บทที่ 191 ปลาฉลามแสนรู้

ไม่นานนัก อีกฝ่ายก็เข้าในระยะการรับรู้ของทักษะสัมผัสวิญญาณของเย่เฟิง

และก็เป็นไปตามที่คาด ทั้งคู่คือเสี่ยวเยวี่ยและหวังเฉ่าตง ความสนใจของเย่เฟิงติดอยู่กับสาวสวยเสี่ยวเยวี่ย บอกได้เลยว่ารูปลักษณ์ของสาวงามคนนี้นั้นแสนยอดเยี่ยม ท่ามกลางพายุฝน ถึงแม้ว่าเธอจะสวมเสื้อกันฝนไว้ มันก็ยังไม่อาจปิดบังเรือนรางอันน่าดึงดูดของหญิงสาวที่โตเต็มวัยได้

จากนั้น เย่เฟิงจึงมุ่งความสนใจไปยังหวังเฉ่าตง

เดิมที หวังเฉ่าตงได้จ้างคนมาเพื่อจะสังหารเขา แต่ในตอนนี้ มันกลับมาถึงที่นี่ด้วยตัวเอง ในเป็นแบบนี้แล้ว เย่เฟิงย่อมไม่มีเหตุผลใดที่จะปล่อยมันไป และชายหนุ่มก็ไม่สนใจอีกด้วยว่ามันจะเป็นลูกคนใหญ่คนโตคนใด หากมันตายในหมู่บ้านที่ถูกคลื่นทะเลซัดอย่างที่นี่ จะมีใครเอาผิดเขาได้?

การที่มีความแค้นไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนชั่วร้าย

แต่เย่เฟิงจะไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนดีเด่นอะไรอยู่แล้ว หากมีความแค้น สิ่งที่เขาต้องทำก็คือการแก้แค้น และในเวลานี้ก็ถือเป็นโอกาสอันดีเยี่ยม อาศัยความสามารถของเขาเอง การสังหารหวังเฉ่าตงและโยนศพมันลงทะเลไปนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างยิ่ง

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เป็นเพราะหวังเฉ่าตงคิดจะสังหารเขาก่อน เพราะงั้นก็การที่เขาทำแบบเดียวกันก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาสามัญอย่างยิ่ง

“งั้นฉันขอไปดูหน่อย เดี๋ยวจะกลับมา”

เย่เฟิงรีบยืนขึ้น

ในสภาพอากาศที่เต็มไปด้วยพายุฝน ทั่วหมู่บ้านก็ท่วมไปด้วยน้ำทะเลที่สูงถึงระดับเอว ชูชูและหนานฟางไม่สามารถเคลื่อนไหวไปไหนได้ดีนัก นอกจากนี้ ยังมีร่างของเด็กหนุ่มจากวังไท่จี๋ที่หมดสติอยู่กับพวกเขาด้วย………

เมื่อเย่เฟิงจัดการกับหวังเฉ่าตงเรียบร้อยแล้ว เขาก็จะรีบนำทุกออกออกจากที่นี้ให้เร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัย สิ่งสำคัญคือชายหนุ่มต้องมั่นใจในความปลอดภัยของหนานฟาง ชูชู และเด็กหนุ่มคนนั้น ว่าพวกเขาจะสามารถกลับไปได้อย่างปลอดภัย ส่วนตัวเขาเองและหลงหวางเอ๋อจะกลับไปที่ใต้ก้นทะเลเพื่อเข้าไปในกำแพงน้ำแข็งอันนั้น

เย่เฟิงออกจากหมู่บ้านไปคนเดียวอย่างรวดเร็ว เขาดำลงไปในน้ำทะเลที่เย็นเฉียบและลอบมุ่งหน้าเข้าหาเสี่ยวเยวี่ยและหวังเฉ่าตง

ในตอนนี้ ชายหนุ่มเปรียบเสมือนกับนักล่า!

…………….

