บทที่ 184 ทักษะศรดารา

ตามตำนานในโลกเทวะนั้น ที่นั่นมีสมบัติสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์หาได้ยากชิ้นหนึ่งคือน้ำแข็งพันปี

มันเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดในโลกเทวะซึ่งมีจิตวิญญาณเป็นของตนเอง! ไม่ว่าจะถูกจู่โจมจากเหล่าผู้ฝึกเซียนภายนอกมากเท่าไหร่ มันก็จะรีบปลดปล่อยชั้นน้ำแข็งขึ้นมาป้องกันการโจมตีเหล่านั้นไว้

เวลานี้ เย่เฟิงพบกับสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันซึ่งสร้างความสงสัยบางอย่างในใจเขา สิ่งที่เป็นตำนานในโลกเทวะ เหตุใดมันจึงปรากฏขึ้นมาบนโลกใบนี้?

น้ำแข็งพันปีซึ่งกักเก็บพลังงานลึกลับไว้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาพันปี ครั้งแรกที่ได้ดูดซับสิ่งนี้จะช่วยเพิ่มระดับวรยุทธ์ขึ้นได้อย่างน้อย 10 ปี และหลังจากนั้น มันจะมีคุณสมบัติในการฟื้นฟูพลังวิญญาณได้อย่างรวดเร็ว ถ้าเย่เฟิงได้มันมา เขาสามารถนำไปให้ผู้อื่นดูดซับได้ด้วยเช่นกัน

ในโลกเทวะนั้น มีสำนักผู้ฝึกเซียนอันโด่งดังตั้งอยู่ทางทิศเหนือสุดซึ่งมีชื่อว่า ‘สำนักเจินไผ่’ สมบัติสวรรค์ที่พวกเขาเก็บไว้นั้น มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับน้ำแข็งพันปี และด้วยเหตุนี้เอง ศิษย์หัวกะทิทั้งหลายของสำนักจึงมีวรยุทธ์ระดับ 10 ปีตั้งแต่เริ่มต้น!

ความยุติธรรมนั้นไม่มีในโลกใบนี้หรือในโลกเทวะ ผู้คนที่เกิดในตระกูลร่ำรวยย่อมโอกาสมากกว่า ขณะที่ผู้คนจำนวนมากที่เกิดในฐานะยากจนต้องเริ่มทุกๆอย่างด้วยตัวเองตั้งแต่ต้น ด้วยเหตุนี้ หากพวกเขาไม่พยายามให้หนักกว่าคนอื่น พวกเขาก็จะประสบกับความยากจนไปตลอดชีวิต

โลกทั้งสองใบนั้นค่อยข้างคล้ายคลึงกัน ต่างกันเพียงแค่ในโลกเทวะจะเต็มไปด้วยการแย่งชิงสิ่งต่างๆด้วยกำลัง

‘ถ้ามันคือน้ำแข็งพันปีจริงๆ นี่ก็เป็นเรื่องวิเศษมาก…….’

เย่เฟิงตื่นเต้นอย่างมาก เขาต้องเข้าไปสำรวจพื้นที่แห่งนี้ให้ได้!

อาศัยแค่ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ ชายหนุ่มไม่มีทางเจาะทะลวงกำแพงน้ำแข็งนี้ได้ นอกจากนี้ เส้นลมปราณของเขาในปัจจุบันยังรองรับวรยุทธ์ได้สูงสุดเพียงระดับ 13 ปี ถึงแม้ว่าจะมีปะการังราชันย์อยู่ในมือแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถดูดซับมันได้ ไม่เช่นนั้น มันมีโอกาสที่เส้นลมปราณจะรองรับพลังวิญญาณไม่ไหวแล้วระเบิดออกมา

‘เราคงต้องเอามันกลับไปให้หลงหวางเอ๋อดูดซับให้มีระดับวรยุทธ์เกินกว่า 15 ปี แล้วหลังจากนั้นจะได้สอนทักษะศรดาราให้ ด้วยความแข็งแกร่งของร่างชีพจรเทวะ เธอน่าจะสามารถทะลวงผ่านกำแพงน้ำแข็งนี้ไปได้’

