างเย่เฟิงออกเป็นสองส่วน

“ตูม” เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่ว

เป็นอีกครั้งที่ร่างเทียมได้ถูกทำลายและกลายเป็นควันสีน้ำเงินที่กระจัดกระจายไปทั่ว

ฉึก!

ลูกศรหน้าไม้ของหนานฟางปักเข้าที่บั้นท้ายของหลงโม่หรัน พร้อมกับพลังงานบางอย่างในลูกศรที่เริ่มกระจายไปทั่วร่างของชายวัยกลางคนอย่างรวดเร็ว มันมีผลในการยับหยั้งพลังชี่ภายในทำให้ดึงออกมาใช้ได้ยากขึ้น

อย่างไรก็ตาม นี่ยังไม่ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงเท่าไหร่นัก

ร่างจริงของเย่เฟิงในสภาพล่องหนที่หลบซ่อนตัวอยู่ด้านหลังหลงโม่หรันรีบเคลื่อนไหวทันที ในชั่วพริบตา เขาได้แทงกระบี่ในมือเข้าใส่แผ่นหลังของอีกฝ่าย

ฉึก!

กระบี่ในมือชายหนุ่มพลันแทงทะลุหน้าอกของหลงโม่หรันออกมา พร้อมกับเลือดสดๆที่สาดกระจายไปทั่ว!

………………….

แปลโดย Solar Spark