บทที่ 147: ดินแดนแห่งนักล่า (3)

 

 

 

ฮันแตเข้าใกล้ผู้หญิงคนนั้นอย่างระมัดระวัง

และร่างของผู้หญิงคนนั้นก็เต็มไปด้วยแผลเป็นอย่างน่าประหลาด

เมื่อฮันแตเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเล็กๆ

‘ไม่ว่าฉันจะมองยังไง… ผู้หญิงนั่นก็ไม่ได้ดูแข็งแกร่งเลย แต่ฉันก็ควรจะระวัง’

และมันยังมีจุดน่าสงสัยอย่างหนึ่ง นั่นคือแสงสีฟ้าอ่อนที่ส่องประกายออกมารอบๆ ร่างของผู้หญิงคนนั้น

ฮันแตชี้คางของเขาไปยังเอลิส

“เธอไปดูผู้หญิงคนนั้นสิ”

“…”

“อะไร? ไม่อยากไปรึไง?”

เอลิสถอนหายใจอย่างเงียบงันและเพ่งประสาทสัมผัสของเธอจนถึงขีดสุดก่อนจะเข้าไปใกล้ผู้หญิงคนนั้นอย่างช้าๆ

‘ฉัน… ก็ยังต้องเข้าใกล้เธออยู่ดี’

ยังไงเธอก็ต้องสืบหาว่าอะไรที่สร้างรอยแผลเป็นพวกนั้นบนร่างของผู้หญิงคนนี้อยู่ดี

‘ในเมื่อเธอมาถึงก่อนเรา… มันมีโอกาสสูงที่เธอจะรู้อะไรๆ’

ในตอนนั้นเอง

ผู้หญิงที่ยืนเหม่ออยู่พลันส่งเสียงครางออกมาและหันมามองเอลิส

เอลิสชะงักไปจากการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย ผู้หญิงคนนั้นแสดงสีหน้าจริงใจอย่างมากออกมาก่อนจะวิ่งมาหาเธอ

“ขอบคุณพระเจ้า! ขอบคุณพระเจ้า!”

“…อะไรนะ?”

เอลิสแทบจะยอมรับการกอดของอีกฝ่ายที่วิ่งเข้ามาหาเธอด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงใจอย่างไม่รู้ตัว

ทว่าเอลิสตื่นขึ้นจากความรู้สึกงุนงง ยกดาบของเธอขึ้นและชี้ไปยังผู้หญิงคนนั้น

“อย่าเข้ามาใกล้กว่านี้นะ! เกิดอะไรขึ้น?”

ผู้หญิงคนนั้นชะงักไปกับดาบของเอลิสที่ชี้มายังเธอก่อนจะหยุดนิ่งอยู่กับที่

จากนั้นจึงยิ้มออกมา

“เธอคิดว่าฉันจะหยุดใช่ไหม?”

ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง

แสงสีฟ้าที่ส่องประกายอยู่รอบร่างผู้หญิงคนนั้นได้ระเบิดออก

คว้างงง!

คลื่นทำลายล้างได้กวาดไปทั่วบริเวณ

“อะไร… !”

ขณะที่เอลิสชะงักไป ร่างของผู้หญิงที่ถูกโอบล้อมไปด้วยแสงสีฟ้าก็จางหายไปในวินาทีนั้น

ด้วยการเคลื่อนไหวที่ไม่อาจเทียบได้กับการเคลื่อนไหวที่เธอเคยทำแม้มาแต่น้อย

ฟึ่บ

ผู้หญิงที่หายไปได้ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของเอลิสในเสี้ยววินาที

หมับ

ผู้หญิงคนนั้นจับลำคอของเอลิสก่อนจะต่อยท้องของเธอ

พลั่ก!