ศรดาราเป็นหนึ่งในทักษะเซียนของสำนักสุสานดารา ซึ่งต้องมีวรยุทธ์ระดับ 15 ปีขึ้นไปจึงจะเริ่มฝึกได้

หลังจากดูดซับพลังของหมู่ดาว มันจะควบแน่นจนกลายเป็นศรดาราซึ่งมีอำนาจการทะลุทะลวงที่ร้ายกาจอย่างยิ่ง! หากใช้เวลาดูดซับพลังได้นานพอ แม้จะเป็นผู้ที่มีระดับวรยุทธ์เพียง 15 ปี แต่ก็สามารถปลดปล่อยพลังที่เทียบเท่ากับการโจมตีของผู้มีระดับวรยุทธ์ถึง 100 ปี

ในโลกเทวะนั้น มันมีโอกาสได้ใช้ทักษะนี้ไม่บ่อยนัก เพราะในการต่อสู้ มันไม่มีเวลาให้ใครได้ดูดซับพลังเป็นเวลานานขนาดนั้น ต่อให้เป็นการลอบโจมตี มันก็เป็นเรื่องง่ายมากที่จะถูกฝ่ายตรงข้ามพบก่อนจะดูดซับพลังได้สำเร็จ นอกจากนี้ หากเริ่มดูดซับพลังแล้ว มันก็ไม่อาจเปลี่ยนทิศทางการโจมตีได้อีก

‘มันจะช่วยประหยัดเวลาได้ถึง 50% การเจาะทะลวงกำแพงน้ำแข็งนี้คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร’

หลังจากคิดแผนในใจได้เรียบร้อยแล้ว เย่เฟิงหันตัวกลับแล้วพุ่งตัวฝ่ากระแสน้ำกลับไปอีกครั้ง

ระยะเวลาในการดูดซับพลังของทักษะศรดารานั้นกินเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเพื่อเพิ่มขอบเขตอำนาจการทะลุทะลวงให้ถึงจุดสูงสุด แต่ถ้าหากไม่ให้เวลาในการดูดซับพลังแก่ทักษะนี้ ความรุนแรงของมันก็ยังเทียบไม่ได้แม้แต่กระบี่เจินชี่ที่อยู่ในน้ำ

เพื่อจัดการกับกำแพงน้ำแข็งนี้ซึ่งไม่ใช่เป้าหมายที่เคลื่อนไหว ทักษะศรดาราถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

เย่เฟิงว่ายน้ำไปเรื่อยๆเพื่อมุ่งหน้ากลับไปยังชายฝั่ง ร่างของเขายังคงเคลื่อนที่ได้อย่างว่องไวโดยไม่พบกับอันตรายใดๆตลอดทาง นอกจากนี้ที่ก้นทะเล ชายหนุ่มยังบังเอิญพบศพของผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งและเก็บปะการังต้นเล็กมาอีก 2 ต้น บางที หลังจากมันแยกตัวกับปะการังราชันย์นั้น พลังวิญญาณในปะการังต้นเล็กทั้ง 2 ต้นนี้คงลดลงไปไม่น้อย

ปะการังราชันย์และปะการังต้นเล็กมีการเชื่อมต่อกันอยู่ หากมันถูกแยกออกจากกันเมื่อไหร่ ก็ไม่อาจเก็บกักพลังวิญญาณในตัวมันเองได้อีกต่อไป

เย่เฟิงรู้สึกว่าพลังวิญญาณในปะการังราชันย์ก็ค่อยๆลดลงอย่างช้าๆเช่นกัน มันคล้ายกับหินจิตวิญญาณครึ่งก้อนที่เขาได้ดูดซับก่อนหน้านี้

‘ตอนที่อยู่ในโลกเทวะ เราจำได้ว่ามันไม่ได้มีสมบัติสวรรค์มากมายเท่าไหร่ ดูเหมือนว่าในโลกใบนี้จะมีสมบัติสวรรค์โผล่ขึ้นมาทุกที่เต็มไปหมด’