เสี่ยวเยวี่ยและหวังเฉ่าตงพร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ใช้ประโยชน์ได้บางอย่าง มุ่งหน้าจากใจกลางของเขตเซี่ยงซาน ผ่านเส้นทางปิดกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเรื่อยๆและในที่สุด พวกเขาก็มาถึงหมู่บ้านเล็กๆริมภูเขา

เมื่อเห็นน้ำทะเลที่เย็นเฉียบสูงถึงระดับเอว หญิงสาวก็รู้สึกลังเลและเอ่ยถามด้วยความสงสัย “นายมั่นใจหรอว่าชายสวมหน้ากากอยู่ที่นี่จริงๆ? ทำไมนายไม่โทรศัพท์หาคนของนายเพื่อยืนยันหน่อยล่ะ?”

“ไม่จำเป็นหรอก เพราะพวกมันบอกว่าเป็นที่นี่แน่นอน”

หวังเฉ่าตงเอ่ยตอบ อย่างไรก็ตาม เขาหันหลังให้น้ำทะเลที่ท่วมนองนี้ด้วยความรังเกียจ ชายหนุ่มคิดในใจว่าแอ่งน้ำนี่ช่างสกปรกเสียจริงและในเมื่อตัวเขาที่เป็นถึงคุณชายแห่งเมืองเซี่ยงไห้ ทำไมเขาต้องเดินลงไปในแอ่งน้ำนี้ให้เปื้อนขาด้วย?

แม้หวังเฉ่าตงจะไม่รู้ทำไมพวกอันธพาลทั้งห้าถึงไม่ยอมติดต่อมาจนถึงตอนนี้ แต่พวกมันก็คงมาถึงที่นี่เรียบร้อยแล้ว

หวังเฉ่าตงย่อมไม่คาดคิดว่าเหล่าอันธพาลจะถูกชายสวมหน้ากากสังหารอย่างง่ายดายและโยนศพลงทะเลไปเรียบร้อยแล้ว

“งั้นพวกเรายืนรอกันสักพักเถอะ”

หวังเฉ่าตงเปิดไฟฉายเพราะรู้สึกว่าหมู่บ้านตรงหน้านี้ดูมืดมนและแลดูน่ากลัว

“เหมือนฉันได้กลิ่นเลือด”

เสี่ยวเยวี่ยมีประสาทสัมผัสที่เฉียบคมกว่าหวังเฉ่าตง ถึงแม้ว่าในตอนนี้ยังมีสายฝนสาดเทลงมา แต่เธอก็ยังคงรู้สึกดึงกลิ่นเลือดที่กระจายอยู่รอบๆที่นี่ กลิ่นนี้ไม่ใช่กลิ่นเลือดของปลา แต่หญิงสาวไม่ทราบว่ามันเป็นกลิ่นเลือดของอะไร อย่างไรก็ตาม สัญชาตญาณของผู้หญิงบอกเธอว่าสถานที่นี่ค่อนข้างอันตราย

“อะไรนะ กลิ่นเลือด? อืม เหมือนจะได้กลิ่นนิดหน่อย”

หวังเฉ่าตงสูดอากาศเข้าไปเต็มปอดสองรอบ จากนั้นจึงพยักหน้าพร้อมกับรู้สึกยินดีอยู่ในใจ พวกอันธพาลเหล่านั้นต้องสังหารเจ้าหน้ากากนั่นด้วยท่อนเหล็กแล้วอย่างแน่นอน ในตอนนี้ เขาก็แค่รออยู่ที่นี่จนกว่าพวกอันธพาลจะมารายงานความคืนหน้าให้ฟัง

“ระวังด้วย”

ทันใดนั้น เสี่ยวเยวี่ยพลันรู้สึกว่ามีบางสิ่งผิดปกติตรงแอ่งน้ำที่สูงถึงระดับเอวข้างหน้า ราวกับมีบางสิ่งกำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

“เจ้านั่นมันคืออะไร?”