“อุก…”

เอลิสไม่อาจกระทั่งต่อต้านตอนที่เธอหมดสติไป

ในเมื่อความแข็งแกร่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอจะสามารถขัดขืนได้

แม้ว่าเธอจะเตรียมตัวไว้ในระดับหนึ่ง สกิลทั้งหมดของเธอก็ถูกทำลายพร้อมกับที่เธอหมดสติไปอย่างง่ายๆ

ผู้หญิงคนนั้นยกร่างไร้สติของเอลิสขึ้นสูงก่อนจะตะโกนขึ้นเสียงดัง

“สิบ! ฉันทำครบแล้ว! อุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

ในเสี้ยววินาทีต่อมา

กิ้งงง

ร่างของเอลิสที่ถูกจับอยู่ในมือของผู้หญิงคนนั้นก็ถูกล้อมรอบไปด้วยแสงสีฟ้าและเริ่มหายไป

ราวกับว่าเธอถูกเคลื่อนย้ายไปยังบางแห่ง

ไม่ช้าบริเวณนั้นก็เหลือเพียงแค่ฮันแตและผู้หญิงคนนั้น

ฮันแตตื่นตระหนกกับภาพนั้นขณะที่เขาตะโกนไปยังอีกฝ่าย

“นังผู้หญิงเสียสตินี่!”

ผู้หญิงคนนั้นแย้มยิ้มขณะที่เอ่ยตอบ

“ไม่เอาน่า ฉันเองก็ต้องเอาชีวิตรอดนี่ถูกไหม? มันเร่งด่วนมากๆ จริงๆ เพราะฉันยังหาได้ไม่ครบจำนวน ฟิ้ว… ตอนนี้ส่วนสุดท้ายคือสิ่งที่สำคัญ”

ฮันแตผงะไปกับคำพูดเกี่ยวกับส่วนสุดท้าย ทว่าภาพที่เขาคาดเดาเอาไว้ไม่ได้เกิดขึ้น

กิ้งง

ขณะที่ผู้หญิงคนนั้นรวบรวมพลังของเธอ แสงสีฟ้าที่ล้อมรอบร่างของเธออยู่ก็มารวมกันที่ฝ่ามือของเธอ

อัญมณีที่ถูกสร้างขึ้นจากการควบรวมแสงสีฟ้า

ฮันแตขมวดคิ้วขณะที่เขามองไปยังอัญมณีแปลกประหลาดนั้น

ผู้หญิงคนนั้นเหลือบมองไปมาระหว่างอัญมณีและฮันแตก่อนจะแย้มยิ้ม

“พลังของฉันก่อนหน้านี้เป็นยังไง? ไม่เลวใช่ไหมล่ะ?”

ฮันแตที่กำลังมองไปยังอีกฝ่ายด้วยสีหน้าตะลึงงันเกือบจะตวาดออกไป ทว่าสุดท้ายก็ทำเพียงผงกศีรษะ

ในเมื่อพลังนั่นมันยิ่งกว่าดีและค่อนข้างน่าตื่นตา

ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยขึ้นขณะมองไปยังฮันแต

“นายจะทำยังไงถ้านายสามารถครอบครองพลังนี่ได้? อืม… แต่มันไม่ได้ฟรีๆ หรอกนะ”

ผู้หญิงคนนั้นเริ่มอธิบาย

 

 

 

กรรรร

หมัดของฮันซูที่ได้รับการเสริมพลังจากดาบแก่นแท้มังกรชกไปยังใบหน้าของเสือดาวดำที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเขา

พลั่ก!

กรรรรร!

เสือดาวดำกระเด็นถอนหลังและหายเข้าไปในป่า

ไม่สิ จริงๆ แล้วมันไม่ใช่การชกธรรมดาๆ

ในเมื่อร่างของมันทะลวงผ่านต้นไม้สามต้นที่กว้างพอๆ กับบ้านหลังหนึ่งและยังคงกระเด็นต่อไป

กรรรร

เสือดาวดำที่นอนอยู่บนพื้นยืนขึ้นก่อนจะคำรามเสียงแผ่วไปยังฮันซู

ผิวที่ส่องประกายสีฟ้าของเสือดาวที่ไม่กระทั่งมีรอยขีดข่วนจากการโจมตีของอัลแตร์ได้ปรากฏรอยแตกขึ้นจากหมัดเปล่าๆ ของฮันซู

ทว่าอัลแตร์กลับแสดงสีหน้างุนงงมากกว่าความตกใจ

‘อะไรกัน ทำไม? ทำไม!?’

