…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ถัวซิ่วที่เพิ่งออกมาจากห้องโถงของวิลล่านั้นได้ชนเข้ากับชายวัยกลางคนที่ทางเข้า ชายร่างนั้นมีใบหน้ารูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสและรูปร่างกำยำพร้อมความสูงกว่า1.8 เมตรที่ดวงตาเต็มไปด้วยประกายระยิบระยับ

“คุณกำลังมองหาใคร?”

“ฉันกำลังมองหา ถังซิ่ว”

หน้าผากของถังซิ่วเหี่ยวย่นลงก่อนที่จะสังเกตชายคนนั้นแล้วพูดขึ้นว่า

“ผมคือถังซิ่ว คุณเป็นใคร?”

“ฉันถังดง! ฉันได้ยินมาว่าคุณอยากจะพบฉัน? ”

ถังดงเองก็ได้จ้องมองไปที่ถังซิ่วเช่นกัน เขาไม่เข้าใจว่าเด็กน้อยที่โด่งดังเมื่อวันก่อนถึงได้มาหาเขา

ถังซิ่วพยักหน้าและพูดว่า

“ใช่ผมต้องการจะไปพบกับนายใหญ่ของที่นี่ แต่เนื่องจากผมได้ยินมาว่าการที่จะพบเขาได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากมากดังนั้นผมจึงอยากพบคุณแทนและถามคุณเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง เราสามารถหาสถานที่อื่นที่เหมาะที่จะคุยกันได้ไหม? “

ถังดงมองไปที่บ้านที่อยู่ด้านหลังของถังซิ่วขณะที่เขาหันกลับมาและพูดว่า

“ตามฉันมา! มีวิลลาที่ใช้เป็นโรงชาอยู่ใกล้ๆนี้ มันมักจะไม่เปิดให้คนธรรมดาเข้า ”

ไม่นานหลังจากนั้น…

เมื่อพวกเขาได้มาถึงวิลล่าแล้ว พนักงานได้เสิร์ฟชาทันที ขณะที่กำลังลิ้มลองรสชาติของชา ถังดงได้มองไปที่ถังซิ่วและถามว่า

“พูดมาสิ! ว่าคุณมองหาฉันด้วยเรื่องอะไร? ”

ถังซิ่วได้ตอบเขาไปว่า

“ผมสนใจวัตถุดิบที่คุณใช้ในการผลิตอาหารจานหลัก จะเป็นอะไรไหมถ้าผมถามว่าคุณได้ล่าพวกมันมาจากที่ไหนกัน? ”

ถังดงได้ตอบด้วยรอยยิ้มว่า

“โอ้มันเป็นเรื่องนี้เองงั้นหรอ ในความเป็นจริงนั้นมีคนจำนวนมากที่รู้เกี่ยวกับสถานที่ที่เราล่าสัตว์อสูรเหล่านั้น มันอยู่ใกล้ๆเกาะจิงเหมินนี่และที่นั้นมีชื่อว่าเนตรแห่งความตาย มันมีสัตว์อสูรที่ดุร้ายมากอยู่ที่นั่นด้วย จนถึงบางตัวที่มีภูมิปัญญาเปาของตัวเอง ”

ถังซิ่วได้ถามต่อว่า

“การล่าสัตว์เหล่านี้คงไม่ง่ายนักใช่ไหม?”

ถังดงได้ตอบกลับทันทีว่า

“แน่นอนอยู่แล้วว่ามันไม่ง่าย ทุกๆครั้งที่เราได้ส่งคนไปที่เนตรแห่งความตายนั่นจะต้องมีคนบาดเจ็บหรือแม้กระทั่งล้มตาย นี่แหละเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมอาหารของที่นี่ถึงได้แพงมาก ”

ถังซิ่วตอบด้วยการแสดงออกถึงความเข้าใจทั้งหมดว่า

“ผมสามารถบอกได้ว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคุณทั้งหมดเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยายุทธ หากคุณให้ความสนใจเล็กน้อยคุณสามารถใช้อาวุธปลายแหลมเพื่อล่าสัตว์เหล่านั้น สุดท้ายแล้วก็คือ วิลล่าของคุณขายซากสัตว์อสูร? ”

ถังดงขมวดคิ้วขณะที่เขาถามด้วยท่าทางงงงวยว่า

“คุณต้องการซื้อมัน?