เย่เฟิงคิดในใจ ‘ถ้าเรื่องราวทั้งหมดจบแล้ว บางทีถ้าได้เดินทางไปทั่วทุกที่เพื่อเก็บเกี่ยวสมบัติสวรรค์ เราคงได้พวกมันมาไม่น้อยเลยทีเดียว’

ชายหนุ่มคลายทักษะเต่ามังกรกลั้นใจออกเมื่อมาถึงชายฝั่ง พร้อมกับรีบใช้ทักษะล่องหนในทันที ไม่นานนัก เขาก็ค้นพบว่าป่าใกล้ชายทะเลนี้มีผู้ฝึกยุทธ์ซ่อนตัวอยู่มากมาย ดูจากเสื้อผ้าของคนพวกนั้นแล้ว ดูเหมือนว่าจะเป็นพวกที่มีสำนักหรือตระกูลสังกัด

‘หึหึ อุตส่าห์นั่งรอตั้งนาน ฝันไปเถอะว่าจะจับพี่ใหญ่คนนี้ได้’

เย่เฟิงยิ้ม จากนั้นจึงเคลื่อนที่ผ่านป่าไปอย่างไร้ซุ่มเสียงโดยไม่มีใครจับได้!

เขามุ่งหน้าไปเรื่อยๆและไม่นานก็กลับมาถึงหมู่บ้านที่พวกหลงหวางเอ๋ออาศัยอยู่ ในเวลานี้เมื่อกระจายทักษะสัมผัสวิญญาณออกไปรอบๆ ชายหนุ่มก็พลันหรี่ตาลงเมื่อพบว่ามีคนหลายคนที่อยู่รอบๆบริเวณนี้

ช่างน่าสนใจจริงๆ!

………

ในเวลานี้อีกด้านหนึ่ง ธันเดอร์กำลังจะนำหน่วย NSA บุกฝ่าท้องทะเลแห่งความตายนี้ไป

เรือสปีดโบ๊ทประสิทธิภาพสูงของพวกเขาไม่สามารถฝ่าคลื่นทะเลที่แสนรุนแรงในแถบนี้ไปได้ ด้วยที่เป็นเรื่องสำคัญและเพื่อให้เข้าไปใกล้กับเกาะน้ำแข็งให้ได้มากที่สุด ธันเดอร์จึงได้รับการอนุมัติจากกองเรือให้ใช้งานเรือ Destroyer 052 ในปฏิบัติภารกิจครั้งนี้

ในตอนนี้ พวกเขาทำได้เพียงแค่รอคอยอยู่ที่ชายฝั่ง

ธันเดอร์ขมวดคิ้วแน่นเพราะสภาพอากาศที่แสนประหลาดนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยตลอดชีวิตการทำงานในหน่วย NSA ของเขา ทั้งไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร

โชคดีที่ตามแนวชายฝั่งนั้นไม่ได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้มากเท่าไหร่ มันอาจเป็นเพราะว่าระยะการขยายตัวของเกาะภูเขาน้ำแข็งได้หยุดนิ่งแล้ว นี่ทำให้ธันเดอร์รู้สึกโล่งใจขึ้นมานิดหน่อย ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเป้าหมายหลักของเขาคือการรับประกันความปลอดภัยของผู้คนและทรัพย์สินในเขตนี้

“หัวหน้าหน่วยธันเดอร์ กรุณารับข้อมูลล่าสุดด้วย”

ในเวลานี้ น้ำเสียงจริงจังพลันดังขึ้นมาจากอุปกรณ์สื่อสาร “เมื่อเร็วๆนี้ ทางกองทัพได้ตรวจสอบการเคลื่อนไหวของกองเรืออเมริกาแล้ว เป็นไปได้ว่าพวกเขากำลังสนใจเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้น เราต้องรีบเตรียมพร้อมรับมือโดยด่วน!”

“เข้าใจแล้วครับ”

สีหน้าของธันเดอร์พลันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม

มั่นใจได้เลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ไม่อาจหลบซ่อนจากสายตาของกำลังทหารในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกนี้ได้

เกาะภูเขาน้ำแข็งนั้นตั้งอยู่ในอาณาเขตน่านน้ำของประเทศจีน แน่นอนว่าอีกฝ่ายย่อมไม่กล้าล่วงล้ำเข้ามาอย่างโจ่งแจ้ง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ธันเดอร์ต้องเตรียมพร้อมรับมือล่วงหน้ากับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตเสมอ

…….