หวังเฉ่าตงรับรู้ได้ถึงบางสิ่งเช่นกันจึงส่องไฟฉายไปทางนั้น แต่สิ่งที่เขาเห็นก็คือปลาฉลามในน้ำตื้นที่ว่ายเข้ามาหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว

ภาพนี้ทำให้หวังเฉ่าตงกลัวจนฉี่แทบราด!

ด้วยปฏิกิริยาตอบสนองตามธรรมชาติ เสี่ยวเยวี่ยและหวังเฉ่าตงรีบหันหลังวิ่งทันที พวกเขาไม่คิดเลยว่าแอ่งน้ำตื้นที่เกิดจากคลื่นทะเลซัดเข้าชายฝั่งแบบนี้จะมีปลาฉลามอยู่ด้วย นี่มันผิดปกติเกินไปแล้ว!

โชคร้ายที่พวกเขาเพิ่งหันหลังถอยไปได้ไม่กี่ก้าว ปลาฉลามตัวนั้นก็พุ่งตัวออกมาจากแอ่งน้ำและกระโดดเข้าหาทั้งคู่

มันคือปลาฉลามจริงๆ!

แววตาอันดุร้ายมาพร้อมกับฟันที่แหลมคมอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากใครถูกมันกัดเข้า คนๆนั้นย่อมไม่อาจรอดชีวิตไปได้

ปลาฉลามที่กระโดดออกมาจากแอ่งน้ำตื้น อ้าปากกว้างไปยังหวังเฉ่าตงเพื่อหมายจะกัดหัวของเขา

“ว้ากกก!”

หวังเฉ่าตงตาเหลือกตาลานและเริ่มร้องตะโกนออกมา “ช่วยด้วย ช่วยด้วย!”

ชายหนุ่มพยายามถอยหลังกลับ แต่โชคร้ายที่ไปสะดุดเข้ากับเถาวัลย์ของวัชพืชบนดิน ความตื่นตกใจผสมกับความหวาดกลัว ทำให้หวังเฉ่าตงฉี่ราดกางเกงพร้อมกับไฟฉายที่หล่นจากมือ

ในช่วงเวลานี้ หวังเฉ่าตงไม่มีเวลาพอมาคิดว่าเหตุใดสถานที่แห่งนี้จึงมีปลาฉลามที่แสนดุร้ายด้วย เขารู้สึกเสียใจอย่างเหลือแสนที่เข้ามาในสถานที่อันน่ากลัวนี้พร้อมกับเสี่ยวเยวี่ย ทั้งๆที่เพียงแค่นั่งรอพวกอันธพาลอยู่ข้างนอกหมู่บ้านก็ได้

แต่ดูเหมือนจะมีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง ทำไมไม่มีพวกอันธพาลแม้แต่คนเดียวที่โทรรายงานเขา หรือพวกมันถูกฉลามตัวนี้กินไปหมดแล้ว?

หวังเฉ่าตงหลี่ตาลงอย่างน่ากลัวพร้อมกับหัวสมองที่ครุ่นคิดอย่างบ้าคลั่ง ในช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตายนี้ สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของเขาถูกปลุกขึ้นมาพร้อมกับหนทางรอดชีวิต

หวังเฉ่าตงพลันคว้าจับแขนของเสี่ยวเยวี่ยที่กำลังวิ่งอยู่ข้างๆ และดึงร่างของเธอมาไว้ข้างหน้าเขา!