ถังซิ่วรีบตอบทันทีว่า

“ใช่แล้ว ใช่แล้ว!

ถังดงส่ายหน้าและตอบว่า

“วิลล่านั้นมีซากของสัตว์อสูรอย่างแน่นอน แต่ไม่ได้มีไว้สำหรับขายเนื่องจากการล่าสัตว์อสูรเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ยากมากและวิลล่าของเรานั้นจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบเหล่านั้น ดังนั้น……….ฉันขอโทษด้วย ”

ถังซิ่วได้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกไปว่า

“ถ้าผมไม่ต้องการเนื้อสัตว์เหล่านั้นแต่เป็นเส้นขนหรือเขี้ยวเล็บกระดูกเลือดและอย่างอื่นหละ คุณขายให้ผมได้ไหม?”

ถังดงได้ถามด้วยท่าทางที่อยากรู้อยากเห็นว่า

“คุณต้องการเอาสิ่งเหล่านั้นไปทำอะไรงั้นหรอ?”

ถังซิ่วตอบอย่างสงบว่า

“ผมจะวางค่ายกลและสิ่งเหล่านี้จำเป็นสำหรับมัน”

ถังดงถามด้วยความประหลาดใจอีกครั้งว่า

“คุณสามารถสร้างค่ายกลได้? หรือว่ามันจะเป็นพวกศิลปะโบราณบางอย่างที่ทำให้ตัวเองหายตัวได้อะไรพวกนั้น?”

ถังซิ่วพยักหน้าและพูดต้อว่า

“ผมเชื่อว่าคุณเคยได้ยินเกี่ยวกับฉันที่ได้ผ่านชั้นที่หกของค่ายกลพันโคจรที่ห้องอาหารร้อยงานฉลองใช่ไหม? ถ้าฉันไม่มีความรู้เกี่ยวกับค่ายกลแล้วละก็ ฉันจะฝ่ามันไปได้อย่างไรหละ? ”

ถังดงตบหน้าผากของเขาขณะที่เขายิ้มและพูดว่า

“อา ฉันว่าสมองของฉันมีไม่ค่อยเดินซักเท่าไหร่? อย่างไรก็ตามเมื่อคุณต้องการสิ่งเหล่านี้ ฉันสามารถขายให้คุณได้ แต่เนื่องจากเราเป็นนักธุรกิจคุณสามารถให้ราคาเท่าไรสำหรับสิ่งเหล่า? ”

ถังซิ่วคิดว่าสักครู่ก่อนที่เขาจะตอบอย่างจริงจังว่า

“สำหรับขน เล็บ กระดูก เกล็ด และวัสดุอื่นๆของสัตว์อสูรเหล่านั้น ฉันจะจ่ายให้ห้าล้านหยวน เป็นไง?”

5 ล้าน?

ถังดงได้มองไปที่ถังซิ่วด้วยอาการเหวอเล็กน้อย เขาไม่เคยฝันว่าถังซิ่วจะเสนอราคาที่สูงเช่นนี้ วิลล่าของเขาใช้แค่เนื้อสัตว์อย่างเดียวและแทบไม่มีการใช้ชิ้นส่วนอื่นๆ ถึงกระนั้นก็ตาม เนื้อสัตว์ทั้งหมดที่ถูกนำมาขายเป็นอาหารนั้นรวมแล้วได้ประมาณ10ล้านหยวนกว่าๆเท่านั้น สำหรับส่วนที่เหลือพวกเขาจะขายมันในราคาที่ต่ำมาก

“ว่ายังไง? คุณไม่พอใจกับราคานี้? ”

ถังซิ่วถามเพิ่มเติม

ถังดงโบกมือและพูดแล้วพูดอีกว่า

“ไม่ไม่ไม่ฉันพอใจอย่างมาก ราคาที่คุณเสนอมานั้นเป็นธรรมดังนั้นเราจะทำข้อตกลงกัน ไม่ทราบว่าคุณต้องการมันตอนไหน? ”

ถังซิ่วได้ตอบว่า

“ถ้าคุณมีมันในตอนนี้ ผมก็สามารถซื้อได้โดยตรง”

ถังดงได้ลุกขึ้นยืนและพูดอย่างจริงจังว่า

“วิลล่าของเรามีส่วนที่เหลืออยู่ของสัตว์อสูรเหล่านั้น ฉันจะพาคุณไปที่นั่นเพื่อดูพวกมัน ”

“ดี!”