ณ บ้านหลายชั้นในหมู่บ้านใกล้ฝั่งทะเล

เมื่อเย่เฟิงออกจากหมู่บ้านไปแล้ว หลงหวางเอ๋อย่อมไม่อาจสงบใจอยู่ได้นาน ดังนั้น เธอจึงปลดปล่อยทักษะสัมผัสวิญญาณออกไปรอบๆเพื่อตรวจสอบ หญิงสาวพบว่ามีคนหลายคนกำลังซ่อนตัวอยู่ในป่าที่ไม่ไกลจากเนินเขา

ในทีแรก หลงหวางเอ๋อไม่ได้สนใจอะไรและคิดว่าผู้คนเหล่านั้นคงมาถึงที่นี่โดยบังเอิญ

อย่างไรก็ตามไม่นานนัก เธอก็พบเป้าหมายของฝ่ายตรงข้าม!

ด้วยผลของทักษะสัมผัสวิญญาณ หลงหวางเอ๋อได้ยินบทสนทนาของอีกฝ่ายแม้จะอยู่ห่างออกไปค่อนข้างไกล เมื่อคนจรจัดพวกนั้นคุยกัน พวกเขาพูดคำว่า “หน้ากาก”และ “ผู้ชายและผู้หญิง”อยู่บ่อยครั้ง คำพูดเหล่านี้ทำให้หญิงสาวเข้าใจทันทีว่าเป้าหมายของอีกฝ่ายคือเย่เฟิง!

ทันใดนั้น หลงหวางเอ๋อก็พลันคิดได้ว่าในช่วงเช้าเมื่อพวกเธอออกมาจากโรงแรม ในเวลานั้น ทั้งคู่ได้พบกับชายหนุ่มท่าทางมีฐานะที่ห้อยหยกโบราณรูปสุนัขไว้ที่คอ

เมื่อได้ยินคำพูดของเหล่าคนจรจัดว่าหวังเฉ่าตงต้องการจะสังหารชายสวมหน้ากากและโยนศพทิ้งลงทะเล นี่ทำให้เธอรู้สึกโมโหมาก

แค่ถูกเตะใส่ที่โรงแรม มันถึงกับต้องสังหารแล้วโยนศพลงทะเลเลยหรือไง?

หญิงสาวต้องการจะสั่งสอนบทเรียนแก่พวกมันตอนนี้เลย!

แต่เธอก็ต้องเก็บความคิดนี้ไว้ก่อน เพราะเมื่อปลดปล่อยทักษะสัมผัสวิญญาณออกไปอีกทางหนึ่ง เธอพบว่ามีคนอีกคนหน่งที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังนี้! คนๆนั้นเป็นผู้ชายที่สวมชุดกันฝนไว้ซึ่งดูจากรูปลักษณ์ของเขาแล้ว มันดูเหมือนคนต่างแดน ท่ามกลางสายลมที่รุนแรงนี้ เขายืนคนเดียวอยู่บนเนินเขาพร้อมทั้งสพายหน้าไม้ขนาดเล็กอันหนึ่งไว้ที่หลัง เมื่อมองโดยภาพรวมแล้ว คนๆนั้นดูลึกลับอย่างมาก

คนๆนั้นเป็นใครกัน?

หลงหวางเอ๋อไม่รู้จักคนผู้นี้และไม่ต้องการจะเสี่ยง ดังนั้นเธอจึงรีบเรียกชูชูและหนานฟางมาเพื่อปรึกษาเรื่องนี้

“มันคือนักฆ่า!”

หนานฟางที่เดินขึ้นบันไดมา เมื่อได้ยินคำอธิบายของหลงหวางเอ๋อ สีหน้าของเขาก็พลันเปลี่ยนไปทันที ชายหนุ่มมั่นใจว่าคนต่างแดนคนนั้นต้องเป็นนักฆ่าแน่นอน และมันยังมีฝีมือที่น่ากลัวอีกด้วย!

……………………..

แปลโดย Solar Spark