…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ตอนเย็น …
ถังซิ่วและคนอื่นๆได้มาถึงสถานที่จัดการประมูลดอกชงโคที่ศูนย์ประชุมนานาชาติของเกาะจิงเหมิน
ที่ชั้น 18
สถานที่สำหรับการประมูลที่มีขนาดใหญ่ มีโต๊ะและเก้าอี้กว่าหนึ่งพันชุดและหนึ่งในสามของพวกมันได้มีคนมานั่งไว้เรียบร้อยแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นผู้คนก็ยังวิ่งกรูกันเข้ามาจากภายนอก
หลังจากนั้น ทั้งสี่คนได้มองหาที่นั่งอยู่ครู่หนึ่งพร้อมนั่งลงอย่างรวดเร็ว พนักงานได้เอารายชื่อของสินค้าที่จะมีในการประมูลมายื่นให้พวกเขาทั้งหมด
ถังซิ่วนั่งอยู่บนเก้าอี้ของเขาในขณะที่ไล่ดูรูปภาพสินค้าและคำอธิบายที่จะมีในการประมูลไปเรื่อยๆ รายชื่อเหล่านี้มีประมาณสามหน้าและเขาก็ต้องรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเพราะตอนนี้มันผ่านไปแล้วกว่าสองหน้าแต่ก็ยังไม่มีอะไรที่เขาสนใจนัก แม้ว่าของเหล่านั้นเองก็ถือว่าดีแต่มันไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่เล็กน้อย
แต่เมื่อเขานั้นได้เปิดไปที่หน้าสุดท้ายและกวาดสายตาไปอย่างรวดเร็ว สายตาของเขาหยุดชะงักอย่างรวดเร็วพร้อมกับความรู้สึกประหลาดใจ
หินแยกมิติ?
มันคือหินแยกมิติจริงๆ?
ถ้าภาพที่ถ่ายออกมานั้นถูกต้องแล้ว นี่เป็นวัสดุหลักในการสร้างแหวนมิติอย่างแน่นอน
ในขณะนั้นเองที่หัวใจของเขานั้นเต้นเร็วขึ้นเพราะตอนแรกเขาเองก็วิตกกังวลเนื่องจากว่า หากเขาไปล่าสัตว์อสูรที่มีขนาดใหญ่และจำนวนมากที่อาณาเขตทะเลมังกรแห่งความชั่วร้ายแล้วจะบรรทุกขึ้นเรือมายังไง?แต่ว่าหากตัวเขามีแหวนมิติแล้วละก็ เรื่องขนส่งนั้นไม่ใช่ปัญหาเลยแม้แต่น้อย
“ราคาแค่5ล้าน? เพิ่มขึ้นครั้งละ5แสนงั้นหรอ? ”
ถังซิ่วคิดสักครู่ พร้อมกับคำนวณเงินที่เขามีตอนนี้ ดังนั้นน่าจะไม่มีปัญหาในการประมูลหินแยกติชิ้นนี้แน่นอน
หลังจากที่ชนะการพนันมาแล้วนั้น เงินจำนวน249ล้านถูกแบ่งไปให้เจี่ยหลุยเดาและที่เหลืออีก250ล้านนั้นอยู่ที่เขา เขาได้เอาเงินจำนวน20ล้านไปซื้อชิ้นส่วนของสัตว์อสูรเหล่านั้น ดังนั้นเขาจึงมีเงินเหลืออยู่ประมาณ230ล้านหยวน
‘ราคาต่ำสุดของมันอยู่ที่5ล้านและตอนนี้ฉันเองก็มีเงินอยู่230ล้าน ดังนั้นจึงไม่น่าจะเป็นปัญหาที่จะซื้อสิ่งนี้ แต่ถ้าหากยังไม่พอฉันก็สามารถยืมเงินจากเจี่ยหลุยเดาและค่อยคืนให้เขาหลังจากที่ฉันมีเงินก็ได้!’
ถังซิ่วแอบคิดในใจของเขา
“ฮะ?”
เขาตื่นตกใจอีกครั้งขณะที่ดวงตาของเขาไล่ลงไปในรายชื่อด้านล่างเมื่อเขาพบว่ามีโสมป่าอายุพันปีซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับเขา
ถ้าเป็นที่ดินแดนแห่งนิรันด์นั้นไม่ต้องพูดถึงโสมป่าพันปีเลย ต่อให้เป็นหมื่นปี เขาก็ไม่เคยขาด โสมป่าพันปีนั้นเป็นแค่อาหารสำรหรับสัตว์อสูรของเขาเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้นั้นมันมีค่าสำหรับเขามากเพราะถ้าหากเขาได้มันมาแล้ว เขาก็จะสามารถกลั่นยาระฆังทองได้สำเร็จพร้อมประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม
“ซื้อ! ฉันต้องซื้อมัน! ”
ถังซิ่วมองที่ราคาต่ำสุดของมันด้วยแววตาที่ไม่อยากจะเชื่อ
“50 ล้าน?”