ถังซิ่วได้เดินตามไปทันที

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเดินตามได้เพียงแค่10ก้าวแล้ว เขาก็จำได้ว่าเขาจะต้องซื้อวัสดุเพื่อสลักเครื่องรางด้วย ดังนั้นเขาจึงพูดขึ้นทันทีว่า

“ผมมีอะไรที่อยากจะขอช่วยหน่อย ไม่รู้ว่าควรจะพูดมันออกมาดีไหม?”

ถังดงตอบด้วยรอยยิ้มว่า

“พูดออกมาได้เลย!”

ถังซิ่วได้ตอบเขาว่า

“ผมวางแผนที่จะออกไปซื้ออะไรบางอย่าง คุณช่วยส่งคนไปช่วยซื้อแทนได้หรือไม่? วัสดุเหล่านี้ไม่ได้หายากและราคาถูกผมเชื่อว่าถ้าคุณให้คนถามไปรอบๆ คุณจะสามารถหาซื้อพวกมันได้ ”

ถังดงตอบด้วยรอยยิ้มว่า

“ไม่เป็นไร เขียนสิ่งที่คุณต้องการซื้อลงกระดาษและฉันจะส่งคนไปซื้อให้ทันที คุณสามารถจ่ายเงินได้หลังจากที่เขากลับมา ”

“เยี่ยม!”

10 นาทีต่อมา

พวกเขาทั้งคู่ได้มาถึงห้องครัวที่อยู่ลึกเข้าไปในพื้นที่ของวิลล่าและเดินไปยังโกดังขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังห้องครัว ช่องแช่แข็งขนาดใหญ่นั้นมีสัตว์ร้ายอยู่สองตัวอยู่ข้างใน ชิ้นส่วนที่จำเป็นของพวกมันได้ถูกแยกออกมาไว้นอกห้องหมดแล้ว

“อวัยวะเหล่านี้คือส่วนที่เหลือของร่างกายจากสัตว์ร้ายสี่ตัวและมันไม่มีประโยชน์สำหรับเรา ถ้าคุณพอใจก็สามารถซื้อมันได้ในราคาที่คุณได้เสนอมา ”

ถังดงมองไปที่ถังซิ่วด้วยความคาดหวังพร้อมพูดออกมา

ถังซิ่วมองไม่ที่พวกมันมี่กี่นาทีก่อนที่เขาจะพูดออกมาว่า

“ผมต้องการทั้งหมดนี้และสามารถโอนเงินให้คุณได้ทันทีแต่ผมขอให้คุณช่วยอีกซักเรื่องจะได้ไหม? ”

“กรุณาพุดมา!”

ถังดงตอบอย่างมีความสุข

ถังซิ่วได้พูดต่อว่า

“ผมมาจากเมืองสตาร์ซิตี้แต่ไม่มีเวลาและวิธีที่จะส่งสิ่งเหล่านี้กลับไปยังยังบ้านของผม คุณสามารถส่งพวกมันไปยังบ้านของผมได้หรือไม่? หลังจากที่คุณจัดส่งพวกมันแล้ว ผมจะมอบหมายให้คนไปรับพวกมัน ”

ถังดงตอบด้วยรอยยิ้มว่า

“ไม่เรื่องเล็กน้อย”

สัตว์ร้าย4ตัวที่เหลืออยู่ รวมทั้งหมดเป็น20ล้านหยวน ถังซิ่วได้เรียนรู้วิธีโอนเงินผ่านระบบมือถือแล้ว เขาโอนเงิน20ล้านให้ถังดงในทันที