อัลแตร์ไม่อาจอดทนได้อีกต่อไปและตะโกนออกมา

“ทำไมนายถึงไม่ใช้หอก!”

มันมีหอกเล่มหนึ่งกำลังส่องประกายวิบวับอยู่บนหลังเขาชัดๆ

เธอไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ชัดเจนว่ามันต้องมีประสิทธิภาพมากกว่าในการใช้อาวุธแทนที่จะเป็นมือเปล่า

พลังที่สามารถทำให้ร่างของเสือดาวที่ตัวใหญ่สามเมตรกระเด็นออกไปได้แบบนั้น

ถ้าเขาใช้หอกด้วยพลังนั่น มันจะต้องเกิดรูขึ้นบนร่างของเสือดาวไม่ว่ามันจะแข็งแค่ไหนก็ตาม

แต่หมอนี่ใช้เพียงแค่หมัดของเขาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว

และเมฆสีดำที่เขาเอาออกมาก็ไม่ได้ทำอะไรเลยและทำเพียงลอยไปรอบๆ ร่างของเขาเท่านั้น

นี่มันเหมือนกับการโยนไพ่ทั้งหมดในมือทิ้งแล้วเดินหน้าต่อ

แม้ว่ามันจะค่อนข้างมีประสิทธิภาพก็ตาม

และหลักฐานก็คือเสือดาวดำที่พวกเขาต้องทิ้งชีวิตเพื่อนไปหนึ่งคนจึงจะหนีออกมาได้ไม่อาจทำอะไรได้นอกจากกลิ้งไปมาบนพื้น

‘จะยังไงก็เถอะ เราก็ต้องทำส่วนของเราเหมือนกัน’

แม้ว่าพวกเขาจะไม่อาจเข้าไปยุ่งได้ มันก็ยังคงมีอีกหลายอย่างให้ทำ

อัลแตร์ตะโกนไปยังคนรอบๆ เธอ

“รีบๆ สร้างม่านอากาศเร็วเข้า!   เราต้องกั้นเสียง!”

ถ้าเสียงของการต่อสู้ดังออกไป ตัวอื่นๆ ก็อาจจะไหลมายังบริเวณนี้อีก

ตัวเดียวก็เกินพอสำหรับพวกเขาแล้ว

กลุ่มของอัลแตร์ทำตามคำพูดของเธอขณะที่พวกเขารีบกระจายตัวออกและสร้างม่านอากาศขึ้น

เสียงใช้อากาศเป็นตัวการ

ม่านอากาศที่พวกเขาสร้างขึ้นได้การบีบอัดอากาศโดยรอบนับว่าค่อนข้างกระจอกในด้านของการป้องกัน ทว่าหากสร้างมันขึ้นเป็นสองชั้นโดยเว้นช่องว่างไว้ตรงกลางเป็นสุญญากาศ งั้นม่านกั้นเสียงที่ยอดเยี่ยมก็จะถูกสร้างขึ้น

‘ดี’

ฮันซูที่มองภาพนั้นอยู่พลันหายไปจากจุดที่เขายืนอยู่

ตูมมมม!

ในเสี้ยววินาที

ร่างของฮันซูปรากฏขึ้นเหนือเสือดาวดำและโจมตีลงไปยังมัน

พลั่กกก!