ราคาของโสมป่าอายุพันปีนี้กลายเป็น 50 ล้าน นอกจากนี้ต้องเพิ่มครั้งละไม่ต่ำกว่าสองล้าน
ริมฝีปากของเขากระตุกเล็กน้อย
“ถ้าหากฉันสามารถย้ายโสมอายุพันปีทั้งหมดในสวนสมุนไพรของฉันมาที่โลกนี้ได้ ฉันน่าจะซื้อโลกนี้ประมาณสิบรอบได้ใช่ไหม? ราคานี้ … ฆ่าฉันทีเถอะ! ”
ดวงตาของเขามองลงไปและพบว่ายังมีอีกสองสามรายการที่จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้บ่มเพาะพลังแห่งเซียน แต่สำหรับเขาแล้วนั้น มันไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก
ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจและตั้งเป้าของเขาไว้ว่าจะต้องซื้อหินแยกมิติและโสมป่าพันปี ในหัวใจของเขากำลังคิดคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับสองสิ่งนี้
“คุณถัง มีของชิ้นไหนที่ต้องตาคุณบ้างไหม ? ”
หลังจากที่เซ่าหมิงเซิงได้อ่านรายการทั้งหมดแล้วเขาก็หันกลับไปมองที่ถังซิ่วพร้อมถามด้วยเสียงกระซิบ
ถังซิ่วชี้ไปที่หินแยกมิติและโสมป่าอายุพันปีขณะที่เขาพูดออกมาว่า
“ฉันต้องการสองสิ่งนี้ ไม่ว่าจะต้องจ่ายเท่าไหร่ก็ตาม! ”
เซ่าหมิงเซิงมองไปที่หินแยกมิตินี้ด้วยความประหลาดใจบางอย่าง เป็นเพราะเขาไม่รู้ว่าหินก้อนนี้คืออะและคำอธิบายมันระบุว่าเป็นแร่ที่หาแยกและเป็นอุกกาบาตจากอวกาศ อย่างไรก็ตามสำหรับโสมป่าอายุพันปีนั้นเขาแอบเสียใจเล็กน้อยเพราะเขาเองก็เล็งสิ่งนี้ไว้เหมือนกัน
ในเวลาปัจจุบันบนโลกใบนี้นั้น โสมป่าอายุพันปีมีเหลืออยู่น้อยมากจนถึงจุดที่ราคาในตลาดของมันไม่คงที่ แม้ว่าจะมีคนบางคนต้องการซื้อโสมป่าอายุหลายพันปีด้วยเงินจำนวนมากแต่ก็ไม่มีใครเคยได้ยินว่าจะมีคนขายเลย ยิ่งไปกว่านั้นโสมป่าที่มีอายุ เกิน500ปีนั้นก็ถือว่าหายากและมีเหลืออยู่น้อยแล้ว
‘อา, ช่างมันเถอะ ฉันยอมแพ้ดีกว่า!’