“ภายในหกเดือน ทุกๆสิ่งที่วิลล่าคุณล่ามาได้หลังจากการแยกชิ้นส่วนนั้น ผมต้องการส่วนที่เหลืออยู่ทั้งหมด นี่คือเบอร์โทรของผม เมื่อคุณส่งพวกมันไปเมื่อไหร่แล้วก็ให้โทรหาผมแล้วผมจะรีบโอนเงินไปให้คุณโดยทันที ”

หลังจากเสร็จสิ้นการค้าขายแล้ว ถังซิ่วก็ได้พูดเพิ่มเติม

ถังดงจ้องมองในขณะที่เขาตอบด้วยความตกตะลึงว่า

“แค่ครึ่งปี?”

ถังซิ่วได้ตอบว่าว่า

“ใช่ครึ่งปีเท่านั้น! สัตว์อสูรเหล่านี้ที่คุณล่ามานั้นเป็นพวกที่ไม่ค่อยจะแข็งแกร่งเท่าไหร่และมีประโยชน์สำหรับผมเพียงประมาณ 6เดือนเท่านั้น เว้นเสียแต่ว่าหลังจากผ่านไป6เดือนแล้วคุณจะสามารถล่าสัตว์ร้ายที่มีพลังมากขึ้นได้ ไม่อย่างงั้นพวกมันก็จะไม่เป็นประโยชน์กับผมอีกต่อไป ”

ถังดงก็เข้าใจในคำพูดนั้นทันทีพร้อมพูดว่า

“ขอให้มั่นใจ! ในเมื่อมีเวลาถึงครึ่งปี ฉันจะส่งคนไปยังเนตรแห่งความตายให้มากขึ้นเพื่อล่าสัตว์อสูรที่ดุร้ายกว่านี้ ”

ถังซิ่วพยักหน้าแล้วพูดต่อว่า

“ในตอนนี้ผมจะกลับไปที่วิลล่าก่อน ฉันจะจ่ายค่าอาหารและวัสดุที่ขอให้คนของคุณช่วยไปซื้อกับเขาโดยตรง ”

ถังดงโบกมือและพูดว่า

“ฉันรู้แล้วว่าคุณต้องการซื้ออะไร เงินที่คุณจ่ายไปนั้นก็เพียงพอแล้ว คุณจึงไม่จำเป็นต้องเสียเงินมากไปกว่านี้ ”

เขาไม่ใช่คนโง่ เขาได้กำไรมากมายจากการขายชิ้นส่วนที่เหลือของสัตว์อสูรให้กับถังซิ่วแล้ว เขาไม่สนใจเศษเงินพวกนั้นแม้แต่น้อย อาจจะถือว่าเขาได้สร้างความโปรดปรานเล็กน้อยให้แก่ถังซิ่วโดยการไม่คิดเงินค่าอาหารแก่เขา เนื่องจากเขายังมีข้อตกลงการทำธุรกิจในอนาคตร่วมกับถังซิ่วอีก

“งั้นก็ดี!”

ถังซิ่วได้ตกลงและกลับไปทันที

ถังดงมองตามไปที่หลังของถังซิ่ว ความรู้สึกแปลกๆได้เกิดขึ้นในหัวใจของเขา ถังซิ่วนั้นมีอายุประมาณ20ปีเท่านั้น แต่ทัศนคติและมารยาทของเขาแตกต่างจากชายหนุ่มคนอื่นๆและเขาให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนที่โตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ที่มีประสบการณ์ ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เขารู้สึกว่ามันไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่

ถังซิ่วได้กลับมาที่วิลล่าก่อนหน้านี้และพบว่าเซ่าหมิงเซิงและเหมี่ยวเหวินถังได้มาถึงก่อนแล้วและพวกเขากำลังสนทนากับพรตเฒ่าซือยี่

“คุณถัง!”

“คุณถัง!”