เสือดาวดำไม่อาจต่อต้านพลังมหาศาลที่กระแทกลงมายังร่างของมันได้ขณะที่มันล้มลงบนพื้น

พร้อมกับสร้างหลุมเล็กๆ ที่ดูเหมือนมีอุกกาบาตลูกเล็กๆ ตกลงมาขึ้น

ตุบ

ฮันซูทิ้งร่างลงเหนือร่างของเสือดาวดำที่บาดเจ็บสาหัสอย่างแผ่วเบา

ในตอนนั้นเอง

การเปลี่ยนแปลงได้เกิดขึ้นที่เมฆดำรอบๆ ร่างของฮันซู

วูบบบ

เมฆดำนั้นหายไปในร่างของเสือดาวราวกับว่ามันถูกดูดเข้าไป

และไม่ช้า ผิวที่เรืองแสงสีฟ้าของมันก็ได้กลายเป็นสีดำพร้อมกับเริ่มส่องแสง

กล้ามเนื้อของมันเองก็ส่งเสียงฉีกขาดออกมาและขยายใหญ่ขึ้น

เพียงไม่นาน ร่างที่สูงสามเมตรของมันก็ใหญ่ขึ้นสองเท่าตัว

เสือดาวได้หายไปและแทนที่ด้วยสิงโตเพศเมียสีดำแทน

ฮันซูผงกศีรษะเมื่อเห็นเช่นนั้น

‘ฉันชอบรางวัลนี่ มันค่อนข้างจะส่งต่อพลังที่แท้จริงของเผ่าเมฆทมิฬมาได้เป็นอย่างดีเลย’

เผ่าเมฆทมิฬ

ปนเปื้อนสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต ทำให้พวกมันตกอยู่ภายใต้การควบคุมและเสริมพลังให้พวกมัน

สัตว์อสูรที่ได้รับการปนเปื้อนในตอนนี้อาจจะสามารถเอาชนะตัวมันก่อนหน้านี้ได้สามตัวพร้อมกัน

ในเวลาเดียวกัน ประสาทสัมผัสของเสือดาวดำที่ได้รับการปนเปื้อน คาลิคราวน์ และความทรงจำขั้นต้นของมันก็ได้ไหลเข้ามาในสมองของเขา

‘ดี พื้นที่รอบๆ นี่เป็นแบบนี้เอง’

พื้นที่รอบๆ ที่เสือดาวดำเดินทางไปมาได้ถูกใส่ไปในสมองของฮันซู

เขาจ้องเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตให้อยู่ในสภาพปางตายก่อนเพื่อที่จะควบคุมพวกมัน แต่นี่ก็ดีพอสำหรับเขาแล้ว

และในเมื่อเขามีเมฆดำปริมาณค่อนข้างมาก เขาก็จะสามารถควบคุมพวกมันสองสามตัวได้พร้อมกัน

สำหรับเขาที่ต้องทำค่อนข้างหลายอย่างหลังจากนี้ สกิลที่อเนกประสงค์แบบนี้จะเพิ่มโอกาสให้แผนของเขาเป็นไปได้อย่างรวดเร็วขึ้นมากนับจากนี้

‘ขยับ’

และเขายังสามารถใช้มันได้ในทันทีในเมื่อเขาไม่ได้สร้างรูขึ้นบนร่างของมันแม้แต่น้อย

เสือดาวดำกระโจนออกไปอย่างดุดันตามคำสั่งของฮันซูและหายไปในป่า

เพื่อที่จะตรวจสอบบริเวณรอบๆ

อัลแตร์พึมพำด้วยสีหน้าที่บ่งบอกให้คนอื่นๆ รู้ว่าเธอนึกบางอย่างออกหลังจากที่เธอมองภาพนั้นอยู่ชั่วครู่

ความแข็งแกร่งมหาศาลและพลังที่พวกเธอไม่อาจแม้แต่จะจินตนาการได้

‘ข่าวลือที่ว่ามีระดับมาร์กอชคนใหม่เกิดขึ้นไม่ใช่ข่าวลวงสินะ’

ความคิดของอัลแตร์หมุนไปอย่างรวดเร็ว

ความแข็งแกร่ง

มันจะช่วยได้อย่างมากในสถานที่ลึกลับนี่

‘ฉันจะต้องเกาะติดอยู่กับเขา แต่ฉันจะทำได้ยังไง…’

แต่มันไม่มีเวลามากพอให้เธอวางแผน

ในเมื่อฮันซูเริ่มเคลื่อนไหวในทันที

‘ไม่!’