เซ่าหมิงเซิงถอนหายใจในขณะที่เขาหันไปสะกิดเหมี่ยวเหวินถังเพื่อบอกเกี่ยวกับสิ่งที่ถังซิ่วต้องการ
เหมี่ยวเหวินถังเองก็ต้องการที่จะซื้อโสมป่าพันปีเหมือนกัน แต่หลังจากที่ได้ยินเรื่องที่ว่าถังซิ่วต้องการมัน เขาเองก็ยอมถอดใจทันที
เวลา8.00น ตรง…
ได้มีการเปิดเวทีการประมูลพร้อมกับหญิงสาวสวยคนหนึ่งบนเวที สถานที่จัดงานประมูลที่มีเสียงดังในตอนแรกค่อยๆสงบลงเมื่อดวงตาของทุกคนจับจ้องอยู่กับสาวสวยคนนั้น
“สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษยินดีต้อนรับคุณเข้าสู่งานประมูลดอกชงโคประจำปี การประมูลในปีนี้ถูกจัดขึ้นที่เกาะจิงเหมินนี้และสินค้าทั้งหมดนั้นจะถูกนำออกมาประมูล ฉันชื่อว่าเสี่ยวอ้ายและฉันเป็นผู้รับผิดชอบงานประมูลในปีนี้ ”
“การประมูลจะเริ่มในเร็วๆนี้และฉันเชื่อว่าสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษทุกคนได้เห็นรายการของสินค้าทั้งหมดแล้ว ฉันปรารถนาอย่างจริงใจว่าทุกคนจะสามารถได้รับสินค้าที่คุณต้องการและกลับไปพร้อมกับการเดินทางที่คุ้มค่า ”
เสี่ยวอ้ายได้พูดออกมา
“ฉันขอประกาศว่าการประมูลดอกชงโคครั้งที่21ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว สินค้าประมูลชิ้นแรกนี้เป็นของเก่าล้ำค่า เป็นเครื่องลายครามสีฟ้าขาวที่มาจากยุคปลายราชวงศ์หมิงและยุคแรกเริ่มของราชวงศ์ชิง ทุกคนอย่าพึ่งดูถูกของสิ่งนี้ ตราประทับข้างบนนี้แสดงให้เห็นว่ามันเป็นตราประทับราชินีของใช้ในครัวเรือนและถูกใช้เฉพาะสำหรับจักรพรรดิ เป็นไปได้มากที่ของสิ่งนี้ถูกใช้ในพระราชวังของจักรพรรดิราชวงศ์ชิงที่ยิ่งใหญ่ … ”
ถังซิ่วนั่งเงียบๆอยู่หน้าเวทีขณะที่เขาฟังบทแนะนำที่เก่งกาจจากผู้ประกาศ เมื่อการประมูลได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว เขาก็มองไปที่ผู้เข้าร่วมนับร้อยๆคนที่ร่วมกันเสนอราคาออกมา มันทำให้เขารู้สึกประหลาดแบบแปลกๆ
เมื่อโลกกำลังวุ่นวายโอกาสเกิดขึ้น แต่เมื่อโลกกำลังอยู่ในยุคทองการสะสมทรัพย์สมบัติก็เฟื่องฟู
ตอนนี้เขารู้สึกซาบซึ้งในความหมายที่แท้จริงของประโยคนี้ แต่ละรายการมีการประมูลในราคาที่สูงและแต่ละรายก็ถูกซื้อในราคาที่สูงเสียดฟ้า เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา ปัจจุบันมีคนรวยเป็นจำนวนมากและพวกเขาก็ชอบที่จะสะสมทรัพย์สมบัติ และเขายังมีอีกความคิดที่ว่า ‘คนรวยที่โง่เขลา ซื้อวัตถุไร้ค่ากลับบ้านไปโดยไม่มีนัยสำคัญ’
การประมูลผ่านไป2ชั่วโมงและถังซิ่วก็ยังไม่เคยเสนอราคาแม้แต่ครั้งเดียว ในทางตรงกันข้ามเซ่าหมิงเซิงและเหมี่ยวเหวินถังได้เสนอราคาไปแค่ครั้งเดียวและได้ซื้อสินค้าที่พวกเขาต้องการ
“สำหรับรายการต่อไปที่เราจะประมูลก็เป็นแร่ที่หายาก แร่ที่หายากมากและเราสงสัยว่าแร่นั้นมาจากอวกาศ ฉันเชื่อว่านี่จะเป็นแร่ที่มีค่ามากๆ บางทีมันอาจจะมีคุณค่ามากขึ้นในอนาคตจนถึงขั้นที่ไม่สามารถประมาณการณ์ราคาของมันได้ ราคาเริ่มเปิดประมูลของมันอยู่ที่5ล้านหยวนและเพิ่มขึ้นครั้งละไม่ต่ำกว่า5แสน เริ่มประมูลได้ ”
ผู้ประกาศได้ถือหินแยกมิติไว้ในมือของเธอและอธิบายด้วยเสียงที่ไพเราะเมื่อเธอเริ่มประกาศการประมูล
“มาถึงแล้ว!”
จิตวิญญาณของถังซิ่วส่ายไปมาขณะที่ดวงตาของเขาถูกล็อคไปที่ยินแยกมิตาก้อนนั้น เขาไม่รีบเร่งที่จะเสนอราคาเพราะในช่วง 2ชั่วโมงที่ผ่านมาของการสังเกต เขาสามารถบอกได้ว่าจากคนที่เสนอราคาแรกๆนั้นพวกเขามักจะไม่อยากได้มันจริงๆ พวกเขาเพียงแค่โยนเศษเงินพวกนั้นออกถ้าหากว่ามีใครเสนอราคามากกว่านั้นเขาก็จะสละสิทธิ์ทันที ถ้าไม่มีใครเสนอราคา พวกเขาอาจจะได้รับสินค้าที่มีราคาต่ำ
“6 ล้าน”
มีเสียงดังขณะที่คนยกธงขึ้น
“6.5 ล้าน!”