เซ่าหมิงเซิงและเหมี่ยวเหวินถังลุกขึ้นและทักทายด้วยเสียงอบอุ่น

ถังซิ่วพยักหน้าต่อพวกเขาและพูดว่า

“คุณต้องรอสักครู่ ฉันได้ขอช่วยให้คนไปซื้อวัสดุเพื่อสลักเครื่องรางที่เราต้องการแล้ว ไม่นานพวกเขาจะเอามันมาส่งเมื่อฉันสลักมันเสร็จแล้ว เราก็สามารถเริ่มต้นการเดินทางของเราได้เลย ”

เซ่าหมิงเซิงและเหมี่ยวเหวินถังเหลือบมองกันและกันโดยไม่ได้พูดอะไร

นักพรตเฒ่าซือยี่ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“คุณถังผู้เจริญ ฉันไม่คิดเลยว่าคนที่คุณเชิญมาจะเป็นคุณเหมี่ยวผู้เจริญและคุณเซ่าผู้เจริญ พวกเรานั้นเป็นเพื่อนเก่ากันและไม่รู้เลยว่าพวกเขาได้มาที่เกาะจิงเหมินนี้ เมื่อกี้ฉันได้สนทนากับพวกเขาเกี่ยวกับงานประมูลดอกชงโคที่จะจัดขึ้นในวันนี้ จะเป็นอะไรไหมหากว่าเราจะไปยังอาณาเขตทะเลมังกรแห่งความชั่วร้ายในคืนพรุ่งนี้แทน? ”

ทำให้ล่าช้า?

ถังซิ่วคิ้วเหี่ยวย่นลงเขารู้สึกไม่พอใจในเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้แสดงออกมาโดยตรงพร้อมถามว่า

“การประมูลดอกชงโคคืออะไร?”

เหมี่ยวเหวินถังได้อธิบายอย่างรวดเร็วว่า

“การประมูลดอกชงโคนั้นเป็นการประมูลประจำปีที่มีขนาดใหญ่ทั่วประเทศซึ่งมีบางรายการที่มีประโยชน์สำหรับนักบ่มเพาะพลังบ้างเป็นบางครั้งเพาะปลูกบางครั้ง ฉันเองก็ได้มีส่วนร่วมในงานประมูลนี้หลายครั้งแล้ว ถึงแม้ว่าจะเสียเงินไปมากแต่ก็กอบโกยมาได้มากเช่นกัน ถ้าหากเราพลาดครั้งนี้ก็ต้องรอไปถึงปีหน้าเลย ”

“สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บ่มเพาะพลัง?”

ถังซิ่วคิดสักครู่แล้วค่อยๆพูดว่า

“ในกรณีนี้เราจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตามการประมูลนี้จะจัดขึ้นกี่โมง? แล้วมีโอกาสสำหรับฉันที่จะเข้าร่วมได้หรือไม่ ”

เหมี่ยวเหวินถังรู้สึกโล่งใจมาก เขากลัวจริงๆว่าถังซิ่วจะไม่เห็นด้วย แต่เมื่อได้ยินการสอบถามของถังซิ่ว เขาก็ตอบอย่างรวดเร็วว่า

“ไม่กี่วันก่อน เพื่อนของฉันที่เกาะนี้ได้มอบตั๋วเข้าร่วมงานประมูลนี่แก่ฉันจำนวน4ใบ ตอนแรกฉันวางแผนไว้ว่าจะไปกับพี่เซ่าเท่านั้นแต่เมื่อเพิ่มพวกคุณมาแล้วก็พอดีเลย”

ถังซิ่วได้ตอบว่า

“ได้อย่างนั้นก็ดีเลย โชคดีที่ฉันเหลือเงินไว้บ้าง ฉันจะได้ดูว่าจะมีอะไรที่นั่นที่จะต้องตาฉันได้บ้าง ”

เหมี่ยวเหวินถังและเซ่าหมิงเซิงได้เหลือบมองกันขณะที่พวกเขาแอบยิ้มอย่างฝืนๆอยู่ภายในใจ พวกเขาต้องการที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับถังซิ่ว หากพวกเขาเกิดต้องการของชิ้นเดียวกับถังซิ่วแล้วนั้น พวกเขาก็จะไม่แข่งประมูลมันกับเขาอย่างแน่นอน