เสี่ยวเยวี่ยถูกดึงกลับมาจนตัวเซ เธอไม่คิดเลยว่าในช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้ หวังเฉ่าตงกลับคิดจะใช้ผู้หญิงเป็นโล่ ทำไมมันถึงได้หน้าด้านขนาดนี้? แต่หญิงสาวก็ไม่มีเวลาให้คิดอะไรอีก

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับฉลามตัวใหญ่ยักษ์ที่กำลังใกล้เข้ามา เสี่ยวเยวี่ยก็รีบสงบใจและเตรียมตัวเพื่อแสดงความแข็งแกร่งของคาราเต้สายดำ โดยการเตะใส่ฉลามตัวนี้

ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ภายใต้สถานการณ์วิกฤต ทุกๆคนล้วนตื่นตกใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับฉลามอันแสนดุร้ายแบบนี้ แต่เสี่ยวเยวี่ยนั้นสามารถสงบใจตัวเองได้อย่างรวดเร็ว นี่ทำให้ปลาฉลามรู้สึกนับถือหญิงสาวอยู่เล็กน้อย

แน่นอนว่าปลาฉลามปกติย่อมไม่อาจแสดงความนับถือหรือรู้สึกใดๆต่อเหยื่อได้ แต่ความจริงแล้ว ปลาฉลามตัวนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากเย่เฟิงที่แปลงกายมาด้วยทักษะอำพราง ทำให้ในสายตาของเสี่ยวเยวี่ยและหวังเฉ่าตง เย่เฟิงไม่ใช่มนุษย์แต่อันปลาฉลามอันแสนดุร้าย

เย่เฟิงที่ลอยตัวอยู่บนอากาศได้หันตัวผ่านร่างของเสี่ยวเยวี่ยไป และกัดใส่หวังเฉ่าตงที่ซ่อนตัวอยู่หลังหญิงสาว

สำหรับเสี่ยวเยวี่ย นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่ดูประหลาดมาก ปลาฉลามตัวนี้ได้กระโดดข้ามหัวเธอไป และกัดใส่แขนของหวังเฉ่าตง หญิงสาวรู้สึกมึนงงอย่างมาก ขณะที่ดวงตาคู่งามยังคงเบิกกว้างพร้อมกับคิดว่าเหตุใดปลาฉลามตัวนี้ถึงทำแบบนี้? มันมีสติปัญญาด้วยงั้นหรอ?

หรือว่ามันไม่ชอบกินมนุษย์ผู้หญิง?

โดยไม่รอให้เสี่ยวเยวี่ยได้ตอบสนอง ปลาฉลามได้กัดแขนของหวังเฉ่าตงไว้แน่นและลากร่างของชายหนุ่มลงทะเลไป

“อ้ากกก-”

เสียงกรีดร้องด้วยความหวาดผวาของหวังเฉ่าตงดังอยู่เพียงชั่วครู่

เสี่ยวเยวี่ยผงะถอยหลังไปหลายก้าวด้วยความตื่นตกใจและอิงร่างบางอยู่กับต้นไม้ขณะหอบหายใจอย่างหนักหน่วง เรือนร่างของหญิงสาวที่ห่อด้วยเสื้อกันฝนท่ามกลางสายฝนแบบนี้ แลดูน่าเย้ายวนอย่างยิ่ง แต่อาการสั่นเทาราวกับราวลูกนก แสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อจิตใจของเธอเพียงใด

“แย่แล้ว หวังเฉ่า…….”

หลังจากผ่านไปชั่วครู่ เสี่ยวเยวี่ยก็พลันคิดได้ว่าบุคคลที่ถูกปลาฉลามลากลงไปในน้ำเมื่อครู่คือคุณชายผู้มีชื่อเสียงแห่งเมืองเซี่ยงไห้ หวังเฉ่าตง! ยิ่งกว่านั้นเขายังมาที่นี่กับเธอเพียงแค่สองคน……

หากข่าวนี้รู้ไปถึงหูของตระกูลหวังล่ะก็ เธอจะไม่เดือดร้อนเอารึไง?

พูดกันตามตรง การที่หวังเฉ่าตงถูกปลาฉลามลากลงไปในน้ำเมื่อครู่นี้ หากเล่าให้คนอื่นฟัง ใครเขาจะไปเชื่อ!

เสี่ยวเยวี่ยไม่คิดอะไรให้มากความอีก เธอจึงวิ่งไปข้างหน้าและกระโดดลงไปในแอ่งน้ำทันที!

…………………………

แปลโดย Solar Spark