“7 ล้าน!”
“7.5 ล้าน!”
“…”
ไม่นานหลังจากนั้นราคาของหินแยกมิติก็เพิ่มขึ้นเป็น 9.5 ล้าน อย่างไรก็ตามหลังจากที่คนสุดท้ายได้เสนอราคา ก็ไม่มีใครเสนอเพิ่มอีกเลย
รอยยิ้มหวานแขวนอยู่บนใบหน้าของผู้ประกาศเมื่อเธอกำลังพูดว่า
“สุภาพบุรุษคนนั้นได้เสนอราคาที่9.5ล้าน มีใครจะเสนอราคาที่สูงกว่านี้ไหม? ทุกๆคนอย่าดูถูกแร่ก้อนนี้นะ มันเป็นแร่ที่หายากและลึกลับในภายภาคหน้า ราคาของมันจะต้องสูงขึ้นกว่า10เท่าอย่างแน่นอน ”
“10 ล้าน!”
ในขณะที่เสียงของผู้ประกาศเงียบลง เสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น
ถังซิ่วหายใจเข้าลึกๆขณะที่เขายกป้ายบอกว่า
“10.5 ล้าน”
“15 ล้าน!”
เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ถังซิ่วยกป้ายของเขาและร้องออกมาว่า
“20 ล้าน”
“หวือ …”
ทุกคนในสถานที่จัดงานประมูลหันมามองที่ถังซิ่ว ขณะที่กระแสความคิดเห็นเริ่มดังขึ้น
“นี้มมันโง่หรือเปล่าห๊า? แร่ที่ไม่รู้จักว่าใช้อะไรได้?แม้ว่ามันจะหายากแต่ก็ไม่คุ้มค่ากับ20ล้านหรอกมั้ง?อย่าบอกนะว่ามันหลงเชื่อคำพูดของผู้ประกาศเลยคิดว่ามันจะมีราคามากขึ้นในอนาคต? ”
“นี้มันเรื่องตลกระดับโลกชัดๆ? ใช้เงิน20ล้านเพื่อซื้อแร่?แค่10ล้านก็ถือว่ามากเกินไปแล้ว!ปีนี้มันมีคนรวยที่ไม่สนใจคุณค่าของเงินเยอะจริงๆ! ”
“ชายหนุ่มที่ใช้เงินมากนั่น ฉันไม่รู้ว่าเขามาจากตระกูลไหนแต่ถ้าฉันมีลูกแบบเขา ฉันจะหักขาเขาอย่างแน่นอนและทำให้เขาอยู่ที่บ้านเพื่อระลึกถึงความผิดพลาดของเขาอย่างแน่นอน ”
“ชายหนุ่มคนนั้นคงจะชอบผู้ประกาศหรือเปล่า? ถึงได้โชว์พาวเวอร์ของเขาต่อหน้าเธอ? ”
“ว้าวน่าสนใจจริงๆ!”
“…”
ถังซิ่วได้ยินข้อคิดเห็นของผู้คนมากมายในห้องประชุมแต่เขายังไม่แยแส สำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับสิ่งล้ำค่าอย่างแท้จริงเขาไม่ต้องการแม้แต่จะพูดให้เปลืองน้ำลายด้วยซ้ำและด้วยเหตุผลที่แท้จริงนั้น มันไม่มีโอกาสเลยที่เขาจะบอกพวกคนเหล่านั้นเกี่ยวกับการใช้หินแยกมิติ นอกจากนี้ในมือของเขานั้นหินแยกมิติถือว่าเป็นสมบัติแต่สำหรับคนที่ไม่สามารถหลอมมันเป็นแหวนมิติได้นั้นก็ถือว่าหินชิ้นนี้เป็นเพียงแค่ขยะดีๆเท่านั้นเอง
ผู้ประกาศได้มองไปที่ถังซิ่วอย่างลึกซึ้งขณะที่เธอยิ้มและถามว่า
“ชายหนุ่มที่หล่อเหลาได้เสนอราคา20 ล้าน มีใครจะเสนอราคาที่สูงกว่า20ล้านหรือไม่? ถ้าไม่เช่นนี้แร่ที่มีค่านี้จะถูกขายให้กับชายหนุ่มที่หล่อเหลาคนนั้น ”
สถานที่ประมูลเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง
เมื่อผู้ประกาศประกาศกำลังจะพูดคำสุดท้ายและประกาศให้ทราบว่าหินแยกมิตินี้จะขายให้กับถังซิ่วนั้น ก็ได้มีเสียงตะโกนดังขึ้นมาว่า
“50 ล้าน!”