อัลแตร์ลนลานขณะที่เธอรีบตะโกนไปยังฮันซู

“ไปด้วยกันเถอะ!”

ฮันซูหัวเราะขณะที่เอ่ยขึ้น

“เธอบอกว่าพวกเธอคือหน่วยช่วยเหลือใช่ไหม? งั้นพวกเธอก็กลับไปที่ฐานเถอะ”

อัลแตร์กัดริมฝีปาก

ทว่าการโยนศักดิ์ศรีของเธอทิ้งมันไม่อาจนับเป็นอะไรได้

พวกเธอรับมือเจ้าเสือดาวแค่ตัวเดียวนั่นได้อย่างยากลำบาก

และหากพวกเธอไม่เกาะติดกับคนคนนี้ พวกเธอก็อาจจะตายกันมากขึ้น

“… ฉันขอโทษ มันเป็นเรื่องโกหก ความจริงแล้วพวกเราก็มาที่นี่ได้ไม่นานเหมือนกัน แต่เราไม่มีความคิดที่จะเป็นตัวถ่วงของนาย เพราะงั้นไปด้วยกันเถอะ เราจะช่วยนายได้มากเลยนะ พวกเราเป็นหน่วยสอดแนม”

แต่กระทั่งก่อนที่ฮันซูจะได้เอ่ยตอบนั่นเอง

ครืนนน

พื้นดินสั่นไหวและแตกออก

“อะไรกัน?”

ในตอนที่อัลแตร์มองไปรอบๆ อย่างตื่นตระหนกนั่นเอง

แรงระเบิดได้เกิดขึ้นจากบริเวณที่ฮันแตและเอลิสหายไป

“อะไร…!”

ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่อัลแตร์กำลังตื่นตะลึง

ร่างของคนบางคนได้เดินออกมาจากม่านฝุ่น

และอัลแตร์สบถออกมาเมื่อเห็นภาพนั้น

“เฮ้! นี่นายบ้าไปแล้วเหรอ? นายทำอะไรของนาย? เอลิสไปไหน?”

ใครก็ตามที่วิ่งมาที่นี่อย่างบ้าคลั่งและทำให้รอบด้านฟุ้งกระจายไปด้วยฝุ่นจะน่ามองได้ยังไง?

แต่ฮันแตไม่ได้เอ่ยตอบคำพูดของอัลแตร์ขณะที่เขาเพ่งความสนใจทั้งหมดไปยังพลังที่เขาสามารถรับรู้ได้ภายในร่าง

กิ้งงง

พลังมหาศาลที่ไหลออกมาจากอัญมณีเข้าไปในร่างของเขา

‘ยอดเยี่ยม นี่มันยอดเยี่ยมจริงๆ!’

ฮันแตอุทานออกมากับพลังนี้

เขาคิดถึงบทสนทนาของเขากับผู้หญิงคนนั้นก่อนหน้านี้

หลังจากที่รับมันมาและหมดสติไปชั่วขณะ เขาก็ตื่นขึ้นมาและผู้หญิงคนนั้นก็หายไป

แต่เขาไม่เสียใจแม้แต่น้อย

พลังมหาศาลได้เพิ่มขึ้นภายในร่างของเขา

‘และ… การเติมเต็มโควต้าก็ไม่ได้ดูยากขนาดนั้น’

ฮันแตมองไปยังกลุ่มคนเบื้องหน้าเขาและหัวเราะ

สิบคนพอดีถ้านับคนที่เพิ่งขึ้นมาด้วย

เขาก็แค่ต้องเติมเต็มโควตาด้วยคนพวกนี้และผ่านป่าไปด้วยพลังนี้

ไปยังสถานที่ที่ผู้หญิงคนนั้นบอกก่อนที่เขาจะหมดสติไป

เผ่าพันธุ์ชั้นสูง อารูคอน

ฮันซูถ่ายเทพลังไปยังหมัดของเขาขณะที่เขามองไปยังสุนัขล่าเนื้อที่เผ่าพันธุ์นักล่าสร้างขึ้น

 


TL:   หาเรื่องใส่ตัวเก่งงง